ดราม่า KimOhNo!
candy4512ชาวญี่ปุ่น (หลายคน) ไม่ถูกใจสิ่งนี้
เมื่อใครสักคนจุดประเด็นดราม่าของผลิตภัณฑ์จาก KarJenner ถึงคุณจะผ่านประสบการณ์เรื่องทำนองเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง แต่มันก็ยังทำให้วงสนทนาแซ่บขึ้นราวว่ากำลังเม้าไปแกล้มยำไข่แดงเค็มไป แล้วครั้งนี้มันเรื่องอะไรกันอีก ? จัดว่าเผ็ดแน่นอนค่ะ
พวกเราต่างก็ทราบกันดีว่าKimแทบจะไม่ใส่ชุดหลวมๆ หรือ baggy เลย นอกจากจะช่วยโพรโมทแบรนด์ของสามี ชุดประจำตัวคือ everything รัดรูป รัดมากจนแนบเห็นทุกอณู แม้กระทั่ง shapewear (ชุดชั้นในจัดทรง) ก็ยังมองออก เจ้าตัวเปิดเผยกับเรื่องนี้มาก ยกให้เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ดูสมบูรณ์แบบทุกครั้งที่ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน เรียกว่าไม่ยอมให้มีภาพพุงโผล่โดยเด็ดขาด
Kim กังวลกับเรื่องรูปร่างในช่วงท้อง-หลังคลอดมากจนไม่ยอมทิ้ง spanx เธอสาภาพว่า ถ้าไม่ได้ใส่แล้วไม่ขอออกจากบ้าน ยิ่งตอนที่น้ำหนักตัวขึ้นจะใส่สองตัวทับกันเพื่อจัดระเบียบเนื้อหนังให้เข้าที่เข้าทาง
พอต้องสั่ง spanx แบรนด์ของคนอื่นมาใส่มากๆเข้า Kim จึงปิ๊งไอเดียว่า ทำไมไม่ออกแบรนด์ตัวเองไปซะเลยล่ะ ! ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง มีสาวๆจำนวนมากที่ใฝ่ฝันจะเป็นอย่างKim จนมีโคลนนิ่งเกลื่อน Instagram และก็เห็นๆกันอยู่ว่าพอใส่ shapewear พวกนี้แล้วจะช่วยให้รูปร่างยิ่งดูเว้าโค้งดึงดูดสายตามากแค่ไหน
นี่ถือถ้อยแถลงในการแนะนำ product ใหม่สู่ชาวโลกจากราชินี internet
"ในที่สุดชั้นก็ได้เปิดเผยเรื่อง projectที่ได้พัฒนามาตั้งแต่ปีก่อนกับพวกคุณ
เป็นเวลา 15 ปีมาแล้วที่ชั้นหลงไหลในสิ่งนี้ค่ะ
ชั้นขอนำเสนอ Kimono อันเป็น shapewear ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีจริงๆสำหรับผู้หญิง
ชั้นเคยต้องปรับ shapewear ให้กับเสื้อผ้าด้วยการตัดมันออก และหลายครั้งก็ไม่สามารถหาสีที่เนียนไปกับสีผิวของตัวเองได้ เราจึงมองหาวิธีแก้ไขปัญหาพวกนี้ค่ะ
อย่างภาพที่ 3
ชั้นริเริ่มไอเดียนี้ด้วยการปรับให้เข้ากับเดรสหรือกระโปรงแบบผ่าข้างแต่ก็ยีงต้องหาการชุดที่ช่วยมาsupportรูปร่าง ขอแนะนำ Kimono Solutionwear มีไซส์ ตั้งแต่ XXS - 4XL ทั้งเก้าสี ชั้นแทบรอให้พวกคุณสัมผัสเนื้อผ้าของ Kimonoไม่ไหวแล้วล่ะ"
"ในที่สุดชั้นก็ได้เปิดเผยเรื่อง projectที่ได้พัฒนามาตั้งแต่ปีก่อนกับพวกคุณ
