10 Culture Shock เรื่องควรรู้ก่อนเที่ยวอเมริกา | 10 Things to Know Before Going to USA

สวัสดีค่า ^^

อะตอมเห็นหลายกระทู้ หลาย ๆ blogger
โพสแนะนำวิธีการเดินทางไปต่างประเทศ
สถานที่ที่น่าสนใจ แหล่งของกิน
และแหล่งเครื่องสำอางค์กันมาเยอะแล้ว
วันนี้อะตอมขอหยิบเรื่องวัฒนธรรมมารีวิวกันบ้าง
เผื่อใครที่มีโอกาสได้มาเที่ยวที่อเมริกา
จะได้เตรียมตัวรับมือกับ culture shock
หรือวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
จะได้ไม่ต้องตกใจ ประหม่า หรือทำตัวไม่ถูกค่ะ

หัวข้อของกระทู้ในวันนี้อาจจะดูน่ากลัว

แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ

หากเรารู้วิธีการเตรียมรับมือเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ

ต่างแดน ต่างเชื้อชาติภาษา

อะตอมว่าการเคารพสถานที่ ที่เราไป

และรู้จักกาละเทศะคือสิ่งที่มีเสน่ห์มาก ๆนะคะ

อะตอมเกิดและโตที่ประเทศไทย

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเจอกับเหตุการณ์

culture shock มากับตัว หลังจากย้ายมาอยู่ที่นี่

ลองไปดูกันว่ามีอะไรบ้างค่ะ

self-service บริการตนเอง

หลาย ๆ อย่างในประเทศนี้เป็นแบบบริการตัวเองค่ะ

ไม่ว่าจะล้างรถ เติมน้ำมัน ซึ่งหลายๆคนอาจจะคุ้นชิน

กับการมีพนักงานมาเติมน้ำมันให้

แต่ที่นี่ต้องเติมด้วยตัวเองนะคะ 

ยกเว้นที่รัฐ New Jersey and Oregon

ที่ยังมีพนักงานเติมน้ำมันอยู่ ซึ่งเราจะต้องทิปเค้าด้วยค่ะ

ซื้อของในห้างหรือแม้แต่ร้านถ่ายเอกสาร ก็สามารถทำด้วยตัวเองได้ค่ะ

ดังนั้นเวลามาช็อปปิ้งที่นี่ ลองสังเกตุป้ายดูค่ะ

ถ้ามีคำว่า Self checkout 

เราก็เดินไปคิดเงินด้วยตัวเองได้เลยค่ะ

งานบริการทุกอย่างต้องให้ทิป

หากไม่ใช่ self-service

งานที่ต้องใช้คนบริการจึงจะต้องจ่ายทิป

เพราะเป็นวัฒนธรรมของที่นี่ค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นช่างตัดผม

ช่างทำเล็บ พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร

หากสาวๆมาเสริมสวยหรือทานข้าวที่ US

ก็อย่าลืมให้ทิปเค้า 15-25% 

โดยคิดจากราคาที่เราใช้บริการ

เช่น ตัดผม 30 เหรียญ

ก้ต้องให้ทิปเค้าประมาณ 4.5-7.5 เหรียญนะคะ

ที่นี่ขับรถเลนส์ขวาและพวงมาลัยอยู่ด้านซ้าย

หากมาเที่ยวที่นี่และอยากเช่ารถเที่ยว

นอกจากต้องมีใบขับขี่สากลแล้ว

ศึกษาการดูป้ายจราจร ป้าย stop sign

school zone และการจำกัดความเร็ว

ถ้าหากไม่อยากโดนใบสั่งแพงหูฉี่

(ขับรถปาดหน้ารถโรงเรียนในช่วงเวลาหลังเลิกเรียน

โดนค่าปรับ 6,000 บาทสบายกระเป๋าไปเลยค่ะ)

