มหากาพย์ BA และพนักงานห้าง ส่งท้ายปี


http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=10588

สืบเนื่องจากกระทู้นี้ ที่เราเคยตั้งไว้นานแล้ว

เราว่าทุกคน ส่วนใหญ่ก้อจะเจอปัญหากะเรื่องพนักงานขายคล้ายๆกัน

วันนี้เราเลยรวมเรื่องของเราและคนรอบตัวมาซะเลย ส่งท้ายปี

1.BA Estee Lauder เซนทรัลปิ่นเกล้า
   แม่ของเราเป็นสมาชิกเอสเต้ค่ะ แม่ทำงานหนัก ไม่ค่อยมีเวลารับจดหมาย ส่วนใหญ่เราจะเป็นคนเปิดจดหมายเอง วันหนึ่งมีจดหมายจากเอสเต้ส่งมาที่บ้าน เค้าว่ามีบริการตรวจเช๊กสภาพผิวพร้อมรับskincare ที่เหมาะกับผิวฟรี เราก้อบอกแม่  พอวันรุ่งขึ้น แม่ไปเซนทรัล ซึ่งเราไม่ได้ไปด้วย แม่ก้อไปถามถึงบริการนี้กับ พนง เคาเต้อ  พนง บอกว่า ไม่มีค่ะ แล้วก้อหว่านล้อมจะให้แม่ซื้อเครื่องสำอางอย่างเดียว บอกแต่ว่า ซื้อตัวนั้นได้แถมตัวนี้ แต่ไม่พูดเรื่องบริการฟรีที่ระบุในจดหมาย ถามอะไรก้อบอกว่าไม่มีๆ  เราทราบเรื่องตอนแม่กลับมาบอกเราน่ะค่ะ ถ้าเราอยุด้วย เราคงโวยวายไปแล้ว

2.BA Clinique เซนทรัลปิ่นเกล้า
   กระทู้เก่าเราก้อบ่นเรื่องที่ BA หมกเม็ดไม่ยอมให้ของที่เราจะต้องได้ ต้องให้ทวงแล้วทวงอีก มารอบนี้ก้อเจออีกแล้ว เรากะเพื่อนไป
มาส์กหน้ากันที่เคาเต้อ ตามในจดหมาย เราต้องได้รับmoisture surge ขนาดทดลอง ตอนแรกเรามาส์กก่อน พอเส็จแล้ว BA ก้อบอกว่าเรียบร้อยค่ะ แล้วก้อเดินไปทำอย่างอื่น เราก้องง เอ่ะ เราต้องได้ของนี่นา แต่ก้อไม่ได้ทวง เพราะเพื่อนเรามามาส์กต่อพอดี  พอBA บอกว่าเรียบร้อยค่ะ เพื่อนเราสนใจจะซื้อสินค้าต่อ เลยพลิกจดหมายดูว่ามีโปรอะไรบ้าง จนเพื่อนบอกว่า อ่าว ในจดหมาย คุณต้องให้ moisture surge กับเราสองคนนี่ ไม่เห็นให้เลย  BA ก้อทำเป็นงงๆ แล้วเอาจดหมายไปดู แล้วก้อบอกว่า อ๋อ...   แล้วถึงค่อยเอามาให้.....  เรานึกในใจ...อีกแล้วเหรอ  ถ้าไม่ทวงก้อคงอดซินะ

3.พนง กระเป๋า Michelangelo Future park รังสิต
   เรากะเพื่อนตั้งใจไปดูกระเป๋ากัน ใส่ชุดนักศึกษากันทั้งคู่ แต่เนื่องจากเราเพิ่งได้กระเป๋าตังใหม่มาฟรี เราเลยไม่แน่ใจว่าเราจะซื้อดีไหม  แต่ก้ออยากได้อ่ะ ตอนนี้ redeem point ออกมาลดได้ตั้ง 40 เปอเซนด้วย  ระหว่างที่เราดู Michelangelo แล้วเพื่อนเราเดินไปดูเพลบอย พนง ก้อเดินเข้ามา บอกว่าสอบถามได้นะคะ  เราบอกว่า ค่ะ แต่เดี๋ยวขอหนูดูก่อน พนง ก้อยืนเฝ้าเราอยุตรงนั้น อารมแบบ กัวเราขโมยรึไง...??? ทีนี้ เราหยิบมือถือขึ้นมาคำนวณว่าลดแล้วจะเหลือเท่าไร เจ๊แกก้อชะโงกหน้ามาดูแล้วหัวเราะคิกๆ  แล้วเดินไปหา พนง คนอื่น แล้วนินทาเรา แต่บังเอิญเราได้ยิน บอกว่า เด็กพวกนี้ เดี๋ยวก้อคงกลับไปหาใบละสามสี่ร้อย  ฉุนกึกเลยค่ะ เราเลยเดินออกจากซุ้มMichelangelo  แล้วพอดีไปเจอกระเป๋าฮัสกี้ ซึ่งเป็นกระเป๋าสะพายแล่งแบบที่เราชอบพอดี ราคาเท่ากับรุ่นของ Michelangelo ที่เราเล็งแล้ว แต่ใบนี้ใหญ่กว่า เราเลยซื้อฮัสกี้แทน ปรากฎว่า พอเดินกลับมาหาเพื่อนซึ่งตอนนี้มันดู Michelangelo อยุ  พอ พนง พวกนั้นเห็นที่เราซื้อ ก้อแบบ อึ้งๆ ไม่คิดว่าจะมีปัญญาซื้อ (แอบสะใจเล็กน้อย แต่เราไม่ได้ซื้อเพราะประชดอ่ะค่ะ ซื้อเพราะเห็นว่าจะได้ใช้งานไปอีกนาน)

