แหวกกรุ Skincareแห่งปี 2018 ชิ้นไหนรักแล้วไม่ขอเปลี่ยนใจ ชิ้นไหนอยากโยนทิ้งให้ไวไม่ขอพูดถึง #เครื่องสำอาง2018

ขอบอกว่ารีวิวต่อไปนี้จักยืดยาวเป็นมหากาพย์
ทางเราจึงขอแนะนำให้ท่านอ่านตามตัวเลขเฉพาะสิ่งที่ท่านสนใจ
หรือหมวดหมู่ที่ทางเราได้แบ่งไว้ท่านเรียบร้อยแล้ว


หลักเกณฑ์ให้คะแนน มีดังนี้ค่ะ
1 ใช้แล้วแพ้ สิวขึ้น พังพินาศ ห่วยมากไม่อยากพูดถึง แต่ต้องรีวิวเป็นเครื่องเตือนใจ
2 ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ไม่แพ้ ผลลัพธ์ไม่เป็นดังหวัง ไม่ซื้อซ้ำให้เสียเวลา
3 รับได้ เฉยๆ มึนๆ ดีกว่าไม่มีซะเลย
4 ดีเกินความคาดหมาย มีโอกาสซื้อต่อแน่นอนถ้าไม่เจออันที่ดีกว่า
5 ดียอดเยี่ยม ไม่ขอเปลี่ยนใจ จะใช้ไปจนกว่าจะเลิกผลิต

แถวหลังสุด ซ้ายไปขวา
1. YEHWADAM REVITALIZING TONER 949 บาท
ใช้แล้วเฉยๆค่ะ ไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอะไร ถามว่าช่วยให้ทาครีมง่ายขึ้นไหมก็มีส่วนนิดนึง เพราะทาโทนเนอร์ตัวนี้แล้วผิวจะชุ่มๆลื่นๆ เวลาทาครีมตัวอืนตามก็ทาง่ายขึ้นค่ะ
คะแนน 3/5 ผลลัพท์ไม่สมใจ แพงไปไม่ซื้อต่อ


2.YEHWADAM REVITALIZING SERUM 1,599 บาท
ใช้แล้วเฉยๆอีกเช่นกัน เนื้อเซรั่มค่อนข้างเหนียว ใครผิวมันอาจจะมีอุดตัน
เราไม่รู้สึกว่าหน้าดีขึ้นเลย ใช้ไปสักพัก(จนจะหมดขวด)
หน้ายังเหมือนเดิมทุกประการ เวลาทาหน้าจะดูเต่งๆน้ำ
แต่มันไม่ได้ให้รู้สึกว่าช่วยบำรุงเข้าไปข้างในน่ะค่ะ
เหมือนเวลาที่เราดื่มน้ำแต่ยังไม่หายหิวน้ำน่ะ อารมณ์นั้น
คะแนน 2/5 ผลลัพท์ไม่สมใจ แพงไปไม่ซื้อต่อ


3. Cerave PM 499 บาท ขวดปั้มสีน้ำเงิน
ตัวนี้เนื้อสัมผัสบางเบามากๆเลยค่ะ เหมือนเอาน้ำมาลูบหน้าเลย แต่ให้ความรู้สึกว่าชุ่มชื่น สดชื่น ผิวรู้สึกอิ่มน้ำ หลังใช้หน้าดูฟูขึ้น รูขุมขนกระชับ ตัวนี้ดีมากๆ ทาอย่างต่อเนื่องจนหมดขวดรอยแดงบนผิวลดลง แถมราคายังไม่แพงอีก
คะแนน 5/5 มงลงไปเป็นตัวแรก ดียอดเยี่ยมทั้งราคาและผลลัพธ์ที่ได้

แถวกลาง

1.Atopalm 585 บาท กระปุกขาวฝาแดง
เหมาะกับคนที่หน้าแหกมาและคนที่ไม่รู้จะทาอะไรแต่อยากบำรุงผิว
เพราะมันเป็นครีมที่มีเซราไมด์ ซึ่งไอ้ตัวนี้มันเป็นไขมันชนิดนึงที่มีอยู่แล้วใต้ผิว
ยิ่งมีมันมาก ผิวก็ยิ่งดี ไม่แห้ง ไม่ลอก ไม่เหี่ยว
และเยียวยาผิวที่ถูกทำร้ายมา หน้าตาดูธรรมดา แต่คุณสมบัติครอบจักรวาล
คะแนน 4/5 ดีกว่าที่คิดไว้ 

