บอกลาจุดด่างดำด้วย เซรั่ม Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมาพูดถึงผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของ Clinique กันค่ะ นั่นก็คือ  เซรั่ม

 Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter    

สูตรใหม่!!!  ที่มีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ดูแลจุดด่างดำ และสีผิวไม่สม่ำเสมอเท่านั้น แต่ยังสามารถรับมือกับการเกิดของจุดด่างดำและความหมองคล้ำที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างอ่อนโยนแต่มีประสิทธิภาพ

 โดยตัวนี้เราได้ตัวทดลองมาฟรีในปริมาณ 10 ML ซึ่งเราใช้ได้ประมาณ 14 วันค่ะ ไปดูหน้าตาของผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้กันดีกว่า.....

        สูตรนี้มีอะไรเพิ่มมาบ้างนะ        


Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ CL-302 Equalizer Technology ที่เข้ามาดูแลเรื่องจุดด่างดำได้อย่างตรงจุดและอ่อนโยน โดยมี 2 ส่วนประกอบสำคัญได้แก่


  1. CL-302 Complex ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ให้รอยสิวดูจางลง และปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสสม่ำเสมอ ด้วยส่วนประกอบของ UP302 ที่มีโมเลกุลความกระจ่างใสเข้มข้นขึ้นจากสูตรเดิม, กลูโคซามีน (Glucosamine) ช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก เผยผิวใหม่เพื่อความกระจ่างใสยิ่งขึ้น, แอสคอร์บิล กลูโคไซด์ (Ascorbyl Glucoside) ช่วยลดเลือนการเกิดจุดด่างดำ, สารสกัดยีสต์ (Yeast Extract) ช่วยให้จุดด่างดำที่เห็นได้ชัดแลดูเล็กและจางลง และกรดซาลิซีลิค (Salicylic Acid) ที่เสริมการผลัดผิวชั้นนอกเพื่อสีผิวแลดูสม่ำเสมอ

  2. Interrupter Complex ช่วยดูแลจุดด่างดำที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ให้ผิวแลดูสุขภาพดี ด้วยส่วนผสมทางพฤกษศาสตร์อันทรงคุณค่าอย่าง Gyokuro Extract สารสกัดชาเขียวจากประเทศญี่ปุ่นที่เก็บเกี่ยวด้วยมืออย่างพิถีพิถัน รวมไปถึงสารสกัดรากมัลเบอร์รี่ (Mulberry Root Extract) และสารสกัดจากรำข้าว (Rice Bran Extract) ที่ล้วนอุดมด้วยสารแอนตี้ อ๊อกซิแดนซ์ ช่วยต้านอนุมูลอิสระอันเป็นต้นเหตุของการทำร้ายผิว, ไดโพแทสเซียม ไกลซิริเซท (Dipotassium Glycyrrhizate) ดูแลผิวจากมลภาวะภายนอก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสารสกัดจากผลมะกอก บาร์เลย์ และจมูกข้าวสาลี ที่มอบความชุ่มชื้นให้ผิว


 

ไม่มีส่วนผสมของ


No parabens. No phthalates. No fragrance.


     Just happy skin.   

         เนื้อสัมผัส/กลิ่น        

เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อเจลขาวขุ่นๆ เมื่อทาแล้วเนื้อเจลซึมเข้าสู่ผิวได้ไวไม่เหนียวเหนอะหนะ 

กลิ่น : ไม่มีกลิ่นของน้ำหอมใดๆค่ะ ทาแล้วสบายใจสุดๆๆ

             ผลลัพธ์หลังลองใช้            

ต้องบอกก่อนว่าเรามีสภาพผิวที่ค่อนข้างขาดน้ำ และแพ้ง่าย นอกจากนี้ยังมีปัญหาผิวแบบเรื่องรูขุมขนกว้าง ผิวแดงง่าย มีสิว และรอยดำ/แดง จากสิว ค่ะ ซึ่งปกติเราจะไม่ใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องความกระจ่างใส เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักมีส่วนผสมวิตามินซี และเน้นการผลัดเซลล์ผิว เมื่อใช้ผิวเราจะแดง และแสบ แต่ครั้งนี้เราลองเปิดใจใช้ Clinique Even Better Clinical™ Radical Dark Spot Corrector + Interrupter ดูซึ่งเราก็กลัวว่าผิวจะแพ้แดง และแสบ แต่!!!มันไม่เป็นแบบนั้นค่ะ เมื่อใช้แล้วผิวก็เป็นปกติไม่แพ้แดง และแสบเลยค่ะ จากนั้นเราก็ใช้เรื่อยมาเช้า-เย็น เป็นระยะเวลา 14 วัน สิ่งที่เราสังเกตเห็นคือ
• ผิวเราสม่ำเสมอขึ้น และก็ดูกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม
• รอยสิวที่มีก็ดูจางลงเล็กน้อย คิดว่าถ้าใช้ต่อเนื่องนานกว่านี้น่าจะเห็นผลมากกว่านี้
• รูขุมขนดูกระชับขึ้น


สิ่งที่ประทับใจนอกจากผลลัพธ์ด้านความกระจ่างใส และเรื่องจุดด่างดำแล้ว เราชอบเนื้อสัมผัสที่นุ่มและเกลี่ยง่ายซึมไวไม่เหนอะหนะสามารถแต่งหน้าต่อได้โดยไม่เป็นคราบ นอกจากนี้ยังประทับใจในความอ่อนโยนกับผิว (ไม่มีน้ำหอม,พาราเบน) แม้ผิวเราจะไม่แข็งแรง แพ้ง่าย ก็สามารถใช้ได้แบบสบายใจ รวมๆคือชอบมาก และแฮปปี้กับสีผิวที่สม่ำเสมอ และกระจ่างใสค่ะ 

ขอจบการรีวิวเพียงแค่นี้ 

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ

บาย บายๆ ไว้เจอกันใหม่นะคะ

Discussion (10)

ยินดีด้วยจ้าน้องแคท น่าใช้มากเลย
รอยแดงดีขึ้นมากๆค่ะ เห็นรีวิวแล้วคิดว่าสมควรมีจริงๆค่า ><
ของมันต้องมีจริงๆค่ะชิ้นนี้
รีวิวน้องแคทคือจัดมาเต็มเลยย สุดยอด พี่อ่านแล้วได้ไอเดียหลายๆอย่างเลย รอยแดงดีขึ้นนะคะ
ราคาแรงจริงค่ะ แคทเดือนนี้แคทถอยน้อง Biotherm ไปแล้ว งบหมดแง้ๆๆ