รองพื้นไม่ง้อแป้ง 𝕃𝕒𝕓𝕣𝕒𝕣𝕪 𝔸𝕔𝕟𝕖 𝕄𝕒𝕥𝕥𝕖 𝕃𝕚𝕢𝕦𝕚𝕕 𝔽𝕠𝕦𝕟𝕕𝕒𝕥𝕚𝕠𝕟 ที่สาวเป็นสิว/ผิวมันต้องลอง! Minipp 20 Jun 20 55 19
สวัสดีค่ะสาว ๆ วันนี้มิ้นท์มีรองพื้นแบรนด์ไทยที่รู้สึกว่าน่าสนใจเลยจะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกันค่ะ นั่นก็คือ รองพื้นของแบรนด์ Labrary นั่ นเอง Labrary Acne Matte Liquid Foundation SPF30 PA+++ รองพื้นไม่ง้อแป้ง ที่มิ้นท์ได้ลองเป็นสูตร Acne Matte ซึ่งเหมาะสำหรับสภาพผิวที่มีปัญหาสิว เพราะมี Salicylic Acid หรือที่รู้จักกันในชื่อของ BHA มีคุณสมบัติช่วยลดการระคายเคือง ลดการอักเสบของสิวและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน นอกจากนี้ยังช่วยปกปิดรอยดำ/รอยแดงจากสิว ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน ให้ความรู้สึกบางเบา ช่วยประหยัดเวลาในการแต่งหน้า ด้วยนวัตกรรมรองพื้นเซทตัวเป็นแป้งไม่ต้องทาแป้งซ้ำนั่นเอง
ส่วนในเรื่องของสีรองพื้น บอกเลยว่าเค้ามีให้เลือกถึง 3 เฉดสี ที่เข้ากับผิวคนไทยมากที่สุด คือ ??♀️ 021 Creamy ??♀️ 023 Vanila ??♀️ 025 Honey โดยสีที่มิ้นท์ใช้จะเป็นสี 023 Vanila ค่ะ
จริง ๆ แล้ว รองพื้นของแบรนด์ Labrary นั้นมีให้เลือก 2 สูตรด้วยกันค่ะ คือ สูตรปราบสิว Acne Matte Liquid Foundation SPF30 PA+++ (เหมาะสำหรับผิวเป็นสิว/ผิวแพ้ง่าย) และ สูตรแมต Mat Matte Cover Foundation SPF30 PA +++ (เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว) ซึ่งทั้ง 2 สูตรนี้ใช้ได้ตัวเดียวจบ ไม่ต้องเซ็ตแป้งเลยค่ะ ช่วยประหยัดเวลาในการแต่งหน้ามาก ๆ
อย่างที่บอกว่าสูตรที่มิ้นท์เลือกมาเป็นสูตร Acne Matte ค่ะ เพราะมิ้นท์เป็นคนผิวมัน ผิวอุดตันง่ายมาก ๆ และเป็นสิวง่าย ช่วงนี้มิ้นท์มีสิวอักเสบที่ทายาอยู่ค่ะ ผิวบริเวณสิวอักเสบเลยจะค่อนข้างแห้ง มีสิวอุดตันและรอยแดงฝากไว้ให้คิดถึงกันอยู่ค่ะ ก่อนใช้ขอบอกก่อนว่าตัวแพคเกจน่ารักมากค่ะ เป็นหลอดบีบมีฝาปิด ใช้งานง่าย ควบคุมปริมาณรองพื้นได้ดี น้ำหนักเบาและพกพาสะดวกด้วยค่ะ พอบีบผลิตภัณฑ์ออกมาแล้ว สัมผัสแรกคือเนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างเข้มข้นแต่เกลี่ยง่าย มิ้นท์ใช้ฟองน้ำที่ได้มาคู่กันในการลงรองพื้นบนผิวหน้าค่ะ เราไปดูเลยดีกว่าว่าจะเป็นยังไง…