2.Clinique moisture surge hydrating supercharged concentrate
ราคา 2180 บาท แต่เราซื้อหลอดทดลองมาก่อน 
เนื้อเซรั่มเป็นเจลใสๆ มีเม็ดบีทเล็กๆ ให้สัมผัสแปลกๆ
คล้ายๆเวลาที่เราใช้สครับเพียงแต่ว่าแทนที่เม็ดบีทมันจะขัดหน้า
มันกลับแตกตัวเป็นน้ำแทน
ใช้งานสนุกดี(ช่วงแรกๆ) แต่ใช้ไปใช้มา
ไม่ได้รู้สึกว่ามันดีอย่างไร ผิวก็ไม่ได้ชุ่มชื่นเพิ่มขึ้น
แถมยังเกิดสิวอุดตัน หน้าก็หนีบๆมันๆ
ออกไปทางเฉยๆและผิดหวังนิสๆ รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ซื้อไซส์ทดลองมาใช้
คะแนน 2/5 ผลลัพท์ไม่สมใจ แพงไปไม่ซื้อต่อ

3.Neutrogena Hydro boost nourishing gel cream 599 บาท
บอกก่อนว่าจะซื้อตัวนี้ให้รอลด
เพราะมันลดบ่อย ดิชั้นซื้อมาประมาณ400นิดๆ
ถ้าซื้อราคาเต็มดิชั้นลงความเห็นว่าไม่คุ้มราคา
เนื้อครีมเป็นเจลครีม คือข้นกว่าเจล แต่เบาบางกว่าครีม
ไม่มีน้ำหอม (ดิชั้นชอบตรงนี้ แต่บางคนจะรับกลิ่นไม่ได้)
แนะนำว่าให้ทาตอนผิวเปียก มันไปเคลือบให้น้ำถูกล็อคไว้อยู่ใต้ผิว
ทำให้ผิวดูเด้งและอิ่มน้ำทั้งวัน และการทาตอนหน้าเปียก
ยังทำให้หน้าไม่มันจากตัวครีมด้วย

คะแนน 4/5 ดีเกินความคาดหมาย

แถวแรกสุด
1. Clinique moisture surge 15 ml. 239 บาท
ตัวนี้ดีจริงๆค่ะ มันทำให้ผิวชุ่มชื่นและรูขุมขนเล็กลง เนื้อเป็นครีมกึ่งเจลๆ อย่างที่บอกไป ทาตอนหน้าเปียกๆมันจะช่วยให้ผิวอุ้มน้ำไว้ตลอดวันและทำให้ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิวหน้า เอาเป็นว่าถ้าเทียบกับตัว Neutrogena ด้านบน ใช้แล้วรู้เลยว่ามันต่างกันเยอะ แต่ไม่ใช่ว่าอันถูกไม่ดีนะ มันดีแต่ดีไม่เท่าอันนี้
คะแนน 5/5 ดียอดเยี่ยมม ไม่ขอเปลี่ยนใจ จะใช้ไปจนกว่าจะเลิกผลิต

2.Retin A 90 - 120 บาทได้มั้ง
หลายๆคนเอาไว้รักษาสิว แต่ดิชั้นไม่ได้เอาไว้ทาสิวหรอกนะ
เพราะ Retin A มันคือ
สุดยอดมหากาฬมือปราบริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว
ตัวเรตินเอมันเป็นวิตามินเอประเภทtretinoin(เทรทิโนอิน)ซึ่งมันจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจ้นใต้ผิว ผลก็คือหน้าดูเด้งเต่งตึงมีออร่าน่ะสิ เทรทิโนอินเป็น anti aging ที่หมอผิวให้การยอมรับ แต่ข้อเสียมันก็มี ตรงที่มันไวต่อแสง ถ้าทาเรตินเอแล้วไม่ทากันแดด คุณอาจจะได้หน้าดำๆมาแทน (เดี๋ยวจะเขียนกระทู้พรรณนาเรตินเออีกทีแยกต่างหากถ้าเพื่อนๆสนใจเพราะข้อมูลมันจะเยอะเกินไปสำหรับกระทู้นี้)
คะแนน 5/5 ดียอดเยี่ยมม ไม่ขอเปลี่ยนใจ จะใช้ไปจนกว่าจะเลิกผลิต

