Update ชีวิตคนบันเทิงในสถานการณ์ Corona Virus ระบาด

กลุ่มคนดังกับ Self - Isolatingในรูปแบบที่หลากหลาย




Sam Smith ที่ไม่คุ้นเคยกับการอยู่ติดบ้านเป็นเวลานานๆยอมรับว่า ความเบื่อหน่ายจากที่ต้อง quarantine ที่บ้านทำให้เริ่มจะสติแตกแล้ว!

" ตอนนี้ชั้นอยู่ที่บ้าน ปวดหัวนิดหน่อย และก็มีอาการแพ้ด้วย แต่ชั้นว่าตัวเองคงไม่เป็นไร แต่ก็ต้องเก็บตัวเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน มันเป็นช่วงเวลาที่หนักน่าดู ชั้นขอส่งความรักไปให้ทุกคน และหวังจริงๆ ว่าพวกคุณจะโอเคและมีสุขภาพจิตที่ดี"



Madonna   ใช้เวลาว่างในการเก็บตัวที่บ้านด้วยการแปลง Vogue ไปเป็นเพลงชวนกินปลาทอด!    อารมณ์ขันเป็นการสร้างเสริมกำลังใจอย่างหนึ่ง  หลังจากที่ความวิตกกังวลพุ่งสูงขึ้นจนผู้คนจิตตกไปทุกหนทุกแห่ง  


Kylie Jenner quarantine ที่บ้านมาได้เก้าวันแล้วค่ะ  หลังจากที่นายแพทย์คนหนึ่งได้ออกทีวีเรียกร้องให้ influencer ที่มีผู้ติดตามล้นหลามให้ออกมาส่งสารถึงเด็กรุ่นใหม่ทำความเข้าใจในสถานการณ์โรคระบาดครั้งนี้ และแสดงตนเป็นแบบอย่างเพื่อจะรวมใจแก้ไขวิกฤตินี้    Kylie จึงรีบถ่ายคลิปประกาศขอร้องให้แฟนๆเก็บเนื้อเก็บตัวที่บ้านและใส่ใจดูแลตัวเองและครอบครัว เพราะ Corona virus นั้นเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริง  ถ้ายังไม่ใส่ใจ ก็อาจจะแพร่เชื้อต่อไปโดยไม่รู้ตัว   การใช้อิทธิพลต่อเด็กรุ่นใหม่ในทางที่สร้างสรรค์ทำให้ Kylie ได้รับคำชมไม่น้อยค่ะ  

เธอแนะนำเรื่องวิธีแก้เบื่อเมื่อต้องอยู่บ้านนานๆว่า
" ชั้นดูหนัง อ่านหนังสือ ทำสปาเต็มวัน แช่อ่างนานๆ maskหน้า ดูแลผิว บำรุงผม และยังใช้เวลากับลูกสาว ทำอาหาร อยู่บ้านสนุกจะตายไปค่ะ"







Cardi B กับกิจกรรมแก้เบื่อเมื่อต้อง quarantine ติดต่อกันหลายวัน     ต่อ jenga แล้วก็ชนไปถล่มลงซะ!


Bella Hadid   นั่งเปลือยอกกินเบอร์ริโต้ที่บ้านเพื่อรณรงค์ให้ผู้คนเก็บตัวเลี่ยงการระบาดของไวรัส

"ชั้นและเบอร์ริโต้ในมืออยากจะบอกทุกคนให้อยู่บ้านกันนะคะ  ไม่ใชาเพื่อตัวคุณเองเท่านั้น แต่เป็นการทำเพื่อโลกเราและคนที่คุณรัก"


" มันเหลือเชื่อมาก เพราะสิ่งที่เราต้องทำมีเพียงร่วมมือร่วมใจกันเพื่อลดการแพร่กระจายของไวรัส แต่หลายคนก็ยังขาดความเข้าใจเรื่องนี้ อย่าเห็นแก่ส่วนตนสิคะ  ลองทำจิตใจให้มีสมาธิ ใช้เวลากับสัตว์เลี้ยง หมา แมว ปลา พวกสัตว์เหล่านั้นต้องดีใจที่ได้อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง"






