วิวัฒนาการ Makeup Trendแห่งศตวรรษที่ 20
candy383เป็นเวลาหลายร้อยปีที่การแต่งแต้มใบหน้าให้มีสีสันสดสวยเป็นเรื่องต้องห้าม ในยุค Victoria ไม่กี่ทศวรรษก่อนจะเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 makeup ยังเป็นสิ่งที่ถูกเหยียดหยามว่าเป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิงที่ขายเรือนร่างเลี้ยงชีพ แต่เมื่อโลกได้เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ความ modern เราก็ไม่สามารถแยก makeup ออกจากผู้หญิงได้อีกต่อไป
1910s นิยมความงามที่ดูเป็นธรรมชาติระดับหน้าเกือบเปลือย
makeup ยังเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากคนทั่วไป แต่บรรดานักแสดงสาวงามต่างก็แต่งโฉมให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น สิ่งที่คุณจะได้เห็นในแมกกาซีนคือภาพวาดหญิงสาวผิวขาวเนียนและแก้มปากสีกุหลาบ
คุณอาจจะไม่ได้เห็นภาพสีสดใสของเหล่าit girl ในยุค1910s เพราะวิทยาการยังไม่เอื้ออำนวย นักวาดภาพจึงเป็นอาชีพสำคัญในการถ่ายถอดความงามของสาวๆ ให้ผู้คนได้ประจักษ์ และคุณจะพบว่า พวกเธอจะขาดแก้มสีชมพูเปล่งปลั่งไปไม่ได้เลย
ถ้าเป็นตัวละครที่อยู่ในยุคนี้ หนีไม่พ้น Rose จากหนังรักเรือล่มที่มาในลุค "ตื่นแล้วสวยเลย" ใบหน้าของเธอดูเหมือนจะแต่งน้อยๆ ขาวอมชมพูดูงามแบบธรรมชาติให้มา
เกร็ดความรู้จาก Beauty ยุค 1910s
Thomas Lyle Williams ได้คิดค้นมาสคาร่าขึ้นในอเมริกา หลังจากที่ Mabel พี่สาวของเขาเกิดอุบัติเหตุในครัวทำให้ไฟไหม้ขนตาขนคิ้วไปจนสั้นกุด เธอจึงนำส่วนผสมปิโตรเลียมเจลและผงถ่านมาช่วยแต่งตาและคิ้วให้ดูหนาขึ้น เขาต้องประหลาดใจกับผลลัพธ์ที่ดีเกินคาดและกลายมาเป็นไอเดียสร้างธุรกิจความงามขึ้นมา จากนั้นจึงก่อตั้งบริษัท Maybelline ผลิตมาสคาร่า home made ออกจำหน่าย ใช้เวลาอีกพักใหญ่เพื่อปรับปรุงคุณภาพสินค้าได้โดนใจตลาดและประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามตั้งแต่ยุค 1920s เป็นต้นมา
ชื่อบริษัทมาจากการให้เกียรติ Mabel พี่สาวผู้จุดประกายความคิดนำมาสนธิ
กับ Vaseline กลายเป็น Maybelline นั่นเองค่ะ WoW!
Thomas Lyle Williams ได้คิดค้นมาสคาร่าขึ้นในอเมริกา หลังจากที่ Mabel พี่สาวของเขาเกิดอุบัติเหตุในครัวทำให้ไฟไหม้ขนตาขนคิ้วไปจนสั้นกุด เธอจึงนำส่วนผสมปิโตรเลียมเจลและผงถ่านมาช่วยแต่งตาและคิ้วให้ดูหนาขึ้น เขาต้องประหลาดใจกับผลลัพธ์ที่ดีเกินคาดและกลายมาเป็นไอเดียสร้างธุรกิจความงามขึ้นมา จากนั้นจึงก่อตั้งบริษัท Maybelline ผลิตมาสคาร่า home made ออกจำหน่าย ใช้เวลาอีกพักใหญ่เพื่อปรับปรุงคุณภาพสินค้าได้โดนใจตลาดและประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามตั้งแต่ยุค 1920s เป็นต้นมา
ชื่อบริษัทมาจากการให้เกียรติ Mabel พี่สาวผู้จุดประกายความคิดนำมาสนธิ
กับ Vaseline กลายเป็น Maybelline นั่นเองค่ะ WoW!
