3ป.เป๊ะ! ปัง!ปั๊ว! ขอท้ารองพื้นหลักร้อยที่ดีมีจริงบนโลก

Clairephusiri1 Jul 195125

เราขอเทียบราคารองพื้นที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นชัดๆกันไปเลย ยังขอยืนหนึ่งกับรองพื้นหลักร้อยที่ไม้แพ้รองพื้นเค้าเตอร์แบรนด์หลักพัน

( ราคาถูก คุณภาพดี ไม่ต้องเชื่อ แต่อยากให้ลองอ่านและลองใช้ ลองเปิดใจดูนะค่า)

คำเตือน!!!! ไม่เหมาะกับสาวๆที่ผิวขาว และสาวๆผิวแห้งมากๆนะคะ ตัวไหนพอจะใช้ได้แคล์จะแจ้งรายละเอียดไว้นะคะ ลองดูๆ***

The Ordinary Coverage Foundation (medium pink undertones) เราได้มาด้วยการฝากเพื่อนหิ้วมาจากอังกฤษค่ะ มีprimerมาด้วย ไว้จะมารีวิวครั้งต่อไปนะคะ ตัวนี้เราชอบตรงราคาไม่สูง จัดในราคาถูกเลยทีเดียว ตัวนี้จะอันเดอร์โทนชมพูนะคะ ตัวนี้คุมมันได้ดีเลยในราคานี้ แถมติดทนนาน เหมาะกับคนที่หน้ามัน หน้ามันที่ค่อนข้างดูแลผิวหน้า เพราะอย่าลืมว่ารองพื้นตัวนี้มันไม่มีความมันใดใด ดังนั้นจะค่อนข้างเกลี่ยยากถ้าเราบำรุงผิวไม่ดีในคืนก่อนหน้าจะใช้ตัวนี้ และในทุกตัวที่เราเอามารีวิว เราอยากแนะนำให้บำรุงผิวให้อิ่มน้ำในตอนกลางคืน เพื่อความสวยในการลงรองพื้นในวันต่อไป โดยส่วนตัววันที่เราจะใช้รองพื้นเราจะไม่ลงskincare เพราะตัวนี้จะมีกันแดดผสมด้วยอยู่แล้ว พอใช้ชีวิตไปสักห้าถึงหกชั่วโมง ตัวนี้จะเริ่มมีความมันบนใบหน้าออกมา แต่ไม่หลุดนะ แค่ซับมันออกแล้วตบแป้ง จบ!!!!! ไปต่อได้เลยค่ะะ

Fit me maybelline Matte+Poreless No 230 ตัวนี้ก็ฝากเพื่อนซื้อจากอังกฤษค่ะ ตอนนี้ในไทยมีขายแล้วนะคะ แต่จะเป็นขวดแก้ว ตัวนี้เป็นอีกตัวที่ไม่ได้ดูรีวิวก่อนซื้อ จำได้ว่าตอนนั้นไม่เข้าไทยและได้มาช่สงแรกๆเลยที่ออกมา ซึ่งฝากเพื่อนสีนี้มาสองขวดเลยเหลือใช้มาถึงตอนนี้และกำลังจะหมด แน่นอนว่าซื้อซ้ำค่ะ ตัวนี้สาวๆที่ผิวแห้งยังพอใช้ได้นะคะ แต่ถามว่าแนะนำมั้ย เราเองยังไม่แนะนำเพราะตัวนี้มีความmatte แต่สามารถใช้ได้และใช้บำรุงหน้าที่ให้ความชุ่มชื่น เพื่อเวลาลงรองพื้นจะได้ไม่เป็นขุยๆนะคะ ตัวนี้เห็นราคาแล้วไม่ต้องคิดมากเลย และเชื่อว่าหลายคนนน่าจะชอบ ตัวนี้อยู่นานถึงหกชั่วโมงก็จะมีความมันออกมา แต่สีรองพื้นไม่เปลี่ยน ไม่เทานะคะ วางใจได้เลย เพราะรองพื้นบางตัว พอหลายชั่วโมงจะมีความมัน และสีเปลี่ยน หน้าหมองคล้ำ ไม่ได้นะสาวๆๆ เราจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นน้าาา ตัวนี้เป็นอีกตัวที่เราเชียร์