Moisture Surge Hydrating Supercharged C

ซ้ายไปขวา

1.Babyganics pure mineral sunscreen lotion SPF30 300บาทต้นๆ
เป็นกันแดดตัวแต่จะทาหน้าด้วยก็ได้ เพราะมันอ่อนโยนปลอดภัยใช้กับเด็กยังได้
ข้อดีคือทาแล้วผิวไม่แดง ไม่เข้มขึ้นเลย ไม่แสบร้อนกันแดดได้จริงแม้ SPF30
และที่สำคัญไม่มันไม่เหนียว แต่ มันวอกเกินเยียวยาค่ะ 
เป็นคราบขาวปื้นเข้มๆ เกินจะใช้ได้ในชีวิตประจำวัน
ไม่ต้องพูดถึงว่าทาแล้วแต่งหน้าต่อจะเป็นยังไง มีแต่เละกับเละค่ะ
กันแดดได้ดี แต่อย่างอื่นล้มเหลวมาก
คะแนน 3/5 รับได้ แต่ไม่คิดจะซื้อซ้ำ

2.Garnier Ambre Solaire Protection Lotion 24H Hydration SPF20+
 ซื้อตอนมันลดเหลือ250บาท

บอกตามตรงไม่ลดไม่ซื้อหรอก
เป็นกันแดดการ์นิเย่ฝั่งยุโรป ที่การ์นิเย่ไทยเอาเข้ามาขายเองไม่ได้ซื้อร้านหิ้วนะ
ออกแนวตามประสากันแดดสไตล์ฝรั่งส่วนใหญ่ที่ชอบทิ้งความมันๆไว้บนผิว
แต่ตัวนี้ดีหน่อยที่มันไม่ค่อยเหนียว
ตัวกันแดดมีกลิ่นหอมนวลๆเหมือนดอกไม้ผสมน้ำผึ่ง
หอมดีและกันแดดได้ดีเลยค่ะ ชั้นทาตัวนี้บ่อยๆยามออกไปตากผ้ากลางแดดจัด แต่ข้อเสียคือทิ้งความขาวและค่อนข้างให้ความชุ่มชื่นเยอะเกินไป พอเหงื่อเริ่มออก เกิดอาการไหลเป็นทาง น่าเกลียดพอดู
 คะแนน 3/5 รับได้ แต่ไม่คิดจะซื้อซ้ำ

3.ฺBiore Anti Pollution 290 บาท
ชั้นจะโดนด่าไหมเนี่ย ถ้าขอรีวิวว่าตัวนี้ห่วยแตกมากในเรื่องของการกันแดด
ชั้นรู้ว่ามันฮิตมาก และดิชั้นเองก็หลงเคลิ้มไปอยู่พักนึงด้วยเช่นกัน มันดีมากตรงที่แห้งไว ไม่เหนียวเลย แถมยังเย็นๆเหมือนทาแป้งตรางูทำมาได้โดนใจคนไทยสุดๆ
มันกันแดดได้ห่วยแตกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ดิชั้นเพิ่งมาลองสังเกตุได้ไม่นานว่า กันแดดตัวนี้กันแดดไม่ได้จริง ใช้แล้วผิวมีอาการแดงและเข้มขึ้นหลังออกแดด(แม้จะทาซ้ำตามคำแนะนำบนขวด)
คะแนน 2/5 บางเบาสบายผิวก็จริง แต่ครีมกันแดดซื้อมาเพื่อกันแดด ถ้ามันกันแดดไม่ได้แล้วจะซื้อมาใช้ทำไม
 

4.Biore Aqua rich ไม่ต่างอะไรจากรุ่นสีฟ้าหรอกแค่มีกลิ่นหอม 270 บาท
เนื้อเป็นน้ำๆกว่ารุ่นหลอดสีฟ้าที่หน้าตาคล้ายๆกัน อันนี้จะถูกกว่ารุ่นหลอดทั้งราคาและได้ปริมาณเยอะกว่า กันแดดได้กลางๆ ไม่ได้ดีไม่ได้แย่ เวลาทาจะเป็นขาวๆบนผิวแต่ไม่ถึงขั้นวอกเกาะติดแน่นดี ไม่เหนียว ไม่มัน ไม่ไหลเวลาเหงื่ออก
ทาแล้วไม่รำคาญเท่าพวกกันแดดฝรั่ง
ราคาถูก เหมาะกับการเอามาอาบทั้งตัวยามต้องออกไปปะทะแดด
คะแนน 4/5 ดีเกินความคาดหมาย

