Proud2bMom ตอน...พาน้องนายพบครูพัฒนาการ

   เรื่องนี้รีบเขียนดีกว่า เพราะคิดแล้วว่าถ้าเขียนเรียงลำดับต่อคิวเรื่องที่อยากเขียน น่าจะโดนดองไว้นานมากกกก
   ล่าสุดช่วงนี้น้องนายอารมณ์แปรปรวนมากถึงมากที่สุด อ่านดูเหมือนจะเข้าวัยทอง2ขวบ หรือ Terrible Two แล้วปะทะกับมิ้นซึ่งเป็นคุณแม่ที่ต้องทำงานไปด้วยเอาน้องนายไปเลี้ยงที่ทำงานด้วย หลาายอย่างเลยทำให้เครียดสะสม เริ่มจะระเบิดลงใส่ลูกบ่อยครั้ง จึงเริ่มรู้สึกว่าไม่ได้การละ ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปคงแย่ทั้งแม่ทั้งลูกแน่เลย มิ้นเลยเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับจิตแพทย์เด็กเพื่อที่จะทำการนัด แต่ว่าแต่ละที่คิวยาวมากเลยค่ะยาวถึงปลายปีทุกที่เลย ทำให้รู้เลยว่าตอนนี้พ่อแม่และเด็กมีปัญหากันเยอะมากขึ้นจริงๆ แต่คิดว่าคงรอให้ถึงปลายปีไม่ไหวค่ะ เลยหาข้อมูลไปเรื่อยๆจนมาเจอที่นี่ค่ะ (การที่มิ้นอยากพาน้องนายไปหาจิตแพทย์ไม่ใช่คิดว่าลูกมีปัญหาอะไรนะคะ เพียงแต่ว่ามิ้นอยากรู้ว่าในวัยนี้ของลูก เค้าคิดอะไรเค้าอยากสื่อสารอะไรกับเรา ถ้าเราเข้าใจเค้ามากขึ้น เเราน่าจะอารมณ์เสียใส่เค้าน้อยลงและรับมือได้ถูกด้านค่ะ)

มิ้นมาเจอข้อมูลของสถาบันแห่งชาติเพื่อพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้รับข้อมูลว่าจิตแพทย์เด็กจะรับคนไข้เด็ก4ขวบขึ้นไป ถ้าต่ำกว่านั้นคือต้องไปพบแพทย์ด้านพัฒนาการร่างกายและอารมณ์ น้องนายนัดที่สถาบันจักรีได้คิวเดือนธันวาคม มาเจอที่นี่ เออเเฮะใกล้บ้านด้วย เลยให้ป๊าไปขอนัดคิว
ขั้นตอน
1. เข้าไปที่สถาบันฯ
2. กรอกข้อมูล (ป๊าบอกว่าหลายหน้ามาก)
3. ส่งข้อมูลรอทางสถาบันนัดคิวทางโทรศัพท์ประมาณ1อาทิตย์
โชคดีที่มีคิวคุณครูว่าง วันที่11-5-19 คือทางสถาบันจะให้เราพาลูกเข้าพบกับครูเพื่อนประเมินผลก่อนว่าจะต้องถึงขั้นไปพบกับหมอไหม วันนี้เลยได้เข้าพบครู
............................

