How to Natural Wet Look : Less is more ฉ่ำแค่นี้ จะแค่ไหน ?

ฝนตก ยิ่งนึกถึงทีไรก็ยิ่งชุ่มฉ่ำ อุ่นในหัวใจ ~~~~~~~~~


สวัสดีค่าา สาวๆทุกคน ย่างเข้าสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการแล้ว
และปีนี้ก็ไม่ได้มาแค่ฝน แต่มันพ่วงพายุมาด้วย !!!
สาวๆอย่างเรานอกจากจะทนแดดแล้วยังต้องทนฝนอีก

Strong ขนาดนี้ก็ต้องสาวจีบันนี่แหละค่ะ


แต่ แต่ แต่ ...

เห็นฝนฉ่ำๆ แบบนี้ Make up เราก็ต้องฉ่ำไม่แพ้กัน
วันนี้ก็มี How to มาฝากสาวๆ เป็น Look ที่เข้าก๊านเข้ากันกับสถานการณ์ตอนนี้

แต่เน้นตรงที่ " Natural wet look "

คือ ฉ่ำแบบน้อยๆ พอดีๆ แต่ดูมีอะไร (แล้วมันมีอะไร? 555+)

เราจะจับมือสวยไปด้วยกันในวันฝนพรำค่ะ !!!

STEP

เตรียมผิว

ลงผลิตภัณฑ์ทั้งสองลงบนใบหน้า เน้นบริเวณรูขุมขน

STEP

ลงรองพื้น

ใช้รองพื้นสีที่เข้ากับผิวที่สุดลงให้ทั่วหน้าด้วยฟองน้ำ (จะทำให้ดูเป็นงานผิวที่สุด) โดยส่วนตัวคิดว่าสีรองพื้นทั้งหมดที่จำหน่ายในไทยตอนนี้ ยกให้ศรีจันทร์ เบอร์ 50 เป็นสีที่เข้ากับผิวมากถึงมากที่สุด คือตอบโจทย์คนไทยสีผิวเข้มสุดอย่างเราม๊ากกกกกกกกก

STEP

ปิดรอยคล้ำใต้ตา และจุดด่างดำบนใบหน้า

ด้วยความที่เจ็บมาเยอะกับรองพื้นผิดสี แต่ทำไงได้มันซื้อมาแล้ว 555+ ก็เลยจับมาทำเป็นคอนซีลเลอร์ซะเลย ผลดีเกินคาด เพราะเจ้าลอรีอัลทรูแมทตัวนี้ มี Shimmer ที่ช่วยกระจายแสงบนใบหน้าได้ดี แพนด้าของเราเลยหายวับไปกับตา !!!

STEP

ลงแป้ง Set บริเวณตกกระทบของแสงบนใบหน้า

ใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสง เป็นอะไรที่ save สุดสำหรับสาวผิวสี... กดด้วยพับเพื่อให้แน่นบริเวณใต้ตา หน้าผาก จมูก และคาง เอาให้แป้งไปกองกันอยู่ในรูขุมขนให้หมด ไม่เนียนไม่เลิกค่ะ

STEP

งานตา + คัดเบ้าตา

งานนี้ใช้พาเลตลูกรัก มากับ 6 สีโดนใจ พกพาสะดวก ไปไหนไปกันอย่าง Tarte Tartelette Flirt ใช้สีลำดับตามภาพ โดย (1) ลงไปให้ทั่วเปลือกตา (2) คัดเบ้าตา ใช้สีเข้มวาดเป็นครึ่งวงกลมบริเวณเบ้าตาของเรา (3) ลงสีสว่างที่มี Shimmer บริเวณกลางตา .... เท่านี้ก็ได้ดวงตาที่โดดเด่น ดูลึก เหมือนมีเชื้อตะวันออกกลางเลยทีเดียว หุหุ

STEP

คอนทัวร์เพิ่มมิติให้ใบหน้า

คอนทัวส์หน้าโดยใช้แปรงขนแน่นๆ วนบริเวณกรอบหน้า โดยเน้นโครงหน้าเดิมของเราให้มากที่สุด และอย่าลืมงัดดั้งที่ขี้อายของเราออกมา โดยไล่จากใต้ท้องคิ้วมาถึงบริเวณที่สมควรจะมีดั้ง จากนั้นไล้ตรงปลายจมูกอีกที เราจะไม่ไล้ดั้งทั้งแท่งนะค่ะ เพราะมันจะดูปลอมไม่เป็นธรรมชาติ !!

