Favorite Make up กว่า 30 ชิ้นประจำปี 2019 ขนมาทุกอย่างเรื่องงานผิวสวย

สวัสดีค่ะ ทุกคนนนน ป๋อมแป๋มนะคะ 2020 นี้ก็ว่าจะเริ่มอะไรใหม่ๆ เลยเริ่มจากเขียนกระทู้แรกในจีบันซะเลย แป๋มขอแยกหมวดเมคอัพออกเป็นรีวิว Cushion / Foundation / Concealer / Powder Pact / Highlight และบลัชออน นะคะ

สภาพผิวแป๋ม คือ ผิวผสมค่อนข้างแห้ง ไม่ค่อยเป็นสิว มีรอยกระและจุดด่างดำนิดหน่อยนะคะ
บางหมวดเป็นรีวิวที่ทำไว้ก่อนสิ้นปีซักพัก อาจจะมีรูปถ่ายแยกเพิ่มเติมน้า ยังใช้เว็บไม่ค่อยเป็น ผิดพลาดอะไรขออภัยล่วงหน้าค้าบ ปะ ไปดูรีวิวกันค่า


Favorite Cushion 2019


รุ่นต่าง ๆ ของคุชชั่น


Shu Uemura Unlimited Cushion, Armani to go Cushion, Jung Saem Mool Essential Skin Nuder Cushion, Espoir Taping Cover Cushion และ Pony Effect Defense Longwear

Details ด้านในตลับและพัฟคุชชั่น 


เปิดให้ดูตัวฟองน้ำเก็บรองพื้นด้านใน armani และ shu จะเป็นลักษณะตาข่ายเหมือนกันค่ะ ส่วนคุชชั่นฝั่งเกาจะเป็นฟองน้ำกักรองพื้นที่มีลายต่างกันไป ทรงพัฟที่แท็บเข้าซอกเข้ามุมหน้าดีสุด แป๋มชอบ armani ส่วนพัฟที่เนื้อนิ่มสุด คือ pony effect ส่วน shu และ jsm พัฟจะเนื้อแน่น แท็บคุชชั่นปิดดี ตัว espoir จะกิมมิคหน่อย มีรูระบายอากาศตามพัฟ

เฉดสีและระดับการปกปิด


แป๋มผิวขาวเหลือง ประมาณ NC25 คุชชั่นทุกตัวจะค่อนข้่างพอดีผิว จนถึงทำให้ขาวขึ้นราวครึ่งเฉดค่ะ ไม่ลอย 


❤️ Armani : อาร์มานี่ตลับแดงตัวนี้จะต่างจากตัวอื่นตรงที่มี essence บำรุงในตัวด้วย คือเป็นเนื้อรองพื้น+บำรุง ใช้แล้วผิวออกกึ่งแมตต์ แต่ยังคุมมันได้ดี เนื้อค่อนข้างเบา ระดับการปกปิด แป๋มให้กลางๆ ข้อดีคือเหงื่อออกแล้วผิวสวยมาก คุชชั่นไม่หาย


❤️ Shu : รุ่นตลับเหลี่ยมนี้เป็นเนื้อเดียวกับรองพื้นตัวดัง เนื้อเบาแต่ปกปิดรอยได้ดีมากๆ คุมมันก็โอเค เป็นงานผิวแบบไบร์ทๆ แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าถ้าหน้าแห้งกว่านี้อาจจะแมทไปหน่อย 


❤️ Espoir : แป๋มมอบมงให้ตัวนี้ หยิบใช้บ่อยมาก มันบิ้วระดับปกปิดได้สูง แต่ถ้าแท็บเบาก็ได้ลุคผิวใสๆ กันน้ำกันเหงื่อนะ อยู่ได้ทั้งวัน เหงื่ออกแล้วซับก็ยังผิวสวยมากๆ ไม่แครกเลย ทาไปปลูกต้นไม้ที่เขื่อนมาก็ยังผิวกิ๊งๆ