Wet n wild photofocus Foundation fond de teint (No E372C) ตัวนี้นางเคลมว่า"Goodbye photo flashback" ไม่ต้องพึ่งflash ไม่ต้องพึ่งapp ใดใด อะเราก็ต้องลองหน่อยตอนที่ได้มารีวิวน้อยมาก บล็อกเกอร์ไทยไม่ค่อยรีวิวกันเลย หรืออาจะเพราะสีที่เข้าไทยน้อยมากและค่อนข้างไปทางเข้ม แต่เราเองชอบใช้รองพื้นที่สีเข้มกว่าผิวหนึ่งเบอร์อยู่แล้วเลยไม่เป็นปัญหาสักเท่าไหร่ ตัวนี้มีความ หนืด ข้น ตัวเท็กเจอร์ค่อนข้างเกลี่ยยาก แนะนำให้ลงกับฟองน้ำฉีดน้ำแร่่ให้ฟองน้ำชุ่มนิดนึง จะทำให้การลงรองพื้นตัวนี้ง่ายขึ้นค่ะ ตัวนี้คุมมัน ติดทน ยาวนานสำหรับเรานะ ความมันไม่ค่อยออกสำหรับเรา แต่ถ้าออกแดดเหมือนนางสู้แดด เหมือนยิ่งเผยฟินิชที่สวยมากเมื่อออกแดด เท่ากับใครที่ต้องใช้กิจกรรมกลางแดด เราแนะนำตัวนี้ลองมีไว้ติดบ้านเลยค่ะ แต่สีค่อนข้างเข้มนะคะ ต้องดูสีดีดีนะคะ พอเปิดฝาตัวหัวจะไม่ใช่แบบกด/บีบ แต่นางจะมีเป็นเหมือนไม้พาย (5555เรียกไม่เป็นงะเค้าขอโทษ) ใช้ได้นานมากแต่ถ้าใครมีตัวนี้หากผสมกับรองพื้นที่สีสว่างหนึ่งเบอร์ก็จะไม่ทำให้เข้มจนเกินไป ***แต่หากใครที่พึ่งจะเริ่มใช้รองพื้น พึ่งเริ่มหัดใช้ ต่อให้เป็นคนผิวมันแบบเรา เราไม่แนะนำอย่างยิ่งนะคะ เพราะค่อนข้างเกลี่ยยากนิดนึ'***

Infallible Pro-Matte L'oreal #No106 sun beige (ทางแบรนด์เครมว่า up to 24HR สำหรับเราแปดชั่วโมงก็เก่งแล้ว) ใครที่ผิวหน้ามันขั้นสุด ตัวนี้จะเอาอยู่มากๆและติดทนนานกว่าหกชั่วโมงนะสำหรับตัวเราปลื้มมาก ไว้เราจะทำvlogตามติดให้ดูนะ แต่ตอนนี้เค้ากำลังหัดตัดต่อคลิปอยู่ยากจุงงช่วยด้วยยหงือออ เราเคยใช้ตัวนี้แต่งตอนตีสี่เพื่อบินไปทำงานที่กระบี่เช้า และบินกลับกรุงเทพไฟล้ททุ่มครึ่ง นางยังอยู่นี่แบบประทับใจมากกกก จำได้ว่าเราแค่ซับหน้าด้วยแป้งทรานลูเซ่นตอนเย็นครั้งเดียว และที่สำคัญกระบี่ร้อนมาก แต่นางเอาอยู่เราว่าตัวนี้ให้ฟีนิชเหมือน Double Wear Estee Lauder เลยละ ในราคาที่น่ารักกว่าด้วย ควรมีในกรุไว้ประดับทับจิตนะคะสาวๆๆ

