เปลี่ยนตัวเองเป็นสาวหวาน ต้อนรับวาเลนไทน์นี้!

ขอบอกก่อนเลยว่าส่วนตัวเราไม่ใช่สาวสายหวานเท่าไรนะ

 จริงๆ เราเป็นคนห้าวๆ ตลกๆ มากกว่า ฮ่าๆ

พอจะไปเดทกับแฟนทั้งที ก็นานๆ ที่นางจะว่างอะเนอะ 

ชีวิตช่างภาพงานหนัก คิวทองเกินไปจริ๊งงง

ขนาดจะขอให้พาออกมาเที่ยวหน่อยยังต้องเช็คคิวนางเลยจ้า ขนาดเป็นแฟนแท้ๆ นะเนี่ย

เห้ออออ ตอนแรกก็คิดแหละว่าจะแต่งตัวแนวหวานๆ นี่ต้องยากแน่ๆ เพราะปกติเป็นคนชอบแต่งหน้าแบบส้ม แดง ตุ่นๆ เวลาแต่งตัวไปเที่ยวก็ชอบใส่กางเกงขาสั้น 

กางเกงยีนและใส่รองเท้าผ้าใบมากกว่า 

เลยไม่รู้ว่าพอต้องเปลี่ยนมาลองแต่งตัว แต่งหน้าหวานๆ ดูบ้างมันจะเป็นยังไงบ้างเหนออออ

แต่มาดูกันก่อนว่าจะแต่งทั้งทีต้องเตรียมตัว เตรียมผิวเลยว่าใช้อะไรบ้าง

เริ่มจาก step 1 ต้องมาเตรียมผิวหน้ากันก่อน ผิวหน้าเนียน 

ผิวดีก็ไม่ชัยไปกว่าครึ่งแล้ว แต่งหน้าจะได้ติดๆ หน่อย

1.เซรั่ม Royal Beauty Collagen Serum + Vit C ตัวนี้เราเน้นทาตอนเช้าก่อนลงครีมกันแดด นางเริ่ดตรงนี้ว่าช่วยให้ผิวหน้าเราเนียนและหน้าดูใสขึ้นดี ช่วงไหนที่หน้ามีพวกรอยสิวใช้ตัวนี้ทาช่วยลดพวกจุดด่างดำก็ได้เหมือนกัน

2.เซรั่มน้ำนม Dr.Jill อันนี้เราเน้นไปทากลางคืน เพราะว่าอยากให้นางช่วยบำรุงผิวหน้าได้แบบมากขึ้นจากตัว royal beauty เราใช้แล้วทำให้หน้าเราแข็งแรงขึ้น พวกรอยแดงหรือผด ผื่นมันลดลงไวดี

3.Eucerin Sun Age Repair SPF50+ PA+++ ใช้ทาทุกวันหลังลงครีมบำรุง ตัวนี้เป็นกันแดดเนื้อเซรั่ม(อีกแล้ว) จะช่วยบำรุงผิวเราไปในตัว เพราะทาแล้วหน้าไม่แก่ยังไงล่ะ ใช้แล้วหน้าเด็กขึ้น ฮ่าๆ เนื้อครีมทาง่ายเหมือนให้ความชุ่มชื้นด้วยประมาณนึ่งและทำให้หน้าเรามันอิ่มฟูดี

4.Nivea Sun Daily Whitening Body Serum SPF50+ PA+++ มีกันแดดหน้าไปแล้วก็ไม่ลืมกันแดดตัวไม่ได้สิเนอะ ผิวตัวจะได้เนียนๆ คู่ไปกับผิวหน้า ฮ่าๆ   ใช้ทาไปเลยค่ะ ก่อนออกจากบ้านทุกวัน ช่วยทั้งกันแดดและทำให้ผิวเรามันเนียนดีๆ บำรุงผิวช่วยให้ผิวเราใสขึ้นด้วยอ่ะ แต่ก็ต้องใช้เวลาหน่อยนะ

Step 2 จะเยอะหน่อย ขอไปไวๆ ก็แล้วกันเนอะ (พอดีเป็นคนไม่ชอบทาอายแชโดว์เท่าไร เลยไม่ได้หยิบมาเขียนด้วยนะ)

1.Innisfree My Foundation สูตร 2.3 แบบเนื้อแมทท์ปานกลาง ปกปิดสูงหน่อย ใช้ฟองน้ำเกลี่ยๆ ลงกับผิวหน้าไปเลยค่ะ แป๊บเดียวหน้าเราก็เนียนแล้วนะ เริ่ดจริงงง