❤️ Jung saem mool : ตัวนี้เป็นรุ่น skin nuder ฟินิชผิวออกมากึ่งแมตต์จริงๆ ไม่ glow และไม่แห้ง กลางๆ กำลังดี ปกปิดดี แต่แพ้ espoir ไปแค่นิดเดียว เพราะคุมมันได้ระดับกลางๆ แต่ผิวสวยนะ งานผิวดีๆ เลยค่ะ


❤️ Pony Effect : เป็นตัวที่ออกเกือบ glow สุดใน 5 ตัว ฟินิชลุคจะออกมาแบบสาวเกาหลี defense longwear มันเป็นรุ่นที่เน้นเรื่องป้องกันฝุ่นและมลภาวะ คุมมันกลางๆ ถ้าช่วงไหนหน้าแห้งจะชอบตัวนี้มาก

ขอแนบฟินิชลุคให้ดูแบบเท่าที่มีรูปนะค้า ไม่ครบบ ;--;


Price 

ราคา In shop

Giorgio Armani to go 2,700.-

Shu Uemura Unlimited Cushion 2,100.-


ราคา Pre-order sale แถม refill (ราคาโดยประมาณนะคะ)

Espoir Taping Cover Cushion 850.-

Jung Saem Mool Skin Nuder ประมาณ 900.-

Pony Effect Defense Longwear 600-700.-

Favorite Foundation 2019

รุ่นต่างๆ ของรองพื้น


Etude House Double Lasting Foundation, Giorgio Armani Luminous Silk, YSL Touche Eclat Le Teint Foundation, UD Stay Naked Weightless Liquid Foundation

แป๋มเป็นคนชอบรองพื้นที่ไม่หนักหน้า ไม่ต้องเน้นการปกปิดแบบกริบ full coverage 100% ค้าบ ส่วนใหญ่จะลงรองพื้นด้วยฟองน้ำไข่หรือมือนะคะ ไม่ค่อยถนัดใช้แปรงลง 


เฉดสีและระดับการปกปิด


สำหรับตัวที่มีเฉดให้เลือกเยอะที่สุดคือ stay naked มาทุกโทนทุกเฉด นางเริศมาก ysl ก็ยังเยอะอยู่ armani ยังไม่หลากหลายเท่า ส่วน etude ก็รองพื้นเกาหลี จะติดเรื่องเฉดความขาว ส่วนเรื่องการปกปิด naked และ etude ปิดได้มากสุดเลย ลองดูจากรูปที่แป๋มทำไว้น้า

สำหรับ Etude ฝาดำ จัดว่าเป็นตัวถูกและดีละกัน เฉดให้เลือกมีหลายโทน แป๋มใช้โทนกลาง รองพื้นไม่ดรอปไม่เปลี่ยนสี ปกปิดโอเคเลย รอยดำรอยแดงบิ้วปิดได้ แต่หน้าแห้งอาจจะไม่ชอบ ฟินิชลุคมันแมทอยู่พอควร 


ราคาช่วง sale ที่เกาหลี (พรีมา) อยู่ราวๆ 400 กว่าบาทเท่านั้น ถูกมากๆ แต่ถ้าช็อปไทยน่าจะ 700-800.-

Armani เนื้อ luminious silk เป็นตัวที่แป๋มอยากให้ทุกคนลงทุน ถ้าชอบรองพื้นงานผิวแบบไม่ได้อยากปิดรอยอะไรเยอะ เนื้อเหลวกำลังดี ไม่ได้เบามากขนาดลงด้วยมือได้ ควรลงด้วยฟองน้ำไข่แล้วจะผิวแล้วเนียนสุดๆ ดูผิวสุขภาพดี 


แต่ใน 4 ตัว ตัวนี้ปกปิดน้อยสุด ฟีลเหมือนคนผิวดีอะ ตื่นมาสวย แป๋มชอบฟินิชลุคจากตัวนี้ รองพื้นนางก็จะราคาแรงสุด 2,500 บาทค่ะ แต่พวกเทคโนโลยีอะไรตั่งต่างที่ใส่มาในเครื่องสำอาง ดีจริงๆ งบถึงก็เป็นตัวที่น่าสนใจมากๆ