Gal Gadot   เป็นหนึ่งในเซเลบทีเก็บตัวที่บ้านและส่งข้อความให้กำลังใจทุกๆคน และยังชวนเพื่อนร่วมวงการมาร้องเพลง  Imagine เพื่อส่งสารว่าต่อชาวโลกว่าพวกเราจะผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันให้ได้


อย่างไรก็ตาม  บทเพลง Imagine ที่  Kristen Wiig Jamie Dornan, Labrinth, James Marsden  Sarah Silverman  Natalie Portman  Amy Adams   Jimmy   Fallon และเซเลบบอีกหลายคนร่วมขับร้องนั้นไม่ได้สร้างกระแสตอบรับที่อบอุ่นเท่าใดนัก  ถึงแม้ว่าจะมีชาวเน็ทที่ชื่นชม  แต่บน Twitter นั้นเต็มไปด้วยข้อความและ meme ประชันว่า การกระทำนี้ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ผ่อนคลายลงไป  แต่กลับชวนระคายใจเมื่อได้เห็นเหล่าคนดังที่มีฐานะการเงินมั่นคงระดับเศรษฐีร้องเพลงเจื้อยแจ้วจากแมนชั่นสุดหรู  ในขณะที่ผู้คนมากมายต้องหวาดหวั่นกับสถานภาพทางการเงินและอนาคตที่สุ่มเสี่ยงต่อการตกงาน  หลายคนเรียกร้องให้คนดังเหล่านี้บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือภาวะโรคระบาด ลามไปถึงเย้ยหยันว่าเพลง imagine ในเวอร์ชั่นนี้ฟังชวนแหวะมากกว่าจะปลุกใจให้สามัคคี


อันที่จริง พวกเราต่างก็ดูออกค่ะว่าพวกเค้ามีเจตนาดี  แต่วิธีการสื่อสารและเนื้อหาของเพลงมันอาจจะสวนความรู้สึกของคนจำนวนหนึ่งที่คาดหวังว่า  ชาวอภิสิทธิ์ชนที่มีอิทธิพลในสังคมและทรัพย์สินล้นเหลือจะช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาด้วยเงินบริจาคมากกว่ากำลังใจจากบทเพลง




กลุ่มคนดังที่ต้องเจอดราม่าไวรัส
Ariana Grande  ขึ้นชื่อเรื่องการแสดงความคิดตรงประเด็นผ่าน social media    เธอไม่พลาดจะใช้พื้นที่นี้ตำหนิคนหนุ่มสาวที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาโรคระบาดทั่วโลกไว้ว่า



" ชั้นได้ยินคนพูดว่า นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่/ เราจะไม่เป็นอะไรหรอก /เราต้องใช้ชีวิตไปตามปกติเยอะจนน่าแปลกใจ  มันทำให้ชั้นอึ้งไปเลย"


"ถ้าเป็นเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน  ชั้นก็ยังจะพอเข้าใจได้ค่ะ  แต่ถึงตอนนี้แล้ว ช่วยอ่านติดตามข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้นจะได้มั้ย  อย่าแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเลย  การที่ไม่จริงจังกับสถานการณ์ตอนนี้ทำให้เสี่ยงอันตรายและเป็นความเห็นแก่ตัวเป็นที่สุด    ไไอ้ความคิดที่ว่า เราจะรอดจากโรคเพราะเรายังอายุน้อยน่ะมันำำให้คนอื่นๆที่อายุมากหรือคนที่สุขภาพไม่ดีต้องเสี่ยงติดโรค  พอพูดอะไรแบบนี้ออกมามันทำให้คุณฟังเหมือนงี่เง่าและถือดี   คุณควรรู้จักห่วงใยคนอื่นๆซะบ้างนะ"



นักร้องสาวเชื้อสายอิตาเลียนยังได้ลงท้ายว่า " ชั้นรับรองว่าพวกคลาสเรียนฮิปฮอป โยคะอะไรนี่พักไว้ก่อนได้จ้ะ"


