มารีชาร์จพลังงานเซลล์ผิวกับ GALACTIVATE ให้พร้อมรับการบำรุงกัน

สวัสดีค่าสาวๆ กลับมาพบกันอีกแล้ววันนี้น้ำหยิบไอเทมสกินแคร์มาให้สาวๆได้ดูกันอีกเช่นเคย ตัวนี้น้ำใช้มา 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกแฮปปี้กับนางเลยถือโอกาสหยิบมารีวิวซะเลย 


ขอเกริ่นนิดนึงว่าก่อนหน้านี้น้ำเป็นสิวอยู่ดีดี สิวก็เห่อขึ้นมา แล้วพอช่วงนี้สิวเริ่มหายพวกรูขุมขนก็กว้างและพวกรอยสิวก็ยังมีให้เห็น ผิวหน้าดูโทรมๆอีกด้วยไม่ค่อยสดใสมาก เวลาทาบำรุงอะไรก็รู้สึกเลยว่าเหมือนผิวหน้ามันไม่ค่อยรับ น้ำเลยหาตัวช่วยในการชาร์จผิว

ตัวนี้นางชื่อว่า GALACTIVATE CONCENTRATE ESSENCE SERUM หน้าตากล่องจะเป็นสีโฮโลแกรมฟรุ้งฟริ้งแบบนี้เลย 

GALACTIVATE CONCENTRATE ESSENCE SERUM 

นางเป็นเซรั่มสด เหมาะสำหรับใช้บำรุงผิวในขั้นตอนแรก คือแว๊ปแรกที่เห็นหน้าตาของนาง น้ำจะไม่ค่อยคุ้นกับอะไรแบบนี้ เข้าใจว่าเซรั่มจะเป็นในรูปแบบขวดหรือหัวดรอป แต่นี่คือนางมีเป็นขวดๆเหมือนยาและมีฝาแยกมาให้ ตอนจะใช้ก็แอบงงว่าต้องเรื่มยังไงเหมือนกันฮ่าๆๆ  

ตรงขวดนางทำมาดีมาก เพื่อป้องกันการเสื่อมของผลิตภัณฑ์ข้างใน นางทำขวดบรรจุออกมาในแบบแอมพูลแล้วก็ปิดฝาอย่างแน่นหนา เพื่อคงประสิทธิภาพของส่วนผสมที่เข้มข้นและให้ดูสดใหม่ พร้อมใช้งาน เพราะส่วนผสมแต่ละตัวของนางบอกเลยว่าคุณภาพจริงๆ เพราะนางมีส่วนประกอบหลักของสารสกัดจากกาแลตโตไมเซส “Galactomyces” ที่ได้จากกระบวนการหมักบ่มของยีสต์โดยวิธีธรรมชาติ


 ซึ่งสาวๆหลายๆคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องเล่ามือของหญิงชราที่หมักสาเกแล้วพบว่ามีความอ่อนนุ่ม ละมุน มือไม่เหี่ยว หลักๆจะอุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และวิตามินแร่ธาตุ  รวมถึงกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ทำให้ผิวอ่อนเยาว์ เนียนนุ่ม กระจ่างใส

และส่วนผสมอีกตัวก็จะเป็น Active จากจุลินชีพใต้ท้องทะเลลึก
 “Bacillus Ferment” ที่มีเรื่องเล่าว่าถูกค้นพบโดยการสำรวจวิทยาศาสตร์ทางทะเลบริเวณ Reunion Island ในมหาสมุทรอินเดีย ที่ระดับความลึก 3.4km มีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มพลังงานให้เซลล์ผิว ลดริ้วรอยและยกกระชับผิวได้เป็นอย่างดี พร้อมช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดีอีกด้วย
   
มาถึงขั้นตอนการใช้งาน 
เริ่มแรกเลยคือทำความสะอาดผิวหน้าก่อนใช้เจ้าตัว GALACTIVATE โดยปกตอน้ำจะใช้ Toner เข้าช่วยหลังล้างหน้าเพื่อเป็นการเปิดผิวให้พร้อมในการบำรุง