5.กันแดดฮาละลาโบะ หาได้ตามร้านหิ้ว 250 บาท
เนื้อเป็นเจลน้ำๆเลยค่ะ ทาตัวแล้วสบายผิวดี ช่วงหน้าหนาวที่อากาศร้อนและแห้งเหมาะมาก มันเป็นกันแดดที่ไม่ทำให้ผิวแห้งชอบตรงนี้เย็นสดชื่อเหมือนน้ำ แต่ถ้าเอามาทาหน้า เละ! ราคาไม่แพงด้วย
คะแนน 4/5 ดีเกินความคาดหมาย

6.Smith Total Sunscreen ได้มาในราคา500บาท
ขอบอกว่าผิวเข้มยังไงก็วอก ต้องเอาแป้งสีเข้มๆกลบ
เนื้อเป็นเหมือนซิลิโคนซึ่งดิชั้นว่าล้างยาก เกลี่ยก็ยาก เกลี่ยไม่ดีเป็นคราบอีก
กันแดดได้ดีพอสมควร แต่ไม่ถึงขั้นว่าอู้หูวววววว หาดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิวหน้าซึ่งดี แต่ข้อเสียชนิดให้อภัยไม่ได้คือราคาแพงมากกกกกกกก 30กรัม 760บาทราคาเต็ม ถ้าสมมติว่าเพื่อนๆใช้กันแดด1ข้อนิ้วตามหลักการการใช้ครีมกันแดดนะ
หลอดนึงอยู่ได้ไม่ถึงเดือน
คะแนน 3/5 พอรับได้ แต่ไม่ไหวสู้ราคา


ชั้นให้ความสำคัญกับครีมกันแดดมาก
เพราะทุกหมอผิวหนังให้ความเห็นตรงกันว่าการทาครีมกันแดดคือการป้องกันริ้วรอยก่อนวัยที่ดีที่สุด สกินแคร์ทั้งหลายจะไม่ช่วยอะไรเลย ถ้าคุณไม่ทาครีมกันแดด

1.Garnier Ambre Solaire sensitive skin for face and neck SPF50+ 499 บาท
จะบอกว่าชอบตัวนี้แหละ
คือมันทาง่าย ล้างง่ายเป็นครีมกันแดดสำหรับหน้าและคอ
ใช้แล้วไม่มีปัญหาสิวอุดตันตามมา
กันแดดได้ดีมาก มันจะทิ้งความวาวๆไว้บนหน้าหลังทานะ
ใช้พวกแป้งฝุ่งเซ็ทเอาก็หายมัน ตัวนี้เริศศศศ ชั้นรัก
คะแนน 4/5 ดีเกินความคาดหมาย 

2.Garnier light completely 290 บาท
ห่วยแตกไปโยนทิ้ง
ทาแล้วทั้งมันทั้งเหนียว แถมยังอมเทา เอาแป้งเซ็ทก็ไม่อยู่ ไหลเยิ้มรอบคอเป็นวงๆ มันกันแดดได้นะ แต่ลุคพังยับเยินแบบให้อภัยไม่ได้
ชั้นปวดใจนักนานๆทีจะเจอกันแดดราคาถูกและกันแดดได้จริง
คะแนน 2/5 สยดสยองกับลุคของตัวเองมาก หน้าเละเป็นผี ก็ถึงว่าทำไมวันนั้นคนพากันมอง

3.L’OREAL PARIS UV PERFECT MATT & FRESH LONG UVA SPF50+/PA+++ 299 บาท ขวดสีเขียว
รู้สึกว่าตัวนี้มีซิลิโคนจัดหนัก ใช้แล้วมีสิวอุดตันหัวขาวๆขึ้นประปราย ต้องล้างหน้าดีๆ ถึงแม้ว่ามันจะชื่อรุ่นว่าแมท เอาเข้าจริงก็ไม่ได้แมทซักเท่าไหร่ มันๆพอประมาณใช้แป้งเซ็ตเอา กันแดดได้ดี ใช้แล้วหน้าไม่ดำขึ้นเลย แอบมีแสบๆผิวเพราะแอลกอฮอร์จากกันแดดบ้าง แต่รวมแล้วยังน่าประทับใจ
คะแนน 4/5 ดีเกินความคาดหมาย

