[แชร์] ประสบการณ์เลเซอร์สิวหินครั้งที่ 5 #ฉบับพลีชีพ
Duangkaew Kemmanunsopon3812Hello สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวจีบันทุกคนน (>_<)
วันนี้ฤกษ์งามยามดีจูนจะขอมาแชร์ประสบการณ์การไปทำเลเซอร์สิวหินครั้งที่5 ของจูน ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าจูนเป็นคนนึงที่มีสิวหินเยอะมากๆๆ บริเวณใต้ตาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเลย แล้วทีนี้จูนก็ได้ไปลองหาข้อมูลคนที่เขาไปทำเลเซอร์มาซึ่งมันน่ากลัวเอาเรื่องอยู่นะสำหรับจูน พอเห็นรูปหลังทำแล้วก็ท้อแท้และไม่ได้คิดจะไปเลเซอร์เลย จนมาอ่านเจอคนที่เขาไปเลเซอร์มาแล้วบอกว่าถ้าปล่อยทิ้งไว้นานรากมันจะลึกต้องไปเลเซอร์ซ้ำหลายรอบมากๆ เลยตัดสินใจทำเลยทันที บวกกับยิ่งปล่อยไว้นานจูนรู้สึกว่าสิวที่ใต้ตามันเพิ่มขึ้นจนทำให้แต่งหน้ายาก เพราะผิวบริเวณใต้ตาจูนมันจะไม่เรียบเหมือนคนอื่น คนที่อยู่ใกล้จะค่อนข้างสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่ามันเด่นมากก ก็เลยลองตัดสินใจทำดูและอยากจะมาแชร์เพราะจูนคิดว่ามันเป็นอะไรที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิด และผลลัพธ์ที่ได้หลังจากทำมา 5 ครั้งแล้วบอกเลยว่าพอใจมาก และมันก็ขึ้นน้อยลงกว่าเดิมเยอะมากๆค่ะ^^
ผลลัพธ์ก่อนและหลังทำครั้งที่ 5 (เมื่อก่อนคือมีเยอะกว่านี้แต่หารูปชัดๆไม่เจอต้องขออภัยด้วยครัชTT) เชื่อว่าต้องมีหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าสิวหินคืออะไรหรือว่ามันเป็นแล้วมันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่วันนี้จูนเลยไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติมค่ะ^_^
Q. ทำไมถึงเป็นสิวหิน แล้วสิวหินเกิดจากอะไร??
A. คำตอบคือสิวหินนั้นมีสาเหตุมาจากผิวหนังผลิตเซลล์ต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังมากเกินไปจนเกิดการอุดตันรูขุมขนใต้ชั้นผิวหนังที่ค่อนข้างลึกจึงทำให้กดออกไม่ได้นั่นเอง โดยสาเหตุที่เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เซลล์ของต่อมเหงื่อผลิตมากขึ้นจนเกิดสิวหิน ได้แก่ พันธุกรรม ซึ่งเป็นสาเหตุหลักโดยอาจสังเกตได้ว่าหากใครคนหนึ่งในครอบครัวเป็นสิวหิน คนอื่นๆ ก็มักจะมีสิวหินด้วยเช่นกัน ผู้ป่วยโรคเบาหวานก็มีโอกาสง่ายเช่นกัน หรืออาจมีสาเหตุมาจากเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของคอลลาเจน เช่น Marfan’s syndrome, Ehler-Danlos syndrome เป็นต้น
- ช่วงก่อนและหลังทำเลเซอร์ -
ตอนที่ก่อนจะทำเลเซอร์พี่พนักงานเขาจะแปะยาชาให้และทิ้งไว้ประมาณ 40 - 60 นาที ขั้นตอนนี้คือชิลๆ ไม่มีเจ็บไม่มีปวดจะแค่รู้สึกเย็นๆบริเวณที่แปะ นอนรอไปสักพักพอครบเวลาปุ๊ปพี่เขาจะเข้ามาเอาสำลีเช็ดเอายาชาออกให้ หลังจากนั้นคุณหมอก็จะมาดูสิวบริเวณใต้ตาที่เราจะทำการเลเซอร์ออก ซึ่งบางเม็ดมันอาจจะอยู่ใกล้ตามากๆ จนคุณหมออาจจะขอไม่ทำให้ แต่เป็นบางที่ที่จูนทำเท่านั้นนะ แต่พอจูนมาอีกที่คือคุณหมอเขาเลเซอร์ออกให้หมดเลยย เกลี้ยงมาก5555 ระหว่างที่ทำไม่ได้รู้สึกเจ็บกว่าที่คิดไว้ คือรู้สึกว่ามีอะไรมาจี้ๆแค่นั้น และเราก็จะได้กลิ่นผิวเราไหม้ด้วย ซึ่งถ้าคนที่เคยทำเลเซอร์รักแร้น่าจะคุ้ยเคยดี อิอิ พอคุณหมอเลเซอร์เสร็จเรียบร้อยแขาก็จะให้เราดูกระจกว่ามีจุดไหนที่อยากให้เลเซอร์เพิ่มอีกไหม ถ้าไม่มีก็เป็นอันเสร็จค่า หลังทำเสร็จถ้าถามว่าเจ็บไหม?? สำหรับจูนคือไม่เจ็บนะแต่แค่จะแสบๆแผลนิดหน่อยเท่านั้นค่ะ
