Best skincare 2018 ที่ใช้มาเกือบตลอดปี
jjinjoon241ตัวนี่เป็น mask สด จาก Lush Catastrophe Cosmetic (14.95 AUD) มีส่วนผสมของ blueberries มีอายุการเก็บประมาณ 2 อาทิตย์ และต้องแช่ในตู้เย็นตลอดเวลา ใช้เป็นประจำในทุกสองถึงสามวัน เคยลองใช้ mask สดของเขามาหลายตัวมาก แต่ชอบตัวนี้มากที่สุด เพราะว่าให้ความชุ่มชื้นแบบพอดี ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะเกินไป แถมช่วย brightening ผิวเรา (ความรู้สึกส่วนตัว) ในสว่างหรือขาวขึ้นเล็กน้อย ตัวนี้ซื้อซ้ำมากกี่ครั้งก็นับไม่ถูกแล้ว เพราะซื้อเยอะมาก หมดสองอาทิตย์ก็ซื้อใหม่ตลอดซ้ำๆ และจะซื้อต่อไปอีกค่า ?ครีมล้างหน้า (Philosophy) Purify Made Simple Facial Cleanser 240ml (36 AUD) เคยได้ใช้ตัวแถมจาก Sephora เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว (ที่เมกา) แล้วชอบมาก เลยอยากซื้อขนาดจริงมาใช้ เพิ่งจะได้มีโอากาสมาซื้อใช้เอง ตัวนี้เขาเคลมว่าสามารถล้างเครื่องสำอาง ฝุ่น น้ำมันต่างๆ ออกจากใบหน้าเราได้ จริงๆเวลาเราใช้แล้วถ้าแต่งหน้าบางๆมาก ก็รู้สึกว่าครีมตัวนี้ล้างเอาเครื่องสำอางเราออกได้สะอาดอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าจัดเต็มมากก็คงไม่ไหว555 ส่วนตัวชอบที่ล้างแล้วหน้าไม่แห้ง ล้างหน้าสะอาด แถมเวลาถูๆไปลืมตาได้ไม่แสบตา555555 กลิ่นไม่ออกเคมีเยอะ รวมๆแล้วล้างหน้าสะอาด อ่อนโยนต่อผิวเราดี ซื้อมาสองขวดแล้วค่า ถ้าตังไม่หมดก้จะซื้อซ้ำต่อๆไปครีมกันแดดทาหน้า La Roche-Posay Anthelios XL (29.95 AUD) ตัวนี้มีเพื่อนแนะนำมา บอกว่าคนที่ผิวหน้า sensitive มากๆ ที่ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย ใช้ตัวนี่ได้ เลยเอามาลองดู เนื้อออกเป็นน้ำๆ ทาง่าย เกลี่ยลงก่อนแต่งหน้าซึมซับไปกับผิวเร็ว ไม่เหนอะหนะ ไม่เป็นคราบ แถมไม่เป็นสีครีมกันแดดที่ทำให้หน้าเทา ปกป้อง spf 50+ UVA UVB สรุปแล้ว ซื้อขวดสองแล้วจย้าาาClinique pep-start eye cream ตัวนี้เป็นครีมช่วยให้ความชุ่นชื่นบริเวณใต้ตา ปกติทาตอนเช้าก่อนแต่งหน้าลงคอนซีลเลอร์ใต้ตา เพราะมีช่วงที่ใต้ตาแห้งมาก ลอกเป็นขุย ทำให้ทาคอนซีลเลอร์ไม่ได้ ใช้ตัวนี้ลงก่อนให้ความชุ่นชื้น รอให้แห้งซักพักแล้วลงคอลซีลเลอร์ตาม ไม่มีปัญหาเลย ลงได้ปกติไม่เป็นคราบเลอะเทอะ ใต้ตาชุ่มชื้นสบายจัยยย ถามว่าซื้อต่อไหม คงดูว่าจะมีปัญหาใต้ตาแห้งอีกรึเปล่า ถ้าไม่ก็ไม่ซื้อต่อเพราะไม่ได้ใช้ประจำ ใช้เฉพาะช่วงที่มีปัญหาแค่นั้นเองOil ทาหน้า (Drunk Elephant) Virgin