4.L'OREAL PARIS UV PERFECT SUPER AQUA ESSENCE LONG UVA SPF 50+/PA++++ 30 ml 299 บาท ขวดสีฟ้า
รุ่นนี้ก็เนื้อบางเบาแต่ทิ้งความหนึบและความมัน(มากกว่าตัวสีเขียว)
เป็นอีก1ตัวที่กันแดดได้ดี ชั้นลองมาแล้วโดยการออกไปตากแดดช่วงบ่าย2-3โมง หน้าไม่ดำขึ้นเลย กันแดดได้ดีมาก และล้างง่ายกว่าตัวสีเขียว แต่ที่ให้คะแนนเท่ากันเพราะตัวนี้แอบเหนอะกว่าตัวสีเขียวค่ะ
คะแนน 4/5 ดีเกินความคาดหมาย
1.GARNIER MICELLAR Oil-Infused Cleansing water 245 บาท
ล้างหน้าได้ดีพอสมควร แต่ข้อเสียเบอร์ใหญ่คือน้ำหอมฉุนมาก
ฉุนชนิดทีว่าชั้นเคยลืมปิดฝาขวดแล้วตั้งเอาไว้ในห้องน้ำ
กลิ่นของคลีนเซอร์ตัวนี้คละคลุ้งจนเกินหอมไปมาก
ชั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะ ว่าถ้าคนหน้าแพ้ง่ายหน้าจะแหกไหมถ้าใช้ตัวนี้
ตอนเช็ดก็แอบมีความวูบวาบหน่อยๆไม่ถึงกับแสบ
ล้างเครื่องสำอางออกได้เกือบหมดในสำลีแผ่นแรก
คะแนน 4/5 ดีเกินความคาดหมาย แต่สมควรลดปริมาณน้ำหอมลง

2.GARNIER MICELLAR CLEANSING WATER สีฟ้าและสีชมพู 199 บาท
พูดตามตรงไม่เห็นความต่างระหว่าง 2 ตัวนี้ ก็เลยรีวิวมันรวมกันซะเลย ล้างหน้าได้โอเค อันไหนกันน้ำล้างไม่ออกนะแก แต่ถ้าวันๆเธอทาแค่ครีมกันแดดกับแป้งก็ไม่เห็นจะเป็นไร อันนี้เป็นตัวที่นึกอะไรไม่ออกก็จะหยิบไว้ก่อน สีไหนก็ได้ไม่สำคัญ
คะแนน 4/5 ดีเกินความคาดหมาย แต่แบบ ไม่ได้รักมากมายอ่ะ

3.Nivea white oil clear micellair oxygen boost 99 บาท
ห่วยแตกมาก ล้างอะไรก็ไม่ออก แม้แต่ครีมกันแดดบางๆ เอาอันนี้ล้างหน้าเหมือนล้างด้วยน้ำเปล่า ครีมกันแดดธรรมดาๆยังไม่หลุด เป็นผลพวงทำให้เกิดสิวอุดตันทางอ้อม ที่ทำให้ฉุนสุดๆ เพราะมันครีมกันแดดที่ว่ามันเป็นยี่ห้อเดียวกัน ยังล้างกันเองไม่ได้
คะแนน 1/5 พังพินาศ ห่วยมากไม่อยากพูดถึง แต่ต้องรีวิวเป็นเครื่องเตือนใจ 

4.ซอฟเน่ เมคอัพ ไวพส์ 79 บาท 12แผ่น 
เช็ดเมคอัพได้บ้าง แต่ไม่ทั้งหมด เนื้อกระดาษหยาบไปหน่อยค่ะ เช็ดๆแล้วเจ็บหน้า
สะดวกใช้งานง่ายดีในเวลาเร่งรีบ แต่คิดว่าไม่เหมาะจะใช้ทุกวัน อายุการเก็บรักษาค่อนข้างสั้น ต้องใช้ให้หมดใน1เดือน
คะแนน 3/5 พอรับได้ ไม่ดีเว่อ ไม่แย่มาก
ใครจะนึกว่าชั้นเป็นหน้าม้าไหมเนี่ย เพราะเชียร์ Aveeno ออกหน้าออกตามาก แต่ไม่ใช่นะแก เพราะชั้นซื้อมาเองทั้งนั้น

รูปบน
1.Aveeno daily moisturizing lotion 300กว่าบาท
ไม่มีกลิ่นหอม เนื้อเป็นกึ่งเจลๆ ทาง่าย ซึมง่าย ให้ความชุ่มชื่นยาวนาน คือชั้นนะมีปัญหาเรื่องตาตุ่มกับตามข้อนิ้วด้าน ชั้นใช้ครีมมาหลายตัวแล้วไม่หาย จนชั้นมาเจออันนี้แล้วมันช่วยเยียวยาจนหายได้ นึกออกป่ะครีมบางอย่างมันจะได้ฟีลแบบเคลือบๆผิว แต่พอครีมมันหลุดออกจากผิว ผิวก็แห้งเหมือนเดิม ซึ่งอันนี้ไม่เป็นแบบนั้น ทาแล้วผิวนุ่มนิ่ม ไม่ทิ้งความมัน ซึมง่าย เลิศศศศ
5/5 ดียอดเยี่ยม ไม่ขอเปลี่ยนใจ จะใช้ไปจนกว่าจะตายจากกัน