แต่คำพูดของเธอทำให้ชาวเน็ทจำนวนหนึ่งรู้สึกระคายใจ และกล่าวหาว่าเธอขาดความเห็นใจต่อคนในสังคมที่ไร้ความเป็นอภิสิทธิ์ชน ไม่สามารถที่จะหยุดงานเพื่อกักกันตัวเองเพราะต้องหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว แตกต่างจากเซเลบที่อาศัยในเคหะสถานอันหรูหรา พร้อมหน้าพร้อมตาไปด้วยทีมงานที่ช่วยอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ไม่ต้องไปแย่งซื้อของใน supermarket จนเกลี้ยงชั้นเหมือน panic buyer



 Ari ได้อธิบายว่า  เธอเข้าใจในความจำเป็นของผู้คนที่ไม่สามารถทิ้งรายได้เพื่อ quarantine ลดการระบาดของไวรัส  แต่ก็อยากจะให้เข้าใจว่า นี่คือสถานการณ์ฉุกเฉินและเป็นวิกฤติที่แพร่ขยายไปทั่วโลก ของประเทศ  และแนะนำว่า แทนที่จะโต้กลับด้วยความอัดอั้นตันใจ  ทุกคนควรติดต่อวุฒิสมาชิกเพื่อเรียกร้องให้ช่วยดูแลเรื่องนโยบายการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางการเงินจากไวรัส Corona




Evangeline Lilly

นางเอกฮีโร่ค่าย Marvel ที่ไม่ยอมรับว่าสถานการณ์โรคระบาดนี้เป็นเรื่องฉุกเฉินร้ายแรง  แต่เป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการควบคุมประชาขน



geline posted a picture of her morning cup of tea after taking her children out.

เธอประกาศว่า ถึงตอนนี้ก็ยังพาลูกไปแคมป์ gymnastic  (ที่มีโอกาสสัมผัสกันสูงมาก)  และบอกว่า แค่เด็กๆล้างมือก็พอ  พวกเค้าต่างเล่นกันสนุกสนาน   และขอปฏิเสธการเก็บตัวที่บ้าน  ในขณะที่สื่อรายงานว่า เธออาศัยกับพ่อที่เป็นมะเร็งขั้นที่ 4 ซึ่งถ้าหากเกิดติดเชื้อไวรัส Coronaเข้าไปก็จะสุ่มเสี่ยงต่อการเสียชีวิต!


" บางคนอาจจะให้ความสำคัญชีวิตมากกว่าความมีเสรีภาพ แต่บางคนถือว่าเสรีภาพมีคุณค่ามากกว่าชีวิตของพวกเค้า เราเลือกกันได้เองค่ะ"






เธอโจมตีรัฐบาลว่าได้พรากเสรีภาพของประชาชนไป

"สำหรับชั้น สถานการณ์ตอนนี้มันเข้าใกล้กฎหมาย Marshall มากเกินไปแล้วค่ะ นี่เพียงเพราะมีโรคประเภทเดียวกับไข้หวัดใหญ่เท่านั้น

"มันเป็นการสร้างความหวาดกลัว ตอนนี้ช่วยระแวดระวังจับตามองการกระทำของพวกผู้นำการเมืองกันเถอะค่ะ ทำให้แน่ใจว่าพวกเค้าไม่ได้ล่วงละเมิดเสรีภาพของเราและเพิ่มพูนอำนาจของตัวเอง "


"พอจะเลือกตั้งเมื่อไร ก็มีเรื่องนู่นนี่เข้ามาตลอด " นางเอกดังตั้งข้อสังเกต



แน่นอนว่า กระแสตอบรับจากโลกออนไลน์ไม่สวยงาม เพราะตัวเลขคนตายที่ปลิดปลิวมากขึ้นทุกวันนั้นก็เป็นหลักฐานแน่นอนแล้วว่า ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง จะมีผู้นำประเทศใดที่อยากให้เศรษฐกิจของประเทศพังทะลายลงไปเพราะต้องการจะบงการให้ประชาชนเก็บตัวที่บ้าน ?