Wet n wild แนอำพฟสส #no.E819 medium intermediaire ตัวนี้หลอดที่สามคือต้องมัติดบ้านไว้ สำหรับตัวเรานางเกลี่ยง่าย ใช้ง่าย สีเข้มกว่าหน้าเราหนึ่งเฉดอีกตามเคย เป็นหลอดพกพาง่ายไม่หนักกระเป๋าเวลาเดินทาง แต่ตัวนี้หากได้ใช้กับ Primer base de teint ด้วยแล้วจะเพิ่มประสิทธิภาพในการติดทนยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเคยลองไม่ใช่คุ่กันก็ทนนะแต่เราต้องซับมันระหว่างวันในการช่วยให้ติดทน และแน่นอนตัวนี้สีรองพื้นไม่เฟดระหว่างวัน

Bourjois healthy mix #no.53 beige clair light beige ขออกตัวก่อนว่าขวดนี้เป็นขวดเก่า ปัจจุบันเขาทำออกมาเป็นหลอดแล้วถ้าจำไม่ผิดนะ แต่เราตุนนางไว้ตั้งแต่นางออกแรกๆเลยยังเป็นขวดแก้วอยู่ ตัวนี้รักมาก ด้วยกลิ่นที่หอมกว่าทุกตัวในนี้ที่รีวิวมา และตัวนี้เกลี่ยนง่ายมาก คนผิวแห้วใช้ได้แนะนางจะมีสูตรสำหรับคนผิวแห้งโดยตรงเลยนะคะ แต่ถามว่ารุ่นนนี้ใช้ได้มั้ย คนผิวแห้งยังใช้ได้อยู่ค่ะ ตัวนี้ติดทน แอบงงว่านางดูเป็นตัวที่matteน้อยที่สุดแต่ความติดทนสำหรับหน้าเราคือเกินคาดมากๆ หรืออาจเพราะตัวเราค่อนข้างบำรุงผิวสม่ำเสมอ เวลาลงรองพื้นไม่มีปัญหา การหลุดลอย หรือไม่ติด ไม่กลืนกับผิวเท่าไหร่นัก สีนี้คือเป็นสีผิวทางเรามากกลืนไปกับสีผิวมากๆ ในวันสบายๆชิลล์ๆ ลงตัวนี้แล้วใช้ บลัชครีมลง หูยยย จบเลยย น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้เลยละ!! ใครลองเราเชื่อว่าพึงพอใจเกินกว่าคนที่ไม่พึงพอใจนะ แนะนำตัวนี้ที่สุดๆ

Super stay 24 full coverage foundation #no.130 buff beige ตัวนี้จะอันเดอร์โทนชมพูสุด ตัวนี้เราว่าถ้าเทียบกับรุ่น Fit me เราชอบ Fit meมากกว่า แต่ตัวนี้จะค่อนข้างแน่นกว่า แต่ไม่ได้ทำให้หน้าหนักนะ แต่ตัวนี้เราไม่ซื้อซ้ำเพราะให้ใจกับ Fit meอย่างที่บอก เราจำเป้นต้องเลือกสีนี้มาเพราะใกล้เคียงผิวเราที่สุด แต่พอใช้แล้วนางค่อนข้างไปทางชมพูมากไปสำหรัลเรา เราเลยเลือกตัวนี้ไว้ใช้ผสมกับตัว Wet n wild photo focus + Infallible l'oreal รวมกันแล้วจะลงตัว และเข้ากับสีผิวเราที่สุดค่ะ เหมือนมีนางไว้ผสมกับเพื่อนๆตัวอื่น ถ้าใช้ตัวเดียวโดดๆถ้าสีผิวคล้ายเรา เราไม่แนะนำ แต่ถ้าเอาไปผสมนางจะเป็นตัวที่ออกมาสวยอยู่ค่ะ