2.Aveeno Stress Relief Lotion 300กว่าบาท ขวดสีม่วง
ตัวครีมไม่ได้แตกต่างอะไรจากตัวสีเขียวดั้งเดิม เพิ่มเติมขึ้นมาคือมีกลิ่นลาเวนเดอร์ คาโมมายล์ และกระดังงานผสมๆกัน เพื่อช่วยในการผ่อนคลาย
ชั้นเฉยๆเรื่องกลิ่น ไม่ได้ชอบหรือชอบเป็นพิเศษ
ให้คะแนนไปเท่ากับตัวแรกที่
5/5 ดียอดเยี่ยม ไม่ขอเปลี่ยนใจ จะใช้ไปจนกว่าจะตายจากกัน

3.Aveeno Positively Radiant ตัวนี้ไม่มีขายในไทย ชั้นซื้อมาจากร้านหิ้วใน shopee ราคา 450 บาท เพราะหวังจะเป็นเจนนิเฟอร์ อนิสตัน
อันนี้ชั้นไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เนื้อครีมมันไม่เหมือนสองรุ่นแรกที่ชั้นชอบ รุ่นนี้จะมันๆ ทิ้งความมันไว้บนผิว ประมาณผิวโกลว์ๆ มีกลิตเตอร์เล็กๆ มันเหมาะกับจะทาออกงานนะชั้นว่า แต่ชั้นไม่ชอบความมันที่มันมอบให้เลย
3/5 รับได้ เฉยๆ มึนๆ ดีกว่าไม่มีซะเลย

4.Aveeno creamy moisturizing oil ชั้นกดซื้อมาจากเว็บ iherb ราคาประมาณ300ต้นๆ 
รุ่นนี้ไม่มีขายในไทย เนื้อครีมมหัศจรรย์ตรงที่มันเป็น oil แต่ไม่เหนียวไม่มันเลย ให้ฟีลคล้ายๆบอดี้เซรั่ม ชั้นชอบมาก เป็นรุ่นที่บางเบาที่สุด ทาหน้าร้อนแล้วสบายผิว กลิ่นออกแนวอัลมอนด์หอมหวาน รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่เริศ
5/5 ดียอดเยี่ยม ไม่ขอเปลี่ยนใจ จะใช้ไปจนกว่าจะตายจากกัน


1. Cerave healing oilmen สั่งจาก iherb ราคาประมาณ 600บาทค่ะ
เนื้อมันจะคล้ายวาสเซอลีนแต่มันไม่ใช่วาสเซอลีนะ ส่วนประกอบของมันคือปิโตรเลียมเจลลี่ที่ผสมกับเซราไมด์มีฤทธิ์ช่วยประโลมผิวได้ โดยแมลงสัตว์กัดต่อย ผิวแห้งเป็นแผ่นๆให้เอาตัวนี้ทา ตัวนี้มันเป็นสารพัดประโยชน์ใช้ได้เกือบทุกส่วน
ใครผิวแห้งมากๆจะเอามาทารอบดวงตา หรือจะเอามาทาปากก็ยังได้
คะแนน 5/5 ดียอดเยี่ยม

2.Jergens Hydrating coconut ประมาณ100กว่าบาท
ไม่ค่อยชอบค่ะ เพราะซึมช้า ทิ้งความมัน
แต่ในส่วนที่มีปัญหาแห้งจัดๆเช่นตาตุ่มกลับยังแห้งเหมือนเดิม
คะแนน 2/5  ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผลลัพธ์ไม่เป็นดังหวัง ไม่ซื้อซ้ำให้เสียเวลา

3.Vaseline ลาเวนเดอร์ ประมาณ100กว่าบาท
ชอบกลิ่นมากๆ เพราะมันทำเลียนลาเวนเดอร์แบบลาเวนเดอร์ทั้งต้นที่อยู่ในทุ่ง
กลิ่นหอมผ่อนคลาย อยากให้เขาทำสบู่ออกมาด้วยจริงๆ แต่ตัวครีมนั้นค่อนข้างเหนียวและให้ฟีลลิ่งแบบเคลือบๆผิว
คะแนน 3/5 พอรับได้ ถึงแม้ว่าจะกลิ่นถูกใจแต่เท็กเจอร์ครีมไม่โดนก็ไม่มีประโยชน์