ขั้นแรกขออภัยในหน้าที่พึ่งตื่นค่ะ55555 มันเช้ามากจริง ๆ หลังลงรองพื้นแล้วแปลงร่างเลยค่ะ บอกก่อนนะคะว่ามิ้นท์ลงรองพื้นในปริมาณน้อยมาก ใช้ฟองน้ำลงบาง ๆ แค่ 1 ชั้นเท่านั้น และใช้นิ้วกดลงในบริเวณที่ต้องการการปกปิดมากขึ้น คือตรงจุดที่เป็นรอยแดงจากสิวสิ่งที่ได้ คือ ผิวยังเป็นผิวจากการลงรองพื้นที่บาง แต่บริเวณที่เน้นการปกปิดคือกริบสุด สังเกตได้จากรอยแดงบริเวณขมับและคางหายไปเลย แต่บริเวณผิวของสิวที่แห้งนั้นอาจจะ ปกปิดได้ไม่มิด 100% ซึ่งมิ้นท์มองว่าเป็นเรื่องปกติเพราะผิวบริเวณที่แห้งจากสิว มักไม่เกาะรองพื้นอยู่แล้ว แต่ในส่วนของรอยดำรอยแดงบริเวณอื่นนั้นทำได้ดีมากค่ะ หลังทารู้สึกว่าสบายผิว ผิวแมตไปเลย บางเบาแต่ปกปิด ซึ่งรองพื้นตัวนี้หลังทาจะดรอปลง 1 เฉดนะคะ วันนี้มิ้นท์ก็ใช้ชีวิตแบบไม่เซ็ตแป้งนี่แหละค่ะ กิจกรรมวันนี้ท้าทายรองพื้นวันนี้ คือ มิ้นท์ตื่นมาเดินออกกำลังกายตอนเช้าตอน 7 โมงครึ่งค่ะ ยืนเม้ามอยกับเพื่อนบ้าน อาบน้ำน้องหมา อยู่หน้าเตาทำอาหารเช้าและนั่งพักผ่อนหน้าทีวี โดยไม่เปิดแอร์จนถึงเวลาประมาณบ่ายโมง รวมแล้วประมาณ 6 ชั่วโมงที่รองพื้นอยู่บนผิวหน้า เดี๋ยวมาดูผลลัพธ์กันว่าผิวมิ้นท์จะเป็นยังไง…
นี่คือผิวที่ได้หลัง 6 ชั่วโมงผ่านไป โดยไม่ผ่านการซับหน้าเลยค่ะ เป็นไงบ้างคะมิ้นท์ว่าพอมีความมันออกมาระหว่างวันก็ทำให้ได้ผิวที่เป็นธรรมชาติอยู่นะ ผิวหน้ามีความมันเพิ่มมากขึ้นแต่ไม่ถึงกับมันเยิ้มการปกปิกยังดีอยู่ อาจจะมีหลุดไปบ้าง บริเวณผิวที่แห้งจากยาทาสิวและบริเวณคางนิดหน่อย แต่บริเวณแก้มไปจนถึงบริเวณขมับ รองพื้นยังเกาะแน่นอยู่ สำหรับรองพื้นที่อยู่บนหน้า 6 ชั่วโมง โดยที่ไม่เซ็ตแป้ง มิ้นท์ว่าโอเคเลยนะ แต่ถ้าใครที่ต้องทำกิจกรรม Outdoor หนัก ๆ เหงื่อออกเยอะ ๆ ก็อาจจะลงเป็นแป้งฝุ่นบาง ๆ บริเวณ T Zone หรือทั่วหน้าก็ได้ค่ะ ช่วงเวลาที่รองพื้นอยู่บนผิวหน้ามิ้นท์ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอาการระคายเคืองอะไร สิวที่เป็นไม่ได้อักเสบเพิ่ม สบายผิวด้วย ถือว่าชอบเลยค่ะ คิดว่าจะได้หยิบมาใช้บ่อย ๆ ในวันสบาย ๆ แน่นอน สำหรับใครที่สนใจตัวรองพื้นของแบรนด์ Labrary นี้ สามารถเข้าไปช็อปกันได้ที่เพจ Facebook ของ Labrary Bangkok เลยนะคะ นอกจากนี้ยังมีขายในแอป Shopee และ Lazada อีกด้วย แอบกระซิบบอกว่าช่วงนี้เค้ามีโปรซื้อ 1 แถม 1 สำหรับรองพื้นทั้ง 2 สูตรเลยนะ! ราคาปกติ 6 90 บาท โปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 450 บาท (รองพื้น 2 หลอดคละสีได้ + ฟองน้ำ 1 ชิ้น) สุดท้ายมิ้นท์หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ สำหรับสาว ๆ ที่กำลังเลือกหารองพื้นกันอยู่นะคะ แล้วเจอกันใหม่น้า บ๊ายบายค่า
Discussion (19)