หนึ่งในกลุ่มคนที่ปรี๊ดสุดๆกับคำพูดของ Evangeline คือ Sophie Turner นางเอกจากมหาซีรีส์ Game Of Thrones เธอไม่ได้โจมตีอีกฝ่ายด้วยการระบุชื่อตรงๆ แต่ก็ใช้คำพูดที่บ่งบอกชัดเจนว่าพุ่งไปที่นางเอกรุ่นพี่ว่า ...





" จะบอกอะไรให้ฟังนะ   อยู่บ้านเหอะ  อย่าทำตัวงี่เง่า  ถึงคุณจะให้ความสำคัญกับ 'เสรีภาพ' มากกว่าสุขภาพของตัวเองก็ตาม    ชั้นไม่สนสี่สนแปดเรื่องความมีเสรีภาพของคุณหรอกนะ   แต่คุณสามารถแพร่เชื้อไปที่คนอื่น   คนที่มีภาวะอ่อนแอที่อยู่รอบๆตัว"

"ดังนั้นอยู่บ้านกันเถอะค่ะ ทำแบบนั้นมันไม่เริ่ดหรอกนะ ไม่ฉลาดเลยด้วย ที่จะพูดก็แค่นี้แหละค่ะ"






คุณอาจจะคิดว่า หลังจากวิกฤติ Coronavirus ในอิตาลีที่มีผู้เสียชีวิตเลยครึ่งหมื่นทั้งๆที่เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กและมีประชากรน้อยกว่าจีนมากจะทำให้ผู้คนหยุดพูดว่า
" มันก็แค่ไข้หวัด " แล้วหันมาใส่ใจเรื่องการป้องกันและชะลอการแพร่กระจายโรคระบาด แต่ก็ยังมีคนประกาศว่า no สน no care แล้วเรียกร้องให้คนอื่นจับผิดรัฐบาลที่ออกกฎต่างๆเพื่อรับมือกับโรคระบาดว่าจะถือโอกาสสร้างอำนาจอย่างมิชอบ


เรื่องนี้ทำให้หลายคนมอง Evangeline ด้วยมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิมและเตือนให้เธอรู้จักเห็นแก่ส่วนรวม   แต่เธอก็ดูไม่ยี่หระต่อกระแสต่อต้านแต่อย่างใด



Vanessa Hudgens   คืออีกคนที่เพชิญหน้ากับกระแสโจมตีประเด็นคำพูดที่ไร้ความเห็นใจบน social media

" เรื่องบ้าบอนี้จะมีต่อไปถึงเดือนกรฎาคมนู่น โทษทีนะ มันเป็นไวรัสแล้วไง ชั้นเข้าใจแหละ ชั้นก็ให้ความสำคัญกับมันนะ แต่ในเวลาเดียวกัน ถ้าหากว่าทุกคนติดโรคนี้จริงๆ ก็จะมีผู้คนล้มตาย มันก็เเป็นเรื่องแย่แหละ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้นี่นา ไม่รู้สินะ ชั้นอาจจะไม่ควรพูดอะไรแบบนี้ก็ได้" Vanessa พูดปนหัวเราะ


( ถ้าให้พูดจริงๆ  ไม่ฟันธงหรอกนะ แต่คิดว่ามีความเป็นไปได้ว่าไปโดนอะไรมาสักตัว หรือไม่ก็เหล้า มันแปลกมากหากคนมีสติครบจประกาศว่า คนตายแล้วไง เลี่ยงไม่ได้นี่)



