........

..........

Discussion (21)

เราเองก็เคยเป็นค่ะ เคยทำงานไกลจากบ้าน 2 ช.ม.ไปกลับก็ประมาณ 4 ช.ม. เข้างานสายหน่อยประมาณ10.30 แต่เลิก 4 ทุ่ม (โอ้แม่จ้าว)ที่ว่านี่เฉพาะเวลางานนะคะไม่ได้นับเป็นโอที แต่ตอนไปสัมภาษณ์เขาบอกเข้างานประมาณ 11 โมงเลิก 2ทุ่มค่ะ แล้วผู้จัดการก็มารยาททรามมากๆ เวลาพักแค่ 1 ช.ม.แต่แทบจะไม่ได้พักเพราะต้องคอยจิกลูกค้าให้เข้ามาในร้านตลอด ต้องวางจานข้าวทิ้งไว้ที่โต๊ะ เวลากินก็ต้องคุยโทรศัพท์ไปด้วย เครียดมากค่ะ พอลูกค้าว่างหน่อเราก็พยายามที่จะพักส่วนที่เหลือได้เต็มที่เพื่อที่จะกืนข้าวที่เหลือให้หมด ผู้จัดการก็เข้ามาเห็นแล้วก็แบบว่า"หาลูกค้าได้น้อยแล้วมึ-ยังจะมานั่งแด-อีก" เราก็อดทนทำงานอยู่จนถึงปลายเดือน(เพื่อที่จะได้เงินเต็มเดือน)แล้วก็แอบไปลาออกที่สำนักงานใหญ่ พอวันสุดท้ายของเดือนก็เอากระเป๋าใบใหญ่ๆไปใส่ของที่ออฟฟิศเลิกงานเสร็จก็ออกมาเลย ไม่บอกเขาล่วงหน้าด้วย
คับทีอยู่ได้คับใจอยู่ยาก แต่ว่าเศรษฐกิจตอนนี้ถ้าออกจากงานแล้วยังไม่ได้งานใหม่ก็คงไม่ดีแน่ ลองคิดใจเย็นๆ อีกซักหน ถือว่าฝึกความอดทนจนถึงที่สุดแล้วกันนะคะ

บางครั้งความอดทนคนเรา กับสถานการณ์ก็ต่างกันไป ถ้าสุดๆ แล้วไม่สบายใจมากก็ออกหนทางสุดท้ายแล้วกันนะคะ

เป็นกำลังใจให้

สุดท้ายแล้วความสบายใจมาเหนือสิ่งอื่นใดคะ ถ้าคุณรู้สึกแย่กับมันประสิทธิภาพการทำงานจะลดลง แล้วก็จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง จะเริ่มรู้สึกไม่อยากให้หมดวันอาทิตย์ ไม่อยากไปทำงาน กับคนรอบข้างก็จะสร้างความอึดอัด อันนี้เราพึ่งเจอมา เราพึ่งออกจากงานมาเดือนนึงค่ะ ตัดสินใจอยู่นานมากตอนนั้นร้องไห้ทุกวัน คือตัวงานน่ะชอบมาก แต่เจ้านายคือเลวร้ายมากค่ะ เอาแต่ว่าเรา มายุ่งเรื่องส่วนตัวตลอดเวลา พูดจาหยาบคาย มันเป็นฝรั่งน่ะ
แต่เราเสียดายงานมาก เราไม่เคยโดนว่าเรื่องงานเลยนะ แต่จะโดนพาลใส่ แล้วด่าเราเรื่องส่วนตัว ใช้ให้เราล้างห้องน้ำ ไปซื้อกางเกงใน จ่ายค่าไฟ คิดดูแล้วกัน เราเป็นดีไซเนอร์นะ แต่ต้องมาทำแบบนี้
เราเสียดายงานมากเพราะบริษัทดี งานก็เป็นสไตล์ที่ชอบ แล้วทำงานอาทิตย์ละ4วันได้สองหมืนจะมีที่ไหน ช็อปเครื่องสำอางเดือนๆนึงเพลินจะตาย อิอิ
แต่สุดท้ายเราก็ออกเลยแบบปุบปับด้วย ไม่รอเงินชดเชยอะไรทั้งนั้นอะ แต่แฟนเรากะที่บ้านบอกว่าดีมากที่ออก สงสารเราเพราะร้องไห้บ่อยๆและดูเครียด ทั้งๆทีไม่ใช่เรื่องงานแต่เป็นที่ตัวคนมันโรคจิต

เราก็เสียดายนะ แต่เป็นสิ่งที่เลือกแล้ว รู้สึกสบายใจมาก ถึงงานใหม่อาจจะไม่ได้เยอะเท่าเดิมแต่ก้ไม่เป็นไรค่ะ

พูดมาซะยาว แค่จะบอกว่าถ้ายังไงก็เลือกสิ่งที่เราสบายใจเถอะค่ะ เฮ่อ
ถ้าอดทนได้อดทนเถอะค่ะ ลองมองหาส่วนดีๆที่เราทำงานอยู่ อาจจะช่วยได้บ้าง
เศรษฐกิจแบบนี้งานหายากค่ะ (ตอนนี้เราทำงานอยู่ฝ่ายบุคคลค่ะ)
แต่...ถ้าไตร่ตรองรอบคอบแล้วว่าไม่ไหวและไม่มีภาระที่ทำให้เดือดร้อน ก็ลาออกได้ (เหมือนที่เราทำก่อนที่ทำงานปัจจุบัน มีเงินค่าคอมมิชชั่นอยู่ก้อนหนึ่งเลยไม่เดือดร้อน แต่ตอนนั้นว่างงานอยู่ 20 วันยังเครียดเลยค่ะ เรายื่นเรื่องว่าเราลาออกเอง แต่ได้เงินชดเชยกรณีว่างงานจากประกันสังคมด้วยนะ) เพราะถ้า...ออกมาแล้วยังหางานใหม่ไม่ได้ ไม่แนะนำค่ะ
ลองเปิดโอกาสตัวเองสมัครงานที่อื่นไว้ เริ่มส่งทางอีเมล์นี่แหละค่ะ แต่อย่าเพิ่งลาออกนะคะ ถ้ามีที่ใหม่เสนอโอกาสให้เรา ลองดูค่ะ ณ ตอนนั้นคุณจะรู้ใจตัวเองดีอยู่แล้วว่าคุณจะเลือกทางไหน สู้สู้ ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