ทำไมเราถึงมาทำงานที่จีบัน? (คำตอบของคนสุขนิยม)
Janee.s3113ในทุกๆวัยของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปีนั้นเราชอบแบบนั้น ปีนี้ชอบแบบนี้ เป้าหมายตอนเด็กคือแบบนั้น เป้าหมายตอนนี้คือแบบนี้ .... มันเปลี่ยนไปตามประสบการณ์ที่ได้เจอมาตลอดเลย แต่สิ่งที่อยากจะมาแบ่งปันให้สาวๆจีบันฟังในกะทู้นี้มันคือ การเปลี่ยนแปลงของเราเอง ในช่วงวัย 30 หน่อยๆ เรามีวิธีการใช้ชีวิตยังไง เราทำยังไงให้การทำงานมันมีความสุขแบบเรียบง่าย และยั่งยืน เราเลือกงาน เลือกคนร่วมงานแบบไหน เราถึงได้แฮปปี้ มีชีวิตที่สมบูรณ์ในแบบของเราได้ขนาดนี้
ในวันนี้ถ้าต้องให้คะแนนชีวิต จาก 10 เราให้ 9.5 เลย (ขาดอีก 0.5 คือถ้าถูกรางวัลที่หนึ่งมันจะมาเติมเต็มจุดนี้ 5555555)
By the way เราจะเล่าเรื่องราวการทำงานที่จีบัน ว่าทำไมเราถึงชอบ ผ่านภาพบรรยากาศการไป Outing ที่น่านของทีมเราให้ดู ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันมาก คือใจแค่อยากเล่าเรื่องราวดีๆให้ทุกคนฟัง อยากให้รู้จักจีบันในอีกมุมมองมากขึ้น และก็อยากอวดที่ไปเที่ยวกันมาแค่นี้เลย ฮ่าๆ
ในวันนี้ถ้าต้องให้คะแนนชีวิต จาก 10 เราให้ 9.5 เลย (ขาดอีก 0.5 คือถ้าถูกรางวัลที่หนึ่งมันจะมาเติมเต็มจุดนี้ 5555555)
By the way เราจะเล่าเรื่องราวการทำงานที่จีบัน ว่าทำไมเราถึงชอบ ผ่านภาพบรรยากาศการไป Outing ที่น่านของทีมเราให้ดู ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันมาก คือใจแค่อยากเล่าเรื่องราวดีๆให้ทุกคนฟัง อยากให้รู้จักจีบันในอีกมุมมองมากขึ้น และก็อยากอวดที่ไปเที่ยวกันมาแค่นี้เลย ฮ่าๆ
#น่านนานนานมา #Jebanteam
เราเคยทำงานที่จีบันมาก่อนเมื่อ 5-6 ปีก่อน แต่ก็ลาออกไปเพราะว่าไปตามฝัน 5555 คนเรามันก็จะมีฝันแหละเนอะ เราออกไปเป็นคุณครูอาสา สอนหนังสือเด็กๆบนดอยมา ตอนนั้นที่ลาออกไป พี่ๆบ้านจีบันก็ยินดี และคอยติดตามเป็นกำลังใจให้เราเสมอ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีๆ แต่เราก็ยังแวะเวียนมาที่บ้านจีบันอยู่เสมอ ด้วยความที่เรารัก และชอบที่นี่มากๆ เราชอบทั้งคน สถานที่ งาน ทุกๆอย่างมันลงตัวสำหรับเรา ... จนวันนึงที่เราได้มีโอกาสกลับมาทำงานที่นี่อีกครั้ง ในช่วงเวลานั้น เราได้ผ่านอะไรมามากมาย การทำงานหลายรูปแบบ หลากหลายผู้คน ผ่านการใช้ชีวิตแบบที่สุด สนุกสุดเหวี่ยง เรียกได้ว่าผ่านมาจนได้เรียนรู้แล้ว ตกตะกอนว่าในชีวิตของเรา เราต้องการอะไรบ้าง เราอยากจะมีชีวิตแบบไหน
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีๆ แต่เราก็ยังแวะเวียนมาที่บ้านจีบันอยู่เสมอ ด้วยความที่เรารัก และชอบที่นี่มากๆ เราชอบทั้งคน สถานที่ งาน ทุกๆอย่างมันลงตัวสำหรับเรา ... จนวันนึงที่เราได้มีโอกาสกลับมาทำงานที่นี่อีกครั้ง ในช่วงเวลานั้น เราได้ผ่านอะไรมามากมาย การทำงานหลายรูปแบบ หลากหลายผู้คน ผ่านการใช้ชีวิตแบบที่สุด สนุกสุดเหวี่ยง เรียกได้ว่าผ่านมาจนได้เรียนรู้แล้ว ตกตะกอนว่าในชีวิตของเรา เราต้องการอะไรบ้าง เราอยากจะมีชีวิตแบบไหน