4.Garnier Sakura white ประมาณ100กว่าบาท
ทาแล้วเป็นคราบๆมันๆลื่นๆ แต่! ไม่ช่วยให้ผิวรู้สึกชุ่มชื่นเลย
แถมยังคันยิบๆ คาดว่ามาจากกรดที่ช่วยในเรื่องผิวขาว
ใครอยากย้อมตัวขาวจัดขวดนี้ไป แต่ผิวต้องแกร่งประมาณนึงนะเธอ
ส่วนชั้นนั้นขอผิวสุขภาพดีตามสีเดิมแล้วกัน
คะแนน1/5 พังพินาศ แพ้ยับเยิน

5.Eucerin Hydro Serum 369 บาท
เนื้อแปลกๆดีค่ะ บางเบา แอบให้ฟีลเหมือนมันไปเคลือบๆผิวไว้นิดนึง
แต่ที่แย่คือโลชั่นตัวนี้ผสมน้ำหอมที่กลิ่นแบบ
จะใส่มาทำไมให้เหม็นกว่าเดิมกลิ่นแย่มาก
คล้ายๆกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามโรงพยาบาล
ที่จะพยามจะทำให้หอมด้วยการฉีดพวกสเปรย์กลิ่นดอกไม้ทับ
แต่ตัวโลชั่นทำได้ เนื้อบางเบา สมเป็นเซรั่ม ทาง่ายเหมาะจะทาทุกวัน
คะแนน 3/5 พอรับได้ เนื้อครีมถูกใจแต่กลิ่นเกินจะบรรยาย
1.Bifesta สูตร moist ประมาณเกือบๆ200
บีบสนุก โฟมฟองหนานุ่ม ล้างแล้วหน้าไม่แห้งตึง
แต่ชั้นรู้สึกเฉยๆ
และโฟมล้างหน้าอัดแก๊สแบบนี้มันหมดไว เปลืองเงินบ่อย
คะแนน3/5 ไม่ได้แย่ 

2.Clinique รุ่น 3 step สำหรับคนผิวผสม (ขนาดทดลอง) 65บาท
ชั้นขอเมาท์ตัวนี้
ฟองเยอะ ล้างดีไม่แห้งตึง ไม่ผสมน้ำหอม
มีกลิ่นตะมุตะมินิดนึงแบบพวกสกินแคร์ที่ไม่ผสมน้ำหอม
ฟีลลิ่งหลังล้างหน้าตัวนี้ดีสุดๆ
ข้อเสียอย่างเดียวคือแพง ถ้าไม่แพงชั้นก็จะไม่ไปไหน
ขวดไซส์เต็มราคาประมาณ 1000บาท กับปริมาณ 250ml
น้อยมากนะ สำหรับอะไรที่ต้องใช้เช้า - เย็น
แต่ถ้าคุณไปซื้อตามร้านหิ้วมันจะเหลือประมาณ 600 - 800 บาท
ซึ่งร้านไหนแท้ปลอมก็ไปเสี่ยงกันเองนะคะ
คะแนน 4/5 ดีเกินความคาดหมาย ที่ไม่ให้คะแนนเต็มเพราะแพง
และชั้นบังเอิญไปเจอตัวที่ดีเท่ากันและถูกกว่าแกรร

3.Cerave foaming cleanser สำหรับผิวมัน ราคา 200กว่าบาท
อันนี้แหละที่ชั้นขอยืนยันว่า
มงลงๆๆๆๆ เพราะมันดีเท่า Clinique แต่ถูกกว่ามาก
ฟองไม่เยอะเท่า clinique แต่ที่เหลือคือถอดแบบกันมาอย่างหมดจรด
ล้างหน้าไม่แห้งตึง ให้ฟีลลิ่งหลังล้างหน้านุ่มนิ่ม อ่อนโยนกับผิวหน้า
แต่ก็กลิ่นยาๆตามประสาโฟมล้างหน้าไม่ผสมน้ำหอมนะเธอ
ชั้นรีวิว clinique ไว้ว่ายังไง Cerave คือแบบนั้น
แต่ตัวเจลมันจะไม่เข้มข้นและฟองเยอะเท่าclinique
ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาฟองเยอะไม่ได้แปลว่าสะอาดกว่า
คะแนน 5/5 ดียอดเยี่ยม ใช้งานได้ดี ราคาไม่แพง ซื้อมาอาบทั้งตัวยังได้ 