YSL รุ่น Le Teint ตัวนี้จะมีความโกลวมากสุดในทุกตัว (คือจะเรียกโกลวก็ไม่เชิง แต่มันมีความเงาออกมาสุด) เหมาะกับคนผิวแห้ง-ผสมแห้ง เพราะคุมมันกลางๆ เหงื่อออกเยอะจะตกร่องนิดหน่อย ข้อดีคือเฉดให้เลือกเยอะมาก เนื้อสัมผัสดีมากเช่นกัน แป๋มใช้วันรับปริญญาเลย เพราะอยากได้งานผิว ไม่หนา 


ตัวนี้เป็นซื้อจากฝรั่งเศส น่าจะ 1,500 ได้ ราคาที่ไทย 1,950.-

stay naked ตัวนี้ น่าจะเป็นตัวที่ปังมากๆ ในปี 2019 นางเนื้อเบาสุดใน 4 ตัว และปกปิดในระดับดีมากเมื่อเทียบกับความเบาของนาง นึกออกป้ะ สัมผัสไม่หนาเลย เนื้อเหลวระดับที่ใช้นิ้วลงได้ เฉดเยอะมาก คุมมันระดับกลางๆ ดรอปเข้าผิวประมาณครึ่งเฉด ฟินิชลุคแรกๆจะขาวหน่อย เหงื่อออกแล้วจะพอดีผิว จัดว่าดี เป็นอีกตัวที่ควรมี


แป๋มซื้อที่ sephora ราคา 1,600.-

Favorite Concealer 2019

ขอสารภาพก่อนว่า ก่อนหน้านี้เลือกสีคอนซีลพลาดมาตลอด จะเลือกขาวกว่ารองพื้นหนึ่งเฉด ซึ่งพอหมดวัน กลายเป็นดูใต้ตาคล้ำ เพิ่งมาเลือกถูกกับ loreal ตัวสุดท้ายจ้า (เลยถ่ายแยก)



L.A. Girl Pro Conceal ถูกและดี อันนี้จัดว่า Highly recommend มีทั้งเฉดเยอะมาก เนื้อครีม ปกปิดดีมากๆ แป๋มใช้บ่อยสุด ไม่เป็นคราบเลย โอเคมากก แป๋มใช้สี creamy beige มันเท่าผิวเลย แต่ก็กลบใต้ตาดี ราคาประมาณ 150.-


The Saem Cover Protection Tip Concealer สี 1.5 น่าจะเป็นตัวดัง สีมันขาวมาก มี 3 เฉดเอง แต่ว่าเนื้อเนียน ปกปิดดี ถือว่าผลลัพธ์โอเค แค่ระวังไม่รอดกับคนผิวเข้ม นี่ใช้ 1.5 ก็ขาวมากแล้ว ราคาประมาณ 160.-


Maybelline Instant Concealer สี N2 Light คอลซีลหัวคุชชั่น ก็ใช้ง่ายดี บิดๆให้คอนซีลออกมา สีนี้กลบใต้ตาแป๋มดีมาก เนื้อเบา แต่รู้สึกไม่ได้คุมมันเป๊ะเว่อขนาดนั้น ถ้าผิวแห้งพอใช้ทั้งวันอาจจะเป็นคราบนิดนึง เฉดสีน้อยไปนิด ราคาประมาณ 300.-


Stay Naked Correcting Concealer รุ่นนี้ก็มีเฉดเยอะ มีทั้งอันเดอร์โทนเหลือง ชมพู และกลางให้เลือกใช้ ดีตรงนี้ เนื้อเบา ปกปิดดีแต่ไม่หนา ซึ่งตัวนี้แป๋มใช้คู่กับรองพื้นของนางละผิวเนียนตาแตกเลย 1100.- จ้า


