ฝึกทักษะ..ศิลปะการอ่านใจกันเถอะ
gasei35กระทู้สืบเนื่องมาจากกระทู้เดิมนะค่า
http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=29312
ใครได้เจ้าตัวนี้ Telepathy ก็ลองฝึกกันดูนะจ้า...^^
การอ่านใจ - ศิลปะแห่งการชำแรกลงไปในจิต
การอ่านใจเป็นวิธีอย่างหนึ่งซึ่งสามารถทำให้สามารถคาดการณ์ความคิดของใครก็ตามที่เราสนทนาอยู่ก็ได้ ประโยชน์นั้นโบราณท่านว่าไว้สำหรับ ตรวจสอบจิตใจของคนผู้นั้นว่าเป็นเช่นไร เพื่อห้ามปรามยามเขาจะกระทำไม่ดี เพื่อป้องกันตัวเองยามเขามาร้าย การอ่านใจนั้น ไม่ใช่ว่า จะอ่านออกมาเป็นคำพูดเลย เช่น นายAคิดในใจว่า อยากต่อยหน้านายB แล้วเราจะสามารถอ่านได้เลยว่า เขากำลังพูดอะไรอยู่ อันนั้นเกรงว่าจะไม่ใช่ การอ่านใจมีขอบเขตที่ทำได้คือ รู้ว่าเขาจะทำอะไร ถ้าให้ถูกต้องทุกคำพูดนั้นเป็นไปไม่ได้
การอ่านใจนั้น นอกจากจะต้องมีสมาธิและการฝึกฝนที่ชำนาญแล้วยังต้องมีองค์ประกอบแห่งความสามารถที่ต้องฝึกฝนนั่นก็คือ
1.การสังเกตอาการ ท่าทาง
2.การฝึกฟังน้ำเสียง
3.การมองเข้าไปในแววตา
4.การพยายามใช้จิตชำแรกเข้าไป
ซึ่งในบรรดาศาสตร์ที่ควรศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้กระจ่างในการอ่านใจมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือเอนเนียแกรม , แก่นนพลักษณ์,การทำสมาธิ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น
การอ่านใจจะรู้ได้อย่างไรว่าอ่านได้?
ต้องไม่กิดจากความบังเอิญ มันจะเกิดขึ้นเองจากความชำนาญ อ่านบ่อยเข้าบ่อยเข้า เผลอๆบางทีสำหรับคนที่จิตอ่อนนั้น ความคิดเขาแล่นเข้ามาอยู่ในหัวราเองด้วยซ้ำไป ทั้งนี้ต้องหมั่นฝึกฝน ทำไปเรื่อยๆมากๆ จนเกิดความแน่ใจ และต้องอย่าลืมว่าอย่าอวดอ้างสรรพคุณ จงย้ำในจุดมุ่งหมายที่ทำ
ข้อห้าม?
1.สำหรับคนที่ท้าทายเรา และ มักมีจิตแข็ง อาจจะอ่านไม่ได้ เหตุผลเพราะว่าจิตใจเขามีอำนาจความกล้าอยู่และในใจของเขาเหล่าน้นก็ฟุ้งซ่านเกินกว่าที่จะจับประเกด็นได้ เพราะเขากลัวเราจะเดาถูก และเมื่อบอกว่าเขาฟุ้งซ่านเขามักจะปฏิเสธ ตามนิสัยธรรมดามนุษย์
2.คนที่กลัวมาก ขี้กลัว นั่นก็เช่นเดียวกัน ควรใช้วิธีอื่นในการล้วงความลับออกมาจากใจ หรือ อ่านเพื่อเป็นแนวในการปลอบโยนเขาเท่านั้น
3.คนที่ฟุ้งซ่าน เพราะ ความคิดของเขาเหล่าน้นจะดิ้นไปเรื่อย บางทีจับจิตได้ตรงนี้ พออีกชั่วขณะจิตเปลี่ยนความคิดไปอีกทาง
4.และอื่นๆ(อ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือเกี่ยวกับเรื่องจิต รู้สึกที่ร้านแพร่ เซนทรัล ลาดพร้าวมี)
เราจะอ่านใจอย่างไร?
1.ฝึกเป็นผู้จำพลอต อากัปกริยาของมนุย์ ว่าน้ำเสียงเช่นนี้แสดงว่าอารมณ์เช่นนี้ หน้าตาอย่างนี้อารมณ์เช่นนี้ ลักษณะการพูดอย่างนี้อารมณ์เช่นนี้ก่อนในพื้นฐาน แล้วค่อยพัฒนาไปจนสามารถชำแรกเข้าไปในใจ ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปทีละขั้น
2.หมั่นฝึกฝนสมาธิ เพราะจะทำให้เราเป็นคนคิดมีระบบ มีปัญญาญาณพอจะแยกแยะได้ และพยายามเข้าถึงอารฒณืความรู้สึกของอีกฝ่าย โดยอาจจะจินตนาการว่าระหว่างที่คุยนั้น พลังของคุณกับผู้ที่คุยด้วยชื่อมเป็นสายใยเดียวกัน เขานึกคุณก็รู้ ราวกับมันต่อกันเป็นต้น
3.พยายามดูเหตุการณ์ต่างๆแล้วมาประยุกต์ใช้
ปัญหาในตอนแรกๆ?