โดยน้ำจะเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ให้สะอาดก่อน จากนั้นก็ลง GALACTIVATE ต่อได้เลยจ้า

ข้างในกล่องนางจะมี 3 ขวด ขวดละ 10 ml น้ำว่าขวดนึงใช้ได้ประมาณ 2-3 อาทิตย์เลย เนื้อเซรั่มของนางเป็นสีขาวใสๆ ไม่มีสีไม่มีกลิ่น ตัวเซรั่มจะไม่ผสมพวกน้ำมันออลย์หรือพวกแอลกฮอล์ที่มีสารอันตรายอย่างพวกพาราเบน คนที่ผิวแพ้ง่ายที่หายกังวลกับสิ่งนี้ไปได้เลย เนื้อเซรั่มของนางน้ำว่าเป็นเนื้อที่เหลวมากๆเหมือนน้ำเปล่าเลย เนื้อเบาแบบสุดไม่หนักผิวเลย


 วิธีการใช้คือน้ำบีบเจ้าเซรั่มแค่ 3-4 หยดที่ฝามือหลงจากนั้นก็วอมเนื้อเซรั่มที่ฝามือแล้วก็ทาที่หน้าได้เลยจ้า

วิธีการใช้คือไม่ต้องถูแรงๆน๊าใช้แค่ฝามือนี่อหล่ะ tap tap เบาๆก็พอ เนื้อเซรั่มก็จะซึมเข้าสู่ผิวทันที คือเนื้อนางอะเอาจริงๆนะมีพวกรอยแผลสิวที่หน้าที่น้ำชอบไปแกะมัน (แกะสิวมันไม่ดีเด้อแต่ก็อดไม่ได้) มันไม่ได้ทำให้แสบบริเวณแผลเลย น้ำเลยสรุปเอาว่านางอ่อนโยนต่อผิวจริงๆ  

ภาพ Before/After ของน้ำให้ทุกคนสังเกตบริเวณหน้าแก้มตรงรูขุมขน คือช่วงก่อนใช้น้ำจะเป็นคล้ายผดๆที่หน้ากับรูขุมขนที่ดูกว้าง พอหลังใช้มาสังเกตตัวเองดีดีว่ามันเริ่มจางหายไป รูขุมขนดูกระชับขึ้นกว่าแต่ก่อน แถมหน้าดูเรียบเนียนขึ้นได้ชัด อย่างตรงช่วงหัวตาที่เมื่อก่อนดูลึกๆ ดูโทรมตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีให้เห็นแล้ว 

มาสรุปกัน GALACTIVATE น้ำว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว เพราะนางไม่ได้ทำให้หน้าแห้งไม่ได้ผสมพวกแอกฮอล์ และสาวหน้ามันหรือผิวผสมก็ใช้ได้เพราะไม่ผสมออยล์และไม่ได้ทำให้หน้ามันไม่ก่อให้เกิดสิว คนที่จะเหมาะกับ GALACTIVATE น้ำว่าจะเป็นสาวๆที่ต้องการเรื่องของความกระชับบนใบหน้า คนที่รูขุ่มกว้างน้ำว่าใช้ดี และอย่างที่บอกเรื่องริ้วรอยนางถือว่ามาเหนือในเรื่องนี้ 


สาวๆคนไหนสนใจก็แวะไปส่องดูกันได้ตามเว็บ/เพจของ Skinplants น้ำก็แอบไปหาส่องข้อมูลจากเฟสบุ๊คนางมา วันนี้น้ำก็ขอตัวไปก่อนแล้วไว้เจอกันใหม่ในรีวิวหน้าสวัสดีค่าาาาา 

Discussion (12)

เรามองๆอยู่เลยค่าาา ? น่าลอง
แงงง แพ้สารสะกัดตัวนี้ ไม่รอดดดด