กำลังจะทานน้ำมันมะพร้าว แต่ค้นดูแล้วมีคำคัดค้านอ่ะค่ะ

น้ำมันมะพร้าวนี่ เป็นสิ่งที่ขึ้นชื่อมากกกกกกกกก ว่าดีทุกอย่าง

หมักผม ทาผิว รับประทานได้ทุกวัน

เราใช้หมักผม ทาผิวแล้วก็ดีจริงๆ

แต่กำลังจะกิน เลยหาข้อมูลก่อน

ส่วนใหญ่บอกว่าดีค่ะ แต่เจอเว็บนี้เลยไม่แน่ใจ

http://www.thaivi.com/mobile/thread.php?topic_id=27923&&start=40

เพื่อนๆมีใครเคยทานเป็นประจำไหมคะ ได้ผลยังไงบ้าง ทานแล้วได้ไปตรวจร่างกายกันไหมคะ

ถ้าดีอยากลองมั่ง
ขอบคุณค่า...........................

Discussion (62)

ผมขายน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 100 %   Ning  coconut  Oil

ขนาด 100 มม. หัวเกลียว    ราคา  70 บาท
ขนาด 250 มม.  หัวปั๊ม        ราคา  150 บาท
ขนาด 500 มม.  หัวเกลียว    ราคา  220 บาท
ขนาด 1000 มม. หัวปั๊ม       ราคา 450 บาท

