Jeban x Sulwhasoo " Mirror Mirror on the Wall, ผิวใสๆ ทำยังไงถึงได้มา? " Sulwhasoo Snowise Brightening Cushion คุชชั่นสโนวไวซ์ ~
itst.tsunisa5313Mirror Mirror on the Wall, ผิวใสๆ ทำยังไงถึงได้มา?
คุชชั่นสโนวไวซ์ ไงจ๊ะ ~
คิคิ เปิดหัวมานิทานมากกก ~ เพราะชื่อคุชชั่นเค้าน่ารักกก
Snowise Brightening Cushion
หลังจากที่ตองได้มีโอกาส ไปร่วมเป็น 1 ใน 30 Jebanista
ที่ได้ลองคุชชั่นผิวใสตัวใหม่ล่าสุดของ Sulwhasoo วันนี้จะเอารีวิวมาฝากจ้าาา
ขอบคุณที่ชวนเค้าไปร่วมอีเว้นท์ดีๆ แบบนี้นะคะ <3
มาเริ่มกันเลยดีกว่า ต้องบอกก่อนเลยว่า Sulwhasoo เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เค้าเลิฟมากๆ ตั้งแต่สกินแคร์เลย เพราะหลงกลิ่นโสมมากๆ จ้าาาา
แล้วไหนจะตัวรองพื้น / คุชชั่น / ลิปที่ติดใจมากๆเลย
Sulwhasoo Snowise Brightening Cushion
#23 ( 2,200.- ) มาพร้อมรีฟิลด้วยเด้อจ้า
คุชชั่นสูตรใหม่ของ Sulwhasoo ที่มีจุดเด่นด้วย
ผงไข่มุกจากหอยเป๋าฮื้อ หรือ Pearlescent Complex ex
สูตรเฉพาะของโซลวาซู
ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสะท้อนแสง ที่มากระทบบนผิวของเรา
สะท้อนกลับออกไป ทำให้ผิวดูสวย และดูใสมากขึ้นนั่นเองค่ะ
นอกจากนั้นยังมาพร้อมพลังแห่งโสมขาว!!!!
ที่จะช่วยให้ผิวกระชับ พร้อมบำรุงผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
และเรียบเนียนที่มากขึ้นให้กับผิว และยังช่วยในลดแสงเงา แต่ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
นางเอกอีก 1 ตัวที่ช่วยปกป้องผิวของเราจากมลภาวะต่างๆ
ด้วยสารสกัดจากดอกลิลลี่ขาว ที่ช่วยในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระได้นั่นเองค่ะ
และยังขน SPF50 PA+++ มาในตัวอีกด้วย ครบครันสุดๆ ไปเลยจ้า
ตลับคุชชั่นมาในตลับสีขาว ที่มีกราฟฟิคทรงเลขาคณิต
ดกับความขาวมุก ทำให้ตลับเค้าเลอค่าาาาา ละมุน แต่ออร่าแรงมากเวลาถือ
เปิดฝามาแน่นอนว่ามาด้วยชั้นวางพัฟคุชชั่น *
แค่ตัวฟลอย์ยังหลวยขนาดนี้เลย แกะแล้วอยากเก็บเอาไว้ ๕๕๕๕
* ซึ่งตัวพัฟเค้าก็มีความพิเศษขึ้นมากกว่ารุ่นก่อนๆ แน่นอนค่ะ*
เพราะเค้าพัฒนาขึ้นมาด้วยนวัตกรรม Slim Fit ที่จะทำให้ตัวพัฟสามารถควบคุมปริมาณ
ของการซับตัวรองพื้นขึ้นมา ไม่ทำให้ตัวคุชชั่นเลอะพัฟเหมือนปกติ และช่วยให้รองพื้นกระจายตัวได้ดี เรียบ เนียน สวย
แน่นอนว่าตัวตาข่ายของตัวคุชชั่นเค้าจะละเอียดมากๆ
ทำให้เนื้อคุชชั่นเวลาที่เรากดขึ้นมา เนียนมากๆ
สำหรับรุ่นนี้ต่างจากรุ่นก่อน ตรงที่มีการปั้มชื่อ Sulwhasoo ลงมาด้วยยยย