สุดท้ายที่ชอบจริงๆ มงลงกับ Loreal Infallible Full Wear สี 308 Vanilla สีนี้เลือกถูกแล้ว พอดีกะผิวและรองพื้น ปกปิดกริบมากๆ ก็เลยเนื้อหนาหน่อยถ้าเทียบกับตัวอื่น แต่ชอบจริงๆ อยู่ได้จนค่ำใต้ตาไม่ร่อนเลยอะ ราคาประมาณ 300.- (แท่งยักษ์มาก ตอนสั่งมาตกใจ)

Applicator


❤️ the saem เป็นหัวจุ่มๆ หัวตัดเฉียงนิดนึง standard ทั่วไป 

❤️ L.A.Girl หัวพู่กันใช้ง่ายมาก แต่ใช้นานๆ จะรู้สึกไม่สะอาดอะ555555 มันจะรู้สึกเลอะๆ กะปริมาณในการบีบยาก

❤️ Maybelline หัวคุชชั่นพุ่มใช้ง่ายจริง แต่ก็รู้สึกไม่สะอาด เหมือนเนื้อคอนซีลมันไปกองๆ อยู่

❤️ Stay Naked หัวจุ่มมีความโค้งและเฉียงเยอะกว่าแบรนด์อื่น เขาน่าจะออกแบบมาให้ใช้ง่ายขึ้น แต่สำหรับแป๋มก็เฉยๆ5555555 ไม่ได้รู้สึกว่าว้าว

❤️ Loreal เป็นทรงหัวแปรงท่ั่วไป แต่ขนาดใหญ่กว่าสักสองเท่า แนะนำให้จุ่มทีละน้อยๆ

Favorite Powder Pact 2019

รุ่นต่างๆ ของแป้ง


4U2 BY POM VINIJ Flawless Finishing Powder, Srichand Enchanted Duo Charm Compact Powder, Ver.88 Face Blur Compact, Nario Llarias Moist N' Matte Balancing Powder และ  Eglips Blur Powder Pact

 

ใน 5 ตลับนี้ ทุกตัวเป็นแป้งผสมรองพื้นยกเว้น eglips นะคะ

❤️ 4U2 ตลับทองของป้อม วินิจ สี soft beige ตัวนี้แป๋มใช้จน hitpan ชอบสุดใน 2019 เป็นแป้งผสมรองพื้นที่เบาผิวมากก เนื้อเบา ไม่เป็นเค้กๆ ปาดแป้งละคือละเอียด เหงื่อออกละผิวสวย ชอบมากๆ  แต่มันไม่ได้กันน้ำกันเหงื่องะ 


❤️ Srichand สี golden crown เป็นแป้งทูเวย์ที่ใช้แบบแห้งและเปียกได้ ส่วนตัวใช้แต่แบบแห้งนะคะ ตัวนี้เนื้อเค้กสุดใน 5 ตัวเลยอะ ถ้าลงด้วยพัฟแป๋มว่าหนา จะใช้แปรงหัวพุ่มใหญ่ปัดแทน คุมมันได้ดี กันน้ำกันเหงื่ออยู่ วันไหนต้องออกข้างนอกนานๆ แป๋มชอบตัวนี้ สีพอดีผิวด้วย


❤️ Ver.88 natural beige ช่วงหลังเป็นตลับที่พกไปอีกบ้านตลอด ชอบมากๆ ให้อันดับสอง เนื้อแป้งเบา แต่ปกปิดดีเลย เน้นเรื่องเบลอรูขุมขนผิวขรุขระ จัดว่าเป็นตัวถูกและดี ควรมี 


❤️ Nario Llarias สี Natural Nude ตัวนี้มีโอกาสลองเพราะแบรนด์ส่งให้ เพิ่งเคยใช้ของแบรนด์นี้ ประทับใจอยู่ แป้งเนื้อเนียนและคุมมันได้ระดับกลางๆ แป๋มชอบใช้เซ็ตเมคอัพ ปกปิดดีอยู่


