★สกินแคร์ที่หยิบใช้บ่อย★
cattysunnyday364สวัสดีค่ะทุกคน หลังจากห่างหายไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้ วันนี้วันหยุดจึงนำสกินแคร์ที่ชอบ และหยิบใช้บ่อยๆในช่วงนี้ มาทำการรีวิวให้ดูกัน โดยเรานั้น มีสภาพผิวที่แพ้ง่าย และผิวขาดน้ำ ไปดูกันเถอะว่ามีชิ้นไหนบ้างงงง!!!!
"เริ่มด้วยการลบเมคอัพ และล้างหน้า"
ตัวแรกคือ DHC Deep Cleansing Oil ตัวนี้ใช้สำหรับคลีนเมคอัพ ซึ่งใช้แล้วบอกเลยว่าล้างออกได้หมดจริงๆ เวลาใช้คือนวดๆตอนหน้าแห้งๆแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า ตอนโดนน้ำตัวน้ำมันจะกลายเป็นเนื้อน้ำนมค่ะ ส่วนตัวเมื่อก่อนใช้คลีนซิ่งวอเตอร์ค่ะ แต่คิดว่าการที่ใช้สำลีเช็ดหน้าเป็นการลบกวนผิว จึงหันมาลองใช้น้ำมันดูซึ่งก่อนใช้ก็กลัวอุดตันนะ แต่ลองเปิดใจดูมันก็ไม่ได้อุดตันนี่ ทางเราก็รู้สึกชอบ และยังใช้สะดวกกว่าคลีนซิ่งน้ำอีก พกไปต่างจังหวัดก็ง่ายไม่ต้องพกสำลี
ซื้อได้จากร้าน Watson, Matsumoto Kiyoshi ฯลฯ
ราคา ประมาณ 279 - 800 บาท แล้วแต่ขนาด
ตัวที่สองคือ COSRX LOW PH GOOD MORNING GEL CLEANSER เป็นเจลล้างหน้าเนื้อเจลใส และอ่อนโยนต่อผิว ด้วยค่า PH5-6 ที่ใกล้เคียงกับผิว ตัวนี้มีสารสกัดจาก TEA-TREE OIL บอกเลยว่าหยิบมาใช้ในตอนเช้าคือตื่นค่ะ เพราะกลิ่นของ TEA-TREE OIL สดชื่นมาก และส่วนตัวรู้สึกเย็นหลังจากใช้ตัวนี้ล้างหน้า
ซื้อได้จากร้าน Multy
ราคา 290 บาท
สองตัวนี้มาจากแบรนด์ Lalil อันนีคือเดินเจอแบบบังเอิญ และก็จัดมาสองตัวคือ Lalil Ultra Gentle Cleansing Gel และ Lalil Revitalizing Daily Scrub Cleanser ซึ่งสองตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ โดยไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม และพาราเบน ส่วนตัวสองตัวนี้มีกลิ่นคล้ายสมุนไพรเบาๆไม่ได้ฉุนอารมณ์เหมือนกลิ่นสปา และเมื่อล้างหน้าเสร็จแล้วผิวก็ไม่ได้แห้งและเอี๊ยดชอบตรงนี้แหละ อันนี้ทางเราสลับกันใช้วันไหนอยากสครับผิวก็ใช้สีเขียวค่ะ
หาซ้ือได้ที่ ร้าน Lalil
ราคา 4 หลอด คละแบบกันได้ 250 บาท
"บำรุงผิวด้วย Oil กันเถอะ"
เจ้าออยล์ทั้งสามนี้เป็นของแบรนด์ HERBIVORE BOTANICALS ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ซึ่งเราซื้อมาเป็นเซ็ตมีสามขวด คือ
Lapis Facial Oil น้ำมันบำรุงผิวผสานคุณค่าจาก Blue Tansy ช่วยปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้แลดูกระจ่างใส และปรับสมดุลผิวให้ชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผิวมัน, ผิวผสม และผิวที่มีปัญหาสิว
Phoenix Facial Oil ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกด้วยน้ำมันจากพืชพรรณธรรมชาติผสาน CoQ10 เหมาะสำหรับผิวแห้งที่ต้องการความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก
Orchid Facial Oil น้ำมันสกัดจากดอกไม้นานาพันธุ์ เนื้อสัมผัสบางเบา ช่วยเพิ่มความโกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผิวทุกประเภท
ทางเราได้ลองทั้งสามตัวนี้แล้ว ไม่อุดตัน และไม่แพ้ค่ะ ส่วนเรื่องกลิ่นนั้นสีที่หอมสุดคงเป็นสีขาวแต่กลิ่นคล้ายธูป ฮ่าๆๆ ส่วนสีส้มนั้นก็มีกลิ่นเบาๆอ่อน แต่สีฟ้ากลิ่นคล้ายๆ SUNDAY RILEY Luna Sleeping Night Oil คือไม่หอมและแอบเหม็นแต่ใช้ไปสักพักเราก็ชินค่ะ โดยส่วนตัวชอบสีฟ้ามากกกกที่สุดให้ดูจากปริมาณที่ใช้ว่าจะหมดแล้ว