เป็นเวลา 15 ปีมาแล้วที่ชั้นหลงไหลในสิ่งนี้ค่ะ
ชั้นขอนำเสนอ Kimono อันเป็น shapewear ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีจริงๆสำหรับผู้หญิง
ชั้นเคยต้องปรับ shapewear ให้กับเสื้อผ้าด้วยการตัดมันออก และหลายครั้งก็ไม่สามารถหาสีที่เนียนไปกับสีผิวของตัวเองได้ เราจึงมองหาวิธีแก้ไขปัญหาพวกนี้ค่ะ
อย่างภาพที่ 3
ชั้นริเริ่มไอเดียนี้ด้วยการปรับให้เข้ากับเดรสหรือกระโปรงแบบผ่าข้างแต่ก็ยีงต้องหาการชุดที่ช่วยมาsupportรูปร่าง ขอแนะนำ Kimono Solutionwear มีไซส์ ตั้งแต่ XXS - 4XL ทั้งเก้าสี ชั้นแทบรอให้พวกคุณสัมผัสเนื้อผ้าของ Kimonoไม่ไหวแล้วล่ะ"
ตามด้วยการขอ trademark ของชื่อ Kimono!
ทำให้หลายคนออกอาการปรี๊ด ประมาณว่า เอาจริงใช่มั้ยเธอ ??
ทำให้หลายคนออกอาการปรี๊ด ประมาณว่า เอาจริงใช่มั้ยเธอ ??
เพราะเมื่อเราเอ่ยคำว่า Kimono มันหาใช่สิ่งที่คิดค้นขึ้นมาใหม่เพื่อเอาใจผู้หญิงที่อยากมี curves สวยๆ แต่เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่สืบทอดมาแต่โบราณของประเทศญี่ปุ่น และมันได้สร้างความภาคภูมิใจให้คนในชาติมาโดยตลอด ในปัจจุบันชาวดินแดนอาทิตย์อุทัยก็ยังใส่Kimono ในหลายโอกาส ตามที่หลายคนได้คาดหมายไว้ กระแสต่อต้าน shapewear และการขอ trademark ชื่อ Kimono จึงสะพัดไปทั่วโลกออนไลน์
ศาสตราจารย์ Sheila Cliffe (ชาวตะวันตกผู้ศึกษาศิลปะของ Kimono อย่างลึกซึ้ง) ได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า
"ศิลปะของ Kimono คือความสง่างาม เลอค่าและนุมนวล ไม่ได้เป็นการเปิดเผยหรือรัดรึงส่วนสัด เป็นการป้องกันมิให้เห็นภายในด้วยการทบผ้าพันรอบตัวผู้สวมใส่ สมมุติว่าถ้าเกิดดิฉันออกแบบบราขึ้นมาแล้วก็ตั้งชื่อมันว่าส่าหรี คนบางกลุ่มจะต้องรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง มันแสดงถึงการขาดความนับถือ นี่คือสิ่งที่แสดงตัวตนของชาวญี่ปุ่นนะคะ Kim Kardashian ไม่ได้เป็นเจ้าของคำๆนี้"
เรื่องนี้จริงจังมากจนนายกเทศมนตรีเมืองเกียวโตร่อนจดหมายขอให้ Kim ทบทวนเรื่องชื่อชุดชั้นใน Kimono
นายกเทศมนตรีได้อธิบายถึงความสำคัญของKimono อย่างชัดเจนว่าเป็นศิลปะอันงดงามที่สร้างความภูมิใจให้กับคนในชาติ แม้กระทั่งชาวต่างชาติก็ยังนิยมสวม Kimono เดินเที่ยวรอบเกียวโต ซึ่งญี่ปุ่นยังได้ขอให้ UNESCO รับรองเป็นมรดกทางวัฒนธรรม และยังแสดงความเห็นอย่างสุภาพ Japanese style ไว้ดังนี้