ชาวเน็ทหลายคนเข้าใจว่าอดีตดาวดังจาก Disney รายนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องสนุกสนานในเทศกาลนี้มากกว่าวิกฤติทั่วโลก หลังจากที่ได้รู้ว่า Coachella ถูกเลื่อนไปจัดในหลายเดือนข้างหน้า  เธอถูกกระหน่ำด้วยเสียงวิจารณ์อย่างรุนแรง  ซึ่งในตอนแรกเธอก็ออกมาเกี่ยงว่า  ดูสิ ชั้นเก็บตัวในบ้านนะ  ที่พูดไปนั้นคนก็เอาไปตีความเกินเลย โดยที่ไม่ได้ขอโทษใดๆ   แต่ก็ทนต่อกระแสต่อต้านไม่ไหวต้องส่งคำขอโทษตามมา  






Madonna   กับการเปรียบเปรยที่ทำให้แฟนๆ สับสน

" เชื้อ COVID-19 ไม่สนหรอกว่าคุณจะเป็นคนที่ร่ำรวย โด่งดัง มีอารมณ์ขัน ฉลาดเฉลียวมากมายขนาดไหน คุณจะอาศัยที่ใด อายุเท่าไหร่ หรือจะบอกเล่าเรื่องราวน่าประทับใจอะไรมาบ้าง"

"มันเป็นสิ่งที่สร้างความเสมอภาคที่ดีเยี่ยม ในด้านที่แย่ๆของมัน ก็ยังมีเรื่องที่ยิ่งใหญ่เหมือนกัน ความน่ากลัวของมันทำให้พวกเรามีความเท่าเทียมกันในหลากหลายสถานการณ์ และมันก็ยังมีข้อดีที่ทำให้เราเท่าเทียมในหลากหลายสถานการณ์เช่นเดียวกัน"



แฟนๆเจ๊แม่หลายคนได้ฟังแล้วก็ได้แต่ถามไถ่กันว่า "แม่จะสื่อถึงอะไรเหรอ ?"




เราเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจการสื่อความหมายของMadonna ว่า  ไวรัสมันไม่ได้เลือกความยากดีมีจน  ไม่ว่าใครก็ติดโรคได้    ( ไม่ต่างจากโรคอื่นๆ)    แม้กระทั่งรัชทายาทแห่งราชวงศ์เก่าแก่อย่างเจ้าฟ้าชาย Charles ก็ยังติดเชื้อCorona    แต่ถ้าจะให้บรรบายเรื่องความเท่าเทียมหรือความดีงามของโรคนี้   เราคิดว่ามันดูคลุมเครือไปหน่อย  เพราะไม่ว่าอย่างไร    บรรดาผู้มีที่ฐานะมั่งคั่งทั้งหลายก็สามารถเผชิญหน้ากับโรคได้โดยไร้ความกังวลเรื่องสถานะทางการเงินหรือข้อจำกัดของการรักษาพยาบาล    เมื่อเงินทองอันล้นเหลือของพวกเค้าสามารถบันดาลความสะดวกสบายได้ทุกสิ่งสรรพ์   ในขณะที่ผู้คนมากมายยังต้องหวาดวิตกว่าจะมีเงินสำรองเพียงพอที่จะอยู่รอดในวิกฤตินี้หรือไม่   วันหรุ่งนี้ยังจะมีงานทำอยู่รึเปล่า  แล้วถ้าติดโรคขึ้นมา ใครล่ะจะช่วยดูแลครอบครัวอันเป็นที่รักของเรา     คำว่า"เสมอภาค" หรือ "เท่าเทียม" นั้น  ยังไม่เข้ากับสถานการณ์นี้เท่าใดนัก

Discussion (5)

เราชอบที่ Bono จาก U2 แกแต่งเพลง Let Your Love Be Known บอกว่าไดแรงบันดาลใจ จากคนที่อยู่ในระหว่างกักตัว ขึ้นไปร้องเพลงกันบนดาดฟ้าที่อิตาลี  แกแต่งสดร้องสด ถ่ายเอง เล่นเปียโนเอง เพลงไม่ได้เลิศเลออะไร (บางทีแกก็ร้องผิดคีย์) แต่ซาบซึ้งกินใจ ประทับใจมาก https://www.instagram.com/tv/B92YsciHcUu/?utm_source=ig_embed
รออ่านต่อเลยค่า