2. Nars Liquid Blush สี Orgasm พอทารองพื้นเสร็จแล้วก็ตามด้วยบลัชตัวนี้ลงไปกับแก้มเลยเบาๆ เพราะด้วยความสีชมพู ทาแค่ตัวนี้ตัวเดียวก็ทำให้หน้าเราเปลี่ยนเป็นสาวหวานแล้วอ่า ตัวเนื้อบลัชยังมีความวิ้งๆ ด้วย

3. Laura Mercier Translucent Setting Powder หลังจากที่เซตผิวหน้าเสร็จแล้วก็ทาแป้งฝุ่นทับต่อเพื่อเซตตัวให้หน้าเราเนียนขึ้นไปอีก 1 เบอร์เลยจ๊ะ สมกับที่นางเป็นแป้งฝุ่นอันดับหนึ่ง

4. Kate Designing Eyebrow สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างเวลาแต่งหน้าก่อนออกจากบ้านห้ามลืมเขียนคิ้วเด็ดขาดค่ะ ฮ่าๆ ใช้แบบฝุ่นมาทาจะช่วยทำให้สีคิ้วเราดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

5. Mamonde Creamy Tint Color Balm Intense เบอร์ 22 สีนี้จะออกเป็นสีชมพูอมส้มเบาๆ ทาไปแล้วจะได้ยิ่งดูหวานและทำให้หน้าเราดูมีความแบ๊วๆ ขึ้นมานิดนึ่ง แฟนจะได้เอ็นดูมากขึ้น ฮ่าๆ

6. Beauty cottage Victorian Romance Memories of Love Eau de Parfume จะมาสายหวานแล้วก็ต้องไปให้สุดค่ะ ที่ขาดไม่ได้อีกอย่างเลยก็คือน้ำหอม ฉีดๆ วนๆ แถว 5 จุดชีพจรที่เค้าว่ากัน มันจะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมมันติดทนนานมากจริงๆ แล้วอีกอย่างกลิ่นนี้นอกจากนางจะช่วยให้เราเพิ่มความเป็นสาวหวานแล้ว ตัวกลิ่นมันดูมีความไฮโซอยู่ สวย หรู แบบสาวๆ ฝรั่งเศสเลยอ่ะ ฉีดมา 2 ปั้ม เดินทั้งวันแฟนติดตามไม่ยอมห่างเลยจ้า วู้วววววว

มาดูตุ้มหูตั้งแต่ใจให้มันดูยาวๆ รุงรังๆ หน่อย มีความเป็นเดอะสตาร์ค้นฟ้าคว้าดาวเวอร์ ฮ่าๆ 

ไม่หรอกเวลาที่เราปัดผมหรือสะบัดผม ถ้าแฟนเห็นเราสะบัดบ่อยแล้วเราเริ่มรำคาญ 

นางก็จะได้มาช่วยจับผมให้ ผมจะได้ไม่รกคอไรงี้ เอ็นดูชีที่แท้

ส่วนชุดก็ต้องมีความกระโปรงเป็นเดสๆ หน่อย ลายดอกเยอะๆ ไปเลยจ๊ะ แต่ก็ยังแอบมีความดำๆ ตัดกับขาว คือก็เป็นสาวหวานแบบขั้นสุดได้เท่านี้เลยจ่ะแม่จ๋า 

แต่ก็ยังว่าพอแต่งตัวแบบนี้แล้ว นางเห็นว่ามันแปลกตาก็พูดไม่หยุด

 ให้ใส่กระโปรงกับให้ฉีดน้ำหอมบ่อยๆ ว่างั้น หุ!

กว่าจะมั่นใจออกจากบ้านก็ไม่ง่ายนะกับลุคสาวหวาน เพราะเขินแรงจริงงงง

อาจจะสู้สาวหวานคนอื่นไม่ได้มาก แต่ก็อยากขอลองหน่อยน้า

ก่อนจากวันนี้ไม่ได้อยากจะอวดแฟนหรืออะไรนะ แต่อยากให้สาวๆ ได้ลองเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวดูกันบ้าง แต่งในลุคที่เราไม่เคยแต่งบ่อย แบบนานๆ ที ฉันจะแต่งลุคนี้ แล้วมาเดทดีๆ สักเดทให้คุณแฟนได้ประทับใจสักครั้งก็ดีแล้วนะ ถือว่าเป็นสีสันชีวิตคู่เบาๆ อิอิ เค้าจะได้มีความตื่นตาตื่นใจใหม่ๆ บ้าง จะได้ไม่ต้องมาบ่นอุบกันว่าแฟนฉันมองสาวอื่นไรงี้ แค่นี้ก็พร้อมสู้ในวันวาเลนไทน์แล้วค่ะ ซ้อมการแต่งตัวต้อนรับวันแห่งความรักสุดๆ ไปเลยจ๊ะ