Etude Korea = Mistine Thailand จริงรึป่าวคะ

คือพอดี เคยคุยกับเพื่อนอะคะ

เรื่องเครื่องสำอาง Etude แล้วเพื่อนก็บอกว่า Etude  ก็เหมือนๆ Mistine ที่บ้านเราอ่าคะ
ก็คือแบบว่า บางทีก็ไม่ค่อยมีคุณภาพ เท่าไหร่ ก็เลยราคาถูก และบ้านเราเอา Etude มาขายแพงเกินด้วย อารัยประมาณนั้นอ่าคะ

อยากรู้ว่า คุณภาพของ Etude มันพอๆกะ Mistine บ้านเรา  จริงรึป่าวคะ

หรือแค่เพื่อนเค้าเข้าใจผิดไป

Discussion (94)

คห ดิฉัน การตลาดอาจะเหมือนกัน คือ ขายถูก แต่ คุณภาพชีวิตบ้านเขาและ กม.+อย.บ้านเขาดีกว่าบ้านเรา Etudy , Misha มีขายที่ duty free ที่ สนามบินระหว่าง ปท.ของเกาหลี ด้วยนะคะ
เราว่ามันก้เนยี่ห้อที่ดีนะ เหมาะสมกับราคา (ถ้าซื้อที่เกาหลี)

หลังจากที่ใช้แป้ง BB pact คุณภาพดีทีเดียว เนียน ใส สว่าง

บรัชก้โอเค สีออกชัดเจนพอสมควร 

BB cream เค้าก้เนียนกริ๊บ ทาแล้วธรรมชาติกว่ารองพื้น 

ส่วนอย่างอื่นยังไม่เคยลองเหมือนกัน 

แต่แพ็กเกตมันช่างยั่วยวนใจจิงๆ 

และอีกอย่าง เครื่องสำอางค์ยี่ห้อของเกาหีค่อนข้างจะบางและอ่อนกว่าโ๙นยุโรปหรืออเมริกา

