ช่วยนู๋ด้วยคร่า (Banzec)

คือว่า นู๋ได้ลองใช้ BANZAC 5 % มาแร้วประมาณ 1 อาทิตย์อ่ะคะ

แร้วรู้สึกว่าสิวอุดตันบางเม็ด กลายเป็นหัวดำ ๆ แต่ว่าบางเม็ดมันกลายพันธุ์ค่ะ

กลายจากสิวอุดตันเป็นสิวอักเสบ ตอนนี้อักเสบไปแร้ว 3 เม็ด ค่ะ

อยากถามพี่ ๆ ที่เคยใช้อ่ะคะ ว่า

มันเป็นอาการอย่างนี้เรียกว่าแพ้ หรือว่า เป็นปกติค่ะ เพราะรู้สึกว่า พอให้แร้วสิวอุดตันที่เคยเล็กเหมือนจะมีความเด่นชัดมากขึ้น  (คือว่าเป็นคนมีสิวอุดตันอยู่แร้วอ่ะค่ะ)
แร้วนู๋จะจัดการยังไงดีกับ สิวอุดตันหัวดำ ๆ กับ สิวอักเสบดีค่ะ


ขอบคุนล่วงหน้าค่ะ

Discussion (4)

ขอบคุนมาก ๆ ค่ะ ทุก ๆ ความคิดเห็นเลยคร่า

ก๊อปข้อมูลคุณฝน fonkan มาให้อ่าน ข้อมูล BP หลักการทำงาน หน้าที่หลักคือจะไปฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.acne ทำให้ไม่ไปรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วกับไขมัน ทำให้สามารถรักษาและป้องกันสิวอักเสบ สิวหนองได้ และสามารถทำให้หน้าแห้งขึ้นได้เพราะ BP มีประสิทธิภาพในการละลายและฟอกเอาไขมันบนผิวหน้าออกไป ใครที่ใช้อยู่ให้ลองสังเกตุผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนจะขาวไปด้วย เพราะเจ้า BP นี่ฟอกหมด และหน้าเราก็จะขาวขึ้นด้วยเหมือนกัน และก็ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวให้หลุดออกไปง่ายขึ้น คุณสมบัติพวกนี้เมื่อใช้ BP แล้วจึงทำให้หน้าบางลง เวลาถูกแดดอาจทำให้ผิวหน้าแดง BP ที่ได้รับการยอมรับแล้วว่าได้ผลดีที่สุดคือ 2.5% ในท้องตลาดจะมี 2.5,5,10% (ตอนแรกผมก็คิดว่ามากๆไว้ก่อนนะ) เพราะเปอร์เซนต์ที่มากไปจะทำให้หน้าระคายเคืองและสิวเพิ่มมากขึ้นในที่สุด ข้อแตกต่างระหว่าง BP ที่ใช้น้ำกับแอลกอฮอลล์เป็นตัวพา คือ แอลกอฮอลล์จะซึมเข้าสู่ผิวเร็วและซึมได้ดีกว่าน้ำ แต่มีโอกาสที่จะระคายเคืองมากกว่าน้ำ ซึ่งจะทำให้เป็นผื่น แดงและระคายเคืองได้ง่ายกว่าที่ใช้น้ำเป็นตัวพา ถ้าไม่เคยใช้มาก่อนแนะนำให้เริ่มจากเบสที่ใช้น้ำก่อนนะจ๊ะ วิธีใช้ ปกติผิวหน้าเราจะค่อยๆปรับตัวกับของที่เราทาลงไปบนหน้า เริ่มต้นอาจจะยังรับไม่ได้ โดยอาจเกิดอาการผื่นขึ้น แดง แสบ ให้เราเริ่มจากทาก่อนล้างหน้า โดยเริ่มจากเวลาน้อยๆก่อนแล้วล้างออก และค่อยๆเพิ่มเวลาเข้าไป จนถึง 1 ชั่วโมง ถ้าหน้ารับได้ก็สามารถทาหลังล้างหน้าได้เลย ข้อดี 1. สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวได้ 2. ผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกเพื่อไม่ทำให้ไปอุดตันรูขุมขน ข้อควรระวัง - ไม่ควรใช้ยานี้ร่วมกับ Erythromycinข้อมูลจาก www.drugs.com/clindamycin.html - ยานี้เป็นยาใช้เพื่อการรักษา ควรแต้มเฉพาะบริเวณที่อักเสบ - อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ข้อเสีย 1. ทำให้หน้าถูกแสงแดดได้น้อยลง SPF ในบริเวณที่ทาจะลดลง 2. อาจทำให้เกิดการระคายเคือง แดง แสบ ควรทาในบริเวณน้อยๆก่อน ------------------------------------------------ สาเหตุการเกิดสิวอุดตัน 1. ต่อมไขมัน Sebaceous สร้างไขมันมากเกินไป โดยอาจเกิดจากสาเหตุฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจน ชนิด Testosterone ซึ่งควบคุมการเจริญเติบโตและการสร้างไขมัน( Sebum) สูงมากกว่าปกติแล้วไขมันเกิดจากอุดตันในท่อไขมันที่ระบายไขมัน ออกสู่ผิวหนังด้านนอก อันนำมาซึ่งปัญหาสิวอุดตัน 2. ปัญหาผิวแพ้ง่าย( Sensitive skin) มักพบเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้บ่อยเช่นกัน 3. ความผิดปกติของการลอกผิวในท่อขุมขนเอง( follicular lumen) แล้วทำให้เกิดการอุดตัน 4. สิวจากเครื่องสำอาง( Acne cosmetica) มักเกิดจากการใช้เครื่องสำอางบางชนิด แล้วเกิดอาการแพ้ 5. สิวจากสเตียรอยด์ มักเกิดในผู้ที่ใช้ครีมทาที่ผสมสเตียรอยด์ ในการรักษาผิวแพ้ หรือรับประทานยา Prednislone เป็นประจำ เช่นผู้ป่วยโรคไต Nephrotic syndrome หรือ SLE 6. ความเครียด 7. ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เช่น ในภาวะใกล้หรือหมดประจำเดือน ประเภทของสิวอุดตัน ประเภทของสิวอุดตัน(สิวไม่อักเสบ) แบ่งเป็น 1. สิวหัวขาว หรือสิวหัวปิด 2. สิวหัวดำ หรือสิวหัวเปิด 3.สิวสเตียรอยด์ ผลข้างเคียงจากการเกิดสิวอุดตัน มักเกิดจากการพยายามแกะ แคะ บีบเพื่อให้สิวอุดตันหลุด และขาดความชำนาญในการกดสิว มักพบได้บ่อยคือ 1. รอยดำจากสิว 2. รอยหลุมจากสิว หรือ Icepick-scar 3. สิวอุดตันเกิดมากขึ้น เนื่องจากการกดหรือบีบแล้วทำให้ท่อไขมันบริเวณข้างเคียงเกิดอุดตัน จากการบาดเจ็บ( trauma) การป้องกันการเกิดสิวอุดตัน แนวทางการปฏิบัติสำหรับการป้องกันการเกิดสิวอุดตัน มีหลักการคือ พยายามอย่าให้ผิวมัน และการกระทบกระเทือนต่อท่อหรือต่อมไขมัน ดังนี้ 1.ผลิตภํณฑ์ล้างหน้า เช่น สบู่ เจล ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวมันและมีตัวยาป้องกันการเกิดสิว 2. เครื่องสำอาง ไม่ควรมีส่วนผสมของน้ำหอม สารดีเทอร์เจ้นท์ 3. หลีกเลี่ยงการเช็ดหน้า หรือ นวดหน้าแรงๆ 4. หน้ามันมาก อาจต้องใช้โลชั่นเช็ดหน้า หรือใช้ยารับประทานกลุ่ม Retionoids หรือ ยาคุมกำเนิดกลุ่ม Dian-35 เพื่อลดหน้ามัน 5. เลือกครีมกันแดด SPF ประมาณ 15 เพื่อป้องกันความมันของเนื้อครีม 6. ครีมบำรุง เลือกที่ไม่มีส่วนผสมของ น้ำมัน และไม่ควรมัน ไม่มีฮอร์โมนผสมในครีมบำรุง 7. ครีมแก้แพ้ หรือ สบู่ล้างหน้าสำหรับผิวแพ้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผิวแพ้ง่าย( Sensitive skin) 8. งดอาหารที่ทำให้เกิดสิวง่าย เช่น อาหารมัน อาหารรสจัด ทุเรียน ขนมหวาน ไอสครีม 9. พักผ่อนให้เพียงพอ 10. ไม่เครียด 11. ห้ามกด หรือ บีบสิวเอง กรณีที่เกิดสิว การรักษาสิวอุดตัน 1. ครีมทาสิวอุดตัน กลุ่ม Tretinoin( Retin-A) เป็นยาที่เหมาะสมและใช้กันแพร่หลาย มีความเข้มข้นแตกต่างกัน ตั้งแต่ 0.025-0.1% อาจอยู่ในรูปของครีม เจล หรือน้ำ โดยพบว่ายิ่งความเข้มข้นสูงยิ่งละลายสิวอุดตันได้ดี แต่ก็จะระคายเคืองผิวหน้า และทำให้ผิวหน้าแห้งเป็นขุยถ้าความเข้มข้นสูง แต่การละลายเคืองอาจน้อยลง ถ้าล้างหน้าก่อนทายา 10-15 นาที 2. ยารับประทานกลุ่ม retinoids เช่น Roaccutane,Isotretionoin ช่วยลดปัญหาผิวมัน และละลายสิวอุดตันได้ดี ทั้งที่ใบหน้าและสิวตามลำตัว 3. ยาลอกขุย (Keratolytic agents) และยาทำให้ผิวแห้ง เช่น Salicylic acid,Resorcinol,Sulphur,Aluminium oxide มักช่วยลอกขุย และทำให้สิวแห้งและหลุดออกมักใช้เป็นส่วนผสมของแป้งน้ำทาสิว( acne lotions) 4. การกดสิวอุดตัน ควรทำโดยผู้ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น 5. การทำ Peeling ด้วย 30-50% TCA,PHA จะช่วยทำให้ผิวหน้าแห้งลงผนังสิวบางลง ทำให้สิวอุดตันฝ่อตัว และหลุดออกได้ง่าย 6. การทำ Iontophresis มักใช้ร่วมกับยากลุ่ม Tretionoin เพื่อช่วยผลักยาให้ซึมลงลึกไปละลายสิวอุดตันได้ดีกว่า การทายาปกติ

คือเราเคยแพ้เบนเซคนะ แต่อาการไม่ใช่อย่างนี้อ่ะ
คือเราจะเปนผื่นทั้งหน้าเลย คล้ายสิวผด แล้วก้อคันนิดๆ

ตอนนี้หยุดใช้ไปแล้วจ๊ะ
หมอบอกว่าเบนเซคอ่ะใช้ดี แต่ผิวแพ้ง่ายไม่เหมาะกับเบนเซตจ้า

เราใช้Banzec ก่อนล้างหน้า ส่วนก่อนนอนทา Differin แล้วปิดไฟนอนเลย พยายามเลี่ยงไม่ให้โดนแดดด้วย ใช้ Physio gel ล้างหน้าแทนโฟมล้างหน้า