จีบัน ที่เคยรู้จักใน 5-6 ปีก่อน มีบางอย่างที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง (เพราะโลกมันเปลี่ยน งานมันก็เปลี่ยน) แต่ก็ยังมีสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไป คือความน่ารัก ความอบอุ่นของทีม มันจะมีซักกี่ที่นะ ที่เราเป็นตัวของตัวเอง สนุกสุดเหวี่ยงเวลาทำงานได้ อายุเราก็แตกต่างกันเยอะอยู่นะ บางคนเป็นน้องเรา 10 ปีเลย บางคนก็เป็นพี่เรา 10 ปีเช่นกัน 555555 ... ส่วนนี้อยากชื่นชมทีม recruit พนักงานเลย คัดยังไงไม่รู้ แต่คัดมาเป็นคนที่มีอะไรบางอย่างคล้ายๆกัน ไม่ต้องพยายามรักกัน ไม่ต้องพยายามรู้จัก ไม่ต้องพยายามให้เค้าชอบ หรือไม่ต้องพยายามชอบเค้า แต่มันเหมือนแค่มองหน้า คุยงานกันไม่กี่ครั้ง ก็รู้สึกชอบ รู้สึกว่าเป็น comfort zone ระดับนึงในที่ทำงานเลย
ที่นี่ส่วนใหญ่มีแต่พนักงานผู้หญิง มีผู้ชายน้อยมากกก เป็นออฟฟิศที่เราพูดคคุยเรื่องผู้หญิงได้มันส์ปากสุดๆ ไม่ต้องคอยเกรงใจหนุ่มๆ ทุกคนเปิดใจพร้อมแชร์พร้อมคุยกัน มันเลยสนุก แล้วทำให้เราสนิทกันได้มากยิ่งขึ้น
ที่นี่ส่วนใหญ่มีแต่พนักงานผู้หญิง มีผู้ชายน้อยมากกก เป็นออฟฟิศที่เราพูดคคุยเรื่องผู้หญิงได้มันส์ปากสุดๆ ไม่ต้องคอยเกรงใจหนุ่มๆ ทุกคนเปิดใจพร้อมแชร์พร้อมคุยกัน มันเลยสนุก แล้วทำให้เราสนิทกันได้มากยิ่งขึ้น
5 ข้อ ของบ้านจีบันที่เราชอบ
- เพราะเป็นบ้านจีบัน เราจะแต่งตัวยังไงมาทำงานก็ได้ ชิวๆ (แต่คนอื่นเค้าแต่งสวยมากันทุกคนเลยนะ มีเรานี่แหละที่ชิววว)
- เรามีอาหารเที่ยงฟรี! อร่อยมากด้วย ในทุกวันอังคาร ไม่ได้ชอบของฟรี แต่ชอบที่ถูกใส่ใจแบบนี้ :) เวลากินข้าวพร้อมกันมันน่ารักดี ต่อคิวกันตัก ฟีลเหมือนกินข้าวที่โรงเรียน
- งานที่ได้รับมอบหมาย เป็นปริมาณที่พอเหมาะ ทำให้เราไม่รู้สึกเบื่องาน เกลียดงาน หรือรู้สึกว่าต้องสู้อะไรกับมันจนทำให้เราอาจจะท้อใจ TT
- พนักงานที่นี่น่ารัก ตั้งแต่พี่ตุ๊ก (แม่บ้านมือฉมัง > พนักงานรุ่นเด็ก > พนักงานรุ่นใหญ่ > พนักงานรุ่นเดอะ > พี่เจ้าของเค้าก็น่ารักมากกกกกก
- เราถูกใส่ใจในทุกๆรายละเอียด มากกว่าเรื่องงาน เรื่องของใจเราพี่ๆที่ดูแลก็ไม่เคยมองข้าม (ส่วนนี้มันละเอียดมากๆ ยากที่จะอธิบาย แต่เรารู้สึกว่าเราได้รับการดูแลมากกว่าการเป็นแค่พนักงานบริษัทคนนึง)
Work life balance ในแบบของเรา
มันคือการทำงานที่ไม่รบกวนเวลา รบกวนจิตใจ หรือทำลายสุขภาพเรามากจนเกินไป ใน 3 อย่างนี้ ถ้าเรารู้สึกว่าขาดสิ่งใดไป นั่นคือไม่ Balance สำหรับเราแล้วการทำงานให้มีความสุข อาจจะไม่ใช่แค่เราทำงานดี ทำงานเก่ง รักการเรียนรู้อย่างเดียว เพราะการทำงานนั้น เราต้องใช้พลังงานสูงมากๆ พลังงานที่ว่าคือพลังงานใจ และ พลังงานกาย แล้วพลังงานเหล่านี้จะหาได้จากไหน?