สนใจติดต่อ ณัฐดนัย  0872837697  ราคากันเองมากแล้วคับ  คิดค่าขนส่งตามไปรณีย์
คุณประโยชน์และโทษของน้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะพร้าว ราชาแห่งโภชนาการ มะพร้าวเป็นพืชชนิดหนึ่ง ที่คนไทยรู้จักกันมานาน ด้วยเพราะแทบทุกส่วนของมะพร้าว ไม่ว่าจะเป็นต้น ใบและผล สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน โดยเฉพาะในส่วนของผลนั้น ถือว่ามีบทบาทที่สำคัญต่อวิถีการบริโภคของคนไทยมานาน ไม่ว่าจะเป็นการกินเนื้ออ่อน หรือเนื้อที่แก่ก็จะมีการคั้นน้ำ ที่เรียกกันว่าน้ำกะทิ เพื่อนำไปทำอาหารทั้งคาวและหวาน หรือแม้แต่การนำน้ำกะทิไปสกัดเป็นน้ำมัน ที่เรียกกันว่า “น้ำมันมะพร้าว” เพื่อนำไปใช้ในการทอดอาหาร จากการที่กระแสการหันมาใส่ใจสุขภาพทำให้ปัจจุบันนี้มีน้ำมันมะพร้าว ซึ่งมีการศึกษาและวิจัยกันอย่างจริงจังพบว่า มีผลต่อสุขภาพคนอย่างดีเยี่ยมในหลายมิติด้วยกัน ทำให้ปัจจุบันนี้น้ำมันมะพร้าวถูกนำมาใช้ประโยชน์ เป็นต้นว่าการดูแลผิวพรรณ การลดความอ้วน การนวด อาหารเสริม ฯลฯ ข้อมูลจากชมรมอนุรักษ์และพัฒนาน้ำมันมะพร้าวแห่งประเทศไทย ระบุไว้ว่าน้ำมันมะพร้าวที่ผ่านการสกัดเย็น คือน้ำมันที่ได้โยไม่ผ่านกระบวนการความร้อน (Cold Press Coconut Oil) ผลิตจากเนื้อมะพร้าวสดเป็นน้ำมันมะพร้าวที่บริสุทธิ์สีใสเหมือนน้ำ มีวิตามิน E และไม่ผ่านกระบวนการเติมออกซิเจน (Oxidation) และที่สำคัญ “กรดลอริก” ในน้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริก อยู่ประมาณ 54.61% กรดนี้มีส่วนที่ทำให้น้ำมันมะพร้าว ดี เด่น กว่าน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ เพราะมันมีความสามารถพิเศษคือ สร้างภูมิคุ้มกัน เมื่อเราบริโภคน้ำมันมะพร้าวเข้าไปในร่างกาย กรดลอริก จะเปลี่ยนเป็นโมโนกลีเซอไรด์ ที่มีชื่อว่า โมโนลอริน ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับที่อยู่ในน้ำนมมารดา ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารกในระยะ 6 เดือนแรก ที่ร่างกายยังไม่สร้างระบบภูมิคุ้มกันทำให้เด็กระยะแรกเกิด ไม่ค่อยเป็นโรคอะไร โมโนลอริน เป็นสารปฏิชีวนะที่ทำลายเชื้อโรคทุกชนิด ดีกว่ายาปฏิชีวนะที่ใช้อยู่ในปัจจุบันที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์ โปรโตซัว และไวรัส รทั้งเชื้อที่ก่อให้เกิดหลอดเลือดแข็งตัว สำหรับการสกัดเย็นนั้นหากต้องการสกัดไว้ที่ปริมาณไม่มากนัก็สามารทำได้โดยง่าย ดังมีวิธีการดังต่อไปนี้ 1.คั้นกะทิ โดยใส่น้ำเล็กน้อย 2.นำกะทิใส่ถุงพลาสติก นำเข้าตู้เย็นใส่นช่องธรรมดาเป็นเวลา 24 ชั่วโมง 3.เมื่อนำออกจากตู้เย็นจะพบว่า กะทิจะมีการแยกชั้น เป็น 2 ชั้น ชั้นบนจะเป็นครีมกะทิ ชั้นล่างเป็นน้ำเปรี้ยว ให้ทำการเจาะถุงเอาน้ำเปรี้ยวออก แล้วมัดรูที่เจาะไว้ด้วยยางรัดของ จากนั้นนำเข้าตู้เย็นในช่องแช่แข็ง แช่ไว้ 36 ชั่วโมง จนแข็งดี 4.นำออกมาตั้งพักไว้ข้างนอกรอจนกระทั่งกะทิที่แข็งตัวค่อยๆ ละลายและจะแยกชั้น จนเห็นชัดเจน 3 ชั้น - ชั้นบนสุดเป็นครีม - ชั้นกลางเป็นน้ำมันมะพร้าว - ส่วนชั้นล่างเป็นน้ำเปรี้ยว 5.ตักเอาเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำมันมะพร้าวไปใช้ประโยชน์ คุณประโยชน์และโทษของน้ำมันมะพร้าว จริงๆ แล้วในน้ำมันมะพร้าวมีสารอาหารเยอะมากแต่สารอาหารที่สำคัญที่สุด คือ "กรดลอริค" ซึ่งจะพบเจอหรือมีอยู่มากในน้ำนมแม่ ถามว่าประโยชน์ของกรดลอริค คืออะไร เชื่อว่าทุกคนทราบเป็นอย่างดี จึงมีการรณรงค์ให้ทารกดื่มนมแม่ นอกจากนี้แล้วในน้ำมันมะพร้าวมีฤทธ์เป็นกรดจึงมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์สกัดเย็นยังมีส่วนประกอบของวิตามินอีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุให้เซลล์เสื่อมสภาพก่อนวัยอีกด้วย ในหลักการทำงานบนั้นน้ำมันมะพร้าวไปฆ่าโดยตรงไม่ได้ ต้องมองในคุณสมบัติการทำงานสมมุติว่าแบคทีเรียก้อนกลมๆ และมีเกราะไขมันหุ้มตัวเองให้นึกถึงจานใส่อาหารที่เลอะไปด้วยไขมันหากทำการล้างโดยน้ำ ปกติไขมันจะไม่ออก แถมเลอะไปทั่วทั้งจาน แต่ถ้าใช้น้ำยาล้างจานจะสะอาด เป็นหลักการของการเอาไขมันไปละลายไขมัน เช่นเดียวกันกับน้ำมันมะพร้าว มันจะไปเคลือบแบคทีเรีย ไม่ให้สามารถไปทำงานได้ จากตรงนี้จึงมีการเอาน้ำมันมะพร้าวไปทำ "ออยล์พูลลิ่ง" ซึ่งเป็นตำรับของอินเดีย นั่นคือใช้น้ำมันมะพร้าวแทนน้ำยาบ้วนปากผลที่ได้คือ การกำจัดเชื้อแบคทีเรียในปาก โดยหลักการก็คือ น้ำมันมะพร้าวจะไปจับเชื้อแบคทีเรียในปาก โดยพบว่า น้ำมันมะพร้าวที่บ้วนออกจากปากนั้นมีเชื้อแบคทีเรียจำนวนเยอะมาก แต่วิธีการบ้วนปากด้วยน้ำมันมะพร้าวให้ได้ประโยชน์มากที่สุด จะต้องใช้เลาประมาณ 15 นาที ซึ่งถือว่านานพอสมควร สำหรับเวลาช่วงเช้าในกลุ่มคนที่ต้องเร่งรีบออกไปทำงาน ตรงนี้มีแนวทางอยู่ว่า หลังจากตื่นนอนก่อนที่จะเข้าไแทำภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำให้เริ่มอมน้ำมันพะพร้าวก่อนแล้วจึงทำภารกิจส่วนตัว และหลังจากเสร็จ ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่น่าจะเกิน 20 นาที ก็บ้วนน้ำมันมะพร้าวทิ้ง แข็งแรงสดใสจากภายในสู่ภายนอก ผู้ที่บริโภคน้ำมันมะพร้าวจะมีสุขภาพแข็งแร็งเพราะได้พลังงานทันทีที่บริโภคน้ำมันมะพร้าว นอกจากนั้นน้ำมันมะพร้าวยังช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารด้วย โดยการเพิ่มการดูดวิตามิน เกลือเเร่ และกรดอะมิโน เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวเป็นโมเลกุลขนาดเล็กจึงถูกย่อยง่ายและเคลื่อนที่ไปตามของเหลวในร่างกาย จึงเป็นที่นิยมและเหมาะสม ในการนำไปหุงต้มอาหารสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาการย่อยไขมันและยังใช้ในสูตรน้ำนมเพื่อให้ไขมันที่จำเป็นแก่เด็กทารก และช่วยในการดูดซึมแคลเซียม แมกนีเซียม ซึ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนากระดูก ประโยชน์ในการบำรุงผิว ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าออกซิเจนช่วยให้คนเรามีชีวิต ช่วยให้คนดำรงชีวิตอยู่ได้ แต่ในมุมกลับกันออกซิเจนก็ส่งผลให้เซลล์หรืออวัยวะของคนเสื่อมสภาพลงด้วย อย่างผิวคนที่พบว่ามีการแห้ง ลอกเสื่อมสภาพ ส่วนหนึ่งเกิดจากออกซิเจน น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันอิ่มตัว ซึ่งจะป้องกันการเติมออกซิเจนในระดับของเซลล์ เมื่อทาผิวด้วยน้ำมันมะพร้าว จึงส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพช้าลง รวมไปถึงการช่วยบำรุงผิวด้วยเพราะในน้ำมันมะพร้าวมีวิตามินอีอยู่ด้วย ช่วยในการลดความอ้วน จะมีอยู่ 3 ประเด็นที่ช่วยให้น้ำหนักลดลง 1.