"เราเชื่อว่าชื่อที่ใช้ไว้เรียก Kimono สามารถร่วมกันใช้ได้ในกลุ่มผู้คที่ชื่นชม Kimono ทุกคน รวมไปถึงในแง่วัฒนธรรมของมัน ดังนั้นจึงไม่ควรมีใครถือสิทธิ์ผุูกขาดใช้ชื่อแต่เพียงผู้เดียว"
"เราเชื่อว่าชื่อที่ใช้ไว้เรียก Kimono สามารถร่วมกันใช้ได้ในกลุ่มผู้คที่ชื่นชม Kimono ทุกคน รวมไปถึงในแง่วัฒนธรรมของมัน ดังนั้นจึงไม่ควรมีใครถือสิทธิ์ผุูกขาดใช้ชื่อแต่เพียงผู้เดียว"
Sunao ซัง ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Kimono ที่ลงคลิปบน youtube พร้อม English subtitle ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่หนักแน่นว่าขอประท้วงเรื่องการตั้งชื่อ shapewear ว่า Kimono อย่างเต็มที่ เธอยกเหตุผลหลายอย่างมาอธิบายความรู้สึกที่ไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ และหนึ่งในนั้นคือความวิตกกังวลว่า ด้วยความมีชื่อเสียงของ KimK ที่มีผู้ติดตามบน social media หลักร้อยล้านก็อาจจะทำให้เด็กรุ่นใหม่เข้าใจคลาดเคลื่อนว่า Kimono คือชุดชั้นใน มิใช่ชุดที่สืบทอดในประเพณีด้ีงเดิมของญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ
(เราว่าเรื่องนี่ make sense นะ )
(เราว่าเรื่องนี่ make sense นะ )
หากลอง searchคำว่า #KimOhNo บน twitter ก็จะพบการลุกฮือผ่านคีย์บอร์ดจากชาวญี่ปุ่นที่โกรธเคืองกับ shapewear อื้อฉาว หลายคนเรียกร้องให้ Kim เปลี่ยนชื่อสินค้าเพราะรับไม่ได้ที่ต้องเห็นอาภรณ์ที่มีคุณค้่ทางจิตใจถูกนำไปเรียกเป็นชุดชั้นใน
และนี่คือคำตอบของ Kim K ค่ะ ...
"ชั้นมีความเข้าใจและให้ความเคารพในเรื่องความสำคัญของ Kimono ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น และไม่ได้ตั้งใจที่จะออกแบบและปล่อยชุดที่ดูคล้ายคลึงหรือดูหมิ่นเสื้อผ้าอาภรณ์แบบดั้งเดิมแต่อย่างใด ที่ชั้นตัดสินใจตั้งชื่อบริษัทว่า Kimono นั้นไม่ได้เชื่อมโยงกับคำที่มาจากรากฐานความเป็นญี่ปุ่น แต่เป็นเรื่องความสวยงามและรายละเอียดที่ตัวเนื้อผ้า ส่วนการขอ trademark นั้นก็ทำไปเพื่อจะได้รับคำอนุญาตในการใช้คำนี้สำหรับ shapewear ของชั้นและไลน์สินค้าที่เกี่ยวข้องกัน แต่มิได้เป็นการกีดกันหรือห้ามมิให้ผู้ใดตัดเย็บ Kimono หรือใช้คำๆนี้ในความหมายของชุดในประเพณีเก่าแก่ solutionwear ของชั้นถูกสร้างขึ้นสำหรับทุกคนได้มีส่วนร่วมและมีจุดเด่นเรื่องสนับสนุนความหลากหลายในสังคม และชั้นมีความภูมิใจในผลงานเป็นอย่างยิ่ง"
