เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา555 วิจะขอยกเอาผลการทดลองใช้จริงขึ้นมาให้ทุกคนได้ดูกันก่อนค่ะ ว่าพอใช้ตัว Sulwhasoo Bloomstay Vitalizing กับตัว Sulwhasoo Snowise Brightening Exfoliating Mask ไปแล้วสองอาทิตย์ ผิวมีการเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง

โดยภาพต่อจากนี้คือไม่มีการรีทัชและปรับแสงเลยค่ะ ซึ่งภาพที่เห็นอาจจะมีสีต่างกัน แต่ให้ทุกคนลองสังเกตรูขุมขน ความชุ่มชื้นของผิว และรอยแดงจากอาการระคายเคืองได้ค่ะ

สภาพผิวของวิ

วิเป็นคนผิวผสมค่ะ จะแห้งตรงขอบจมูก ลอกประจำ และเป็นสิวบริเวณคางและหน้าผากค่ะ รูขุมขนกว้างและค่อนข้างแพ้ง่ายเลยค่ะ

ผลการทดลองใช้จะเป็นยังไง ไปดูกันฮะ !!

วันที่ 1 หน้าคือหมองมากไม่ไหวแล้ว 55555 พอเข้าวันที่ 2-4 ตอนแรกตกใจนึกว่าตัวเองแพ้ค่ะ ที่ไหนได้คือกำลังจะเข้าสู่วันแดงเดือดค่ะสาวๆ ช่วงที่กำลังจะเข้าวันแดงเดือดทีไร ผิวหน้าวิจะระคายเคืองและเป็นสิวง่ายมากมากกก บวกกับนอนดึกแล้วด้วยนั้นน ก็แปลว่า ไม่ได้แพ้ครีมแต่อย่างใดค่ะ เพราะพอเข้าวันที่ 5-7 หน้าเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เลยใช้ต่อไป ปรากฏว่า เออ ผิวเรียบเนียนชุ่มชื้นขึ้น แล้วรูขุมขนคือเล็กลงด้วยค่ะ ปล.ส่วนสิวนั่นมันขึ้นปกตินะคะ ไม่ได้เกี่ยวกับครีมเลย55555

**ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์อย่างเดียวนะคะ พักผ่อน ออกกำลังกายและทานอาหารก็มีผลมากๆค่ะ*

จะสังเกตได้ว่าบริเวณผิวที่เกิดการระคายเคืองจากมลภาวะนั้น รอยแดงค่อยๆจางลงค่ะ บริเวณรอบจมูกก็แดงน้อยลง เพราะไม่แห้งเหมือนเดิมแล้วค่ะ ผิวอิ่มฟูขึ้นมามาก ถ้าไม่เชื่อ วิขอให้ซูมดูชัดๆค่ะ 5555 แล้วจะเห็นว่ามีความแตกต่างเกิดขึ้นจริง

สำหรับรูขุมขน น้องไม่สามารถหายไปได้ในชั่วข้ามคืนค่ะ 55555 จะบอกว่าแค่น้องเล็กลง ก็กราบผลิตภัณฑ์งามๆ 3 ทีค่ะ อาจจะเห็นว่าวันที่ 14 รูขุมขนดูกว้าง ความจริงคือคืนนั้นนอนดึกมาก และแสงในภาพด้วย แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าหน้ายังชุ่มชื้นแวววาวนะคะ 5555 ถือว่าสอบผ่านเลยหละ

สำหรับผลลัพธ์ที่ออกมาว้าวขนาดนี้ ส่วนนึงก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรม (ซึ่งนี่คือนอนดึกหลังเที่ยงคืนทุกวันค่ะ ถ้านอนไวกว่านี้ผลการทดสอบน่าจะออกมาดีมากกว่านี้แน่นอน) และ วิธีการบำรุงผิวให้ถูกต้องตามการใช้งานของผลิตภัณฑ์ด้วยนะคะ