1.แน่นอนมันต้องมีปัญหา เพราะ ว่าเหมือนไอ้บ้าเดานู่นเดานี่ อันนี้เราต้องทน เมื่อเราเก่งแล้วเราจะดีเอง
2.อย่าท้อแท้แท้มันจะไม่สำเร็จภายในเวลาที่วาดหวังไว้
3.อย่าลืมว่า การชำแรกจิตลงไปนั้นยากมาก นึกดูดีดี ว่าถ้ามีใครสักคนมาอ่านใจท่าน ท่านคงต้องขัดขืนมากเป็นแน่ ฉะนั้นลองคิดกับกันว่าถ้าท่านอ่านใจคนอื่นไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตามมันจะยากมั้ย
4.ท่านอาจจะไม่ต้องเชี่ยวชาญเรื่องนี้ก็อาจจะเป็นได้ เพียงแต่ท่านรู้หลักและพอจะเดาทิศทางการเป็นไปของเหตุกาณณืที่สัมพันธ์กับบุคคล เพื่อประโยชน์ในการเยียวยาความทุกข์เศร้าแก่คนรอบข้าง
สิ่งที่อยู่ใต้สายตา เป็นประตูของความคิดและความรู้สึกทั้งปวง
ทำใจเย็นๆนะ นิ่งที่สุด หายใจลึกๆ
มองเข้าไปในตาของคนที่คุณต้องการอ่าน
-ถ้าเขาหลบตา นั่นแปลว่าเขาละอายต่อการจ้องของคุณ
-ถ้าเขาเพ่งมองเราตอบ เราจะได้เห็นปราการที่บังตัวตนที่แท้จริงของเขาไว้
-ถ้าเขามองกลับ เราอาจได้เห็นหลายๆสิ่ง ที่ได้รับการถ่ายทอดออมมา
"มองกรูทำไมวะ" เป็นต้น _ _"
-เขามองอย่างไร้ความรู้สึก แววตาที่ไม่เปล่งประกาย นั่นก็คงอ่านกันได้บ้าง
ขอบคุณโอษฐ์ที่มีความรู้แบบนี้มาให้เรียนรู้กันเน้อ
http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=29312
ใครได้เจ้าตัวนี้ Telepathy ก็ลองฝึกกันดูนะจ้า...^^
การอ่านใจ - ศิลปะแห่งการชำแรกลงไปในจิต
การอ่านใจเป็นวิธีอย่างหนึ่งซึ่งสามารถทำให้สามารถคาดการณ์ความคิดของใครก็ตามที่เราสนทนาอยู่ก็ได้ ประโยชน์นั้นโบราณท่านว่าไว้สำหรับ ตรวจสอบจิตใจของคนผู้นั้นว่าเป็นเช่นไร เพื่อห้ามปรามยามเขาจะกระทำไม่ดี เพื่อป้องกันตัวเองยามเขามาร้าย การอ่านใจนั้น ไม่ใช่ว่า จะอ่านออกมาเป็นคำพูดเลย เช่น นายAคิดในใจว่า อยากต่อยหน้านายB แล้วเราจะสามารถอ่านได้เลยว่า เขากำลังพูดอะไรอยู่ อันนั้นเกรงว่าจะไม่ใช่ การอ่านใจมีขอบเขตที่ทำได้คือ รู้ว่าเขาจะทำอะไร ถ้าให้ถูกต้องทุกคำพูดนั้นเป็นไปไม่ได้
การอ่านใจนั้น นอกจากจะต้องมีสมาธิและการฝึกฝนที่ชำนาญแล้วยังต้องมีองค์ประกอบแห่งความสามารถที่ต้องฝึกฝนนั่นก็คือ
1.การสังเกตอาการ ท่าทาง
2.การฝึกฟังน้ำเสียง
3.การมองเข้าไปในแววตา
4.การพยายามใช้จิตชำแรกเข้าไป
ซึ่งในบรรดาศาสตร์ที่ควรศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้กระจ่างในการอ่านใจมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือเอนเนียแกรม , แก่นนพลักษณ์,การทำสมาธิ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น
การอ่านใจจะรู้ได้อย่างไรว่าอ่านได้?
ต้องไม่กิดจากความบังเอิญ มันจะเกิดขึ้นเองจากความชำนาญ อ่านบ่อยเข้าบ่อยเข้า เผลอๆบางทีสำหรับคนที่จิตอ่อนนั้น ความคิดเขาแล่นเข้ามาอยู่ในหัวราเองด้วยซ้ำไป ทั้งนี้ต้องหมั่นฝึกฝน ทำไปเรื่อยๆมากๆ จนเกิดความแน่ใจ และต้องอย่าลืมว่าอย่าอวดอ้างสรรพคุณ จงย้ำในจุดมุ่งหมายที่ทำ
ข้อห้าม?