พลังงานกาย
- เราสามารถตื่นเช้ามาออกกำลังกาย หรือ เลิกงานแล้วไปออกลังกายได้ โดยไม่เหนื่อยมาก ยังมีแรงเหลืออยู่
- เรามีเวลาดูแลอาหารการกินเป็นอย่างดี มีเวลากินอาหารที่ดีและอร่อย ไม่ต้องเร่งรีบเพื่อทำงาน
- เรามีเวลานอนพักผ่อน ให้เต็มที่ เพื่อตื่นเช้ามาร่างกายเราจะได้กระปรี้กระเปร่า ไม่รู้สึกว่าต้องลากตัวเองลุกออกจากเตียง
พลังงานใจ
- เรามีเวลาไปทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ช้อปปิ้ง เที่ยวบ้าง Activity ต่างๆที่เราโปรดปราน มันเหมือนเติมความสดชื่นให้ตัวเองอ่าาาา
- เรามีเวลาอยู่กับครอบครัว คนที่เรารัก เพื่อแบ่งปันพูดคุย ได้ปรึกษา (บางทีระบายความเครียดก็มีบ้างนานๆที) ให้เราได้รู้สึกไม่เคว้งคว้าง ให้เรารู้สึกว่าเรายังมีคนที่เรารักอยู่ข้างๆเสมอ มันอบอุ่นใจดี ไม่ว่าจะเจออะไรร้ายๆมาก็ตาม ขอแค่รู้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว
- เรามีเวลาได้เที่ยว ได้ออกไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ผ่านมาเราออกไปเที่ยวบ่อยเหมือนกัน ทุกๆครั้งเราได้เรียนรู้อะไรเสมอมาเลย จริงๆจะบอกว่า เราเรียนรู้ชีวิตจากการไปเที่ยวเยอะมากๆ ขอบคุณที่ตัวเองชอบเที่ยวววว ฮ่าๆ
- เรามีเงินที่เพียงพอต่อการใช้จ่าย อันนี้ดีต่อใจมากเว้ออออ จะทำอะไรก็ได้ ขอแค่มีเงิน แต่จะมีเงินได้เราก็ต้องหา และวางแผนการใช้ การเก็บเป็นอย่างดี :)
เวลาการทำงาน เราเข้าออฟฟิศแค่ อังคาร และ พุธ เพื่อมาเจอเพื่อนๆทีมอื่นๆ และประชุมงานที่สำคัญกัน อันนี้เราชอบ เพราะเราไม่ชอบ Online Meeting เท่าไหร่ มันรู้สึกไม่ถึงพริกถึงขิง เวลาต้องระดมความคิด
ส่วนวันอื่นๆ เราจะไปทำงานที่ไหนก็ไม่มีใครว่าเราชอบไปนั่งทำงานที่ริมชายหาดบ้างบนดอยบ้าง ซึ่งนี่แหละ เป็นจุดสำคัญ คิดภาพตามว่าเรานั่งทำงานที่ออฟฟิศ กับนั่งทำงานบนดอย วิวเขา ดูหมอก จิบกาแฟ อากาศหนาวๆ อันไหนจะดีกว่ากัน? แน่นอน! คำตอบของคนสุขนิยมอย่างเรา ต้องตอบว่าที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ออฟฟิศ 555555 เราเคยทำงานที่นึงนะ เค้าบอกว่า Work from everywhere แต่เอาเข้าจริง พอเห็นเราเช็คอินอยู่ ต่างจังหวัดก็คือมาจี้ มาถาม มาบ่นแล้วว่าไปบ่อย บลาๆๆๆ เราคิดว่าการทำงานที่ดี เราทำตามแผนงานที่วางไว้ได้ครบ จบ ทุกอย่าง นี่คือ Done แต่งานที่เราพูดถึงเราทำครบ จบ ผลลัพธ์ได้ตามที่วางไว้แล้ว แต่เจ้านายก็ยังมาจุกจิกกับการไปทำงานนอกสถานที่อยู่เลย ... มันน่าเศร้าอยู่นะ