❤️ Eglips เบอร์ 23 น้องคนนี้ไม่ผสมรองพื้นอยู่คนเดียว แป้งเลยเบาผิวมว้ากก แป๋มใช้ตลับสองละ ชอบความเบลอผิวได้จริงๆ สบายผิว ใช้ละไม่อุดตัน ไม่เป็นคราบ ละหน้าดูไม่แห้ง แต่มันไม่ได้ปกปิดรอยอะไรเท่าไหร่ วันเบาๆก็ใช้คู่คอนซีลเลอร์ กำลังดี

ทดสอบการกันน้ำ


แป๋มไม่แน่ใจว่าแบรนด์ไหนเคลมเรื่องกันน้ำกันเหงื่อบ้างนะคะ แต่จากที่ทดสอบและใช้มา ศรีจันทร์เป็นตัวเดียวที่กันน้ำ (แต่พอเหงื่อออกนางแครกนิดหน่อย) 4U2 ไม่กันน้ำ แต่เหงื่อออกแล้วผิวออกมาดีมาก เรื่องคุมมัน สำหรับแป๋มที่ผิวค่อนแห้ง จะชอบตัว 4U2, Ver.88 และ Nario ตามลำดับเลย


Price

4U2 Pom Vinij 599.-

Srichand 320.-

Ver.88 Face Blur 290.-

Nario Llarias 650.- (เหมือนลดบ่อยนะ รอเวลาลด)

Eglips 235.-

Favorite Highlight 2019

รุ่นและสีของไฮไลท์แบรนด์ต่างๆ


Benefit Pretty in the USA : Dandelion Twinkle

Hourglass รุ่น Ambient Lighting Powder : Incandescent Strobe Light

Becca Shimmering Skin Perfector Pressed : Champagne Pop

Wet n Wild MegaGlo Highlighting Powder : Precious Petals


และมีอีกตัวที่เพิ่งมาเป็นเฟบส่งท้ายปีน้า (ถ่ายแยกค่า)

Bobbi Brown Highlighting Powder : Pink Glow

ไฮไลท์ Benefit เป็น fav ตลอดปี 2019 ไม่มีใครเบียดตก เนื้อละเอียดมากกก คือละเอียดกำลังดี ไม่เล็กเกินไป ปัดพอดีๆ กำลังฟาดเลย สีขาวมุก สวยแบบอยากกราบ ราคา 1,950.- มันดีทั้งพาเลตนะ ควรมี!


Hourglass รุ่น Ambient Lighting Powder แป๋มใช้สีขาวสุดในรุ่น ไฮไลท์รุ่นนี้มันไม่ฟาดแบบหน้าเงาเป็นปลาทู เพราะเนื้อมันละเอียดม๊ากกก เหมาะกับคนชอบผิวแบบไม่ปลาทู ไม่เว่อ เหมือนผิวลูกคุณหนู ราคา 1,650.-


Becca  Champagne Pop เป็นสีแชมเปญทอง ไฮไลท์ตัวนี้คือฟาดๆๆๆ แบบอันนี้ฟาดจริงๆ ปัดเบาๆก็เงาไปถึงโลกหน้าแล้ว เนื้อชิมเมอร์แน่นมาก ราคา 400-500.- 


Wet n Wild สี Precious Petals สีแชมเปญ ใช้บ่อยจนลายหายเกือบหมด เนื้อละเอียดพอสมควร (แต่ถ้าเทียบกับตัวอื่น น่าจะใหญ่สุดนะ) ระวังเรื่องเป็นผงนิดนึง ราคา 200-300.- 


Bobbi Brown ตัวใหม่สี Pink Glow ไฮไลท์ออกขาวมุกมีอมชมพูจางๆ ชิมเมอร์ละเอียดมาก แต่มันไม่ได้ละเอียดจนดูเบาเหมือน hourglass มันยังมีความเงาฟาดอยู่นะ ปาดจมูกและโหนกแก้มทีพุ่งมาก ปัดแล้วเงาแบบไม่โป๊ะ 2,100.-