น้ำมันมะพร้าวช่วยในการเผาผลาญด้วย เพราะน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่มีโมเลกุลสายขนาดปานกลาง คำว่ามีโมเลกุลสายขนาดปานกลางเวลาที่คนทานลงไปสามารถที่จะเคลื่อนที่ได้เร็วภายใน 24 ชั่วโมง ร่างกายสามารถที่จะกำจัดออกไปได้หมด แตกต่างจากน้ำมันที่มีโมเลกุลสายยาวที่ร่างกายกำจัดออกได้ช้า และที่สำคัญทำให้เกิดการสะสมภายในร่างกาย จากตรงนี้น้ำมันมะพร้าวมีผลต่อการลดน้ำหนักอย่างไร กล่าวคือน้ำมันมะพร้าวจะลากน้ำมันสายยาว หรือไขมันสะสมเอาไปเผาผลาญในตัว ทำให้ร่างกายไม่มีไขมันสะสม หรือไม่มีคอเลสเตอรอลสะสมในร่างกาย จึงส่งผลให้ร่างกายมีน้ำหนักลดลง 2.ร่างกายคนเรามีกระบวนการขับถ่ายถ้าเราทานอาหารเข้าไป 10 ส่วน หากถ่ายออกมา 5 ส่วน แสดงว่าต้องเหลือในร่างกายอีก 5 ส่วน ร่างกายอาจจะเผาผลาญไปได้ 3 ส่วน เท่ากับว่าเหลือตกค้างอีก 2 ส่วน แต่หากท่านทานน้ำมันมะพร้าวไป จากอาหารที่ทานไป 10 ส่วน การเผาผลาญจะเพิ่มขึ้นรวมไปถึงการช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกายเท่ากับว่าสิ่งที่ตกค้างในร่างกายน้อยมาก อย่างไรก็ดีเมื่อน้ำมันมะพร้าวช่วยในการขับถ่ายคนที่ทานน้ำมันมะพร้าวไป ช่วงแรกอาจเจออาการท้องเสียถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากในระยะต่อมาท้องยังเสียอีกต้องหยุดทานเหตุเพราะร่างกายอาจไม่เหมาะสมกับการทานน้ำมันมะพร้าว ซึ่งตรงนี้ร่างกายคนไม่เหมือนกัน อย่างที่มีคำกล่าวกันว่า คนธาตุหนัก คนธาตุเบา ซึ่งคนธาตุเบาจะท้องเสียง่าย 3.การทานน้ำมันมะพร้าวจะส่งผลให้ความอยากอาหารน้อยลง เมื่ออยากน้อย ก็กินน้อย เมื่อกินน้อย อาหารหรือส่วนเกินที่จะตกค้างใรร่างกายก็จะน้อยลง รวมไปถึงคุณสมบัติที่ช่วยในการเผาผลาญ จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ช่วยในการลดน้ำหนักหรือช่วยในการลดความอ้วน ผลเสีย ในขณะที่น้ำมันมะพร้าวให้ผลในด้านบวก เป็นธรรมดาตามกฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติที่ต้องมีผลในด้านลบ ไมีมีอะไรดีหมด การทานน้ำมันมะพร้าวในปริมาณมากเกินไปก็จะเกิดผลเสีย การทานน้ำมันมะพร้าวที่ปริมาณเหมาะสมควรทานวันละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ข้อมูลตรงนี้มาจากงานวิจัยด้วยเพราะปริมาณ 1-2 โต๊ะ ร่างกายสามารถกำจัดออกได้หมด แต่บางคนหากมองว่าน้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์เลยดื่มเยอะ ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกได้หมดส่งผลใหเกิดการตกค้างในร่างกาย ทานน้ำมันมะพร้าวช่วงไหนเกิดประโยชน์สูงสุด น้ำมันมะพร้าวสามารถทำงานได้ดีที่สุด ในช่วงที่ร่างกายท้องว่างโดยในระหว่างวันช่วงที่ร่างกายท้องว่างมากที่สุด คือ ช่วงเช้า เพราะตอนกลางคืนขณะที่นอนหลับไม่ได้ทานอะไรเลย การทานน้ำมันมะพร้าวในตอนเช้าจึงถือว่ามีประโยชน์กับร่างกายมากที่สุด