ไปล้มละลายมาแล้วนะ...ที่“Don Don Donki Thailand”

สวัสดีค่ะ วันนี้มาพบกันอีกแล้ว ไม่ได้จะมาชวนดูซีรีย์นะคะรอบนี้ แต่จะมาพาไปเสียเงิน ที่ดองกี้ ไทยแลนด์ ที่เพิ่งมาเปิดที่เมืองไทย มาค่ะตามฟ้ามาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

ดองกิโฮเต้ (Don Quijote) ดิสเคานท์สโตร์ชื่อดัง มีมากกว่า 50 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น เฉพาะแค่โตเกียวก็มีทั้งหมด 35 สาขาเลยทีเดียว สำหรับประเทศไทย นับเป็นสาขาที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดต่อจากประเทศสิงคโปร์ โดยใช้ชื่อว่า Don Don Donki Thailand ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า DONKI Mall Thonglor ย่านทองหล่อ ซอย 10 หรือ เอกมัย ซอย 5 มีสินค้าและบริการเทียบเท่ากับประเทศญี่ปุ่น แถมเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง 

การเดินทาง

สำหรับใครที่คิดจะมาเที่ยวนะคะ มีให้เลือก 3 แบบคือ รถส่วนตัว รถเมล์(จำได้ว่าสาย 23 ผ่านลงเดินนิดเดียวเอง) และBTS

ส่วนการเดินทางของฟ้าในวันนี้คือ BTS เพราะทำธุระแถวนี้พอดีให้ลงสถานีอโศก หรือ ทองหล่อก็ได้ค่ะ โดยฟ้าลงสถานีอโศก ควรนั่งวินมอเตอร์ไซต์มานะคะ(ค่าวิน 20-25 บาท) เพราะไกลจากสถานีมาก ซึ่งฟ้าได้ทำการทดสอบแล้วด้วยการลองเดินจากสถานีอโศกมาที่ห้างดองกี้ 

ถ้านั่งมอไซต์มาก็แค่ลงรถ ลงปุ๊ปเจอปั๊ป เพราะวินอยู่ข้างๆดองกี้นี่เอง

เราจะเจอกับเพนกวิน(?)ตัวใหญ่ อยู่หน้าร้าน ทางเข้าจากด้านบนด้วยตรงบันไดเลื่อนที่มี Amazon ตรงนั้นจะพาไปชั้น2ที่ขายเครื่องสำอางกับของใช้เลย มีร้านแว่นตาชื่อดังอยู่ชั้นนั้นด้วย วันนี้ที่เป็นวันเปิดร้านวันแรกเขาให้สมัครสมาชิกฟรี ชอปครบ1000 แลกถุงผ้าได้ มีวงล้อให้หมุนรับของรางวัลเล็กๆน้อยๆด้วย

คนเยอะมาก โซนข้างล่างชั้น1เป็นเหมือนsupermarket และมีโซนร้านอาหารให้นั่ง ที่เลยน้อยไปหน่อย ของยังไม่เยอะมาก แต่ก็ถือว่าเยอะอยู่ดี คารามูโจ้ยังไม่นำเข้ามา ไม่มีน้ำพีชด้วยเสียใจ มีเหล้าที่นำเข้าจากญี่ปุ่นด้วย มีของขายเยอะมาก มีขายทุกอย่างที่พอจะนึกได้ที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ขนมที่ฮิตๆเครื่องปรุง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เดินไม่ทั่วเพราะคนเยอะมากจริง ไม่มีที่ให้ฝากของด้วยแค่ตะกร้าที่ถือกับประชากรคนก็ต้องพูดคำว่าขอโทษไปตลอดทาง

แน่นอนว่ามีพวกของสดด้วย แบบพร้อมเอาไปเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นที่บ้านเลย ปลาไหลย่างซอส ของที่เอาไปทำหน้าซูชิ หมูชาบู เนื้อชาบู

ซาซิมิ อูนิ(กล่องละไม่ถึงพัน) หอยเชลล์ คือใครชอบกินอาหารญี่ปุ่นก็คือมาเถอะ แต่เผื่อเงินด้วยเพราะชั้น2มีของที่จะทำให้ล้มละลายรออยู่ อยากแบกกลับบ้านใจจะขาดแต่บ้านไกล

มีโซนอาหารปรุงสุกด้วย พวกข้าวหน้าของทอดแบบทำใหม่ๆ ที่สุดแห่งความน่ากิน มีโซนแบบสั่งเป็นจานเหมือนร้านอาหารแล้วมีที่ให้นั่งด้วย มันเลยกินที่โซนชั้น1ไปพอสมควร

และนี่เป็นสิ่งที่มีอยู่ทุกตะกร้า(เรากล้าพูด) สตรอเบอรี ลูกใหญ่มากกก ไซส์สตอเบอรี่เกาหลี ญี่ปุ่นแบบที่เห็นให้ทีวีเลย มี2ราคา 200-300++ แพคนึงเกือบ10ลูก แบกไม่ได้เหมือนเดิม ไม่สามารถแบกของที่ชั้น1ได้เลย เหตุผลอยู่ที่ชั้น2มาดูกัน