ส่วน Eugene Rimmel ชาวอังกฤษเชื้อสายฝรั่งเศสที่คิดค้นมาสคาร่าจนขายดิบขายดีในยุโรปก่อนหน้า Maybelline นั้น หาใช้มาสคาร่าเพื่อต่อขนตาผู้หญิงให้ยาวเด้ง แต่เป็นมาสคาร่าเติมหนวดสุภาพบุรุษค่ะ
1920s ความ glam แบบก้าวกระโดด
เมื่อเวลาหมุนเวียนไปหนึ่งรอบทศวรรษ จากที่เคยมีอคติต่อ makeup ผู้หญิงจำนวนมากกลับลุกขึ้นมาแต่งหน้าประชันกัน และที่สำคัญ จากที่เคยนิยมความงามที่ดูเป็นธรรมชาติก็กระโดดมาเป็น smokey eye สีเข้ม ขนตางอนเด้งและริมฝีปากสีร้อนแรง น่าทึ่งจัง
มาดูกันค่ะว่าจากความสวยใสในยุค 1910s สาวๆ ยุคนี้จะวิ่งตามเทรนด์ใดบ้าง
- Max Factor เริ่มจำหน่าย eye shadow และดินสอเขียนคิ้วตั้งแต่ปี 1916 จากนั้นการแต่งหน้าก็ไม่ได้มีไว้เพื่อนักแสดงเพียงอย่างเดียว เมื่อมาถึงยุค 1920s สาวๆเพิ่มพูนความกล้าทาตาสีเข้ม เขียวคิ้วโก่งเรียวเล็ก
- ปัดมาสคาร่าให้ยาวเด้งเรียงตัวเป็นเส้นๆ
- ปัดแก้มชมพูกลมๆ
- ริมฝีปากแดงสดและต้องเขียนขอบปากให้เป็นรูปคันศรคิวปิด
- Max Factor เริ่มจำหน่าย eye shadow และดินสอเขียนคิ้วตั้งแต่ปี 1916 จากนั้นการแต่งหน้าก็ไม่ได้มีไว้เพื่อนักแสดงเพียงอย่างเดียว เมื่อมาถึงยุค 1920s สาวๆเพิ่มพูนความกล้าทาตาสีเข้ม เขียวคิ้วโก่งเรียวเล็ก
- ปัดมาสคาร่าให้ยาวเด้งเรียงตัวเป็นเส้นๆ
- ปัดแก้มชมพูกลมๆ
- ริมฝีปากแดงสดและต้องเขียนขอบปากให้เป็นรูปคันศรคิวปิด
หนังที่นำเสนอ beauty ช่วง 1920sหนีไม่พ้น The great Gatsby ที่โดดเด่นด้วยกลุ่ม flapper สาวสังคมแห่งยุคสุดเปรี้ยวนั่นเองค่ะ
Louise Brooks เซเลบสาวผู้เป็น trendsetter ของยุค 1930s น่าจะเป็นต้นแบบของตัวละครใน The Great Gatzby ได้อย่างที่สุด smokey eye เข้ม ปากแดงบางหยักเป็นคันศร ผมบ็อบหมวกกันน็อค
1930s คิ้วบางเฉียบอินมากค่ะพี่
ความเยอะของเทรนด์นี้ก็คือ ผู้หญิงหลายคนเลือกที่จะกันคิ้วออกไปให้หมดจนโล้น แล้วก็ใช้ดินสอลากปื้ดให้เส้นบางที่สุด ดูเหมือนกับการ์ตูนไม่มีผิด
ที่จริงคิ้วในยุค1920s ก็ดูบางมากอยู่แล้ว แต่ในทศวรรษนี้ เทรนด์คิ้วอาจทำให้คุณงงงันและถามตัวเองว่า...ทำไมนะ ?
