Top 6 Skincare ตัวเด็ดใช้แล้วชอบของปี 2018

ผ่านมาแล้วกับปี 2018 ที่เผลอแปปเดียวก็เริ่มเข้าสู่ปี 2019 อย่างงๆ แต่โดยรวมก็ถือว่าผ่านไปด้วยดี ปี 2018 นี้ก็เป็นปีที่ผ่านร้อนผ่านหน้ามาพอสงมควรเลย นั่นก็เพราะว่าอากาศเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ๕๕๕ และมันก็ทำให้เราได้มีโอกาสใช้สกินแคร์ที่หลากหลายเหมาะกับสภาพผิวในช่วงนั้นๆ ก็จะมีทั้งดีมั้ง ไม่ดีมั้ง ซึ่งมันก็จะมีตัวลูกรักของเราที่รู้สึกว่าลองแล้วดีต่อใจ ต่อผิวจริงๆ ถึงจะมาช้าหน่อยแต่ก็มาเนอะ วันนี้เราเลยคัด 6 ตัวเด็ดที่ชอบในปี 2018 ว่าแล้วไปดูกันเลย

ตัวนี้เพิ่งพูดในกระทู้ที่แล้วว่าเป็นซีรั่มบำรุงผิวกาย เข้มข้น แตกตัวเป็นน้ำเหมาะสำหรับคนผิวธรรมดา – ผิวแห้งแบบเรามาก เป็นตัวที่สามารถบำรุง ฟื้นฟู และรักษาสุขภาพผิวในเวลาเดียว ซึ่งตัวนี้เหมาะกับผิวแห้งเวลาเจออากาศที่เย็นผิวก็ไม่แห้ง อากาศไม่สามารถทำอะไรผิวเราได้เลยจ้า

เนื้อซีรั่มเป็นสีขาวดูเข้มข้นมากดูเหมือนจะเหนียวเหนอะหนะ แต่ไม่เลยจ้า ไม่มีความเหนียวเหนอะหนะเลย  ทาลงผิวแล้วตัวซีรั่มเหมือนเคลือบผิวไว้เลย แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบฉบับ Eucerin เค้าเลยแหละ

วิปโฟมทำความสะอาดผิวหน้า ฟองหนานุ่ม ทำความสะอาดสิ่งสกปรกได้หมดจด ให้ผิวกระจ่างใสด้วยสารสกัดจาก  Acerola Cherry Extract & Et-VC และ Milk Protein บำรุงผิวให้ชุ่มชื่น  Alantoin & Willow Bark ช่วยลดการระคายเคืองผิว

ตัวนี้ใช้แล้วรู้สึกว่า หน้าไม่แห้งเลยค่ะ ล้างออกง่ายด้วย ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นมาระดับนึง แต่ไม่ทำให้ผิวขาวน๊า และที่ชอบมากคือ โฟมที่ผสมวิตามินซีที่ให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น  ใช้แล้วหน้าไม่แห้งล้างแล้วไม่เอี๊ยด อ่อเวลาใช้เราตาข่ายตีโฟมนะ

มาในส่วนของงานมาส์กหน้ากันบ้าง ตัวนี้เป็นมาส์กที่พิเศษคือมาส์กทั่วไปจะมาส์กแค่หน้าแต่ตัวนี้ลามไปยันคอเลยจ้า ตัวนี้เขาบอกว่าอุดมไปด้วย Matrixyl 3000 Plus TM ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยเทียบเท่าการได้รับซีรั่ม 1 สัปดาห์ ในเวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น ตัวแผ่นมาส์กถูกออกแบบมาให้ยึดติดกับใบหน้าได้อย่างลงตัวเพื่อให้ได้รับการบำรุงอย่างสูงสุด ด้วยคุณค่าของกรดไฮยาลูโรนิค ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน นุ่มนวลเปล่งประกายขึ้น

แว่บแรกที่เราสะดุดคือนางมีจุดเด่นตรงที่มีที่คล้องหูแล้ว ตัวแผ่นมาส์กยาวลงมาถึงคอ ทำให้คอได้รับการบำรุงไปด้วย มาส์กไปทำงานบ้านไป ก้มๆเงยๆ ก็ไม่หลุดเลยอ่ะ  แถมผลลัพธ์หลังจากที่ใช้เนี่ย หน้านุ่มมากเว่อร์ ผิวดูไบรท์ขึ้นมาเลย รู้สึกว่าผิวหน้าของเราได้รับการบำรุงแบบเต็มอิ่มไปเลยจ้า แต่มันจะติดตรงที่ว่าเวลาเราเดินออกไปหาบ้านเพื่อนบ้านจะตกใจนิดหน่อย 555