Marula Luxury Facial oil 15ml (58 AUD) เขาเคลมว่าช่วยเรื่องรอยแดง ริ้วรอย ตีนกา ความยืดหยุ่นของผิวหน้า แต่ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาด้านนี่มาก เลยไม่เห็นความแตกต่าง แค่ช่วงหน้าหนาวมีความอยากได้ oil มาโปะหน้า ไปลองหลายตัวแล้ว แต่ได้ตกลงปลงใจกะตัวนี้เพราะว่า มันซึมซับเร็ว ยอมรับว่าด้วยความเป็น oil จะทำให้รู้สึกหน้ามันนิดๆ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ว่าถึงขนาดหน้าลื่นเหนอะหนะ เพราะใช้ตัวนี้เป็นปกติในตอนเช้าก่อนโปะครีมต่ออีกสองตัว แต่งหน้าต่อได้สบายมาก ให้ความชุ่มชื่นแก่ใบหน้า ความมันรับได้ในขณะที่สามารถใช้ได้ในหน้าร้อนเหมือนกัน อันนี้จะลงหลังครีมกันแดดและตามด้วย moisturizer ตัวต่อๆไป **ถ้าใครมีเวลาขอแนะนำให้ไปศึกษาแบรนด์ตัวนี้เพราะเราชอบมาก drunk elephant ผลิตภัณฑ์ของเขาดีมากหลายๆตัว ส่วนมากใช้ส่วนผสม natural จาก Africa และยังมี commitment ที่จะไม่ใช้สารที่เป็นอันตรายต่อหน้าเราเลย เช่น “suspicious 6” และไม่ผสมน้ำหอมอีกด้วยตัวต่อไปที่ลงคือตัวนี้ (Drunk Elephant) C-Firma Day Serum (116 AUD) ทางแบรนด์เคลมมาว่า ช่วยเรื่องปรับสีผิวให้เท่ากัน อันนี้ไปซื้อตาม Beauty Guru ใน youtuber หลายๆคน เขาบอกมาว่าดีมากกก ก็เชื่อเขาค่ะ ละก็เลยไปเอามาลองดู เนื้อคือเซรั่มเหลวๆ ซึมไว หายไปกับผิว ทาๆวนๆ ไม่ต้องเกลี่ยไรมาก ซึมปั้ปปป ส่วนตัวไม่มีให้ความชุ่มชื้นไรทั้งนั้น ด้วยความที่มันคือ วิตามิน C แต่พอใช้ติดต่อกันเป็นเวลาสักพัก โอเอ็มจี หน้าคือ bright ขึ้นมาก กระจ่างใส ทาตอนเช้าทุกวันถึงจะไม่เห็นผลไว แต่ยอมรับว่าเห็นผลในระยะยาวมากค่ะ หน้ากระจ่างใสไม่ดูโทรมอีกต่อไปปป ซื้อมาขวดที่สองแล้วตอนนี้ เลิฟฟฟ ❤️Moisturizer (Drunk Elephant) Lala Retro Whipped Cream (88 AUD) ลูกรัก ตัวนี้จะใช้ในตอนเช้าอย่างเดียวตอนหน้าร้อน หลังจากลงตัว Vit C แล้ว (ใช้วันที่ไม่ลง oil เพราะกลัวหน้ามันเกินไป) แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวก็จะทาตอนกลางคืนด้วย นางช่วยเรื่องความชุ่มชื้นแบบเต็มๆ เพราะนางคือ Moisturizer ที่ถูกเคลมมาว่าช่วยเรื่องความ firm ความยืดหยุ่นของผิวหน้าและ ช่วยทำให้สีผิวใบหน้าเท่ากัน แถมช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ริ้วรอยและตีนกาบางลง ส่วนตัวแล้วชอบเพราะให้ความชุ่มชื่นดีมาก กักเก็บความชุ่มชื้นได้ตลอดทั้งวัน แถมเนื้อครีมมันเด้งมากกก เหมือนชื่อที่ว่าเป็น whipped cream (เด้งเหมือนวิปครีมจริงๆ) กดมานิดเดียวใช้ได้ทั่วหน้า กระปุกที่สองแล้วตอนนี้มาถึง skin care ที่ใช้ก่อนนอนบ้าง serum ตัวดัง (Estee Lauder) Advanced Night Repair 20ml (79 AUD) จะบอกว่านางดีจริงๆ สมดังคำร่ำลือออ เนื้อเหลวซึมหายไปกับหน้า หยดไม่กี่จุดทาลื่นๆ หายไปเลยวับบ ใช้วันแค่วันแรก ตื่นมาคือหน้าอิ่มมาก อิ่มไรไม่รู้บอกไม่ถูก5555 แต่เหมือนมันอิ่มมมสารบำรุงต่างๆ หน้านิ่มเด้งมาตอนเช้า ชอบมาก ส่วนตัวแล้วรู้สึกเหมือนเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก มันเริ่ดมากต่อมาตัวนี้ (Estee Lauder) Revitalizing Supreme+ อันนี้เป็นไซส์เล็กได้มาจากการซื้อเป็น set ใช้คู่กับตัว Night repair แล้วรู้สึกว่ามันเวิคอ่ะ เนื้อครีมนิ่มๆทาง่าย เขาเคลมว่าช่วยเรื่องริ้วรอยทำให้ดูเด็กลง แต่ที่ชอบเพราะใช้คู่กับเซรั่มดีเฉยๆ ถ้าหมดคงจะลองทาแต่เซรั่มอย่างเดียวดูว่าเวิคไหมก่อนตัดสินใจว่าจะซื้อต่อไหมปิดท้ายด้วยที่ทาบำรุงผิว (L’occitane) Almond supple skin oil 100 ml (68 AUD) ตัวนี้ซื้อตามขุนเพื่อนค่ะ เป็น oil ทาตัวที่มาในรูปแบบของสเปรย์ แค่ฉีดๆพ่นๆสองสามทีเอามือลูบให้ทั่ว แขน ขา และส่วนอื่นๆตามชอบ กลิ่นหอม almond oil เนื้อออยบางเบา ไม่เหนอะหนะ ใช้ทาตอนหน้าร้อนได้สบายๆ ทาได้ทั้งเช้าและเย็นให้ความชุ่มชื้นกะผิว ทำให้ผิวนุ่มนิ่มโกลวเบาๆด้วยความที่เป็น oil ข้อเสียอย่างนึงคือหมดเร็ว ฉีดไปสักอาทิตย์มีความรู้สึกว่ามันลดไปเร็วเหมือนกัน555 และลงกันแดดทับไม่ค่อยได้ ผิวจะมันเกินและลื่นเหนอะไปหมด ขวดนี้ขวดแรก ขวดต่อไปรอดูว่าจะเบื่อกลิ่นนี้หรือไม่ หรืออาจจะหาตัวที่สามารถลงกันแดดแล้วไม่มันเท่านี้ Best skincare 2018 : สิ้นปีแล้ววันนี้จะมาขอรีวิว skincare ที่ใช้มาเกือบตลอดปีและที่ re-purchase มาหลายครั้งมากกก โดยพื้นฐานเป็นคนผิวแห้ง และก่อนหน้านี้เป็นคนที่ไม่ค่อยจะทาครีมเท่าไรเพราะไม่ชอบความเหนอะหนะของการทาครีม และนอนดึกด้วยเที่ยวด้วยไม่ยอมล้างหน้าก่อนนอนบ้างเคยมีปัญหาหน้าโทรมสิวขึ้นบ้าง แต่มาปีนี้ขยันทาครีมมาก เพราะว่าง55555 ทำให้หน้าโทรมน้อยลง มีความมั่นใจในการเปลือยหน้าสดในวันชิลๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่แทบจะแต่งหน้านอน5555 ไปดูกันเลยยยยยยว่าตัวไหนช่วยชีวิตเราไว้บ้างงง
รีวิวครั้งแรกมีผิดพลาดอะไรต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยนะคะ
Ps. สินค้าทั้งหมดซื้อที่ออสเตรเลีย เนื่องจากอาสัยอยู่ที่นี้ ราคาจะเป็นสกุลเงิน AUD
Discussion (1)