เราลองตีความนะคะ Kim พยายามจะแย้งว่า ไม่ได้ดูหมิ่นวัฒนธรรมญี่ปุน หรือทำชุดเลียนแบบ Kimono แต่เลือกชื่อนี้เพราะได้แรงบันดาลใจจากความงามและรายละเอียดของKimono ( ????) และดูเหมือนว่า แม้จะมีการประท้วงและขอร้องอย่างเป็นทางการจากชาวญี่ปุ่น เจ้าตัวไม่น่าจะถอยแล้วค่ะ เพราะกำลังส่งสินค้าสู่ตลาดแล้ว และเราสังหรณ์ว่ามันน่าจะ sold out ด้วยนะ
มีคนตั้งข้อสังเกตกับเราว่า หรือนี่จะเป็นความตั้งใจจะสร้างยอดขายจากกระแสต่อต้าน ? เพราะไม่ว่าใครก็น่าจะรู้ตัวอยู่แล้วว่า หากเลือกชื่อนี้จะต้องสร้างความไม่พอใจให้กับคนญี่ปุ่นแน่นอน (แม้กระทั่งคนชาติอื่นก็ตาม) เรื่อง"การฉกฉวยทางวัฒนธรรม" ไม่ใช่คำกล่าวหาแปลกใหม่สำหรับ Kim K ค่ะ ที่ผ่านมามีดราม่าคล้ายๆกันมาก่อนแล้ว และความเดจาวูนี้เองก็ทำให้เกิดความคลางแคลงใจขึ้นมาว่า เธอจงใจจะปั้นยอดขายจากข่าวฉาว
Upfdate ล่าสุด Kim ยอมถอยแล้วจ้าาาา
บอกไว้ก่อนว่า เราไม่เคยเห็นคนญี่ปุ่นลุกฮือประท้วงคนดังต่างชาติแบบนี้มาก่อน และมันทำให้คลางแคลงใจจริงๆว่าราชินี Internet จะไม่ดึงดันขายชุดชั้นใน shapewear ด้วยชื่อ Kimono จริงๆหรือ นี่ไม่รวมถึงชาวเน็ทชาติอื่นๆที่เข้าใจความรู้สึกของผู้ที่หวงแหนศิลปะที่มีค่าประจำชาติที่กระโดดร่วมโจมตีอย่างเผ็ดร้อน
ในที่สุด เราเชื่อว่า KimคงปรึกษาทีมกฏหมายและทีมPRมาจนเห็นวี่แววของชื่อเสียงที่เสียหายไป เธอจึงประกาศเปลี่ยนชื่อแบรนด์แล้วค่ะ!
"การที่ชั้นได้มาเป็นนักธุรกิจที่เป็นนายของตัวเองนั้นถือเป็นรางวัลอันล้ำค่าในชีวิต มันเป็นหนทางที่ช่วยให้ชั้นได้เข้าถึงแฟนๆและผู้คนและได้โดยตรง ชั้นเฝ้ารับฟัง เรียนรู้และเติบโต ชั้นรู้สึกซาบซึ้งต่อความปรารถนาและมุมมองที่หลากหลายที่คนอื่นได้ชี้ให้เห็น ตอนที่ได้เปิดเผยชื่อของshapewear นั้น ชั้นมีแต่เจตนาที่ดีค่ะ แบรนด์และสินค้าของชั้นสร้างขึ้นเพื่อให้เข้าถึงทุกคนและมีจุดโดดเด่นในการสนับสนุนความหลากหลาย หลังจากที่ใคร่ครวญมาเป็นอย่างดี ชั้นจะเปิดตัว solutionwear ในชื่อใหม่ค่ะ ชั้นจะกลับมาใหม่เร็วๆนี้ ขอบคุณที่เข้าใจและให้การสนับสนุนกันนะคะ"
หลายคนคงจะโล่งใจว่าเรื่องจบได้ด้วยดี แต่ความปักใจว่านี่คือ publicity stunt อันเป็นการตลาดแบบ Kardashian ก็ยังคงอยู่ เพราะนี่ดูไม่เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นโดยมิได้ตั้งใจ แต่plan มาแบบมืออาชีพ
The End
Discussion (12)