ที่บ้านเราคือซ้ายผ่านตลอด แต่ที่นี่คือขวาผ่านตลอดค่ะ

และคนที่นี่เค้าเคารพกฎกันจริงๆค่ะ

และตำรวจก็มาไวมาก ๆ ด้วย 5555

รถทุกคันชะลอให้คนข้ามถนนก่อนเสมอ

ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ ไม่ต้องรู้สึกผิด

ที่รถสี่ด้านรอให้เราเดินข้ามทางม้าลายได้อย่างชิวๆ

เพราะรถต้องดูระมัดระวังคนข้ามถนน 

เพราะมันเป็นกฏหมายของที่นี่ด้วยค่ะ

ไม่ใช่ข้ามถนนแต่ละครั้ง

เหมือนเอาชีวิตแขวนไว้บนเส้นด้าย

เพื่อน ๆ ปลอดภัยใจชื้นขึ้นมาได้ค่ะ

ยกเว้นเมืองวุ่นวายอย่างนิวยอร์คนะคะ

เพราะที่นั่นคือสถานที่ที่ผู้คนมาจากทั่วทุกมุมโลก

เมืองแห่งการแข่งขันและเร่งรีบ

ไม่ต่างจากกรุงเทพดีๆนี่เองค่ะ

ซักผ้าที่นี่ไม่ต้องตาก

เพราะที่นี่เค้าเป็นระบบอบแห้ง ประหยัดเวลาไปเยอะ

ถ้าเพื่อน ๆ มาเที่ยว สามารถนำเสื้อผ้าไปใช้บริการ

ที่ร้านซักผ้าหยอดเหรียญ

ง่าย สะดวก เหมาะกับคนขยันแบบอะตอม 555

ไม่ต้องกังวลเรื่องผ้าไม่แห้ง แดดไม่มี

เอาเวลาไปเที่ยวดีกว่าค่ะ

ห้องน้ำสาธารณะประตูปิดไม่สนิท !

อันนี้คือเรื่องที่อะตอมช็อคสุด ๆ

เพราะห้องน้ำมีช่องว่างระหว่างประตูและประตูไม่ติดพื้น

อันนี้คือช็อกมากเพราะคนภายนอก

สามารถมองเข้ามาเห็นเรานั่งปลดทุกข์อยู่

omg สาวไทยอย่างเราก็เขินสิคะ

ซึ่งอะตอมได้ไปศึกษามาเค้าบอกว่า

ที่ห้องน้ำสาธารณะสร้างมาแบบนั้น

เป็นเพราะอยากให้อากาศถ่ายเทได้ดี

แชร์กระดาษระหว่างห้องได้ ง่ายต่อการทำความสะอาด

และสามารถมองเห็นว่าในห้องน้ำมีคนอยู่มั้ย

หากเกิดกรณีฉุกเฉิน

ก็สามารถมองเห็นได้ทะลุปรุโปร่งเลยทีเดียว

อันนี้แก้ไขไม่ได้ ทำใจอย่างเดียว

รีบทำธุระแล้วเดินเฉิดฉายออกมาค่ะ

และแน่นอนว่าห้องน้ำทุกที่ไม่มีสายฉีดก้น

ดังนั้นเตรียมกระดาษเปียกติดตัวไว้ตลอดเวลาแทนนะคะ

ราคาอาหารในร้านอาหารจะสูงกว่าร้านฟาสฟู้ด

เช่น แมคดานัล เคเอฟซี ที่ไทยคือแพงกว่าข้าวราดแกง

แต่ที่นี่กลับกันค่ะ นอกจากกับข้าวราคาร้านอาหารจะสูงแล้ว

ยังต้องบวกค่าทิปเพิ่มไปอีกนะคะ

พวกร้านฟาสฟู้ดทั้งหลายคือตัวเลือกที่ดี สำหรับทริปงบน้อย

เพราะสะดวก มี drive through และไม่ต้องจ่ายทิปค่ะ

ซื้อของอะไรก็ตามต้องจ่าย tax (ภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ซึ่งแต่ละรัฐก็จะมีภาษีที่แตกต่างกันไป

เช่น รัฐ Texas ภาษีอยู่ที่ 8.25%

ถ้าอะตอมจะซื้อเครื่องสำอางค์ที่รัฐเท็กซัสในราคา 100 เหรียญ

ราคาจริงที่ต้องจ่ายคือ 108.25 เหรียญ นะคะ

คำนวณดี ๆ ก่อนช็อปนะคะสาว ๆ

รถมอเตอไซต์คือสิ่งหายากที่ประเทศนี้

ใครที่รักความสะดวกสบาย

ขี่มอเตอร์ไซต์ไปหน้าปากซอย

หาของกินได้ตลอด 24 ชั่วโมง

คงหาไม่ได้ใน US

เพราะประเทศนี้ค่อนข้างใหญ่

คนส่วนมากใช้รถยนต์ในการเดินทางกันหมด

ดังนั้นจึงไม่มีพี่วินอีกต่อไป

ต้องใช้บริการ Uber, Lyft หรือเช่ารถ

ในการท่องเที่ยวที่นี่แทนนะคะ

หวังว่า 10 culture shock นี้

จะทำให้สาว ๆ สามารถเตรียมตัวให้พร้อม

เมื่อมาเที่ยวอเมริกา

เที่ยวเพลิน Have fun ตลอดทริปนะคะ

Discussion (19)

