ค่า SPF บอกอะไรคุณ??

คือพวกครีมบำรุง, ครีมกันแดดมันก็จะมีค่า SPFต่างๆใช่มั้ยคะ
แล้วโป้ยก็รู้ว่าSPFค่าสูงๆดีกว่าค่าต่ำๆ แล้วราคาก็จะสูงตามไปด้วย
แต่ไม่รู้ว่ามันดีกว่ายังไงคะ
มันช่วยป้องกันแดดได้ดีขึ้นยังไงคะ
หรือว่ามันจะกันแดดได้นานกว่า
หรือยังไงคะ

ตอนนี้กำลังตัดสินใจจะซื้อครีมกันแดดค่ะ
แล้วก็ลังเลระหว่างSPF30 กับ SPF50
ก็เลยอยากรู้ว่าแบบSPF50เนี่ยมันดีกว่ายังไงคะ
ช่วยตอบด้วยค่ะ

Discussion (9)

wowww!! สุดยอดค่ะ ความรู้ยอดมากกก ขอบคุณค่ะ*

สุดท้ายแล้วค่ะ (ไม่รู้ยังมีคนอ่านอยู่เปล่า ^^")

สรุปแล้วการเลือกครีมกันแดด จึงไม่ควรพิจารณาจากค่า SPF เพียงอย่างเดียวค่ะ เพราะเป็นค่าที่บอกความสามารถในการป้องกัน UV-B เท่านั้นตามที่ได้อธิบายไปข้างต้น
การเลือกครีมกันแดดจึงควรพิจารณาดังนี้ค่ะ
1. ส่วนผสม ว่าสามารถป้องกัน UV ได้ทั้ง 2 ประเภท
2. กันน้ำกันเหงื่อได้ (waterproof/ water-resistance)
อะไรคือ waterproof และ water-resistant -- ข้อมูลจาก http://www.thaicosderm.org/public-info/sunscreen.htm
waterproof คือครีมกันแดดที่ยังคงสภาพSPF ที่กำหนด หลังจากทาครีมนี้ และอยู่ในนํ้าเป็นเวลา 80 นาที
water-resistant คือครีมกันแดดที่ยังคงสภาพSPF ที่กำหนด หลังจากทาครีมนี้ และอยู่ในนํ้าเป็นเวลา 40 นาที
3. กิจกรรมที่ทำ เช่น ทำงานในออฟฟิศ เล่นกีฬากลางแจ้ง ว่ายน้ำ แต่ละกิจกรรมมีความต้องการครีมกันแดดไม่เท่ากัน (อย่างที่คุณ fonkan ยกตัวอย่างไว้ใน reply แรก ชัดเจนมากๆค่ะ)

ครีมกันแดดที่มี spf สูงๆ บางครั้งก็เกินความจำเป็นค่ะ นอกจากจะแพงมากแล้ว ยังมีความเข้มข้นของสารเคมีต่างๆค่อนข้างมากทำให้เสี่ยงต่ออาการแพ้หรือระคายเคืองด้วยนะคะ

แอบเสริมเรื่องสุดท้ายค่ะ เกี่ยวกับสภาพผิวและประเภทของผิว
คนในโลกเราแบ่งง่ายๆตามชาติพันธุ์ต่างๆได้ตามนี้ค่ะ
1. คนผิวเผือก - ผิวขาว : เช่นชาวยุโรปเหนือ พวกนี้โดนแดดแล้วผิวจะไม่ค่อยแทน(ไม่คล้ำ)ค่ะ แต่จะผิวไหม้ง่ายมาก เราเลยเห็นดาราฝรั่งบางคนข๊าววววขาววว เค้าไม่ใช่ไม่โดนแดดนะคะ โดนค่ะแต่ไม่ค่อยคล้ำขึ้นเท่านั้นเอง ต้องใช้พวก suntan ช่วยให้ผิวแทน
พวกนี้ล่ะค่ะที่ควรจะใช้กันแดด spf สูงๆ เพราะผิวเค้าไหม้ง่ายกว่าคนไทยเรามาก
2. ผิวเหลือง - น้ำตาล : เช่นจีน ญี่ปุ่น ไทย หรือพวกที่อยู่แถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดนแดดแล้วผิวไหม้น้อยกว่าพวกแรกค่ะ แต่แทน/ คล้ำง่ายกว่า
3. ผิวแดง - ผิวดำ : เช่นชาวนิโกร โดนแดดแล้วผิวไม่ไหม้ ไม่คล้ำค่ะ

ข้อมูลส่วนใหญ่จากที่เคยเรียนมา + หาเพิ่มเติมจาก www.wikipedia.org ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ >_<

ประเภทของสารเคมีในครีมกันแดด
สารต่างๆในครีมกันแดดแบ่งได้ง่ายๆตามวิธีการทำงานดังนี้ค่ะ
1. Chemical sunscreen - ทำหน้าที่ดูดซับรังสี UV ไม่ให้ทำอันตรายผิวหนัง ตัวอย่างเช่น Oxybenzone ในการใช้งาน สารพวกนี้ต้องถูกซึมซับเข้าสู่ผิวหนัง จึงสามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายกว่า
Chemical sunscreen บางชนิดป้องกันได้แต่ UV-A บางชนิดกันได้แต่ UV-B บางชนิดกันได้ทั้งสองประเภท

2. Physical sunscreen - ทำหน้าที่สะท้อนรังสี UV ตัวอย่างเช่น titanium dioxide, zinc oxide สารจำพวกนี้จะถูกเคลือบอยู่บนผิว ไม่ต้องถูกดูดซึม จึงไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ แต่ส่วนใหญ่จะทาแล้วเป็นคราบ จึงนิยมใช้ในครีมกันแดดสำหรับเด็ก (ไม่ต้องห่วงสวย ^^")
Physical sunscreen ทำหน้าที่สะท้อนรังสีออกจึงป้องกันได้ทั้ง UV-A และ UV-B