ขอแนบไฮไลท์บนหน้าเท่าที่มีรูปค่า ขาด hourglass อันน้า

Favorite Blush On 2019

เป็นเฟบอีกตัวที่ทำไวก็มีแยกไว้นิดนึงนะคะ โทนที่หยิบมาจะออกแดงสดกับอมแดง แป๋มใช้บ่อยสุดแล้ว


(ถ้าทุกคนสนใจอยากดูรวมบลัชออนสีชมพู คอมเม้นบอกกันด้ายย เผื่อทำเพิ่ม)

 

รีวิวแบบง่ายๆ เลย เรื่องความติดทนโอเคหมด น่าจะเพราะดูแลผิวให้มันไม่ขาดน้ำ แป่มลงเมคอัพแล้วมันจะอยู่ทั้งวัน 


Clinique Cheek Pop สี Cola Pop ปัดแล้วเหมือนเขินๆ แก้มแดงธรรมชาติอะ ชอบความชิมเมอร์เล็กๆ ของนาง สีทนมาก อยู่ทั้งวันค่ะ ราคา 1000.- 


NYX Sweet Cheeks ถ้าเป็นสายชิมเมอร์บลิ้งๆ หน่อยน่าจะชอบค่ะ ปัดแล้วน่ารักดี สีแดงออกทับทิมสด ชิมเมอร์ใหญ่ แต่ปัดละก็ไม่ได้ดูรูขุมขนกว้างนะ 295.-


Saemmul RD02 ถือว่าเป็นสีฮิตและควรมี แดงตุ่นๆ เป็นเนื้อแมทท์ ราคาถูกมาก ประมาณ 150.-


ส่วนถูกและดีที่ใช้หลายสีของเขาเลย คือ Malissa Kiss แป๋มหยิบสี friday ใช้บ่อยสุด สีมันแดงอมพีชอะ สวยจริงๆ ทาตาได้ด้วย ชอบเพราะเนื้อ มันไม่ใช่ผงฝุ่นงะ เป็น creamy matte ใช้แปรงจิกสีออกมาไม่มีผงเลย ชอบตรงนี้ ตอนราคาโปรแค่ 139.-


ส่วนตัว mistine ตอนนั้นถ่ายอะเป็นเฟบ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว555555 สีสวย แต่ติดตัวอื่นมากกว่า


ตัวนี้ได้รับจากทางแบรนด์ในช่วงเดือนธันวา ซึ่งช้ากว่าที่ทำรวมเฟบไปหน่อยเลยต้องแยกนะค้า


มันคือ Bbia Last Highlighter เป็นไฮไลท์เนื้อดินน้ำมัน ไม่แน่ใจว่าเกาหลีเขาให้ใช้เป็นไฮไลท์อย่างเดียวมั้ยนะ555555 แต่แป๋มหยิบมาเป็นเฟบบลัชออน เพราะชอบสี 4 petal glass (ตัวนี้จะมีความเงาหนัก เป็นไฮไลท์ไปในตัวแล้ว) กับ 5 rosy glass มากๆ เนื้อมีความด้านสุดในทุกตัว ชิมเมอร์น้อยเหมาะปัดแก้มสุด สีสวยมากๆ



หมดแล้วค่าทู้กคนนนน ;-; กรี๊ดมาก ไม่เคยเขียนรีวิวยาวขนาดนี้มาก่อน หวังว่าจะมีประโยชน์กับสาวๆจีบันกันบ้างนะคะ ใครสงสัยอะไรเพิ่มเติมถามได้เยยย สุดท้ายแป๋มก็ขอฝากตัวเอาไว้แล้วจะกลับมารีวิวบ่อยๆ ค่า

Discussion (20)

น่าลองเพียบค่าาา ?
อลังการ น่าลองหลายตัวมากค่ะ
รีวิวเเน่นมากค่ะ
ขอบคุณที่มาแชร์นะคะ