สำหรับเราใ้แล้วไม่แพ้ 

ปล.คุณเชื่อมั๊ย?ว่าเมคอัพอาร์ทติสที่เค้าเชี่ยวชาญ...หมายถึงไม่ว่าจะเอาเครื่องสำอางค์อะไรมาให้แต่ง เค้าก็สามารถแต่งให้คนๆหนึ่งดูดีขึ้นมาได้....ช่างทำผมระดับโลก...ต่อให้คุณเอาน้ำยาย้อมผมราคาโคตรถูกไปให้ เค้าก็มีเทคนิคที่สามารถใช้มันเสกความสวยงามให้คุณได้เช่นกัน...กึ๋นและทักษะสำคัญที่สุดจ้าไม่ว่าจะในเรื่องอะไร...^^...
...ส่วนมิสทิน...อยากบอกว่า...เราเองก็เป็นพวกชอบลองของ ซื้อดะเหมือนกัน แล้วก็อยากบอกว่า...ของถูกแล้วดีมีอยู่จริงค่ะ...ถามเราดูก็ยังได้ว่าตัวไหนดี...แต่มิสทินเค้าจะไม่มีสีให้เลือกหลากหลายอย่างเคาท์เตอร์แบรนด์เพราะเค้าออกแนวขายง่ายขายคล่องขายให้ได้เยอะๆ...กำไรบริษัทนี้เค้าเอาน้อยจริงๆ แต่ขอย้ำว่า "เป็นเครื่องสำอางค์ขายตรงที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย"...ไอ้ยอดนี้ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีใครล้มได้เลย...ถามว่าเราก็เคย ซื้อเครื่องสำอางค์มาแล้วรู้สึกใช้ไม่ดี(ว่ะ) วิธีแก้ ด้วยความที่เป็นเด็กไม่ชอบขอเงินพ่อแม่มาฟุ่มเฟือย เงินซื้อของไร้สาระจะมาจากเงินตัวเองทั้งนั้น...ดังนั้นมันต้องหาวิธีประหยัดใช้ทุกอย่างให้คุ้มค่าที่สุด...อาทิ ถ้าซื้อแป้งมาแล้วสีมันเข้มเกิน...เอาไว้เป็นบรอนเซอร์สิลูกกกกกก...ว่าแต่ใช้เป็นมั๊ยล่ะ ถ้าไม่เป็น เปิดโมเมพาเพลินในยูทูบดูจ้า... หรือถ้ามันไม่เข้มขนาดเป็นบรอนเซอร์ได้...อยากให้มันขาวขึ้น ก็ไว้ผสมกับแป้งเด็ก งัดเอาเนื้อแป้งออกมาทั้งตลับนั่นล่ะแล้วก็คนๆๆผสมกัน... เครื่องสำอางค์อันไหนลงหน้าแล้วแพ้หรือไม่เวิร์ค ก็ลงคอซิคะ ...ให้คอเป็นที่ระบาย55+...คือไอ้คอคนเราน่ะมันไม่มีความมันเยอะแบบหน้า อย่างเราเนี่ยเวลาใช้ครีมบนหน้าแล้วเฉยๆ ก็ลงคอซะ...หรือใช้แป้งแล้วมันคุมมันไม่ดี ก็ลงคอเช่นกัน....หรือถ้าซื้อรองพื้นสีเพี้ยนมา ขาวไปบ้าง หมองไปบ้าง ก็ผสมสิคะ...อย่าทิ้ง...ถ้าหาเงินเองไม่ได้อย่าทิ้ง...ถึงหาเองได้ก็อย่าติดนิสัยทิ้งขว้าง...มันไม่ดี...ยกให้คนอื่นไปยังดีซะกว่านะ^^....เครื่องสำอางค์ของแบรนด์เนม...เราเองก็ไม่ได้แอนตี้ แต่มันต้องดูความจำเป็นด้วย...ว่าสังคมของเราเป็นแบบไหน ถ้าเราเป็นนักธุรกิจที่ต้องติดต่อกับไฮโซ ของที่ใช้อย่างที่บอกมันก็จำเป็นต้องไฮโซไปด้วยเพราะมันเป็นการลงทุนเพื่อเครดิตภาพลักษณ์ของเราแล้วมันช่วยให้เราหาเงินได้เพิ่มขึ้น...(แต่ถ้าเราเป็นแค่เด็กน้อยยังต้องเกาะพ่อแม่กิน คิดดีๆลูกก่อนซื้อของนะ^^...สิบบาทของคุณอาจคืออาหารทั้งมื๊อของขอทานข้างถนนที่เค้าไม่มีกิน...)แต่อย่างว่าของพวกนี้มันก็เหมือนเสื้อผ้้ากระเป๋า....ถามว่าคุณจะไม่ดูแลหนังหน้าเลยหวังว่าซื้อแป้งตลับแพงๆมาใช้แล้วหน้าจะกลายเป็นญาญ่า...เหอะๆ...อย่างนั้นหรือคะ? ถ้าคุณดูแลหน้าคุณดีจริงๆ ใช้อะไรก็สวยได้จริงๆ...ผสมกับการฝึกแต่งหน้าอย่างมีสไตล์...แค่นี้แหละที่ทำให้คุณสวยได้จริงๆ...อย่าให้ใครเค้าว่าได้ว่า "มีแค่เงินซื้อไม่ได้นะเี่นี่ย ต้องโง่ด้วย...มีสติลูก มีสติ...(พี่โมเมพาเพลินบอกมา..^^)"