ต่อจากนี้จะเป็นการสาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวของวิค่ะ โดยเราจะไล่เรียงกันไปทีละ Step นะคะ โดยวิจะใช้ผลิตภุณฑ์และลำดับในการใช้แบบนี้ ทั้ง ตอนเช้า  และ ตอนกลางคืน ค่ะ..ปะ เราไปดูวิธีใช้ที่ถูกต้องกันค่าา

ซีรั่มตัวนี้ เป็นซีรั่มที่โด่งดังมากของ Sulwhasoo เลยก็ว่าได้ค่ะ ส่วนผสมหลักนั้นเกิดจากสมุนไพรเกาหลี 5 ชนิด ซึ่งสกัดเข้มข้นออกมาเรียกว่า JAUM Balancing Complex™ ที่ทางเบรนด์บอกกับเราว่ามีความเข้มข้นสูงถึง 180% สามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นรวมถึงช่วยดูแลเรื่องของริ้วรอยต่างๆ ให้ผิวเปล่งปลั่งสดใส ที่สำคัญเหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่ายด้วยค่ะ

ขนาดจริง 90 ml.
ราคา 3,750.-

วิธีใช้

ใช้เป็นตัวแรกหลังจากล้างหน้าเสร็จ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของครีมตัวอื่นๆที่เราจะทาลงไปทีหลังค่ะ เดี๋ยวเราไปดูวิธีใช้กันนะคะ

ตัวนี้เป็นโทนเนอร์ช่วยปรับสภาพผิวค่า ส่วนผสมหลักคือดอกพลัมและส้มยูสุ กลิ่นหอมอ่อนๆ ถึง Texture จะเป็นน้ำ แต่พอทาแล้วก็รู้เลยว่าเข้มข้นมากค่ะ ผิวชุ่มชื้นขึ้นทันทีที่ทาเลย

ขนาดจริง 150 ml.
ราคา 2,500.-

วิธีใช้

จะใช้เป็นตัวที่ 2 หลังจากที่เราใช้ Pre-serum ไปแล้วค่ะ ซึ่งตัวนี้จะมีวิธีการทาอยู่ เดี๋ยวเราไปดูกันค่า

ขอหวีดนิดนึงค่ะ ชอบตัวนี้มากเป็นพิเศษเลย 5555 เพราะเนื้อเค้าทำให้ว้าวมากๆ เนื้อซีรั่มจะยืดๆหน่อย แต่ไม่เหนอะหนะเลย แถมมาในขวดแบบกด คือดีที่จะไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป แต่ที่วิเปิดขวดเพราะอยากให้ทุกคนเห็นถึงเนื้อของผลิตภัณฑ์ค่ะ ทุ่มเทที่สุดเลยยัยคนนี้55555 .... ตัวนี้นอกจากจะมีดอกพลัมส่วนผสมหลักแล้ว ยังมีต้นอ่อนและเมล็ดของผลไม้อีก 5 ชนิดเลยค่ะ ทาแล้วจะรู้สึกถึงความยืดหยุ่นและเด้งดึ๋งของผิวเลยค่ะ

ขนาดจริง 50 ml.
ราคา 4,700.-

วิธีใช้

ตัวนี้จะใช้เป็นตัวที่ 3 นะคะ และมีวิธีใช้ที่เฉพาะอีกแล้ว5555 แต่ไม่ยากค่ะ ทุกคนทำตามได้ ไปดูกันเล้ยย

คือเราจะชอบทุกตัวได้มั้ยคะ 55555 เนื้อครีมตัวนี้เกลี่ยง่ายมากค่ะ แต่...ถ้าใครเป็นคนผิวค่อนข้างมันไม่ค่อยแนะนำให้ทาตอนกลางวันค่ะ เพราะครีมเข้มข้นมาก แม้ว่าตอนที่ทาจะบางเบา แต่โดยรวมแล้วคือแน่นค่ะ ชุ่มชื้นจัดเต็ม นอกจากดอกพลัมกับเมล็ดผลไม้5ชนิดแล้ว ยังเพิ่มส้มยูสุกับส้มสามใบเข้ามาด้วยค่ะ ซึ่งเป็น Anti-oxidant ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวตึงกระชับขึ้น และลดปัญหาริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นได้นะจ้ะะ

ขนาดจริง 50 ml.
ราคา 5,000.-

วิธีใช้

สำหรับครีมก็จะมีการนวด และการตรึงจุดเพื่อกระชับผิว ไปดูกันดีกว่าค่ะว่าใช้ยังไง

บางคนอาจสงสัยว่า ทำไมวิเอาตัวมาส์กสครับมาไว้ตัวสุดท้าย?