การเตรียมตัวหลังทำเลเซอร์เสร็จคือห้ามให้แผลโดนน้ำ 24 ชั่วโมงค่ะ ถ้าใครที่อยากจะมาทำแนะนำว่าให้ทำวันเสาร์จะดีที่สุดเพราะวันอาทิตย์จะได้ว่างชิลๆ พอครบ 24 ชั่วโมงก็สามารถล้างหน้าได้ปกติ แต่ควรรีบซับให้แห้งทันทีค่ะ
ภาพวันที่ 2 หลังจากตื่นนอนมา555 บริเวณแผลที่เลเซอร์เริ่มมีตกสะเก็ดให้เห็นบ้างแล้ว พยายามอย่าไปทำให้พวกสะเก็ดแผลมันหลุดนะ เพราะแผลจะยิ่งหายช้าค่ะ ช่วงนี้คือทาเจลว่านหางโบกไปเลย และจูนก็งดแต่งหน้าด้วยเพราะอยากให้แผลหายสนิทจริงๆ
มาต่อกันวันที่ 3 กันเลยย จะเห็นได้ว่าแผลที่ตกสะเก็ดไปเมื่อวานเริ่มแห้งและมีหลุดไปบ้างแล้ว และในช่วงนี้จูนก็จะทาพวกครีมลดรอยแผลเป็นไปด้วยค่ะ
ในวันที่ 4 รู้สึกว่าแผลจะเริ่มแห้งสนิทเกือบทั้งหมดแล้ว บริเวณที่ตกสะเก็ดแล้วหลุดออกไปคือผิวเรียบขึ้นมีเหลือรอยนิดหน่อยในระหว่างนี้ต้องใช้ยาลดรอยช่วยไปเรื่อยๆ
มาต่อกันในวันที่ 5 วันนี้ตื่นมารู้สึกว่าแผลแทบจะหายไปเกือบจะทั้งหมด เหลืออีกไม่กี่จุดที่ยังมีตกสะเก็ดให้เห็นอยู่ พวกรอยที่เมื่อวานยังเห็นอยู่ก็เริ่มจางลงไปแล้วค่ะ
มาถึงวันที่ 6 ซึ่งเป็นรูปที่จูนถ่ายเมื่อเช้านี้เลยสดๆร้อนๆ พวกแผลที่ตกสะเก็ดเหลือแค่ 1-2 เม็ด ส่วนรอยที่เหลือจากการที่แผลหลุดออกไปเริ่มจางลงอย่างต่อเนื่อง มองผ่านๆก็คือแทบไม่เห็นรอยแล้ว ดีใจมากกก จะได้แต่งหน้าแล้ว5555
ส่วนอันนี้คือเจลว่านหางกับยาลดรอยแผลเป็นที่จูนใช้ควบคู่กันตลอดที่ทำมา 5 ครั้ง ยิ่งหลอดเล็กๆของ Dermatix นะจูนไม่คิดว่ามันจะใช้ได้นานขนาดนี้เลยเพราะจูนได้มาตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปทำเลเซอร์จนวันนี้ทำมาครั้งที่ 5 แล้วมันก็ยังเหลืออยู่5555 แต่ราคาก็เอาเรื่องอยู่นะแต่ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้คือดีย์งามพระรามแปด
เอาล่ะก็จบกันไปแล้วสำหรับการรีวิวแบบพลีชีพหน้าสดที่แท้ทรู>_<!! จูนแอบหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมีปัญหาเดียวกับจูนนะคะ หรือถ้ามีใครที่กำลังคิดตัดสินใจอยู่ว่าจะไปทำดีไหม? ซึ่งเอาจริงๆจูนว่ามันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลยค่ะ อยากให้ลองไปทำดูสักครั้งถ้าคิดว่าสิวหินที่เป็นอยู่มันรู้สึกเยอะเกินไปหรือน่ารำคาญ เพราะพอหลังทำครั้งแรกหลังจากแผลหายสนิทจะรู้สึกเลยว่าผิวบริเวณใต้ตามันเรียบขึ้นมากๆ และถ้าถามว่าทำแล้วมันจะมีโอกาสขึ้นอีกไหม? จูนขอตอบตรงๆเลยว่ามีค่ะ แต่หลังจากที่จูนทำมาหลายครั้งแล้ว สิ่งที่รู้สึกได้เลยคือมันน้อยลงขึ้นทุกครั้งที่ทำค่ะ^^
ลืมบอกราคาที่จูนทำเลย ของจูนทำแบบเหมา 2 ครั้ง จะอยู่ที่ราคา 5,000 บาทค่ะ ซึ่งความจริงแล้วราคาแต่ละที่จะไม่เท่ากัน อาจต้องลองหาข้อมูลเพิ่มในส่วนนี้ด้วยน้า บางคนเป็นน้อยอาจจะไม่ต้องทำเยอะเหมือนจูนก็ได้ค่ะ
สำหรับวันนี้จูนต้องขอตัวลาไปก่อน
ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้าน้า บ๊ายบายยxoxo
Discussion (12)