Beauty Trend แปลกๆจากญี่ปุ่น | Mouth on The Web

ฺByojaku  

หน้าป่วยแบบจงใจ !


เมื่อไม่กี่ปีก่อน สื่อจากหลายประเทศต่างพร้อมใจนำเสนอเทรนด์จากญี่ปุ่นที่สร้างความฉงนให้กับผู้คน มันคือการแต่งหน้าให้ดูเหมือนกำลังป่วยเป็นไข้หวัด ตาและปากดูแดงก่ำ หรืออีกมุมก็เหมือนอาการภูมิแพ้  ฟังดูไม่เหมือนmakeup ที่สร้างแรงดึงดูดใจ


พวกเค้าทำแบบนั้นทำไมกันนะ ?
เมื่อไม่กี่ปีก่อน  นิตยสารแฟชั่นวัยรุ่น Ranzuki ได้กระหน่ำภาพของสาวหน้าแบ๊วทำตาแดงๆดูออดอ้อน  ทำให้ลุค "หน้าป่วย"ถึงจุดพีค
RinRin   ที่บินข้ามฟ้าจาก LAไปสร้างชื่อด้วยการเป็นนสงแบบสาย Lolita ที่ Tokyo ได้อธิบายกับ refinery29  ว่า  จริงๆแล้ว สีแดงใต้ตาไม่ได้ทำให้ดูซีดป่วยตามชื่อ แต่ยิ่งทำให้ดูสดใสอ่อนวัย  เหมือนกับว่าหน้าแดงเปล่งปลั่งจากการออกกกำลังกายหรือกำลังเขินอาย   เทรนด์นี้ยังน่ารักโดนใจสาวญี่ปุ่นเพราะดุคล้ายกับอนิเมะสุดแสนคาวาอี
 Kanako Karita    fashion blogger  ได้อธิบายเหตุผลที่เด็กสาววัยเรียนหันมาแต่งหน้าให้ผิวขาวเผือด คิ้วตกเหมือนกำลังวิตกกังวล  ใต้ตาและปากแดงๆ ว่า   พวกเค้าอยากจะสร้างลุคที่ดูบอบบางอ่อนแอจนคนอื่นอยากจะดูแลปกป้องนั่นเองค่ะ

( เรื่องผู้หญิงแอ๊บให้ตัวเองดูน่าทะนุถนอมไม่ใช่เรื่องใหม่ของสังคมญี่ปุ่นแต่อย่างใด ด้วยสังคมที่อยู่คู่กับแนวคิดอนุรักษ์นิยมมาเนิ่นนาน ผู้หญิงก็ยังมี role ที่อ่อนแอต้องพึ่งพาคนที่เข้มแข็งกว่า)
ดูแล้วก็เหมือนการ์ตูนเหมือนกันนะ





Momoko Ogihara    นางแบบญี่ปุ่นที่มี signature เป็นบลัชชมพูใต้ตา ทำให้มีคนตั้งชื่อลุคนี้ว่า Momoko blush   สร้างกระแสโด่งดังจน COVERGIRL ให้ความสนใจปล่อย  how to create  ลุคนี้ออกมาด้วย


อีกเทรนด์ที่น่าจะคล้ายคลึงกันคือ  Igari makeup


นั่นคือใบหน้าที่แต่งให้เหมือนกับว่ากำลังกรึ่มเหล้า  เป็นลุคที่จงใจแต่งให้ดูทั้งน่ารักและดูsexy  หรืออีกอย่างว่าOphero    เป็นการรวมคำ Oshare (สวยเป๊ะ) กับคำว่า Pheromone ในแบบญี่ปุ่น

อืม จะว่ายังไงดี  ตั้งชื่อว่าฟีโรโมนแบบนี้ดูเข้าทางสไตล์ที่หนุ่มญี่ปุ่นชื่นชอบ  เจอความ sexy innocent ได้ในมังงะและอนิเมะมากมายหลายเรื่อง   นางเอกดูใสๆ  แต่ก็มีความเย้ายวน  