4.Neutrogena deep clean 190 บาทได้
ในอดีตชั้นเคยรักโฟมล้างหน้าตัวนี้มาก แต่หลังๆมา
ชั้นว่ามันห่วยลง ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร ล้างหน้าไม่สะอาด เป็นเมือกๆลื่นๆนิดๆติดผิว ชั้นค้นพบว่าเกิดสิวเม็ดเล็กๆ2-3จุดหลังใช้ไปได้ 2วัน
คะแนน 1/5 โทษฐานทำให้เกิดสิว

5. Cow's brand เกือบๆ 200 บาท
มันถูก และมันดีมาก เนื้อเป็นโฟมมีฟอง แต่ให้ฟีลลิ่งที่ดี นุ่ม ไม่แห้งตึง
ฟองเยอะ ใช้นิดเดียวก็ได้ตั้งแต่หน้ายันคอ มีขายตามร้านมัตสึโมโตคิโยชิ
ในไทยมีขาย
คะแนน 5/5 ดียอดเยี่ยม ใช้งานได้ดี
1.Glossier balm dot com กลิ่น Birthday cake ประมาณ500บาทค่ะ
เนื้อลิปก็โอเคนะ
ทาแล้วปากนุ่มนิ่มดีในข้ามคืน ส่วนประกอบหลักๆคือปิโตรเลียมเจลลี่
แต่ที่ดีสุดคือกลิ่นของมันเนี่ยแหละ หอมเหมือนขนมเค้ก เพราะเขาเอากลิ่นมาจากร้านเค้กชื่อว่า Milk Bar ใน New York
คะแนน 4/5 ดีเกินความคาดหมาย (แต่แอบแพง)

2.Nuxe lip balm จำราคาไม่ได้ค่ะ
ตัวนี้มันแปลกตรงที่ว่าเนื้อมันจะเป็นเหมือนครีมแห้งๆ ทาแล้วแมทไม่วาวเลย กลิ่นเหมือนได้กินทาร์ทมะนาวเลยค่ะ หอม อร่อยจนเผลอเลีย ชอบที่หอม(ทาร์ทมะนาวคือขนมโปรดชั้น) และทาแล้วไม่มัน
คะแนน 4/5 ดีเกินความคาดหมาย

3.Clarins lip oil 950 บาท 
กลิ่นน้ำผึ้ง ทาแล้วปากวาวมากๆ แต่ความรู้สึกบนปากมันไม่ได้เหนียวขนาดลุคที่ได้ ชั้นคิดว่ามันก็ไม่ได้ดีสมราคานัก ก็ลิปทั่วๆไป ดีกว่าพวกเมย์เบลลีนหน่อย แต่ไม่ได้ดีขนาดที่ว่าต้องซื้ออีก
คะแนน 3/5 พอรับได้แต่แพง
ถ้าคุณอ่านทุกตัวจนจบ ทางเราขอขอบคุณจากใจจริง
เพราะมันยาวกว่าที่ตั้งใจจะเขียนเอาไว้มาก (ตั้งใจจะแต่ละอย่างไม่ให้เกิน3บรรทัด)
แต่ก็เห็นแล้วว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

พอได้เม้าแล้วก็เลิกยาก (แม้จะเป็นการเม้าข้างเดียวก็ตาม)
หวังว่าเพื่อนๆจะได้รับประโยชน์จากรีวิวนี้
และถ้าไม่ขี้เกียจไปซะก่อน ก็คงจะได้เห็นรีวิวในฝั่งของเมคอัพบ้าง

สุดท้ายโชคดีปีใหม่กันทุกคนค่ะ (ยิ้ม)

Discussion (8)

อ่านเพลินดีค่ะ ชอบ
รอตามกระทู้ ratin a นะ แอดมินจีบัันแชร์ลงเพจด้วยนะคะพลีส
เขียนดีอะ ชอบมาก
เยอะมากกกกกกกกก ละเอียดมาก เมื่อก่อนก็ชอบใช้ Garnier Ambre Solaire Protection Lotion ทาตัวค่ะ กันแดดได้ดีมาก ผิวสวย ไม่ดำขึ้นเลย แต่ตอนหลังรีบ ๆ บวกกับขี้เกียจก็เลิกทาไปซะเฉย ๆ เพราะมันเหนียวมากกกกกก
เลิฟเรตินเอเช่นกันค่ะ จะใช้จนกว่าจะตายจากกันไปข้าง