อันนี้สี #23 นะคะ สำหรับคนผิวขาวเหลืองเหมาะมาก
#23 Natural Beige
สำหรับรุ่นนี้เค้ามีทั้งหมด 6 เฉดสีเลยนะคะ
ส่วนตัวตองเคยใช้เบอร์นี้อยู่แล้ว รุ่นนี้ก็เลยใช้เบอร์เดิมจ้าาา
จะเห็นได้เลยว่า พอกดลงผิว เค้ามีความสะท้อนและเล่นแสงมากๆ ( ตองเปิดแฟลช )
: ความรู้สึกขณะที่ใช้ :
ตัวคุชชั่นปกปิดได้เบา - กลาง สามารถบิ้วเลเยอร์เพิ่มได้
ซึ่งเค้าแนะนำให้ลงเลเยอร์แรกให้ทั่วหน้าจากการกด 1 ครั้ง แค่ครึ่งพัฟ
แล้วกดลงหน้าแก้ม หน้าผาก คาง หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แท็ป ซึ่งปกปิดได้เกือบกลางๆเลย
แล้วก็สามารถกดซ้ำเพื่อเพิ่มการปกปิดอีก 1 เลเยอร์
ตัวคุชชั่นมีเนื้อสีที่ชัด แต่มีความใส เพราะประกายมุก
: ความรู้สึกหลังจากที่ใช้ :
เค้าสามารถปกปิดความไม่สม่ำเสมอของสีผิวได้ใน 1 เลเยอร์เลย
และยังให้งานผิวที่ดูใสอยู่ ซึ่งการเพิ่มอีก 1 เลเยอร์ จะทำให้ผิวดูแน่นขึ้น และดูเนียนขึ้น
แต่รอยสิวชัดๆ จะยังปิดไม่ได้ค่ะ
ถ้าลงตามด้วยแป้งฝุ่น สบายผิวมากๆ ให้งานผิวที่ยังดูเป็นผิวอยู่ ยังมีความใสอยู่ เหมาะกับคนที่ชอบงานผิวๆ โชว์ผิวสวยๆ และสบายผิว และเค้าลองลงตามด้วยแป้งผสมรองพื้น ซึ่งทำให้ผิวกริบมากๆ แต่ความรู้สึกก็คือไม่หนักหน้าค่ะ
ความปกปิด 2.5 / 3
ปกปิดความไม่สม่ำเสมอ ความแดง ของผิวได้ค่ะ
ปกปิดรอยสิวได้ประมาณ 79%
ความคุมมัน 2 / 3
สำหรับคนผิวผสม - มันของตอง เค้าคุมมันได้กลางๆค่ะ ( ตองลงแค่แป้งฝุ่นตาม )
ผิวจะมีน้ำมันออกมาตามปกติ บริเวณจมูกจะเห็นได้ชัดเลย แต่ไม่เยิ้มแน่นอน!
ดรอปมั้ย?
มี SPF 50 PA+++ แต่ไม่ดรอปจ้าาาา รอดมาก ๆ ๆ ๆ
ติดทนมั้ย?
ถ้าอยู่ในห้องแอร์ ก็ผิวสวยยาวๆ ไปยันเย็น ถ้าอยู่ในอากาศบ้านเรา
ตองลองแล้วก็จะมีความมันมากกว่าอาจจะไม่กริบเท่าอยู่ห้องแอร์
แต่ถือว่าติดทนในระดับนึงเลยค่ะ แม้จะใช้แค่แป้งฝุ่นเซทผิวก็ตาม
-
ไหนๆ ก็ไหนแล้ว
ตองเคยใช้ตัวคุชชั่นรุ่นก่อนหน้านี้วันนี้เลยจะมาลองเทียบกันให้ดูนะคะ
Sulwhasoo
Sheer Lasting Gel Cushion & Snowise Brightening Cushion
-
เค้าจะมาลองเทียบให้ดูระหว่าง 2 รุ่นนี้นะคะ
ตองเคยลองใช้แค่ 2 รุ่นตองเลยอาจจะไม่สามารถบอกได้ว่าจากทั้งหมด
อันไหนต่างกันมากขนาดไหนนะคะ
หลังจากที่ที่เคยลองใช้ตัว Sheer Lasting
ทางแบรนด์ได้บอกเอาไว้ว่าเค้าเป็นตัวที่ ปกปิดได้รองจากคุชชั่นรุ่นแรกเลย
ซึ่งถือว่าปกปิดได้ ให้งานผิวที่โอเค คนผิวผสม - มันแบบตอง สามารถใช้ได้เลย
ไม่เซทแป้งก็ใช้ได้ แต่ตองจะชอบเซทด้วยแป้งฝุ่นมากกว่า