ตัวอย่างส่วนผสมของสารกันแดดที่ป้องกัน UV ประเภทต่างๆได้
UVA chemical sunblock sunscreen ingredients
Avobenzone, Parsol 1789
Dioxybenzone, UVB, UVAII
Ecamsule
Menthyl Anthranilate
Meradimate
Oxybenzone, benzophenone, benzophenone-3
Sulisobenzone, UVB, UVAII
Titanium Dioxide
Zinc oxide

UVB chemical sunblock sunscreen ingredients
Aminobenzoic acid
Cinnamates, octyl methoxycinnamate (OMC), Ethylhexyl p-Methoxycinnamate, high incident of contact irritation, non comedogenic, widely used.
Cinoxate
Dioxybenzone, UVB, UVAII
Ensulizole
Homosalate
Octocrylene
Octinoxate
Octisalate
Oxybenzone, UVB, UVAII
Octyl dimethyl paba
Padimate O
Para-aminobenzoic acid, PABA
Salicylates, octyl salicytate (OCS), high incident of contact irritation, widely used.
Sulisobenzone, UVB, UVAII
Titanium Dioxide
Trolamine salicylate
Zinc oxide

Physical sunblock ingredients – UVA and UVB protection, non-irritating, non-allergenic
Zinc oxide – recognized as a mild antimicrobial, wound healing and sunscreen agent. Primarily absorbs UVA light rather than scattering or reflecting, non-irritating, non-comedogenic, and micronized by forming many small micro particles for cosmetic use.
Titanium dioxide –derived from Titanium, a highly reflective white chalky mineral, non-irritating, non-comedogenic, micronized by forming many small micro particles for cosmetic use, listed in the FDA monograph as one the top and most effective active ingredients for sun protection.
ข้อมูลจาก http://www.911skin.com/sunblocks.html

ข้อมูลของคุณ fonkan ละเอียดดีมากๆเลยค่ะ แต่เราอยากจะขอเสริมเรื่องเกี่ยวกับ UV-A และ UV-B นิดนึงค่ะ เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น

UV คืออะไร
ในแสงที่เราเจออยู่ในชีวิตประจำวัน ทั้งแสงแดด และแสงไฟในห้อง ประกอบไปด้วยคลื่นแสงหลายๆความถี่ คลื่นแสงที่มีความถี่สูงมากจนตามองไม่เห็นกลุ่มหนึ่งเราเรียกว่า "รังสีเหนือม่วง" หรือ Ultraviolet (UV)

รังสี UV สามารถแบ่งย่อยเป็นประเภทต่างๆได้ ตามความถี่ของคลื่นและพลังงาน โดยแบ่งกว้างๆเป็น UV-A UV-B และ UV-C

UV-A เป็นประเภทที่มีพลังงานต่ำสุด แต่ลงมาถึงพื้นโลกมากที่สุด (ประมาณ 98.7%) ในขณะที่ UV-B และ UV-C ส่วนใหญ่ถูกสะท้อนออกไปโดยชั้นบรรยากาศ (แต่เนื่องจากชั้นบรรยากาศในปัจจุบันบางลงมาก รังสี UV-B จึงลงมาถึงพ้นโลกได้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ UV-C เข้าใจว่ายังน้อยมากอยู่ค่ะ)

ผลของรังสี UV ต่อร่างกาย
รังสีแต่ละประเภทมีผลต่อร่างกายต่างกันค่ะ
UV-A -- ไม่ทำให้ผิวไหม้ แต่จะทำลายโครงสร้างผิวในระยะยาว ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย และทำให้ผิวหมองคล้ำ เป็นสาเหตุหนึ่งของมะเร็งผิวหนังได้ เนื่องจากทำให้เกิดสารจำพวกอนุมูลอิสระ (free radicals) ในร่างกาย
**และเนื่องจาก UV-A ไม่ส่งผลให้เกิดปฏิกริยากับร่างกายที่ชัดเจนในทันที จึงยังไม่มีหน่วยวัดความสามารถในการป้องกัน UV-A ของสารกันแดด**

UV-B -- ทำให้ผิวไหม้ (sunburn) ทำลายโครงสร้างผิวโดยตรง ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย และ UV-B ยังเป็นสาเหตุโดยตรงของมะเร็งผิวหนังบางประเภทด้วย

แต่การขาด UV-B ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นกันค่ะ เนื่องจาก UV-B เป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายของเราสร้างวิตามิน D การขาดวิตามิน D จะทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ไม่ดีซึ่งทำให้เป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกได้ค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นเราอาจทดแทนได้โดยการทานอาหารที่มีวิตามิน D ค่ะ

ตัวอย่างอาหารที่มีวิตามิน D ดูได้จาก link นี้ค่ะ
http://en.wikipedia.org/wiki/Vitamin_D#In_food

**เนื่องจาก UV-B ส่งผลโดยตรงต่อผิวหนังทันที จึงสามารถกำหนดเกณฑ์วัดความสามารถในการป้องกันรังสี UV-B ในสารกันแดดได้ ก็คือ SPF นั่นเองค่ะ

เนื่องจากรังสี UV ทั้ง 2 ประเภทต่างก็มีอันตรายต่อร่างกาย ดังนั้นครีมกันแดดที่เลือกควรป้องกันรังสีทั้ง 2 ประเภทได้

ว้าววว

ขอบคุณค่ะ