1.สำหรับคนที่ท้าทายเรา และ มักมีจิตแข็ง อาจจะอ่านไม่ได้ เหตุผลเพราะว่าจิตใจเขามีอำนาจความกล้าอยู่และในใจของเขาเหล่าน้นก็ฟุ้งซ่านเกินกว่าที่จะจับประเกด็นได้ เพราะเขากลัวเราจะเดาถูก และเมื่อบอกว่าเขาฟุ้งซ่านเขามักจะปฏิเสธ ตามนิสัยธรรมดามนุษย์
2.คนที่กลัวมาก ขี้กลัว นั่นก็เช่นเดียวกัน ควรใช้วิธีอื่นในการล้วงความลับออกมาจากใจ หรือ อ่านเพื่อเป็นแนวในการปลอบโยนเขาเท่านั้น
3.คนที่ฟุ้งซ่าน เพราะ ความคิดของเขาเหล่าน้นจะดิ้นไปเรื่อย บางทีจับจิตได้ตรงนี้ พออีกชั่วขณะจิตเปลี่ยนความคิดไปอีกทาง
4.และอื่นๆ(อ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือเกี่ยวกับเรื่องจิต รู้สึกที่ร้านแพร่ เซนทรัล ลาดพร้าวมี)
เราจะอ่านใจอย่างไร?
1.ฝึกเป็นผู้จำพลอต อากัปกริยาของมนุย์ ว่าน้ำเสียงเช่นนี้แสดงว่าอารมณ์เช่นนี้ หน้าตาอย่างนี้อารมณ์เช่นนี้ ลักษณะการพูดอย่างนี้อารมณ์เช่นนี้ก่อนในพื้นฐาน แล้วค่อยพัฒนาไปจนสามารถชำแรกเข้าไปในใจ ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปทีละขั้น
2.หมั่นฝึกฝนสมาธิ เพราะจะทำให้เราเป็นคนคิดมีระบบ มีปัญญาญาณพอจะแยกแยะได้ และพยายามเข้าถึงอารฒณืความรู้สึกของอีกฝ่าย โดยอาจจะจินตนาการว่าระหว่างที่คุยนั้น พลังของคุณกับผู้ที่คุยด้วยชื่อมเป็นสายใยเดียวกัน เขานึกคุณก็รู้ ราวกับมันต่อกันเป็นต้น
3.พยายามดูเหตุการณ์ต่างๆแล้วมาประยุกต์ใช้
ปัญหาในตอนแรกๆ?
1.แน่นอนมันต้องมีปัญหา เพราะ ว่าเหมือนไอ้บ้าเดานู่นเดานี่ อันนี้เราต้องทน เมื่อเราเก่งแล้วเราจะดีเอง
2.อย่าท้อแท้แท้มันจะไม่สำเร็จภายในเวลาที่วาดหวังไว้
3.อย่าลืมว่า การชำแรกจิตลงไปนั้นยากมาก นึกดูดีดี ว่าถ้ามีใครสักคนมาอ่านใจท่าน ท่านคงต้องขัดขืนมากเป็นแน่ ฉะนั้นลองคิดกับกันว่าถ้าท่านอ่านใจคนอื่นไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตามมันจะยากมั้ย
4.ท่านอาจจะไม่ต้องเชี่ยวชาญเรื่องนี้ก็อาจจะเป็นได้ เพียงแต่ท่านรู้หลักและพอจะเดาทิศทางการเป็นไปของเหตุกาณณืที่สัมพันธ์กับบุคคล เพื่อประโยชน์ในการเยียวยาความทุกข์เศร้าแก่คนรอบข้าง
สิ่งที่อยู่ใต้สายตา เป็นประตูของความคิดและความรู้สึกทั้งปวง
ทำใจเย็นๆนะ นิ่งที่สุด หายใจลึกๆ
มองเข้าไปในตาของคนที่คุณต้องการอ่าน
-ถ้าเขาหลบตา นั่นแปลว่าเขาละอายต่อการจ้องของคุณ
-ถ้าเขาเพ่งมองเราตอบ เราจะได้เห็นปราการที่บังตัวตนที่แท้จริงของเขาไว้
-ถ้าเขามองกลับ เราอาจได้เห็นหลายๆสิ่ง ที่ได้รับการถ่ายทอดออมมา
"มองกรูทำไมวะ" เป็นต้น _ _"
-เขามองอย่างไร้ความรู้สึก แววตาที่ไม่เปล่งประกาย นั่นก็คงอ่านกันได้บ้าง
ขอบคุณโอษฐ์ที่มีความรู้แบบนี้มาให้เรียนรู้กันเน้อ
Discussion (35)