ขอบคุณนะคะที่แชร์ ถือว่าเป็นประโยชน์มากเลยสำหรับคนที่กำลังจะไปอเมริกา  เรื่องการให้TIP นี้ถือว่าเป็นการต้องเรียนรู้อันดับต้นๆเหมือนกันเนอะเพราะบ้านเราไม่ค่อยมีการให้ทิป  ปกติการให้ทิปขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้า แต่ตามมารยาทแล้วจะอยู่ที่ 15-20% ถ้าใครจะใจดีให้ถึง25%ก็ไม่ผิดคะ ขึ้นอยู่กับความพอใจ เพราะเคยเจอบริการแย่มากๆๆๆจะวางแค่เหรียญ Penny ไว้ให้เป็นการบอกว่าคุณบริการได้แย่มาก แต่ต้องแย่มากกกกกจริงๆนะคะถึงทำแบบนี้ ใจเค้าใจเราเนอะงานบริการคืองานที่ยอมรับเลยน่าเห็นใจคะเพราะมันว่าเหนื่อย แต่นั้นคืองานของคุณ you get what you did เช่นกันคะถ้าเราให้เกียรติพนักงงาน เค้าก็จะ service ด้วยความน่ารักคะ  อีกส่วนที่ต้องสังเกตุเหมือนกันคือบางร้านเค้าจะมี service charge หรือ gratuity สำหรับลูกค้า4คนขึ้นไป เค้าจะคิดค่าบริการมาในบิลให้เราอยู่แล้ว แต่เค้าจะคิดservice charge หรือ gratuity เราได้เค้าต้องเขียนบอกไว้ในเมนูให้เรารับรู้ตั้งแต่แรกนะคะ ถ้าไม่มีในเมนูแล้วรวมมากับบิลทีหลังเรามีสิทธิไม่จ่ายค่าservice charge ได้คะ  เรื่องห้องน้ำก็ต้องทำใจเนอะบ้านเมืองเค้าไม่มีสายฉีดชำระนะคะ ถ้าใครไปเที่ยวก็อย่าลืมพกกระดาษทิชชูติดในกระเป๋าด้วยเยอะ เพราะห้องน้ำสาธารณะหลายแห่งไม่มีให้ นอกจากจะแวะเข้าห้าง ภาษีนอกจากจะเพิ่มจากราคาสินค้าที่โชว์แล้ว การขอคืนภาษีขึ้นอยู่กับสินค้าและกฏของแต่ละรัฐ เช่นนิวยอร์คและนิวเจอร์ซี่ ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า (ยกเว้นของแบรนด์เนมยังไงก็เสียภาษีคะ)ไม่เสียภาษีเพิ่ม สินค้าบางประเภทซื้อและชิปปิ้งไปรัฐอื่นก็ไม่ต้องเสียภาษีเพิ่ม ขึ้นอยู่กับแบรนด์นั้นๆทำให้เรารึเปล่า สอบถามเค้าได้คะว่าจะยังไง เคยซื้อรองเท้าและกระเป๋าแบรนด์นึงชิปไปอีกรัฐไม่เสียภาษีเพิ่ม ก็จะประหยัดไปได้อีกหลายร้อยเหรีษญคะ อันนี้แนะนำในกรณีที่ซื้อของมีมูลค่านะคะ ถ้าไม่ต่างกันมากอย่าเสียเวลาเลยคะ
ขอบคุณมากค่าที่มาแชร์ความรู้เพิ่มเติม ^^
ยินดีค่า
เราช๊อคกับเรื่องห้องน้ำมากค่ะ ยังไงก็ไม่ชิน 55555 แล้วเวลาไปซื้อของตอนแรกก็คิดเงินประมาณเองเตรียมเองเสร็จสรรพ เพราะเงินที่นู่นเราก็นับช้าอ่ะเนอะ แต่พอไปจ่ายเงิน อ่อ...ลืมคิด tax ไว้ ต้องไปนับใหม่อยู่ดี 555555
ใช่ค่า อะตอมเข้าใจ ตอนมาแรก ๆ ก็ต้องปรับตัวหลาย ๆ อย่าง ต่างแดน ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม แต่อะตอมชอบที่นี่ค่ะ รู้สึกว่ามีโอกาสหลาย ๆ อย่างเข้ามา รวมไปถึงทัศนคติที่เปลี่ยนไป กล้าทำในสิ่งที่อะตอมไม่กล้าทำในตอนที่อยู่ไทยค่ะ
ขอบคุณค้าาา มีเพลนจะไปอยู่เลย แต่เท่าที่อ่านก็เหมือนๆ ในยุโรปเนอะ ที่เนเธอแลนด์ไม่ได้กำหนดว่าต้องให้ทิปค่ะ และอาหารฟาสฟู๊ตกับร้านอาหารราคาพอๆ กันก็มี
มาอยู่ที่นี่คือใช้ชีวิตต้องวางแผนค่ะ จะมาออกไปกินข้าวนอกบ้านหน้าปากซอยทุกวัน เปลืองแย่เลยค่ะไหนจะค่าทิป ค่าอาหารอีก ทำกับข้าวทานเองประหยัดกว่า ได้เยอะกว่า อร่อยด้วย เพราะเราคนไทยก็น่าจะชอบทานรสจัดจ้านใช่มั้ยคะ ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ เผื่อจะชอบก็ได้