ชวนคุย เรื่องภาษี ไปสนามบินกี่โมงดี

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ  
จากที่เราเห็นกระทู้ก่อนหน้าเรื่องภาษีขาเข้า
และอัตราการเก็บภาษีขาเข้า
วันนี้เลยมาชวนคุยเรื่องนี้ค่ะ
ทั้งหมดเป็นการแสดงความเห็นส่วนบุคคลนะคะ

ที่เราได้ยินเสียงรอบข้างเรามา
  ได้ยินแต่เสียงบ่นด่า ถึงกฎที่ดูไม่ค่อยจะเมคเซ้นนี้เท่าไหร่ สำหรับตัวเรา สิ่งแรกที่อ่านกระทู้ภาษีและเห็นการที่ต้องไปโชว์สินค้า

คือ นี่ต้องไปสนามบินตั้งแต่กี่โมงวะเนี่ย(ไม่สุภาพขออภัยค่ะ นี่คือความคิด) 
เมื่อก่อนไปสนามบินล่วงหน้าสองชมคือสบายมากๆ  
 ปัจจุบันแค่ฝ่ารถติด  สี่ชมก็ตกเครื่องกันเยอะมาก(การจราจรก็ติดไปไหม) 
จะให้ใช้แอร์พอร์ตลิ้งค์  คือ มันก็ไม่สะดวกค่ะ เอาจริงๆ
  เดินทางทีกระเป๋าสัมภาระ ก็หลายอย่าง
 แถมสถานีก็ไม่ได้มีความต่อเนื่องกันเลยยยยย
  ต่อหลายต่อกว่าจะถึง ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าเรียกแท็กซี่ด้วยบางที อะ 

 บ่นนอกเรื่องไปหน่อย  แต่มันเกี่ยวกันนะคะ  
 เพราะถ้าเราต้องไปแสดงสินค้าก่อนออกเดินทางอีก  
 นี่ไม่ต้องย้ายไปนอนสนามบินเลยเหรอคะ
 (เราก็รู้ว่าการตรวจนั่นนี่แต่ละอย่างบ้านเราใช้เวลานานอะ)

 ยังไม่รวมที่ต้องวิ่งไปเกทที่ไกลมากๆของเรา ทานข้าวบลาๆ  
 นั่นแหละค่ะ คงต้องไปนอนสแตนบายที่สนามบิน 
เค้าบอกว่า  สินค้าที่อัตราไม่ถึงสองหมื่นก็แสดง มีหลายตัวเลย นาฬิการ้อยเก้าเก้าต้องแสดงด้วยใช่ไหม? 
แล้ว  อัตราภาษี ก็ไม่มีความเข้าใจได้ตามหลักการเลย
 คือ  เราว่า ถ้าถือชิ้นเดียวสำหรับแบรนด์เนม  มันก็โอเคไหมคะ  
 ถ้าถือกลับมาเยอะๆอันนี่คุณอาจสงสัยเอามาขาย อันนี้ยังโอเค
   (แต่ถ้ามีคนมารับ ถือได้นะ อุ๊ป ?) 

ห้ามซื้อสินค้าเกินสองหมื่น คือไปเที่ยวนะคะ
  บางทีมันก็เป็นครั้งเดียวที่เก็บเงินมา   อยากซื้อมาเก็บมาใช้ ก็ไม่ได้เลย 
ตอนนี้ลามหนักไปถึงสินค้าส่วนตัวจะถือออกไปใช้ ต้องสำแดง 
 ไม่งั้นกลับมาโดนภาษีซ้ำ โอ๊ยปวดหัว  
จะอะไรเยอะแยะอะ เราว่า  มองก็ออกไหมอะว่าหิ้วขายหรือไม่
 คุณไม่รู้จริงๆเหรอ

 ล่าสุดกับข่าว  ครีมสามเซต ราคาไม่เกินแต่ปริมาณเกินสงสัยว่าเอามาขาย 
คือ คุณคะ  สามเซตสำหรับผู้หญิงซื้อตุน
 เวลาเจอของถูก "มันเป็นเรื่องปกติค่ะ" 
ครีม  ก็เป็นอะไรที่ใช้ทุกวัน  ฝากพี่ ฝากเพื่อนก็ได้ 
  ไม่จำเป็นต้องเอามาขายเลย มันไม่เกินราคาก็โอเคไหมคะ
 แล้วแพคเกจเป็นของขวัญ มันก็สวยดี 
จะให้ไม่เอาซื้อเป็นขวดมาเหรอคะ งงในงง 
หลักการไหน ถามใครก็รู้ไหมคะ 
 หรือไปห้างช่วงเซลล์ก็จะเห็น  ซื้อตุนมันปกติค่ะ 
แต่เห็นโดนเรียกภาษี หกพัน โอ้วววว
 ถ้าจะใช้เกณฑ์สองหมื่นบาท เราก็ทำใจเนอะ 
 แม้ไปเที่ยวมีครั้งเดียว ค่าตั๋วก็แพงละไม่ได้ไปทุกวัน ก็ซื้อมาอย่าให้เกินละกันค่ะ แต่ปริมาณยังจะคุมอีก
  วันหลังก็ไปด้วยเลยละกันค่ะ   
จะได้รู้ว่าเอามาขายหรือใช้ เห้อ เพลีย