บางครั้งก็ชวนตกใจได้เหมือนกัน เพราะนี่เป็นนางเอกระดับ top ที่แต่งตาคู่งามคมเข้มสวนทางกับคิ้วเส้นหมี่
Max Factor MUA และนักธุรกิจความงามชื่อดังแห่งยุคทอง hollywood ลงมือเขียนคิ้วให้กับนางแบบเอง เราได้เห็นก็จินตนาการเสียงแคว่กจากการเขียนคิ้ว 2 ครั้งถ้วนแล้วจบงาน
eyeshadow มีหลากหลายสี แต่จะปัดเพียงให้บางฟุ้ง ขนตามีตัวช่วยให้งามงอนโค้งตัวสวยมากขึ้น
ปากคันศรคิวปิดหายไป กลายมาเป็นปากบางรูปเรือ อินขนาดที่ต้องที่เครื่องมือช่วยวาดปากให้ยาวบางสมใจ
เมื่อพูดถึงยุคทอง Hollywood คุณอาจจะนึกถึงริมฝีปากสีแดงสด เพราะในเวลาหลายทศวรรษก็ยังไม่มีภาพสีบนจอให้ติดตามกัน ปากแดงผ่านภาพขาวดำนั้นดูจะเรียกความสนใจได้มากกว่า แต่ในยุค 1930s ลิปสติกที่ขายดิบขายดีคือสีส้ม! เซอร์ไพรส์มั้ยล่ะ ในหนังอมตะในดวงใจของผู้คนมากมายอย่าง Gone with the Wind นางเอก Scarlett O'Haraทาปากส้มทั้งเรื่องค่ะ
1940s ลุคที่แสดงพลังหญิงในช่วงสงคราม
การแต่งหน้าไม่ใช่เพื่อความงดงามเพียงเท่านั้น แต่เป็นการสร้างขวัญกำลังใจในหมู่ผู้คนที่ต้องเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความทุกข์เข็ญของสงครามโลก ผู้ชายมากมายถูกเกณฑ์ไปต่อสู้ ผู้หญิงจำเป็นต้องออกมาทำงานของผู้ชาย (แน่นอนว่าเมื่อหลายทศวรรษก่อน มีการแบ่งแยกเพศในเรื่องหน้าที่การงานอย่างชัดเจน) และ makeup คือสิ่งที่แสดงออกถึงความเข้มแข็งผู้หญิง
ปากบางราวกับแผ่นกระดาษ+คิ้วเส้นเล็กจิ๋วเสื่อมความนิยมลงไปและแทนที่ลุคที่ดู strong ขึ้นอย่างการเขียนขอบปากให้อวบอิ่มกว่าเดิมและคิ้วหนาดูคมเข้ม
มาตรฐานความงามของโลกตะวันตกที่คงอยู่มาเป็นพันปีได้มีการเปลี่ยนแปลง ผิวขาวน้ำนมอันเป็นสิ่งแทนความงามของชาวไฮโซที่ไม่จำเป็นต้องทำงานกลางแจ้งนั้นถูกแทนที่ด้วยเทรนด์ผิวแทน Coco Chanel เคยทำให้ยุโรปต้องสั่นสะเทือนด้วยผิวเฉดสีเข้มในทริปเรือยอว์ชใน Cannes ผิวสีบรอนซ์กลายมาเป็นหนึ่งใน lifestyle ที่โก้เก๋ของคนรวยที่มีปรนเปรอตัวเองด้วยทริปตากอากาศแถบทะเล บริษัทความงามผลิต sun oil และ cream สู่ท้องตลาด
การใส่บิกินี่เริ่มเป็นที่แพร่หลายในหมู่สาวๆ ที่มั่นใจในตัวเอง ผิวแทนบ่งบอกถึงฐานะผู้มีอันจะกินและดูสุขภาพดี อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ยุคที่ผิวแทนมีความนิยมในระดับ peak ค่ะ ต้องรออีกหลายสิบปีเหมือนกัน
เทรนด์ปากในยุคนี้ที่อินกันหนักมากจนสาวๆ จองคิวคลีนิคความงามรัวๆ คือปากเต่ง filler แบบ Kylie Jenner แต่ถ้าเป็นยุค 30s - 40s ปากที่ผู้หญิงแห่แหนทำตามกันทั่วบ้านทั่วเมืองคือปากแบบ Joan Crawford ที่ใช้เทคนิคที่เรียกว่า the smear สร้าง shape ที่ดูเหมือนกับธนูล่าสัตว์ เป็นทศวรรษที่ยอดขายลิปสติกสูงขึ้นเป็นพันเปอร์เซนต์
1950s ความงามอันเย้ายวนใจ
นี่คือทศวรรษอันเรืองรองของ hollywood ยุคทอง มีคนดังระดับ icon หลายคนโลดแล่นในวงการแสดง เทรนด์การแต่งหน้าที่อยู่ในหัวข้อ must do ก็คือ
คิ้วดำเข้ม กรีดตาตวัดขึ้นเป็น winged eyeliner ริมฝีปากแดงสด
กระแสร้อนแรงของเทรนด์นี้ไม่สร้างความแปลกใจให้เราแต่อย่างใด เพราะนี่คือsignature look ของ Marilyn Monroe หนึ่งในicon ที่โด่งดังมากที่สุดในศตวรรษที่ 20 แม้จะก้าวเข้าสู่ศตวรรษใหม่แล้ว ความโดดเด่นระดับตำนานก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังได้เสมอ
ลองหลับตาจินตนาการถึงผู้หญิงมากมายที่ลุกมากรีดตาคมกริบทาปากแดงหยดย้อย กันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วก็ทึ่งเหมือนกันนะ
Discussion (3)