อย่างที่รู้กันว่าแสงแดด เป็นตัวการทำร้ายผิว นอกจากจะทำให้ผิวคล้ำเสีย แสบร้อนและยังทำให้ผิวของเราแห้ง สูญเสียน้ำในผิวหนัง ผลที่ตามมาคือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย วิธีการดูแลผิวอีกขั้นตอนหนึ่งในแบบของเราง่ายๆเลย คือ จิบน้ำบ่อยๆ และทาโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้นสูง ลดการแสบร้อนไม่เหนียวเหนอะหนะ สิ่งที่ขาดไม่ได้ที่สุดคือ ครีมกันแดดที่สามารถตอบโจทย์ผิวเป็นทั้งกันแดดที่มาพร้อมกับการบำรุง

ตัวนี้เป็นกันแดดหน้าเนื้อโลชั่นบางเบา เหมาะสำหรับผิวแห้ง – ผิวผสม ด้วยค่า SPF 50+ PA+++  มาพร้อมกับบำรุงผิวด้วยพลังอัญมณี 3 ชนิด ช่วยลดการระคายเคืองและการเผาไหม้ของแสงแดด ทำให้ผิวหน้าของเราไม่แห้งจากการโดนแสงแดดทำลายได้ค่ะ

เนื้อครีมเป็นสีขาวข้น แต่ไม่หนาเลยค่ะ เมื่อเกลี่ยลงหน้าก็ไม่วอก ไม่เป็นคราบ เนื้อครีมกลืนไปกับผิวเลยค่ะ ซึมไวใช้ได้เลย ไอเลิฟตัวนี้เพราะจุดนี้เลย

กันแดดหน้าแล้วต่อด้วยกันแดดตัวกันต่อค่ะ

ยอมรับเลยว่าซื้อตอนน้องเค้าลดเลยได้มีโอกาสสอยมาทั้งกันแดดหน้าและกันแดดตัว
ตัวนี้เป็นกันแดดสำหรับผิวกาย เนื้อโลชั่นบางเบา เหมาะทุกสภาพผิว สูตรปกป้องมลภาวะ ฝุ่นละออง และควัน ด้วย Skin Guard Complex ซึ่งเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 9 ชนิด อีกทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นและลดการละคายเคืองจากการเผาไหม้ของแสงแดดด้วย วิตามิน E และ Aloe Vera ทำให้ผิวไม่แสบร้อน เริ่ดจ้า

เราใช้ตัวนี้ทาตัวทุกวันเลยค่ะ ไม่หนักผิวจนเกินไป ทาแล้วรู้สึกสบาย ไม่มัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ เดินไปกินตอนพักเที่ยงแบบสาวออฟฟิศเอาอยู่เลย 

และตัวสุดท้ายลูกรักที่เพิ่งได้มาใหม่ตอนสิ้นปีที่ผ่าน

ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ให้ความรู้สึกสบายผิว บำรุงให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ กลิ่นหอมให้ความหอมติดผิว ยังมีให้ความชุ่มชื่นกับผิวถึง 8 ชั่วโมง

เนื้อ Texture สีขาวขุ่น ไม่เหลวและไม่ข้นจนเกินไป ที่ชอบคือทาตัวนี้ตัวหอมทั้งวันกันไปเลยจ้า ตอนเราซื้อพี่พนักงานเขาบอกว่าทุกการซื้อ 1 ชิ้นเรายังได้บริจาคให้กับโรงพยาบาสัตว์เล็กจุฬาด้วย หอมแล้วยังได้บุญแบบนี้ทางเราปลื้มเป็น 2 เท่า อิอิ

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับไอเทมสุดจัดปลัดบอกในปี 2018 แต่ละตัวเนี่ยรับประกันจากการใช้ของเราเองว่าดีจริงๆ บางตัวซื้อตุนไว้ใช้ยันปี 2019 วันนี้หมดหน้าตักแล้ว ขอลาไปบำรุงผิวก่อนนอนละน้า บ๊ายบายย