อย่างไรก็ดีการทานน้ำมันมะพร้าวภายในครั้งเดียวร่างกายอาจรับไม่ได้ ดังนั้นควรจะแบ่งทานเป็น 3 เวลาก่อนรับประทานอาหารประมาณครึ่งชั่วโมง การเก็บรักษา น้ำมันมะพร้าวจะกลายเป็นไขที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ตรงนี้คงต้องกล่าวถึงการโจมตีของคนที่พูดว่าน้ำมันมะพร้าวเป็นโทษต่อร่างกาย เพราะน้ำมันมะพร้าวจะเป็นไขเมื่อทานลงไปในร่างกาย แต่จากข้อมูลที่ว่าน้ำมันมะพร้าวจะเป็นไขหรือแข็งตัวเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส เท่ากับว่าโอกาสที่น้ำมันมะพร้าวจะเป็นไขหรือแข็งตัวในร่างกายคนเป็น 0 เพราะอุณหภูมิในร่างกายคนปกติ คือ 37-38 องศาเซลเซียส จากการที่น้ำมันมะพร้าวสามารถแข็งตัวได้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส จึงพบว่าในบางร้านมีการเปิดแอร์ จะพบว่าน้ำมันมะพร้าวจะขุ่นขาว บ้างก็แข็งตัวไปเลย หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นน้ำมันมะพร้าวที่เสียแล้วซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ภาวะที่เกิดขึ้นถือเป็นสิ่งปกติของน้ำมันมะพร้าว "กล่าวได้ว่าน้ำมันมะพร้าวของแท้ต้องเป็นไขในอุณหภูมิต่ำ แต่ถ้าไม่เป็นไขถือว่าเป็นของปลอม" ส่วนการเก็บรักษาน้ำมันมะพร้าวให้มีอายุการใช้งานให้นานที่สุด โดยธรรมชาติของน้ำมันมะพร้าวสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้เสียเร็วที่สุด รวมไปถึงการส่งผลให้มีกลิ่นหืน คือ อากาศ น้ำ ความชื้น ดังนั้นวิธีการที่ง่ายที่สุดคือ การปิดฝาภาชนะบรรจุให้สนิทและไม่ควรโดนแสงแดด ส่วนการนำไปใส่ตู้เย็นจริงๆ แล้วก็สามารถทำได้ หากใช้นำมันมะพร้าวในการบำรุงผิว เพียงแต่ต้องใส่ภาชนะที่ตักง่ายอย่างพวกตลับครีมเพราะแม้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะเป็นไขแต่ก็สามารถตักมาทาผิวได้ เมื่อน้ำมันมะพร้าวโดนผิวคนก็จะละลายตามปกติ แต่หากเก็บไว้เพื่อทานคงจะมีปัญหา เพราะต้องรอให้ละลายเสียก่อน วิธีการสังเกตนำมันมะพร้าว สกัดที่เสีย ปกติน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นจะใสและไม่มีสี แต่ถ้าน้ำมันมะพร้าวที่เริ่มเสียสีจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนๆ ความใสจะเริ่มลดลงหรือเปลี่ยนเป็นขุ่น และมีการตกตะกอน โดยปัจจัยที่ทำให้เสียขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาการสกัดหรือมีการเจือปนของน้ำ
พวกโง่ไม่เคยศึกษาแล้วมาพูด น้ำมันมะพร้าวเป็นยาดีอันดับต้นๆของโลกถึงมันเป็นไขมันแต่มันฆ่าไขมันส่วนเกินถึงมันเป็นไขอุณหภูมิ25อาศาในร่างกายมึงเย็นถึง25องศาหรอดีแต่พูดไม่เคยศึกษา
น้ำมันมะพร้าวสะกัดเย็นมีประโยชน์ คุณหมอแนะนำญาติรับประทานโรคสะเก็ดเงินดีขึ้น สรรพคุณอื่นๆ มีมากมาย ครั้งแรกกินแล้วน้ำหนักขึ้นก็เลยหยุด เห็นว่าหลายคนน้ำหนักลดอีกหลายเดือนกลับมากินอีก กินได้ 2 อาทิตย์ วันนละ 2 ช้อนตอนเช้าก่อนอาหาร ปรากฏว่าน้ำหนักเพิ่มอีก 3 ก.ก ก็เลยสังสัยว่าทำไมเราน้ำหนักเพิ่ม ลองมา 2 ครั้งแล้ว
เราใช้หมักผมก่อนสระ เช็ดหน้าและลองกินได้ 3วัน ตอนนี้เราอายุ 46 แล้วผมยังดำสนิท ไม่หงอกเลย และจะใช้ต่อไปเรื่อยๆ ประหยัดด้วยใช้ได้จนหัวจรดเท้า