ก็เพราะว่า เราไม่ได้ใช้ทุกวันค่ะ จะใช้แค่อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งก็พอ ไม่ให้ผิวถูกรบกวนมากเกินไป ขัดแต่พอดี 5555 แต่อยากบอกว่าเป็น มาส์กสครับที่ไม่บาดหน้าเลย และฟินที่สุด เท่าที่เคยใช้สครับมาเลยค่ะ ไม่ได้อวยแต่อยากให้ลองเอง เนื้อสัมผัสเค้าทำออกมาดีมากจริงๆ ผงโสมขาวและน้ำผึ้งบวกกับสมุนไพรต่างๆ ไม่บาดผิวเลย กลิ่นโสมและสมุนไพรก็ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายขึ้นด้วย อาบน้ำไปก็หอมกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆไป ฟินเว่อร์

วันไหนที่ใช้ตัวนี้นะคะ ให้ใช้เป็นตัวแรกหลังล้างหน้า และก่อนอาบน้ำค่ะ หลังจากอาบน้ำแล้วล้างตัวมาส์กเสร็จ ก็ใช้บำรุงผิวตัวอื่นๆตื่น แล้วนอนได้เลยค่ะ ตัวนี้เค้าจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยน และทำให้ผิวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น เปิดผิวให้พร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่ค่ะ

ขนาดจริง 80 ml.
ราคา 2,800.-

วิธีใช้

ตัวนี้เป็นมาส์กแบบล้างออกกึ่งๆสครับค่ะ คือมาส์กบนผิวหน้าที่เปียก ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วตอนอาบน้ำก็นวดวนๆสัก 2-3 นาที จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่นนะคะ

และนี่ก็คือวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของ Sulwhasoo ที่ได้มาจากกิจกรรมครั้งนี้ค่ะ วิใช้ทั้งเช้าและเย็นนะคะ แต่..ตอนเช้าจะใช้ตัวครีมแค่บางวัน เพราะวิผิวผสม ค่อนข้างจะมันไปหน่อยถ้าทาเนื้อครีมค่ะ และครีมกันแดดนั้น สำ คัญ มาก!! ต้องทาทุกวันนะคะทุกคน

สรุป!!

• ความรู้สึกหลังใช้

ผิวชุ่มชื้นขึ้นตั้งแต่ที่ลง Pre-serum ตัวแรก ลากยาวไปยันครีมตัวสุดท้าย จะรู้สึกได้อีกวันเลยว่าผิวนุ่มขึ้นมาก รูขุมขนกระชับ รอยแดงจางลง ผิวไม่ไวต่อการระคายเคือง ที่สำคัญคือผิวไม่ขาดน้ำเลย

สองสามวันแรกที่ใช้ แอบคิดเหมือนกันว่าจะแพ้ปะ(วะ) 5555 เพราะสิวผดขึ้นแถมยังรู้สึกระคายเคืองผิวด้วย... แต่!! พอเข้าวันที่สี่เท่านั้นแหละ รู้เรื่องเลย เพราะวันแดงเดือดและนอนดึกอย่างมาราธอนของอิชั้นเองง ไม่ได้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เลย55555 ตัดสินใจใช้ต่อมาเรื่อยๆจนพบว่าผลิตภัณฑ์ใช้แล้วเห็นผลจริง และวิไม่ได้แพ้ คือในที่สุดด ฉันก็เจอผลิตภัณฑ์ที่ฉันใช้ได้และกำลังจะขึ้นแท่น My favorites อีก 1 ตัว

