โดยส่วนตัวเราเป็นคนชอบซื้อกล่องพลาสติกสำหรับใส่ของมาก ถ้าเดินผ่านจะต้องหยุดแวะดูตลอด เผื่อว่าจะมีไซส์สำหรับใส่ของที่ห้องและตรงกับความต้องการ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยตรงกับความต้องการ แต่ก็พอปรับใช้ได้ โดยร้านที่ชอบไปซื้อส่วนใหญ่ก็จะเป็น Muji, Central, HomePro หรือ Daiso

เหตุผลที่ชอบซื้อกล่องและตะกร้าพลาสติกมาใส่ของ เพราะคิดว่ามันจะทำให้เคลื่อนย้ายง่าย ทำให้จัดของเป็นระเบียบมากขึ้น เห็นของที่จะหยิบใช้ทำให้ง่ายต่อการหา ทำความสะอาดง่าย และมีพื้นที่มากขึ้นค่ะ

ในรูปจะเป็นของที่เราจัดไปแล้วก่อนปีใหม่ เคลียร์ของไปส่วนหนึ่ง แล้วก็มีซื้อของเพิ่มขึ้นมาอีก ของส่วนใหญ่จะเป็นสกินแคร์ เนื่องจากปีที่แล้วบ้าซื้อสกินแคร์หนักมาก จึงมีทั้งที่กำลังใช้อยู่ และยังไม่ได้เปิดใช้อีกหลายตัวเลยค่ะ ส่วนเครื่องสำอางเรามีไม่มาก เพราะเป็นคนไม่ชอบแต่งหน้าเท่าไร

เราจะเริ่มจากจุดแรกเป็นการจัดระเบียบของที่ชั้นวางเตี้ยๆ สามารถวางของได้ 3 ชั้น เราจะเอาไว้ใต้โต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งชั้นนี้มันจุของได้เยอะม้ากกกก

ด้านบนสุด เราจะวางพวกวิตามินต่างๆ และเทียนหอมสำหรับจุด เพราะหยิบใช้ค่อนข้างบ่อยและจะใช้สลับๆ กัน จะได้ไม่ต้องรื้อของเวลาจะใช้

ชั้นกลาง เราจะใช้เก็บสกินแคร์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ยังไม่ได้เปิดใช้ คิดว่าจะใช้ให้หมดภายในปีนี้ และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ซื้อเพิ่มอีก เพราะมันเยอะมาก

ชั้นล่างสุด เราใช้เก็บน้ำหอมที่ยังไม่ได้เปิดใช้ ครีมอาบน้ำและโลชั่นที่ซื้อตุนไว้หนักมาก เพราะเป็นคนชอบครีมอาบน้ำหอมๆ คือบางแบรนด์หอมมาก จนเลือกไม่ได้เลยซื้อมันทุกกลิ่นไปเลย 555

หลังจากที่จัดเสร็จแล้วมันดูสะอาดตามากค่ะ ดูเป็นระเบียบ น่ามองไปหมดจริงๆ นี่จัดเอง ยังแอบยิ้มกับตัวเองเลยค่ะ

จุดที่สองที่เราจะจัด คือ แผ่นมาสค์ชีททั้งหลาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่เราขาดไม่ได้เลย ต้องใช้ทุกวัน แต่เป็นคนไม่ได้เลือกเยอะ สะดวกหยิบแบบไหนก็ใช้แบบนั้น เราจึงรวมทุกชิ้นไว้ในตะกร้าพลาสติกที่ใหญ่ที่สุด แต่เป็นแนวสูงเพราะจะทำให้ประหยัดพื้นที่แนวกว้างได้ และนี่ก็เป็นตัวที่มีตุนไว้เยอะมากอีกตัวหนึ่งที่ต้องจัดการให้หมด และไม่คิดว่าจะต้องซื้อเพิ่ม...ไม่รู้ว่าปีที่แล้วทำไมถึงวู่วามซื้อหนักขนาดนี้ *_*

จุดที่สามกันแล้วนะคะ คือชั้นที่มีล้อเลื่อน เป็นชั้นที่เราชอบมาก ขนาดเข้ากับพื้นที่ที่เรามีเป๊ะเลย เรียกว่าเห็นปุ๊บ เราซื้อเลยค่ะ

ชั้นบนสุด เราจะใช้วางเครื่องสำอางแทบทุกตัวที่มี ยกเว้นลิปสติก และแปรงแต่งตาเล็กๆ บางส่วน รวมถึงสกินแคร์พวกเซรั่มที่ต้องใช้ทุกวันก็จะวางไว้ตรงนี้เช่นกันค่ะ