 
Shinobu Igari    MUA คนดังแห่ง Tokyo ได้ปลุกปั้นเทรนด์นี้ขึ้นมา    จากในอดีตที่สาวๆญี่ปุ่นนิยมชมชอบการแต่งหน้าที่เน้นดวงตาให้ดูกลมโต    แต่สไตล์แบบ Igari จะเน้นผิวสวยชุ่มฉ่ำดูเป็นธรรมชาติ ทาบลัชใต้ตาและปากด้วยสีที่ใกล้เคียงกัน     ดูเมาแบบใสๆ






masuku bijin


สาวงามภายใต้หน้ากากอนามัย
หน้ากากสาวสวย  ฟังแล้วก็ทำให้คิดถึงคุณหน้ากากทักซิโด้ พระเอกเซเลอร์มูน   แต่เทรนด์นี้เกิดขึ้นจากความนิยมในการสวมหน้ากากอนามัยของชาวญี่ปุ่น   ซึ่งเราเพิ่งจะได้ทราบเมื่อไม่กี่ปีมานี้ว่านอกจากจะใส่กันเพราะสุขอนามัยเรื่องการป้องกันโรคติดต่อและฝุ่นละอองเกสรดอกไม้  มันยังมีเรื่องราวของความสวยงามอยู่ด้วย    
ถึงขนาดว่ามีคนนำเสนอ how to แต่งตาให้เหมาะกับการใส่หน้ากากซะด้วย

และหนึ่งในเหตุผลที่สาวๆญี่ปุ่นเลือกใส่หน้ากากออกจากบ้านเป็นประจำนั้น เป็นเพราะมันคือไปเท็มช่วยสร้างความมั่นใจ คล้ายๆกับการสวมแว่นตากันแดดที่หลายคนใส่แล้วรู้สึกว่าตัวเองดูดีขึ้น เมื่อลองฟังการบรรยายประโยชน์ของหน้ากากในแง่ของความงามแล้วเราก็รู้สึกเหมือนเปิดโลกใหม่ wow! มันดีขนาดนั้นจริงๆ รึ ?




สาวญี่ปุ่นหลายคนจะรู้สึกว่าตัวเองน่ารักขึ้นเมื่อได้สวมหน้ากาก เอ๊ะ ทำไมมันย้อนแย้ง ปิดหน้าไปแล้วครึ่งนึง แต่น่ารักมากขึ้น มันเป็นยังไงกัน

มาค่ะ จะเล่าให้ฟัง


ก่อนหน้านี้ เราคิดเสมอว่าคนญี่ปุ่นเลือกใช้หน้ากากอนามัยในแง่ของ fashion เพราะต้องการจะปกปิดใบหน้าในวันที่ดูไม่เป๊ะ ไม่ต่างอะไรกับเวเลบที่ใส่แว่รกันแดดอันโตตอนที่เดินอยู่ในสนามบินเพราะทั้งอดนอนและไม่ได้แต่งหน้าตา หน้าปากจะช่วยอำพรางรอยสิ้วริ้วรอยและจุดบกพร่องอื่นๆที่ทำให้เสียความมั่นใจ


แต่มีคนไทยที่ใช้ชีวิตในญี่ปุ่นได้เปิดโลกใหม่ให้เราได้รู้ว่า  พอได้ใส่หน้ากากแล้วสาวญี่ปุ่นหลายคนรู้สึกว่าตัวเองน่ารักขึ้น ถึงแม้จะไม่ใช่ฤดูใบไม้ผลิหรือป่วยไข้ก็ขาดหน้ากากไม่ได้     ส่วนตาก็แต่งซะสวยพริ้งจนกลายเป็นสาวงามในหน้ากากไปเลย

เราเคยชมรายการสำรวจความคิดเห็นผู้คนจากญี่ปุ่นที่ขอให้สาวๆเปิดเผยหน้าตาใต้หน้ากาก   คนที่มั่นใจว่าตัวเองน่ารักก็จะถอดแบบอายๆ  พิธีกรทางห้องส่งขอส่งเสียงชม คาวาอีๆๆ  แต่หลายคนก็รีบ say no ไม่ยอมให้คนทางบ้านได้เห็นหน้าออกอากาศ