 แม้เราจะไม่ใช่สายช็อปแบบสุดๆ  
แต่การซื้อตุนหรืออะไรเราก็รู้สึกว่าปกตินะ
 ใครสายช็อป ก็เอาใจช่วยนะคะ 
แล้วเห็นว่ากฎก็ควรจะมีเหตุผลรอบรับไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาจับผิด 
  เห็นประเทศเราประเทศเดียวที่พยามจะออกกฎจับผิด
   แต่ไม่ได้มาพัฒนาระบบ หรือ บุคคลให้ทำตามกฎได้
 นั่นละค่ะ  สิ่งที่เราคิดและรู้สึก
 เพื่อนๆคิดยังไงบ้างคะ      

Discussion (11)

เฮ้อ เรื่องนี้ห่อเหี่ยวใจมาก คือมันไม่แฟร์เลยอ่ะ โอเคถ้ามันเยอะมากจริงๆ แบบของอย่างเดียว 30 กล่องก็อาจจะเข้าข่ายเอามาขาย แต่หิ้้วมาอย่างละ 5-6 กล่อง ฝากญาติฝากพี่น้องก็หมดแล้วป่ะ? ไม่ชอบที่สุดคือนอกจากกฏ 20,000 แล้วยังมาบอกว่าแล้วแต่ดุลพินิจเจ้าหน้าที่ คืออออออออ ดุลพินิจมันไม่ได้มีมาตรฐานเดียวกันไงงงงง ไม่โอเค!
ไม่อยากออกประเทศเลยตอนนี้ เห็นว่าของที่ซื้อ สั่งมาในกระเทศแบบพกติดตัวออกไป ขากลับศุลก็คิดเงินด้วย....
สำหรับเรากฏแบบนี้ไม่โอเคเลย เงินแค่ 2หมื่น ซื้อได้ไม่กี่อย่าง คือเราไม่ได้เที่ยวเมืองไทย หรือประเทศโลกที่ค่าเงินถูกกว่าเรามากๆนะคะ ขอพูดแค่กรณีเครื่องสำอางนะคะ  ไม่รวมกระเป๋า รองเท้า ของใช้อื่น อย่างเช่น  ไปอินเดีย ไปแสวงบุญ ไปเที่ยว กซื้อครีมบำรุงฮิมาลายาของอินเดียกลับมา 20-30 ชิ้น ยังไม่ถึง2หมื่นเลย ที่นั่นถูกมาก บางอันยังไม่ถึง100บาท ซื้อกลับมาฝากเพื่อนได้เยอะเลย อันนี้ซื้อไม่ครบ 2 หมื่นแต่อาจโดนปรับตามดุลพินิจของศุลกากร ซื้อเยอะ เอาไปขายหรือเปล่า แล้วกรณีไปญี่ปุ่น ค่าเงินแพงกว่า เครื่องสำอางมีเยอะหลายแบรนด์ ซื้อแค่เครื่องสำอางก็อาจจะเกิน 2 หมื่นละ อย่างเราบางที่ใช้เป็นเซ็ตๆละ3-4ชิ้น เครื่องสำอางร้านเล็กๆอีก  ยิ่งถ้าไปโซนยุโรป เอาแค่ซื้อมา1-2ชิ้นหลายๆแบรนด์ เกิน2หมื่นแน่นอน เวลาเค้าไปเที่ยวตปท.กัน ก็ต้องซื้อกลับมาเยอะอยู่แล้วค่ะ เสียค่าตั๋วไปแล้ว ไหนๆไปก็ต้องซื้อกลับมาใช้เยอะให้มันคุ้มที่ไปสิ   แล้วซื้อของจาก dutyfree เค้าก็เอามาคิดภาษีเรารวมอีกนะคะ โห บ้าไปแล้ว ศุลกากรไทย
อันนี้เห็นด้วยค่ะ ราคาของแต่ละประเทศก็ไม่เท่ากัน เราก็ไม่ได้ไปบ่อยด้วย เห้อ ได้แต่ถอนใจ