จุดเปลี่ยน กับ จุดเริ่มต้น

หลายๆคนมักจะมีจุดเปลี่ยนเรื่องการเริ่มหรือตั้งใจลดน้ำหนักที่ต่างกันออกไป ผู้เขียนก็เช่นกัน จุดเปลี่ยนของผู้เขียนเริ่มจากการไม่สบายหนักมาก ตอนนั้นอยู่เมืองนอก การหาหมอที่ต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายสูงมากกกกกก เราก็เลยได้แต่กินยาแล้วนอนพักผ่อน จำได้ว่านอนอยู่กับเตียงเกือบ10วัน ส่วนสาเหตุก็เกิดจากการเดินทางไปเที่ยวอีกรัฐนึงซึ่งอากาศเย็นมาก บวกกับร่างกายก็ไม่แข็งแรง หลายสาเหตุรวมกัน มันก็เลยถูกหวยไปเลยคะ พออาการเริ่มดีขึ้นหลังจากที่นอนเป็นไข้ไป10วัน น้ำหนักตัวลงค่อนข้างเร็ว 10วัน ลงไปประมาณ3-4กิโล เพราะนอนอย่างเดียวเลยคะ กินอะไรก็ไม่ค่อยได้ ตอนที่นอนไม่สบายมันทรมานมากคะ ก็คิดเริ่มคิดได้ว่าการไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ มันเป็นเรื่องจริง แล้วจะทำยังไงละให้ไม่มีโรค คำตอบเดียวที่ได้เลยคือ ร่างกายเราต้องแข็งแรง ตอนนั้นรู้เลยว่าร่างกายเราเปร่าบางมากเป็นหวัดบ่อย แล้วจากที่น้ำหนักลงเร็วอย่างที่บอกคะ มันทิ้งเศษซากของความเหี่ยวของผิว เซลลูไลท์ที่แขน ขา ได้อย่างน่าเกลียด ยิ่งทำให้เราฉุดคิดว่าต้องกำจัดมันออกไป แต่ตอนนั้นคิดแค่ว่าให้หายป่วยก่อน ชีวิตมาก่อนความสวยงามแล้วคะ ตอนนั้น ก็เริ่มออกกำลังกาย ด้วยวัยที่ยังเลข2อยู่ระบบทุกอย่างในร่างกายมันฟื้นฟูตัวเองได้เร็ว เราก็โหมการออกกำลังกาย ได้ผลดีคะ รูปร่างสัดส่วนดีขึ้นมาก แต่ด้วยความใจร้อนทำให้เราไม่ศึกษาให้ดี ดูยูทูปแล้วทำตามเลย ไม่ได้มานั้งดูวิดีโอดีๆว่าเค้าวางตำแหน่งหัวเข่ายังไง เอวอยู่ส่วนไหน หัวไหล่ ข้อศอก ตรงไหน ผลที่ได้มาด้วยคือการเจ็บเข่าอย่างเรื้อรัง เพราะการสควอท ไม่ถูกวิธี อันนี้อยากให้เป็นอุทาหรณ์คะ อย่าใจร้อน เสียเวลาศึกษาดีๆก่อน เพราะบางอย่างพังไปแล้วซ่อมยาก
แต่ด้วยที่ตอนนั้นอายุยังเลข2อยู่มันฟื้นฟูได้ ตอนนั้นเน้นการออกกำลังกายมาก เรื่องอาหารนี้ไม่สนใจเลย กินข้าวก็น้อยมาก ผอมสมใจเลยคะน้ำหนักลงไปเหลือ 34 กิโล ผลที่ได้คือคนรอบข้างคิดว่าป่วยหนักกว่าตอนไม่สบายจริงๆซะอีก เริ่มไม่มีความสุขเพราะจำกัดการกิน กลายเป็นคนเยอะเพราะกินอะไรก็ไม่ได้ ข้อแม้ในชีวิตเยอะมาก ก็เริ่มกลับมาคิดกับตัวเองว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไม่ใช่ความสุขที่จะใช้ไปตลอดชีวิต บวกกับเริ่มมีอายุที่เพิ่มขึ้น กินเท่าเดิมแต่น้ำหนักเพิ่มขึ้น ก็เริ่มศึกษาต่อไปละว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเรา ตอนนั้นอายุขึ้น3แล้วด้วย เริ่มกลัวการป่วย คุยกับเทรนเนอร์ฝรั่งเค้าย้ำกับเราตลอดเลยว่า ยูต้องให้ความสำคัญกับโภชนาการนะ80% ออกกำลังกายแค่20% ก็เริ่มที่จะเห็นจะความสำคัญตอนนั้นเลย แล้วก็เอามาปรับใช้กับตัวเองก่อน บวกกับอ่านเจอเรื่องกินตามกรุ๊ปเลือด ก็กลับมาสังเกตตัวเองว่ากินอะไรไปแล้วรู้สึกถ่ายง่าย น้ำหนักไม่ขึ้น แบบกินง่ายถ่ายคล่องคะ มันก็เปลี่ยนแปลง จริงๆคะ สิวที่หลังก็หาย สิวใต้คางหาย ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ อยากให้ทุกๆคะเปลี่ยนความคิดเรื่องความผอม เป็นเรื่องของน้ำหนักใหม่คะ อย่าไปให้ค่ากับตัวเลขเยอะเกินไปจนไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต ขอให้สุขภาพดีขึ้นๆเรื่อยๆดีกว่าคะทุกคน ท้ายนี้เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่พยายามในทางของตัวเองคะ การดูแลสุขภาพมันเป็นศิลปะในแบบของแต่ละคน แนะนำได้แล้วเอาไปปรับใช้ให้เข้ากับวิถีชีวิตของใครของมันนะคะ

Discussion (2)

เอมเป็นคนสู้กับการออกกำลังกายมาก แต่คุมเรื่องกินไม่ได้จริงๆ ค่ะ ทั้งไม่ชอบกินผัก และชอบกินพวกแป้ง มันฝรั่ง เฟรนช์ฟรายส์นี่ของโปรด ฮือ 

ชาตินี้คงไม่มีวาสนาได้ผอม T^T
เรื่องคุมอาหารเอาที่เราสะดวกจะดีกว่าคะไม่อยากให้เครียดจนเกินไป คิดง่ายๆแค่ว่ากินของที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นคนติดแป้งเหมือนกันคะแต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นโฮววีท ไม่อยากให้ซีเรียสเรื่องน้ำหนัก อยากให้ดูแลสุขภาพระยะยาวมากกว่าคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^ ขอให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนเราก็ไปได้คะ 
เก่งมากเลยค่าาาา ฟริ้งเนี่ยเอาชนะใจตัวเองไม่ได้ซะที อยากตีตัวเอง
ปกติทานวันละกี่มื้อคะ คุมมื้ออาหารได้มั้ยคะ ให้เหลือวันละ2มื้อ หรือเปลี่ยนมื้อเย็นไม่ทานแป้ง กรุ๊ปเลือดอะไรคะ จะได้แนะนำอาหารให้ตรงกับกรุ๊ปเลือดร่างกายจะย่อยได้ดีขึ้น