คุณประโยชน์ที่โดนใจชาวญี่ปุ่นทำให้บริษัทต่างๆพัฒนาหน้ากากเพื่อกระตุ้นย้อนขายให้เปรี้ยงปร้าง   หนึ่งในนั้นคือการปั้นเทรนด์  date masuku  หรือหน้ากากที่ใส่แล้วทำให้คนอื่นมองเห็นว่าหน้าดูเรียว  ดังที่พวกเราทราบกันดีอยู่แล้วค่ะว่าคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับใบหน้าเล็กๆมาก   ใครที่กังวลว่าตัวเองหน้ากลมแป้นก็ใช้หน้ากากที่มีรูปทรงหลอกตาว่าเหมือนมีคางยาวเรียว


เราคาดไว้อยู่แล้วค่ะว่าจะต้องมี How to แต่งตายังไงให้ดูสวยปิ๊งสุดๆตอนใส่หน้ากาก  ญี่ปุ่นก็คือญี่ปุ่น!
แน่นอนค่ะว่าจะมีหน้ากากที่ตอบโจทย์ดินแดนแห่งeverything is cute      (ส่วนตัวแล้ว เรามองว่าการใส่หน้ากากที่แบ๊วขนาดนี้ต้องมีความกล้ามากเหมือนกันนะ!)




Tsuke Yaeba


ทำเขี้ยวให้ดูน่ารักใสๆ

เมื่อหลายปีก่อน  ในหมู่วัยรุ่นที่เชื่อว่าฟ้นซ้อนที่เกออกมาชัดเจนทำให้ดูเป็นสาวน่ารักซุกซน และตบเท้าเข้าคลีนิคทันตกรรมเพื่อทำเขี้ยวจนเทรนด์นี้บูมสุดๆ    เซเลบหลายคนได้ผ่าน phase มีเขี้ยวกันมาแล้วค่ะ    (จากลักษณะพันธุกรรมที่ทำให้คนญี่ปุ่นจำนวนมากฟันไม่เรียงตัวเป็นระเบียบ)  แต่เมื่อพ้นช่วงวัยรุ่นไป  พวกเค้าก็ดัดฟันเรียงตัวสวยกันถ้วนหน้า   แต่สำหรับคนทั่วไปก็รับได้กับเรื่องฟันซ้อนพวกนี้เพราะค่าใช้จ่ายในการจัดฟันสูงมากทีเดียว       แตกต่างจากการทำเขี้ยวที่มีราคาน้อยกว่าหลายเท่า
เทรนด์นี้เคยได้รับความนิยมสูงมากจนมีหนังสือ "สาวมีเขี้ยว"วางขายซะด้วย
 Yasutaka Maekawa  ผู้ประพันธ์หนังสือเล่มนี้อธิบายว่า   หลายคนปลื้มสาวมีเขียวก็มาจากแนวคิดดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นคือ wabi-sabi คือการเห็นความงดงามของสิ่งที่ไม่ perfect นั่นเองค่ะ    (เราชอบแนวคิดนี้จัง)



namida-bukuro 


ตาตุ่ยที่แสนน่ารัก

คุณผู้อ่านคงเห็นเทรนด์ Aegyo-Sal ที่อินกันมากจากเกาหลี คนไทยทั้งแต่ตามและเรียกเป็นภาษาเกาหลีจนติดปาก แต่ที่ญี่ป่นนั้นอินกันมายาวนานหลายปี  namidabukuro นี้มีความหมายว่าถุงน้ำตา ความนิยมในเทรนด์นี้ไม่ต่างจากคนเกาหลีที่เชื่อว่าแต่งตาตุ่ยแล้วจะทำให้ดูใสแบ๊วอ่อนวัยกว่าเดิมค่ะ



Shisedo ได้นำชี้ว่า  เทรนด์นี้ดังตั้งแต่ 8 ปีที่แล้วค่ะ     เมื่อลองสำรวจการแต่งหน้าของ beauty  blogger และ คนดังญี่ปุ่นก็จะพบว่ายังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง
ช่วงหนึ่ง ชาวเน็ทจะฮิตแชร์ภาพเซเลบที่ถูกรีทัชเอาถุงใต้ตาออกเพื่อพิสูจน์ว่า  ใต้ตาที่เรียบเนียนนั้นดูไม่น่ารักเท่ากับ tear bag