ยังค่ะยังไม่จบ^^...อย่างเมคอัพสินค้าที่ผลิตในไทยเนี่ยเราเข้าใจว่าเค้าไม่ค่อยทำหรอกไอ้ที่ขาววิ้งอย่างเกาหลี...อ่ะอย่างเช่นมิสทิน...ส่วนใหญ่ตัวเนื้อมันจะออกไปโทนขาวเหลืองแบบสาวเอเชียบ้านเรา และอย่างว่าเพราะราคามันถูก สีผิวคนไทยส่วนใหญ่(ที่ไม่ได้มีเงินมีเวลามาเข้าสปาแบบชนชั้นกลางขึ้นไป) หนังหน้าเค้าก็คงไม่ได้ขาวใสอย่างพวกเกาหลีหรือฝรั่ง เพราะงั้นสีแป้งมันถึงออกมาโทนเหลือง...ส่วนตัวเนิ้อเนี่ย เราอยากบอกว่าทุกแบรนด์ตั้งแต่ถูกอย่างสินค้าตามตลาดนัด Sivanna...หรือขายตรงอย่างมิสทิน หรือเคาท์เตอร์แบรนด์อย่างหรู...ทุกอย่างทุกชิ้นล้วนมีข้อดีข้อเสีย เวลาเลือกเราต้องสังเกตดูก่อนว่าหนังหน้าเราเป็นแบบไหน อย่างดิชั้นเนี่ยหน้ามันง่าย ต้องตบแป้งที่มันคุมมันให้ดีเยี่ยม...แป้งเกาหลีบางทีเค้าก็เน้นใสๆเพราะอากาศเค้ามันไม่ร้อนและทำให้เครื่องสำอางค์เยิ้มอย่างบ้านเรา...บางตัวใช้แล้วถึงรู้สึกหงุดหงิดที่มันง่ายไปหน่อย...ส่วนไอ้พวกคุมมันดีจริงๆมันแล้วแต่เราจะไปจ๊ะเอ๋มา...อย่างเราเนี่ยหน้ามันง่ายมาก ใช้อะไรก็เอาไม่อยู่มาถูกใจที่เรฟลอน...แป้งเลิฟแพดอ่ะค่ะ...ที่เป็นแป้งไม่ผสมรองพื้นไม่อุดตันรูขุมขน อยากบอกว่าของเค้าดีจริง ราคาก็ไม่แพงเลย...ส่วนแพคเกจจิ้งเนี่ยมันเป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคลที่เบ้อห่าบ้าเห่อกันในหมู่สุภาพสตรีเท่านั้น เราไปถามน้องชายเราว่าถามจริงว่าสนมั๊ย?ว่าผู้หญิงจะใช้แป้งตลับของMacหรือMistine...น้องชายตอบคำเดียวว่า...ผู้ชายอ่ะนะ มันไม่สนหรอกว่าผู้หญิงจะใช้อะไร ขอให้แต่งออกมาแล้วหนังหน้าสวย จบ โอเคป่ะ?...น้องชายบอกว่าผมไม่ใช่เกย์แล้วก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะกรี๊ดกร๊าดกับแค่ตลับแป้ง คนมีเงินบางคนรวยนะ ใช้แต่ของโอ้โห...แต่ หนังหน้า...แหะๆ...ยังสู้สาวมิสทินไม่ได้เลยจ้า...เราอยากบอกว่าคนไทยไม่ควรดูถูกแบรนด์ไทยด้วยกันเอง....ผู้หญิงทุกคนก็อยากสวย งบน้อยงบเยอะก็ว่าไป สาวพม่าไม่ได้ร่ำรวยเค้าใช้แค่ผงทานาคายังสวยได้เลย...อยากแนะนำเพื่อนๆว่ากรุณาเอาเงินที่พวกคุณลงทุนกับครีมบำรุงแพงๆหรือเมคอัพชิ้นละหลายๆร้อยหลายพันไปลงทุนซื้อ 1.น้ำผึ้งแท้ 2.น้ำมันมะพร้าว 3.น้ำมันมะกอก 4.นมผงขัดหน้า 5.สมุนไพรไทยที่ีเป็นห่อๆขายตามห้างแค่ห่อละไม่กี่บาทหรอก แต่อันนี้ถ้าผิวแพ้ง่ายอย่าเลย ใช้นมผงดีกว่า 5.วาสลีน นอกนั้น ในครัวบ้านคุณน่ะ สารพัดสิ่งใช้ประโยชน์ได้หมด....ไอ้ของพวกนี้แหละ ที่ทำให้สวยจากธรรมชาิติได้จริงๆ...จะมีเหี่ยวย่นบ้างก็ตามกาลเวลา แต่เำพราะมันเป็นของธรรมชาิติไม่ได้มีการสกัดเอากำไรว่าต้องใส่น้อยใส่เยอะ มันถึงมีคุณค่าต่อผิวเราจริงๆ อย่างเราเนี่ยลงแต่น้ำมันมะพร้าวกับมะกอก(เอาเป็นมะกอกนำเข้าจากต่างประเทศนะ Virgin olive oil อ่ะค่ะ ไม่แพงเท่าครีมกระปุกนึงของพวกคุณหรอก แต่ใช้ได้เป็นชาติเลย)....อาบมันเข้าไป ขนาดบางวันลืมใช้ครีมกันแดดออกแดดผิวยังไม่คล้ำลงเลย(เราเป็นลูกครึ่งฮ่องกง-ไทยผิวออกขาวเหลือง)...เราเลยรู้ว่าเออพอผิวเรามันดีอิ่มตัวแล้วอะไรสารพัดเข้ามามันก็ไม่ทำลายผิวเราได้หรอก...นอกจากนี้การใช้ชีวิตก็สำคัญ นอนให้เร็ว ขับถ่ายให้เยอะ กินอย่าตะกละ ออกกำลังกาย แค่นี้ก็จะสวยมาจากภาำยใน ไม่แต่งก็สวยแล้วจ้า....^^....