เข้าไปดูด้านในกันค่ะ

พอดีคุณครูยังติดเคสอยู่เลยให้น้องนายไปเล่นรอก่อนค่ะ

ถึงเวลานัดคุณครูพาเราไปที่ห้องที่เป็นเหมือนห้องเล่น มีฟูกมีบ่อบอล แล้วปล่อยลูกเล่นตามสบายระหว่างนั้นก็สัมภาษณ์พ่อแม่ว่าชีวิตประจำวันของครอบครัวเราเป็นยังไง ตารางชีวิตลูกแต่ละวันทำอะไรบ้าง เราก็เล่าให้ครูฟัง จากนั้นครูจะเริ่มวิเคราะห์ปัญหาที่เรากังวลจากที่เรากรอกข้อมูลลงไป
..........
1. ลูกไม่ค่อยพูด 
ครูบอกว่าเด็กเฉลี่ยการพูดจากพันธุกรรมพ่อแม่เข่นแม่พูด1ขวบ พ่อพูด3ขวบ ลูกจะพูดประมาณ2ขวบ และจากการเลี้ยงดู จากที่ครูสรุปคือแม่พูดมาก - -" พูดยาวเวิ่นเว้อลูกงงลูกจับใจความไม่ได้เลยไม่เข้าใจ 
วิธีแก้ พูดเป็นคำๆสั้นๆพอ เช่น ไม่ได้ ไม่ทำ ได้ หิว อิ่ม โกรธ เสียใจ 
2. เอาแต่ใจ ขัดใจไม่ได้ กรี๊ด 
เป็นไปตามธรรมชาติของเค้า เพราะเกิดมาการร้องขอของเค้าคือการร้องไห้ หิวก็ร้องแม่ก็ให้นม เพิร์สเปียกก็ร้องแม่ก็เปลี่ยนให้ ดังนั้นตอนนี้เค้ายังพูดไม่ได้จึงยังร้องไห้อยู่ ประกอบกับกึ่งเริ่มมีความเป็นตัวของตัวเองแล้วจึงใส่อารมณ์เพิ่มเข้าไป จึงเป็นที่มาของการกรี๊ด ร้องงอแง
วิธีแก้ ฝึกให้ลูกรู้จักการรอคอยและอารมณ์ของตัวเอง ถ้สเค้าร้องไห้ก็บอกว่าหนูเสียใจ กอดปลอบลูบหลังแล้วพูดไปเรื่อยๆ (พูดคำเดิมๆซ้ำๆ) ถ้ายังอาละวาดไม่ฟังไม่ให้โอ๋แต่ให้นั่งคอยจนกว่าเขาจะเงียบ ถ้าเค้าดีใจ ก็ทำเหมือนเดิมให้เค้ารู้ว่าความรู้สึกนี้คือดีใจ 
3. แย่งของ ไม่แบ่ง ตีคนอื่น โยนของ
เป็นไปตามวัย การเล่นเริ่มจาก ต่างคนต่างเล่น เล่นใกล้กัน(แต่ยังต่างคนต่างเล่น) เล่นด้วยกัน ตอนนี้ของนายคือเล่นใกล้กัน ที่ไปแย่งของคนอื่นเพราะเค้าอยากเล่นด้วย อยากให้เจ้าของสนใจเค้า แต่ได้มาแล้วยังเล่นคนเดียวตามเสต็ปเค้า ของนายคือส่วนใหญ่ไปแย่งพี่จะยอมให้ แต่ถ้าพี่ไม่ยอมนายจะตีพี่ หรือถ้าแม่ห้ามหรือขัดใจนายจะโยนของทิ้งทันที
วิธีแก้ สอนให้รู้จักขอและรอ เพราะเจ้าของมีสิทธิ์ที่จะให้หรือไม่ให้ ถ้าขอแล้วไม่ให้นายกรี๊ดหรืออาละวาดต้องดุทันทีว่าไม่ได้ สั้นๆว่าไม่ได้ เหตุผลไว้ค่อยพูดตอนที่เค้าสงบแล้ว วัยนี้ให้รู้แค่ว่าทำแบบนี้ไม่ได้ 
หากมีการทำร้ายร่างกาย ต้องแยกทันทีและดุแบบหนักแน่นว่าไม่ได้เช่นกัน หากร้องไม่ฟังปล่อยให้ร้องและนั่งรอ
การขว้างของ ให้ดุหนักแน่นเหมือนกันว่าไม่ได้ แล้วเก็บของชิ้นนั้นพร้อมกับบอกว่า หนูขว้างแสดงว่าไม่ชอบมันแล้ว แม่เก็บนะ แล้วให้เก็บไปเลยไม่่ให้เล่นอีก
.............

จริงๆแล้วคุยเยอะกว่านี้มาก ครูแนะนำดีมาก ทำให้เราเข้าใจลูกมากขึ้น แล้วรู้ว่าจะรับมือกับลูกยังไง อย่างที่บอกเราพาลูกไปปรึกษาไม่ได้คิดว่าลูกไม่ปกติ แต่อยากเข้าใจลูกมากขึ้นว่าวัยนี้พัฒนาการเค้าจะเป็นยังไง เค้าทำตัวไม่น่ารักเพราะอะไร แล้วเราจะช่วยเค้าได้อย่างไร เพราะไม่งั้นแม่คงจะสติแตกเพราะลูกเอาแต่ใจส่งเสียงกรี๊ด แล้วลงท้ายตัวการตีแบบรัวๆเพราะสติแตก (รักลูกตีได้แต่ต้องตีด้วยเหตุผลไม่ใช่ด้วยอารมณ์ แต่เรามักจะใช้อารมณ์เพราะเสียงร้องเป็นตัวเร้า) 
ส่วนพัฒนาการอื่นๆครูบอกว่าดีมาก ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จะนัดมาดูอีกหรือไม่มาก็ได้ แต่เราคิดว่านัดดีกว่าเผื่อเปลี่ยนผ่านช่วงวัย คุณครูนี่น่าจะเหมือนครูป้องในเรื่อง "วัยแรกสาแหรกขาด" ที่จบทางด้านจิตวิทยาเด็ก มีใบรับรองพิเศษในเรื่องสอนเด็กออทิสติกด้วย ถ้าใครสนใจหลังไมค์มาได้ค่ะ

สถาบันอยู่ภายในมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายาเลยค่ะ มิ้นแนบแผนที่ไว้ด้านล่างนะคะ

หวังว่าประสบการณ์นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