งานที่รัก

เพราะชีวิตมันยากและมักจะมีบททดสอบมาให้เราเพิ่มภูมิต้านทานทุกรูปแบบระหว่างทางมักมีทางแยกตลอดเลย เลือกไม่ถูกว่าถ้าจะไปขวาแล้วซ้ายจะดีกว่ารึเปล่า??? อยากถามเพื่อนๆว่าจะจัดการกับทางแยกของแต่ละคนนี้ยังไง ใครผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาบ้าง แชร์ให้ฟังหน่อยนะเผื่อทางเราจะตกตะกอนทางความคิดได้บ้าง

Discussion (25)

ที่ผ่านมาเราเลือกทำงานที่ได้เงินเยอะกว่า แม้จะต้องกลับบ้านดึก ทำงานหนัก มีเจ้านายที่แย่ก็ยอมเสียสุขภาพจิตกันไป แต่เรามีความอดทนค่อนข้างสูง ก็เลยทนอะไรแย่ๆ แบบนี้ได้ เพียงแค่เราอยากได้เงินมาซื้อในสิ่งที่เราต้องการ เพราะคิดว่ามันคือความสุข จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเราชอบทำอะไร รู้แต่ถ้าทำงานแล้วได้เงินก็ทำ
ก็อดทนประมาณนึงค่ะ พอมีประสบการณ์มากขึ้นก็ออกไปที่อื่น ในขณะเดียวกันก็พยายามหาว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร เพราะมีความเชื่อลึกๆ ว่าเราจะต้องมีธุรกิจของตัวเองสักอย่าง ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ
ก็ทำเท่าที่ไหวค่ะ ถ้ามันถึงจุดที่ท้อก็หาเวลาไปผ่อนคลายบ้าง จากใจคนที่ไม่มีงานประจำนะคะ นีนคิดว่าเศรษฐกิจแบบถ้ามีงานที่เราจะได้เงินยืนพื้นทุกเดือนมันก็ดีมากๆ แล้วค่ะ ยิ่งใครมีงานประจำก็เกาะเก้าอี้ไว้ให้มั่น เราไม่รู้อนาคตข้างหน้าเลย เซฟๆ ไว้ก่อนดีกว่าค่ะ แล้วที่บ้านเป็นเกษตรกรยิ่งแล้วใหญ่ความเสี่ยงสูงมากๆ เพราะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าราคาของผลผลิตจะออกมาทิศทางไหน
เจ๊ก็คิดแบบนั้นเหมือนกันคะร้องนีน คงต้องเกาะเก้าอี้นี้ไปอีกยาว?? จนใจกับเศรษฐกิจบ้านเรามาก เป็นกำลังใจให้น้องนีนเช่นกันนะคะ✌?✌?
จ๋าเคยอ่านเจอประโยคประมาณว่า "บางครั้งเราอาจจะต้องยอมทำงานที่ได้เงิน(เยอะ) เพื่อเอาเงินนั้นไปทำในสิ่งที่รัก" จ๋าเข้าใจความรู้สึกนี้ดีเลยค่ะพี่ขวัญ น้องเองก็เคยตะกุกตะกักกับทางเลือกระหว่าง สิ่งที่รักและสิ่งที่จำเป็นต้องทำเหมือนกัน แต่ด้วยเศรษฐกิจในช่วงนี้ น้องแอบอยากให้พี่ขวัญทำงานที่ทำเงินไปก่อนดีกว่าค่ะ ถ้ามันไม่ได้แย่หรือหนักหนาจนทนไม่ไหว ส่วนสิ่งที่รักนั้น ไม่ว่าเราจะทำอะไรอยู่ที่ไหน ถ้าเรายังรักมัน เราจะมีโอกาสได้ทำมันและพัฒนามันไปได้อีกไม่สิ้นสุดแน่นอนค่ะ น้องเป็นกำลังใจให้พี่ขวัญนะคะ
สู้ไปพร้อมกันนะน้องจ๋า
พี่นั่งคุยกับตัวเองเลยนะถ้าจะต้องตัดสินใจทำอะไร หาข้อดี ข้อเสียผลกระทบที่จะเกิดกับชีวิต มองทั้งข้อดีข้อเสียเพื่อจะมาชั่งน้ำหนักให้การตัดสินใจ เราควรให้เวลากับการตัดสินใจของเราด้วย ค่อยๆคิด ค่อยตัดสินใจกันไป ตัวอย่างของพี่คือ ทำงานลงตัวแล้วอยากเรียนต่อเพื่อความก้าวหน้า พี่ตัดสินใจเป็นปีเลยเรื่องนี้เพราะถ้าลาออกจากงานกระทบถึงครอบครัวไรงี้ พี่ก็มาดูว่าต้องเรียนนานแค่ไหน มีอะไรจะซัพพอร์ตเราได้บ้าง แต่สุดท้ายพี่ก็ตัดสินใจลาออกมาเรียนเต็มตัวจนจบ ถึงระหว่างทางจะยากนิดนึงแต่การอดทนจนถึงเวลาที่ใช่มันคุ้มค่ามาก เป็นพลังใจให้นะ
ขอบคุณคร้าที่แชร์มานะคะพี่จ๊อย ทางแยกบางเส้นทางก็ไม่น่ากลัวถ้าเราเตรียมตัวมาดี ขวัญจะกลับไปหารองเท้าที่ใส่เดินทั้ง2ทางแบบพอดีพอใช้ไปได้ก่อน ไว้ถึงอีกทางแยกค่อยหาคู่ใหม่ที่พอดีกับสถาณการณ์นั้นๆมากขึ้นคะ
อ่านคำถามแล้วจะร้องเลยค่ะ​ ชีวิต​มัน​เศร้า​
สู้กันต่อไปค่ะ❤️