• 1.เรื่องความกระจ่างใส

บอกเลยว่าพอจะเห็นอยู่บ้าง คือหน้าไม่ได้ขาวออกมาเลย ถ้าแบบนั้นก็คืออันตรายแล้ว 5555 แต่รู้สึกได้ว่าผิวใสขึ้นค่ะ แต่บางวันอาจจะมีผิวแดงๆขึ้นมาบ้าง เพราะฝุ่น นอนน้อยและกินของไม่มีประโยชน์ค่ะ ฮืออ

• 2.เรื่องความชุ่มชื้น

ข้อนี้ขอยกให้เป็นที่สุดของที่สุดค่ะ จะบอกว่าตอนแรกก็คิดว่าจะแพ้ไหม จะอุดตันหรือเปล่า ปรากฏว่าไม่แพ้จ้า เติมความชุ่มชื่นได้ดีมาก แต่ตัวครีมคือวิจะเน้นใช้ตอนกลางคืนมากกว่าค่ะ เพราะใช้ตอนเช้าแล้วรู้สึกว่าหน้ามันได้ แต่ถ้าอยู่ในห้องแอร์ ตอนกลางคืน แนะนำว่าให้ใช้ค่ะ กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีมาก

• 3.เรื่องการปกป้องผิวจากมลภาวะ

อันนี้ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าค่ะ แต่โดยรวมคือรู้สึกได้ วันที่ต้องออกไปข้างนอกทั้งวัน ตกตอนเย็นวิจะระคายเคืองมากๆ แล้วบริเวณแก้มก็จะแดงขึ้นมาก คัน แต่ใช้ตัวนี้แล้วอาการระคายเคืองมันน้อยลง รอยแดงๆก็หายไวขึ้นค่ะ

• 4.เรื่องคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว

รู้สึกว่าผิวกระชับขึ้นมากค่ะ คือนี่ขนาดนอนดึกมากๆทุกวัน แต่ผิวกระชับขึ้น ฟูขึ้น ลองคิดเล่นๆว่าถ้ามีเวลานอนอย่างเพียงพอ คิดว่าผลลัพธ์ออกมาดีกว่านี้อีกค่ะ 5555 รูขุมขนดูเล็กลงคือจริงๆอาทิตย์แรกก็สังกตเห็นแล้ว แต่พอมาอาทิตย์ที่สอง รอยแดงๆจางลงอีก อันนี้ดีงามค่ะ

• 5.ควรมีไหม ? จะซื้อต่อหรือเปล่า ? 

ตอบตรงนี้เลยว่า..ควรมี ควรลองมากจริงๆ เพราะไลน์นี้เค้าทำออกมาดีมากกก แต่ๆๆ การที่วิไม่แพ้ก็ไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะไม่แพ้ใช่มั้ยคะ 5555 เพราะฉนั้นต้องทดสอบค่ะ แต่สำหรับวิคือตอนนี้รักเลย ติดใจมากๆ ซื้อต่อแน่นอนค่ะ

• 6.เก็บตกก่อนจาก

วิแพ้เมือกหอยทากค่ะ แต่ชอบ Texture หนืดๆของเค้ามาก พอมาเจอตัว Bloomstay Vitalizing Serum ก็คือ อื้อหือออ ใช่เลยยย โดนใจชุ้นเลยย 555555 เพราะน้องเค้ายืดๆ ฟินมากก แถมใครที่แพ้วิตามิน C ก็ใช้ตัวนี้ได้ เพราะการบำรุงของเค้าเทียบเท่ากันเลยเด้อ ดีงามมากก

และสำหรับใครที่ยังอยู่ในวัยเรียนเหมือนวิ แต่อยากมีไว้ครอบครอง แนะนำให้เก็บทีละตัวค่ะ วิเลยอยากแนะนำตัวที่ชอบที่สุดก่อน และต้องมีเลย คือตัว Bloomstay Vitalizing Serum ตัวนี้คือควรมีจริงๆน้า แล้วค่อยๆเก็บไปทีละตัวจนครบเซ็ตเด้อ

ขอกระซิบอีกนิดว่า ตัว Snowise Brightening ก็เป็นอีกไลน์ที่ดีงามไม่แพ้กัน ถ้าไม่เชื่อลองไปส่องที่เคาเตอร์ดูนะค้า??