อยากทราบถึงเรื่อง IPL ค่ะ

IPL ใช้คลื่นแสงที่ไม่ใช่แสงเลเซอร์ มีความเข้มข้นสูง เปลี่ยนพลังงานแสงเป็นพลังงานความร้อน เพื่อทำลายเนื้อเยื่อเป้าหมาย IPL เป็นวิธีการรักษาที่ต่างจากเลเซอร์ ซึ่งจะส่งความยาวคลื่นหลายคลื่น (หรือสี) ในแต่ละครั้งของการปล่อยคลื่นไม่ใช่แค่คลื่นเดียว สามารถปรับแต่งสเปกตรัมได้โดยการเปลี่ยนฟิลเตอร์ เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละโรค การปรับความยาวคลื่นระยะเวลาในการปลดปล่อยพลังงานแสงที่พอเหมาะ เพื่อทำลายวัตถุเป้าหมายให้มากที่สุด และทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียงให้น้อยที่สุด

ถ้ารอยโรคหรือวัตถุเป้าหมายอยู่ที่ชั้นหนังแท้(Dermis) หรือชั้นที่ลึกลงไป แพทย์มักจะเลือกฟิลเตอร์ที่ให้ความยาวเพิ่มขึ้น และใช้เทคนิคยิงหลายครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบต่อผิวหนังกำพร้าส่วนบน และพลังงานลงได้ลึกมากขึ้น ผลที่ได้อาจแตกต่างกันไปในการทำลายเนื้อเยื่อเป้าหมายทั้งชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ ข้อดีของการทำ IPL คือใช้เวลาน้อย ผู้เข้ารับการรักษานั้นสามารถใช้เวลาช่วงพักกลางวันเข้ารับการรักษาและกลับไปทำงานได้ตามปกติทันที

กระบวนการรักษามีอะไรบ้าง
ปกติแล้วผู้เชี่ยวชาญควรจะต้องอธิบายขั้นตอนการทำงานของการรักษาให้กับผู้เข้ารับการรักษาอย่างชัดเจนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เข้ารับการรักษา เพื่อให้ทราบถึงผลที่ได้จากการรักษาด้วยวิธีนี้ว่าจะเป็นอย่างที่ต้องการหรือไม่อย่างไร การวินิจฉัยนี้มีความจำเป็นมากและควรได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่รักษานั้นควรเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการใช้เครื่องมือ IPL

- หลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดก่อนการเข้ารับการรักษา 1 สัปดาห์ และหลังการรักษา 1 สัปดาห์

- อาจมีการใช้ยาชาทาในบริเวณที่จะรักษา แต่ปกติแล้วไม่จำเป็นต้องใช้

- จะใช้เจลเย็นทาในบริเวณที่รักษาแล้ว ให้ความเย็นแก่ผิวหนัง (Cooling system) เพื่อปกป้องผิวหนังมิให้มีอันตรายจากความร้อน ลดความเจ็บปวดขณะทำ และลดผลข้างเคียง เช่น รอยแดง ผิวหนังไหม้ หรือสีผิวเปลี่ยน

- ใช้เครื่องมือ IPL ที่มีหัวแก้วทาบลงไปบริเวณที่ต้องการรักษา

- การรักษาแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที คอร์สการรักษา 4-6 ครั้ง ทุก ๆ 3-6 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลตามที่ต้องการ

- ผู้เข้ารับการรักษาสามารถกลับไปทำงานตามปกติได้ทันทีหลังการรักษา

ขณะที่ทำการรักษาผู้เข้ารับการรักษาต้องใส่แว่นป้องกัน การรักษาด้วย IPL นั้นไม่ทำให้เจ็บปวดเมื่อเทียบกับการรักษาผิวหน้าด้วยเทคนิคอื่น ๆ ระหว่างทำจะมีความรู้สึกคล้ายหนังยางดีด หรือการหยิกเบา ๆ แต่บางคนอาจรู้สึกกังวลได้

มีผลข้างเคียงหรือไม่

อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยคือ

- เจ็บเล็กน้อยระหว่างการทำ (ซึ่งใช้ความเย็นช่วยบรรเทาได้ หรือทายาชา)

- ผิวเป็นสีชมพู และเจ็บนิดหน่อยหลังจากเสร็จสิ้นการรักษา

- รู้สึกเหมือนถูกแสงแดดอ่อน ๆ (ผิวแดง, ลอก, บวม) อาจเป็นได้หลังการรักษาแต่จะเป็นไม่กี่วัน

- อาจมีอาการผิวพองเกิดขึ้นได้จากการที่ผิวดูดซับพลังงานแสงมากเกินไป แต่ลักษณะนี้ไม่เกิดขึ้นบ่อย

- บางครั้งเม็ดสีอาจถูกทำลายและทิ้งรอยดำ หรือรอยขาวไว้ที่ผิว

- อาจมีผมร่วงได้

- อาจเกิดการช้ำได้ (ประมาณ 10% ของผู้เข้ารับการรักษา)

อ้างอิง http://acnethai.com

ทราบคร่าวๆว่าเป็นเเสงเเต่ไม่ใช่เลเซอร์ค่ะ สามารถปรับช่วงคลื่นเเสงตามปัญหาผิวหน้าว่าจะรักษาอะไร ปัญหาที่บอกมาก็ช่วยได้บ้างค่ะ เเต่อาจไม่ถึงกับว่ามากมาย ถ้าจะให้ดีขึ้นเยอะก็จะต้องไปทำหลายครั้งทีเดียว โดนส่วนตัวเคยทำมาประมาณ5ครั้งได้ เดือนละครั้ง ก็ดีขึ้นค่ะ เเต่ก็ต้องใช้เวลาบ้าง เวลาทำก็จะทำความสะอาดหน้าค่ะ เเล้วก็จะมีเจลใสเย็นๆทาทั่วหน้า
เเล้วหมอก็จะเอาเครื่องมือมายิง ก็จะรู้สึกร้อนวูบๆนิดหน่อย เหมือนใครเอาหนังสติ๊กมาดีดที่หน้าเบาๆค่ะ คิดว่าไม่เจ็บนะ
ทำเสร็จรูสึกหน้าใสเล็กน้อย (อุปาทาน โฮะๆๆ) ก็ลองตัดสินใจดูนะคะ เราปัญหาเดียวกับเจ้าของกระทู้เลย มีรูขุมขนใหญ่ด้วย เดอร์มาโรลเลอก็ทำมาเเล้ว ดีขึ้นเยอะเหมือนกัน ว่าจะไปลงอีกคอร์สเเล้วก็จะทำiplควบคู่ไปด้วย ขอให้สวยๆนะคะ