ก้าวเท้าสู่ชั้น 2

ชั้น2 คือกำบัตรเครดิตแน่นมากชุดcosplayต่างๆ โมเดลจากญี่ปุ่น หมวกสวมหัวแบบที่โยนขึ้นไปบนเวทีให้โอป้า พวกของแต่งงานปาร์ตี้คือมีครบ แบ่งเป็นโซนเครื่องใช้ อุปกรณ์กีฬาแบบชิ้นเล็กๆ ของอุปโภคในบ้าน กับเครื่องสำอาง คนเยอะกว่าชั้น1 เป็น2เท่า ทีมถือตะกร้าตามแฟนเต็มไปหมด

โมเดลถูกลิขสิทธิ์ จากญี่ปุ่นก็มานะคะ

โรออนเจ้าดัง กันแดดที่ชอบฝากหิ้วกันมาทุกยี่ห้อ ไฮยาลูลอนเจ้าดัง 90% ที่คนชอบฝากหิ้วคือมีหมด อยากเสียเงินแต่เงินไม่เอื้ออำนวยเพราะเงินเดือนยังไม่ออก sheet mask เยอะมากกกก ขายแบบแพค ซองเดี่ยวก็มีแต่แพคคุ้มกว่า ราคาบางอย่างไม่ห่างจากร้านขายยาญี่ปุ่นที่มีในไทยมากนัก แต่คิดว่ามีของให้เลือกมากกว่า

  ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าตัวดังมาแบบครบทุกไลน์ที่มีขายในแบร์น ผงล้างหน้าก็มาลดราคาอยู่ด้วย คอลลาเจนเมจิ กาวติดขนตา ขนตาปลอม mascara eyeliner ยี่ห้อที่คุ้นตามาหมด แต่ไม่เห็นวิตามินDHCนะ เนี่ยมาเพื่อการนี้เลยเสียใจหนักมาก มาก์สโคลน ลิปDHCตัวฮิต hair stick ที่ใช้จัดหน้าม้ากับลูกผมอันนี้มีแต่คนบอกว่าใช้ดี 

พวกแชมพู ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมก็มี และก็มีเชลล์แบร์นเครื่องสำอางด้วย พวก Kate Maybelline Fasio อะไรแบบนี้

ของใช้ในบ้าน ครีมอาบน้ำหลากหลายกลิ่น เราหยิบกลิ่นพีชมาลองดู ตัวครีมอาบน้ำสีน้ำเงินที่ตีเป็นฟองนุ่มๆอันนี่เห็นมีคนฝากหิ้วเยอะเหมือนกัน มีกำไลไล่ยุงด้วยอันนี้ดีมาก มีหลายชิ้นในห่อราคานี้จัดว่าไม่แพง มีสบู่ถูก้นด้วย

ยาสีฟันหลอดขายๆ หลอดละ99บาท มีหลายกลิ่นมาก มีตั้ง31กลิ่นแหนะ แต่หลอดเล็กไปหน่อย เล็กกว่ายาสีฟันหลอดละ10กว่าบาทของไทยอีก ยาสีฟันของOra2คือดีมากสำหรับคนไม่ชอบยาสีฟันเผ็ดมีขาย4สูตรหลอดแค่99เอง ปกติเจอแต่139 เราหยิบมาทุกสูตรเลย

เดินไปดูของที่กะบะนี้มาด้วยถ่ายรูปไม่ได้เพราะของในตะกร้าหนักมาก มีพวกBB mascaraเจ้าหญิง(จำยี่ห้อไม่ได้) ไฟเบอร์ทำตา2ชั้นและก็อย่างอื่นอีกเยอะมาก ยาทาเล็บอันนี้ราคาปกติขวดละ99-129 บาทเอามาเซลล์ ของจริงคือสวยมากแต่ไม่รู้จะถ่ายยังไงให้สวย 

สรุปคือได้ของมา3ถุงใหญ่(ไหนบอกไม่มีเงินไง) ตอนออกมาประมาณ เกือบทุ่ม ต้องต่อคิวเข้าแล้ว สรุปคือของบางอย่างแพงกว่าพรีญี่ปุ่นนิดหน่อย บางอย่างแพงกว่าร้านขายยาญี่ปุ่นที่ขายที่ไทย ของบางอย่างก็ยังไม่นำเข้ามา ของส่วนใหญ่ไม่มีเทสเตอร์ให้ลองเลย น่าจะเพราะเพิ่งเปิด  

เป็นไงคะ น่าสนใจไหมคะ ขอบอกเลยนะคะว่าฟ้ายังเดินเที่ยวไม่ถึงครึ่งห้างเลย ยังมีของและร้านอาหารอีกเยอะแยะเลยในห้างดองกี้ ที่อยู่ในชั้นและโซนอื่นๆ แต่ฟ้าไปวันห้างเปิดวันแรก คนเยอะมากแล้วไปเย็นด้วยเลยมีเวลาเดินน้อย หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากจะไปลองเดินเที่ยวนะคะ  

กระทู้หน้าจะเป็น เปิดถุงของเดือนกุมภานะคะ ซึ่งรวมเปิดถุงดองกี้ไปด้วยนะคะ แล้วเจอกันกระทู้หน้าค่ะ