ลองเอาคำว่า 涙袋ไป search บน youtube สิคะ how to ทำ tear bag ขึ้นมาพรึ่บเลย

เราเคยคิดมาตลอดว่า การแต่งตาตุ่ยนั้นใช้makeup เท่านั้น แต่vlogger รายนี้ได้แสดงให้เห็นว่า กว่าจะตุ่ยได้ใจก็ต้องมีอุปกรณือย่างเทปแปะใต้ตามาช่วยด้วย!



beauty blogger หนุ่มที่โชว์วิธีการนวดหน้าที่ทำสร้าง namida bukuro ได้ด้วยตัวเอง และมียอดชมเกินล้าน
ส่วนคลีนิคศัลยกรรมญี่ปุ่นก็ได้นำเสนอการฉีด hyaluronic acid  บริเวณใต้ตาเพื่อให้ได้ถุงใต้ตามี่ผู้ใช้บริการใฝ่ฝันโดยไม่ต้องเปลืองเวลาแปะเทปหรือนวดหน้า



ในกล่องcomment ใต้วีดีโอสอนแต่งหน้าตาตุ่ยก็มักจะมีชาวต่างประเทศเข้ามาถามอย่างงงงันว่า เหตุใดผู้หญิงเอเชียนจึงอยากจะมีถุงใต้ตากันมากจนต้องใช้เทปแปะและใช้สารพัดเทคนิคเพื่อเน้นให้ถุงใต้ตาดูโดดเด่นขึ้นมา เพราะในตะวันตก การมีถุงใต้ตานั้นเป็นสัญญาณแห่งความเหนื่อยล้าและการพักผ่อนไม่เพียงพอ

ดังเช่น Lindsey Smith    blogger สาวที่ใช้ลูกกลิ้งหยกนวดหน้าลดอาการบวมใต้ตา   
ชาวเน็ทจากญี่ปุ่นจึงมาไขข้อสงสัยว่า  ถุงใต้ตาที่พวกเค้าชื่นชอบไม่ได้มีความหมองคล้ำและหย่อนยานเหมือนคนอดหลับอดนอน  แต่ช่วยทำให้หน้าดูไบรท์และตาก็ดูโตขึ้นเยอะ  



อย่างไรก็ตาม   ถุงใต้ตาที่ดู "เยอะ"และ"ชัด"มากๆก็อาจจะเรียกเสียงวิจารณ์ในแง่ลบได้เหมือนกันค่ะ  อย่าง Miyuki Watanabe   อดีตสมาชิก NMB48  ที่มีข่าวลือว่าเธอฉีดใต้ตาเพิ่มและมันดูบวมเกิน  ทั้งๆที่ก่อนหน้า เธอดูน่ารักมากอยู่แล้ว




แล้วคุณล่ะคะ เคยลองเทรนด์เหล่านี้บ้างรึยัง ?






The End

Discussion (13)

คล้ายๆตอนดูdramaเกาหลีแล้วตอนพระเอกนางเอกยืนกลางหิมะทะเลาะกันแล้วขอบตาจะแดงๆมีน้ำตาคลอหน่วยอยู่ป่ะคะ เราว่าจังหวะนั้นพวกนางดูมีเสน่ห์ขึ้นมาก 55555 ดูบอบบางดูกำลังเศร้า มีความน่าสงสารน่าเอ็นดูดี ญี่ปุ่นอาจคิดแบบนี้
นี่ก็ชอบใส่หน้ากากออกบ้านเหมือนกันค่ะ 5555555 แต่ส่วนใหญ่ก็จะใส่วันที่ขี้เกียจแต่งหน้า
ปัดแก้มเหมือนคนเมา สร้างถุงใต้ตา สร้างเขี้ยว พอรับได้ แต่แต่งหน้าสร้างความน่ารักเมื่อใส่หน้ากากอนามัยนี่สิ มันดูแปลกๆ