จากกระทู้อาการป่วยของคุณแป้งจี่ มาแบ่งปันข้อมูลของโรคนี้ค่ะ
rurujung33เราตกใจมาก ตอนรู้ข่าวการป่วยของคุณแป้งจี่ แม้ไม่ไ่ด้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ก็ได้เข้าไปอ่านกระทู้บ่อยๆ จากการที่แฟนของคุณแป้งจี่ได้เข้าไปอัพเดทชื่อโรค เราจึงได้ลอง search หาข้อมูลดู เลยเอามาแบ่งให้อ่านกัน โ รคนี้เป็นโรคที่เฉียบพลัน เกิดขึ้นได้กับทุกคน ยังไงเราก็ขอให้เพื่อนๆ ระวังทั้งตัวเองและบุคคลใ กล้ตัวด้วยนะคะ เราเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีคนที่ไม่ไกลตัวเท่าไหร่เคยจากไปเพระาโรคนี้เหมือนกัน แต่ตอนนั้นเรายังเด็กเลยไม่ไ่ด้รู้เรื่องอะไรมาก
ขอให้คุณแป้งจี่หายเร็วๆ นะคะ พวกเราชาว Jeban เ็ป็นกำลังใจให้ค่ะ
http://elibrary.eduzones.com/index.php?title=สมองขาดเลือดเฉียบพลัน
สมองขาดเลือดเฉียบพลัน
"ความก้าวหน้าทางการแพทย์ทำให้พบวิธีรักษา ภาวะสมองขาดเลือดเฉียบพลันโดยการใช้ยาละลายลิ่มเลือด เป็นวิธีที่ได้ผลดีถ้ารักษาอย่างถูกต้อง และทันท่วงที (ภายใน 3 ชั่วโมง) ปัญหาอยู่ที่ต้องวินิจฉัยถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ และอยู่ในโรงพยาบาลที่มีแพทย์และเครื่องมือพร้อมมูล"
ในช่วง 7-8 ปี ที่ผ่านมานี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่าง ขนานใหญ่ ในการป้องกันและการรักษาภาวะสมองขาดเลือด เฉียบพลันครับ
การรักษาความดันโลหิตสูงรักษาโรคหลอดเลือดนอกสมอง ตีบตันและรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ช่วยป้องกันการเกิดภาวะสมองขาดเลือดได้มาก เป็นครั้งแรกที่แพทย์สามารถใช้ยาละลายลิ่มเลือดได้อย่างปลอดภัย เพื่อไปละลายก้อนเลือดที่อุดตันเส้นเลือดในสมองอยู่ ทำให้ป้องกันความเสียหายอย่างถาวร ที่จะเกิดกับสมองได้
ยาที่กำลังศึกษาค้นคว้าอยู่คาดว่าจะไปช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากภาวะขาดเลือด ภาวะเลือดออก และจากภาวะสมองบวม
ความก้าวหน้าทางยารักษานี้นับเป็นเครื่องมือใหม่ที่เข้ามาช่วยประชาชนผู้สูงอายุ ผลกระทบจากโรคอัมพาตหรืออัมพฤกษ์นับว่าสูงมาก เมื่อพิจารณาถึงการเสียชีวิตและความพิการที่เกิดขึ้น เป็นสาเหตุนำของความพิการที่เกิดในผู้ใหญ่ ค่าใช้จ่ายในการรักษาและความเสียหาย จากการตกงานรวมกันแล้วจะสูงมากอย่างน่าตกใจ ก็เช่นเดียวกับการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันครับ คือต้องให้การรักษาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ หลังจากเกิดภาวะนี้ผลการรักษาจึงจะดี
ความสามารถในการป้องกันความเสียหาย ของวิธีการนี้ทำให้เกิดความจำเป็นเร่งด่วน ที่จะต้องรับรู้และประเมินผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองขาดเลือดเสียแต่แรกๆ ครับ
กลไกการเกิดสมองขาดเลือด
ภาวะสมองขาดเลือดอาจแบ่งออกได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ประเภทที่เกิดการขาดเลือดและจากการมีเลือดออก
ประเภทที่เกิดจากการขาดเลือด พบมากที่สุดครับคือพบราว 85% ของอัมพฤกษ์ อัมพาต ทั้งหมด
ส่วนใหญ่แล้วก้อนหรือลิ่มเลือดที่อุดตันเส้นเลือในสมองจะลอยมาจากบริเวณอื่นนอกสมองครับ เช่น มาจากหัวใจหรือจากหลอดเลือดใหญ่ที่ออกจากหัวใจ ก้อนเลือดที่เกิดขึ้นบริเวณนี้จะหลุด หรือแตกออกแล้ววิ่งไปตามหลอดเลือดแดงจากแขนงใหญ่ลงแขนงเล็กลงไปเรื่อยๆ จนไปถึงเส้นเลือดที่เล็ก ไม่สามารถไหลต่อไปได้ ก็จะอุดตันอยู่ตรงนั้น ก้อนเลือดที่อุดตันอยู่นี้บางครั้งก็ละลายไปเองได้ครับแต่ความเสียหาย ก็มักเกิดกับสมองไปแล้ว เรียกว่าการละลายลิ่มเลือดโดยวิธีธรรมชาติช้าเกินไปกว่าสมองจะได้ประโยชน์ ความเสียหายที่เกิดจากหลอดเลือดสมองอุดตันจะค่อยๆ เกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