ฝั่งซ้าย - ลงด้วย Snowise | ฝั่งขวา - ลงด้วย Sheer Lasting
ซึ่งหลังจากลงผิวด้วยกันแดด ก็ต่อด้วยคุชชั่น ตามด้วยแป้งฝุ่นเซทผิวตามปกติ
และอยู่ถึงเย็น ด้วยอุณหภูมิปกติ
ซึ่งในวันที่ทดสอบ อากาศอบอ้าวตั้งแต่เช้า > ฝนตก > แดดออก
ช่างเป็นอากาศที่ครบมากๆ ใน 1 วัน แปรปรวนอะไรเบอร์นี้จ๊ะ
หลังจากหมดวัน ( ใช่ค่ะ เติมปากตอนเย็นจ้า ๕๕๕ )
ฝั่งซ้าย - ลงด้วย Snowise | ฝั่งขวา - ลงด้วย Sheer Lasting
ซึ่งหลังจากลงผิวด้วยกันแดด ก็ต่อด้วยคุชชั่น ตามด้วยแป้งฝุ่นเซทผิวตามปกติ
และอยู่ถึงเย็น ด้วยอุณหภูมิปกติ
: ความรู้สึกโดยรวม :
Sulwhasoo Snowise Brightening Cushion
ปกปิดได้น้อยกว่า, มีความใสมากกว่า, รู้สึกเบาสบายผิวมากกว่า,
ให้ผิวที่ดูใสด้วย ผงไข่มุก ทำให้เล่นแสง ดีงามมากๆ
ใครที่ชอบงานผิวส่องแสงได้ด้วยตัวเอง ออร่าแรงๆ ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์!
อยู่ทนทั้งวัน จากแค่เซทด้วยแป้งฝุ่น ไม่ได้ซับหน้าเลย
เบาสบายผิวตลอดทั้งวัน ไม่ดรอป ไม่เยิ้ม
ผ่านครึ่งวัน น้ำมันที่ผิวออก จะเห็นความมันชัดกว่า
อาจจะเพราะด้วยประกายไข่มุกทำให้สะท้อนให้เห็นชัดกว่า
ตั้งแต่ 10 โมงเช้า - ประมาณ 6 โมง โดยรวมประมาณ 8 ชั่วโมง น้ำมันบนผิวตองออก
เค้าทำให้ผิวสะท้อนมากกว่าเดิม แต่ถ้าถามว่า เห็นชัด จนหน้าเกลียดมั้ย?
ไม่นะคะ เหมือนมีเอฟเฟคแสงส่องลงผิวหรือปัดไฮไลท์ลงตามจุดที่สะท้อนผิวใสๆ ให้เห็น
ถ้าวันที่รูขุมขนกว้างๆ เค้าอาจจะขอลงไพร์เมอร์อุดรูก่อน
แต่วันที่ผิวกระชับนิดๆ แล้วอยากได้งานผิวสวยๆ แบบสะท้อนใสๆ แบบนี้
เค้าโอเคเลย แค่กดแป้งฝุ่นตามเท่านั้น สวยๆ ~
-
ขอบคุณทางจีบันอีกครั้งนะคะ <3
แล้วเจอกันใหม่ รีวิวหน้านะคะ
xoxo
สำหรับคนผิวผสม - มันแบบตอง สามารถใช้ได้ค่ะ เค้าให้ความปกปิดเบา - กลาง ถ้าลง 1 ชั้น ก็จะได้งานผิวที่ดูใสขึ้น สม่ำเสมอขึ้น เหมาะสำหรับ everyday look หรือใครที่ผิวสวยๆ จริงๆ แค่ 1 ชั้น ก็ถือว่าทำให้สีผิวสม่ำเสมอทั้งหน้าแล้ว ถือว่าใช้ต่อครั้งไม่เยอะ ลงเพิ่มอีก 1 ชั้นได้ ปกปิดมากขึ้น ได้ถึงกลางๆ แต่ผิวยังเบาสบายอยู่ ปิดรอยสิวชัดๆ ไม่ได้ มี SPF แต่ไม่ทำให้ผิวดรอประหว่างวัน ถือว่าผ่าน เป็นรุ่นที่เล่นแสงได้ดีมากๆ ใครชอบงานผิวที่ปกปิดได้ระดับนึง เบาสบายผิว ไม่หนักหน้า ไม่เยิ้ม และเล่นแสงเหมือนลงไฮไลท์เบาๆ ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ ส่วนตัวพอผ่านไปครึ่งวัน ความมันก็ออกเห็นได้ชัดบริเวณจมูก แต่โดยรวมถือว่าชอบ ตอบโจทย์ผิวใส ~
5.0
Discussion (13)