ชั้นกลาง เราจะเก็บโลชั่นที่ต้องใช้ทุกวันไว้กับสเปรย์ระงับกลิ่นกายไว้ด้วย เพราะเป็นทรงสูงเหมือนกัน แล้วก็มีสำลีที่ต้องใช้ทุกวันวางไว้พื้นที่เหลือด้านข้าง

ชั้นล่างสุด จะเป็นน้ำหอม พาเลทอายชาโดว์ คุชชั่นที่ยังไม่เปิดใช้ และโลชั่นที่ไว้สำหรับเดินทาง เนื่องจากเป็นของที่ใช้น้อยมาก โดยเราจะเอาพวกน้ำหอมขวดเล็กวางใส่กล่องพลาสติก จะได้ไม่ล้มง่าย ส่วนพวกขวดใหญ่ก็วางบนชั้นปกติ

แค่นี้เราก็จะได้รถเข็นพร้อมใช้งานแล้วค่ะทุกคน มันสะดวกและง่ายต่อการหยิบใช้มากๆ ตั้งแต่มีชั้นนี้ ทำให้เราประหยัดพื้นที่ไปเยอะเลยค่ะ 

จุดที่สี่ เป็นจุดสุดท้าย คือโต๊ะเครื่องแป้งของเรานั่นเอง ด้วยความที่ห้องเรามีพื้นที่เล็กมากๆ ทางคอนโดจึงออกแบบโต๊ะเครื่องแป้งมาแบบเล็กกะทัดรัด ดังนั้นเราจึงต้องจัดระเบียบจุดนี้ค่อนข้างมากหน่อย ซึ่งวิธีการก็เหมือนเดิมค่ะ

เราจะใช้กล่องพลาสติกใส่พวกโทนเนอร์ น้ำตบ แล้วก็รีมูฟเวอร์ที่เป็นขวดทรงสูงไว้ด้วยกัน กล่องใสแบบเตี้ยเราจะใช้วางลิปสติกทุกตัว เพราะจะทำให้หาง่ายมากค่ะ หยิบใช้ก็ง่ายด้วย แล้วก็พวกแปรงแต่งหน้าที่มีอยู่น้อยนิด เราก็จะวางไว้บนโต๊ะนี้เช่นกัน และสุดท้ายพวกครีมกระปุก เราจะวางใส่กล่องพลาสติกเตี้ย เพื่อให้เห็นชัดเวลาจะหยิบใช้ และเพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ เราก็จะซ้อนกล่องที่วางครีมไว้บนโต๊ะ โดยเอาครีมที่ใช้ไม่บ่อยไว้ด้านล่าง และครีมที่ใช้บ่อยไว้ด้านบน

ส่วนในลิ้นชัก เราจะใส่พวกอายแชโดว์เล็กๆ และบลัชออนที่ใช้บ่อยๆ รวมถึงนาฬิกาก็จะใส่ไว้ในนี้เช่นกันค่ะ

ครบแล้วทั้งสี่จุดที่เราได้จัดระเบียบไปในวันนี้นะคะ พอจะเป็นไอเดียให้สาวๆ บ้านจีบันได้บ้างไหมเอ่ย การจัดของก็ต้องตามใจผู้ใช้เป็นหลัก แต่ละคนก็จะมีไอเดียแตกต่างกันไป อันนี้ก็สะดวกสำหรับเราดีค่ะ

Empty ทีนี้ก็มาถึงกลุ่มที่ต้องทิ้ง เพราะเพิ่งจะใช้หมด จึงมีไม่เยอะ ก็ถือโอกาสเคลียร์ของทิ้งเลยแล้วกันค่ะ

No longer spark joy จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ก็เคลียร์ไปแล้ว แต่พอต้องเคลียร์รอบนี้ เราก็ตัดใจแล้วค่ะ เพราะคิดว่าคงไม่ได้ใช้จริงๆ ตอนแรกก็คิดว่าจะพยายามใช้ต่อให้หมด แต่ดูแล้วคงไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเราไม่ได้ชอบเลย พวกนี้เราก็จะส่งต่อให้น้องๆ ค่ะ

ปิดท้ายด้วยภาพที่เราจัดของเสร็จเรียบร้อย มาอวดให้สาวๆ ได้ดูกัน ซึ่งเราก็หวังว่าใครบางคนอาจจะได้ไอเดียจากการจัดของตามแบบฉบับชาวคอนโดแบบเรา ที่ชอบซื้อ แต่ไม่มีที่จะเก็บ โดนบ่นไปหลายรอบไม่ให้ซื้อเพิ่ม แต่พอสักพักก็แอบซื้ออีก นี่แหละค่ะผู้หญิง ^_^