สรุปแบบรวมๆ : เราว่าจริงๆแล้ว เราแค่ต้องการมีความสุขในทุกๆวัน แต่ในความเป็นจริง เราต้องทำงาน หาเงินมาใช้ซื้อสิ่งอำนวยความสะดวก ... ส่วนใหญ่การทำงานมันจะมักทำให้เราเครียด และ เป็นเรื่องหนักหนาของชีวิต
เราจำเป็นต้องเลือกงาน เลือกเพื่อนร่วมงาน เลือกออฟฟิศที่ดีให้เรา เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และจะมีผลต่อเราในทุกๆทาง
วันนี้เราเลือกที่งานที่จีบัน เพราะ จีบันให้ความสุขเราทุกๆเรื่องได้ ทั้งสุขภาพกาย และใจ :)
เรามีเวลา มีเงิน ไปทำในสิ่งที่เรารัก เติมพลังใช้ชีวิต และเริ่มต้นวันจันทร์ด้วยการทำงานแบบสดใส พอเสาร์ - อาทิตย์ ก็มีเวลาเป็นของเราแบบ 100% สนุกให้สุดเหวี่ยงงงงงง ใช้ชีวิตวนๆแบบนี้ ช่วงไหนขยันหน่อย ก็จะพยายามหาอะไรใหม่ๆเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เป็นการเรียนรู้ที่ไม่ต้องบังคับตัวเอง ซึ่งมันดีมากๆ
เราจำเป็นต้องเลือกงาน เลือกเพื่อนร่วมงาน เลือกออฟฟิศที่ดีให้เรา เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และจะมีผลต่อเราในทุกๆทาง
วันนี้เราเลือกที่งานที่จีบัน เพราะ จีบันให้ความสุขเราทุกๆเรื่องได้ ทั้งสุขภาพกาย และใจ :)
เรามีเวลา มีเงิน ไปทำในสิ่งที่เรารัก เติมพลังใช้ชีวิต และเริ่มต้นวันจันทร์ด้วยการทำงานแบบสดใส พอเสาร์ - อาทิตย์ ก็มีเวลาเป็นของเราแบบ 100% สนุกให้สุดเหวี่ยงงงงงง ใช้ชีวิตวนๆแบบนี้ ช่วงไหนขยันหน่อย ก็จะพยายามหาอะไรใหม่ๆเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เป็นการเรียนรู้ที่ไม่ต้องบังคับตัวเอง ซึ่งมันดีมากๆ
เอาหล่ะ หลังจากรีวิวการทำงานในแบบฉบับของเรามาแล้ว
ขออวดรูปแก๊งพวกเราที่ไป #น่านนานนานมา ซักนิด น้าา
มาถึงตรงนี้แล้ว ขอบคุณทุกคนน้า ที่อ่านมาถึงตรงนี้กัน ขอให้ทุกคนแฮปปี้ต้อนรับปี 2023 ตั้งใจเลือกสิ่งดีๆให้ตัวเอง เหมือนกับที่เราตั้งใจเลือก Makeup & Sknicare ให้ตัวเอง
และขอบคุณจีบัน ที่พาเราไป Outing ที่น่านด้วยนะค้า สนุก และชอบมากกกก จะเก็บพลังงานนี้ไว้ทำงานในปี 2023 ลุยๆไปเลยค๊าบบบบบ
และขอบคุณจีบัน ที่พาเราไป Outing ที่น่านด้วยนะค้า สนุก และชอบมากกกก จะเก็บพลังงานนี้ไว้ทำงานในปี 2023 ลุยๆไปเลยค๊าบบบบบ
Discussion (13)