STEP

งานคิ้ว...เพราะคิ้วคือมังคุดของใบหน้า เอ้ย ไม่ใช่ !!!

เลือกใช้เป็นดินสอเขียนคิ้ว เพราะง่าย สะดวก และรวดเร็ว จบค่ะ อ้อ...สำหรับลุคนี้เราต้องแปรงขนคิ้วให้มันตั้งๆด้วยนะ จะได้ดูเซอร์ๆ แบบไม่ได้ตั้งใจ

STEP

งานแก้มนัว นัว

ใช้บลัชออนสี ส้มตุ่นๆ ออกไปทางน้ำตาล ( 4U2 สี M0 I Fancy u) ปัดวนๆตรงโหนกแก้ม ให้ดูมีสีสัน ไม่ดูเหมือนไปตากฝนมาแล้วป่วย 555+

STEP

กรีดอายไลน์เนอร์

ใช้อายไลน์เนอร์แบบที่ถนัดลากให้ชิดโคนขอบตาที่สุด เอาาแบบไม่หนามาก วิงค์หางเล็กน้อย... สิ่งที่ยากที่สุดคือ เขียนยังไงให้เท่ากัน คือถ้าไม่เท่าก็ไม่ต้องซีเรียสนะ เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรที่เท่ากัน !!!! เอ๊ะ คุ้นๆ

STEP

ดัดขนตา ปัดมาสคาร่า

นี่เป็นคนที่ขนตาทิ่มลงแบบทักทายกับผืนดินตลอด ซึ่งที่ดัดขนตาของบิ้วตี้บุฟเฟ่ถือว่าสุดนะ เข้ากับรูปตา ไม่กินหนังตา แถมราคายังน่ารักอีก ส่วนมาสคาร่าปัดนั้นปัดมันทั้งบนและล่างเลยค่ะ เพิ่มดีกรีความโตของดวงตา

STEP

Hightlight ต้องมา

จัดไปเลยค่ะ ลงไปบริเวณโหนกแก้ม / สันจมูก / บนคิ้วฟาด / กระจับปาก ฟาดได้แต่ต้องฟาดให้พอดี จะให้เป็นหนังปลาทูมันก็ไม่ใช่ เอาแบบแค่ให้เล่นแสงได้ก็โอเค

STEP

ทาลิป สีโทนนู้ดที่ดูยังไง๊ ยังไงก็ไม่ป่วย !!!

วิธีคือถ้าทาสีแรกแล้วไม่โอเค ไม่ต้องลบ ให้ลงสีอื่นทับเลย มันก็จะออกมานัวนัวๆใกล้เคียงกับสีแก้มหน่อยๆ (อันนี้ใช้ของ bourjois velvet 12 beau brun + Myca เบอร์ 6 )

ขั้นตอนสำคัญ


มาถึงส่วนสุดท้าย เป็นส่วนที่ How to นี้ เน้นย้ำมาแต่ต้น

Wet Look มันก็ต้องมีส่วน wet wet สิ !!!


โดยสิ่งนั้นก็คือ Lip Gloss ที่นอกจากจะทาปากได้แล้ว

ยังใช้ในการแต่งแต้มบริเวณต่างๆของใบหน้าได้อีก ดังเช่น เปลือกตา เป็นต้น


จบสักที เห้อ ....ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ >[]<


 เป็นการเขียน How to ที่ถือว่ายาวนานมากกกกกก

บอกแล้วว่า Less is more จริงๆ การแต่งหน้ามันไม่ได้มีอะไรเยอะเลย

แต่คนเขียนนี่แหละเยอะเกิ๊น 555+


สุดท้ายจริงๆ ขอให้สาวๆ Enjoy กับวันฝนพรำ

เราจะสวยไปด้วยกันค่ะ !!!

ปล. หรือที่พายุเข้านี่เพราะว่าเราหว่า

Discussion (5)

สวยเป็นธรรมชาติมากค่ะ
สวยจังค่า ❤️
สวยมากๆค่ะ รอติดตามลุคต่อไปน้า
ได้ลุคเกาหลีมากๆเลยค่าา