ขอบเขตของความเสียหายของสมองจะไม่เท่ากันไปทุกบริเวณ โดยหลักทั่วไปถ้าสมองขาดเลือดอย่างมาก เซลล์สมองจะตายภายในไม่กี่นาทีครับ แต่ถ้าเลือดยังพอไปเลี้ยงสมองได้ เซลล์สมองอาจทนได้เป็นชั่วโมงโดยยังไม่เสียหายถาวร สมองส่วนที่เสียหายรุนแรงจากการขาดเลือดอย่างมาก แม้สามารถทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงใหม่ ก็ไม่อาจทำให้สมองกลับมาทำงานปกติอย่างเดิมได้ มิหนำซ้ำยังอาจเกิดเลือดออกในเนื้อสมอง จากหลอดเลือดที่เสียหายไปแล้ว ความท้าทายของการรักษาโดยการละลายลิ่มเลือดจึงอยู่ที่ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมอง ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ก่อนที่สมองจะเสียหายครับ
อาการของสมองขาดเลือด
ร่างกายของเรามีระบบเตือนภัยที่จะบอกให้เรารู้ว่าจะเกิดสภาวะสมองขาดเลือดแล้ว เมื่อมีอาการต่อไปนี้ขอให้คุณปรึกษาแพทย์ทันที ครับ เกิดชาหรือรู้สึกยุบยิบตามแขนหรือขาอย่างทันทีทันใด เกิดไม่มีแรงหรืออัมพาตของแขนหรือขาอย่างทันทีทันใด อยู่ๆ เกิดพูดไม่ได้ อยู่ๆ ตาพร่า ภาพซ้อน มองไม่เห็น วิงเวียนศีรษะอย่างกระทันหัน ปวดศีรษะรุนแรงอย่างกระทันหัน ข้อสำคัญคุณต้องรู้จักอาการที่ผมกล่าวมาข้างต้นด้วยนะครับ จะได้บอกแพทย์ถูก เวลาคุณเป็นขึ้นมา
อาการเตือนของภาวะสมองขาดเลือดนี้อาจเกิดขึ้นซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย หรือเกิดทั้ง 2 ซีกพร้อมกันได้ อาการเตือนเหล่านี้กำลังบอกคุณว่าคุณต้องปรึกษาแพทย์ทันที เพราะคุณอาจมีปัญหาของการไหลเวียนโลหิตในสมอง บางทีอาการเตือนอาจเกิดขึ้น แล้วหายไปเองอย่างรวดเร็ว แสดงว่าปัญหาของการไหลเวียนโลหิตในสมอง เกิดขึ้นชั่วคราวเพียงไม่กี่นาทีแล้วก็หายไป อย่าครับ อย่าละเลยอาการเช่นนี้ แม้ว่าคุณจะกลับเป็นปกติได้ในครู่เดียวก็ตาม
ปรึกษาแพทย์เถอะครับ บางทีสิ่งที่ร้ายแรงอาจตามมาในไม่ช้าไม่นาน อาจเป็นปีหรือเพียงแค่เดือนก็ได้
จะทำอะไรเพื่อป้องกันได้บ้างไหม ? มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่ทำให้คุณมีโอกาสเป็นสมองขาดเลือดได้ง่ายครับ ปัจจัยเสี่ยงบางปัจจัยคุณไปทำอะไรมันไม่ได้ เช่น ปัจจัยด้านอายุ, เพศ, เชื้อชาติ, เบาหวาน และมีประวัติในครอบครัวเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ปัจจัยเสี่ยงอย่างอื่น คุณสามารถทำอะไรเพื่อป้องกันได้ เช่น เคยเกิดสมองขาดเลือดมาแล้ว เคยมีอาการของสมองขาดเลือด ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคของหลอดเลือดแดงใหญ่ไปเลี้ยงสมอง
ถ้าคุณมีปัจจัยเสี่ยงพวกนี้ล่ะก็ปรึกษาแพทย์นะครับว่าคุณต้องทำอะไรบ้าง คุณอาจต้องรับประทานยา ต้องคุมอาหาร ออกกกำลังกายสม่ำเสมอ หรือต้องรับการผ่าตัด ฯลฯ
วิถีชีวิตประจำวันของคุณก็มีความสำคัญกับการเกิดภาวะสมองขาดเลือดครับ สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ทำให้ผนังหลอดเลือดเสียหาย หลอดเลือดแดงแข็งตัวเร็วขึ้นและทำให้ความดันโลหิตขึ้นสูง ถ้าคุณหยุดสูบได้ อาจทำให้ปัจจัยเสี่ยงตรงนี้ของคุณหมดไปได้ครับ ภาวะโคเลสเตอรอลในเลือดสูง ความอ้วน การขาดการออกกำลังกาย และการดื่มสุราจัด ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคสมองขาดเลือด คุณอาจต้องการคำแนะนำจากแพทย์หากพยายามด้วยตนเองแล้วแก้ไขไม่สำเร็จ
ลองปรึกษาดูนะครับ
Discussion (33)