หาซื้อได้จาก Sephora
ราคา 1,300 บาท
"น้ำตบที่ใช้แล้วชอบ"
เจ้าสองตัวนี้คือ Hada Labo Hydrating Lotion สูตรใหม่!!! ที่ช่วยคืนความสมดุลให้แก่ผิว และช่วยแก้ปัญหาผิวแห้ง ผิวมัน ผดผื่น รูขุมขนกว้าง ซึ่งเรื่องรูขุมขนทางเราว่ามันยังไม่เห็นผล แต่ที่ชอบคือเรื่องความชุ่มชื่นค่ะ หน้าไม่ค่อยลอกเหมือนเมื่อก่อนค่ะ ทั้งนี้ชอบลาย Snoopy มากๆ มีความน่ารัก แถมยังผลิตที่ญี่ปุ่นด้วย เพราะปกติ Hada ที่ขายในไทยส่วนใหญ่จะผลิตจีนค่ะ
หาซื้อได้จาก Watson, Eveandboy และร้านต่างๆ
ราคา 520 บาท
"เรื่อง สิวๆๆ"
เรื่องสิวๆที่ใครก็กลุ้มใจ ปกติจะไม่ค่อยเป็นสิวอักเสบสักเท่าไรนานมาที เราก็มีสองตัวนี้ติดบ้าน คือ MizuMi Peptide Acne Gel และDr Demis X Cinnamongal Acne Serum (DDC) ส่วนตัวแล้วชอบทั้งสองตัวเลย ดีตรงที่ตอนทาสิวแล้วไม่แสบ ผิวไม่แดงไม่ลอก และสิวยุบ ถ้าใครงบน้อยเราแนะนำ MizuMi ( 49 บาท ) หาซื้อได้ที่เซเว่นค่ะ ส่วนใครมีเงินทางเราแนะนำ Dr Demis ( 390 บาท) อันนี้เราซื้อจาก Eveandboy จ้า ทั้งนี้ดีไม่ดีก็แล้วแต่บุคคลไปนะคะ
"แดดแรง กันแดดช่วยได้"
กันแดดสามตัวนี้ใช้วนเวียนกันไปกันมา คือ
Kindness Freedom Invisible Water Fresh SPF50+ PA++++ ราคา 1,100 บาท ซึ่งเนื้อค่อนข้างเหลวเหมือนน้ำ ซึมไว สบายผิว และมำให้ผิวชุ่มชื่น แต่ไม่ค่อยคุมมันเท่าไร ช่วงเที่ยงทีโซนก็จะเริ่มมันวาวค่ะ
d Program Allerdefense Essence SPF46 PA+++ ราคา 990 บาท ตัวนี้ชอบมากที่สุดในทั้งสามตัว เพราะรู้สึกว่าช่วยกันแดดได้ดี และช่วยปกป้องผิวจากฝุ่นละออง มลภาวะต่างๆด้วย ถามว่าคุมมันไหม ก็ไม่ค่อยคุมมันเท่าไร แต่รู้สึกว่าไม่ได้เยิ้มและวาวกำลังดี คือชอบไม่รู้จะอธิบายยังไง ฮ่าๆๆ
ANESSA Perfect UV Sunscreen mild milk SPF 50+ PA++++ (for sensitive skin) ราคา 950 บาท เมื่อก่อนตัวนี้คือดีที่หนึ่งสำหรับเรา คือนำมาโดยตลอด แต่ด้วยความที่เนื้อของ ANESSA ข้นกว่าและหนืดกว่า D Program อันดับจึงเปลี่ยนไป แต่ทั้งนี้ สองตัวก็สามารถเป็นตัวแทนซึ่งกันและกันได้นะคะ แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ
"บำรุงริมฝีปากกันเถอะ"
ถ้าอยากทาลิปออกมาสวยๆปากแห้ง ปากแตกก็คงไม่ไหว เราจึงต้องบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่น เรียบเนียน เราจึงให้ Maxilip ทาในช่วงเช้าก่อนทาลิปสติก ซึ่งให้ความชุ่มชื่นค่อยข้างดี และปากก็ไม่ค่อยคล้ำ ส่วนกลางคืนเราจะโบก Laneige Lip Sleeping Mask ตื่นมาปากนุ่ม ชุ่มชื่นมาก อันนี้ดีจริงจนอยากบอกต่อๆๆ
"ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ"
เจ้าสามตัวนี้เป็นตัวที่เราใช้ในการดูแลรอบดวงตา และขนตา คือ
Laneige Eye Sleeping Mask ตัวนี้เป็นเนื้อเจล พอทาแล้วซึมไว และให้ความรู้สึกเหมือนมีฟิมล์บางๆเคลือบอยู่ ซึ่งให้ความชุ่มชื่นดี ส่วนใต้ตาที่คล้ำนั้นก็ช่วยได้ระดับนึงค่ะ
Etude My Lash Serum ตัวนี้คือบำรุงขนตา ทางเรามีปัญหาขนตากุด ปัดมาสคาร่าไม่ค่อยได้ เห็นรีวิวตัวนี้เยอะมาก ก็เป็นตำมาปรากฎว่ามันดีจริงค่ะคุณผู้ชม ขนตายาวขึ้น ตอนนี้ปัดมาสคาร่าดีขึ้น ดูตามีอะไรขึ้น สรุปคือชอบค่ะ
Himalaya Herbals - Under Eye Cream ส่วนตัวชอบตัวนี้มากกว่า Laneige เพราะรู้สึกว่าใต้ตาเห็นผลมากว่า แต่ทางเรายังไม่มีริ้วรอยตรงดวงตาจึงไม่รู้ว่าช่วยได้รึป่าว แต่ถ้าความแพนด้านั้นช่วยได้จ้า
Discussion (4)