4.BA the body shop เซนทรัลปิ่นเกล้า
    ตอนเราสมัครสมาชิก เราได้บัตรนวดหน้ามาฟรี วันนึงว่าง ก้อเลย เออ ไปนวดหน้าดีกว่า  ก้อเดินเข้าร้าน (ซึ่งเรานัดเวลาไว้ล่วงหน้าแล้ว )ซึ่งจะมีกะเทยตัวนึงอยู่  กะเทยตัวนี้จะคอยแหกปากขอบคุณลูกค้าที่ซื้อของออกมาจากร้าน   พอเราเดินเข้าไปมันก้อเข้ามาต้อนรับดีอ่ะค่ะ  แต่พอเรายื่นคูปองให้ดูและบอกว่า มานวดหน้าฟรีค่ะ มันก้อเปลี่ยนสีหน้า แล้วชี้ให้เราเดินไปหา BA ที่เคาเต้อคิดเงินแทน ไม่พูดไม่จา ตอนนั้นเราก้องงๆ ไม่รุว่าตกลงจะให้เราไปไหนต่อ จนต้องเดินไปถาม BA ผุหญิงอีกคน  ถึงจะรุเรื่อง  พอนวดหน้าเส็จ ก้อเดินออกจากร้าน นังกะเทยนั่นก้อ ทำหน้าแบบไม่สนใจ อารมประมาณว่า แกไม่มาซื้อของให้ชั้นทำยอดได้

5.BA Skinfood เซนทรัลปิ่นเกล้า
    เรากะว่าจะไปซื้อเบส ก้อเดินเข้าshopเลย ซึ่งไม่เคยเข้ามาก่อนเลย ใหญ่มาก เข้าไปเราก้องงๆ ไม่รุว่า จะต้องเดินไปตรงไหน คือแบบ เข้าไปยืนงงกลางร้านเลยอ่ะ ที่ตลกก้อคือ BA มีเต็มร้านเลยค่ะ แต่ไม่มีใครมาแนะนำ คงเหนว่า เราดูเป็นเด็กๆ ถึงเข้ามาแนะนำก้อคงไม่ซื้อ กว่าเราจะหามุมเบสเจอ ก้อเสียเวลาโข พอไปหยิบๆจับๆเบสเหมือนจะซื้อ BA ถึงค่อยเดินมาหา   เราก้อบอกว่า ตกลงเอาอันเนี่ยะค่ะ เค้าถามต่อว่า ไม่ซื้ออย่างอื่นด้วยเหรอ พวกบำรุงน่ะ  เราบอกว่า หนูมียี่ห้อใช้ประจำอยุแล้วค่ะ ก้อถามต่อว่าปกติใช้อะไร (นึกในใจ มายุ่งไรกะชั้นนักหนา) บอกว่า ก้อ พวกคลีนิก เอสเคทู อ่ะค่ะ   เค้าบอกว่า โอ้ยน้อง ของพี่อ่ะ ดีกว่าของคลีนิกอีกนะ มันเหมาะกะผิวคนเอเชียกว่า (มันก้อส่วนประกอบทางเคมีเหมือนกันนั่นแล้....  แถมสกินฟู้ดยังใส่น้ำหอมเยอะอีก) คลีนิกมันแพงกว่าแบรนด์ของพี่ตั้งเยอะ มาใช้แบรนด์พี่ดีกว่า แล้วก้อพยายามคะยั้นคะยอให้เราซื้อTomato จนเราต้องบ่ายเบี่ยงว่า ถ้าใช้เบสแล้วสิวไม่ขึ้น อาจจะลองกลับมาดูสกินแคร์ BA ถึงเลิกตื๊อเรา

6.BA Clinique เซนทรัลปิ่นเกล้า.....อีกแล้ว
    มีจดหมายมาที่บ้านบอกว่า มีกิจกรรมให้สมาชิก 2 กิจกรรมในเดือนนั้น ซึ่งทั้ง2กิจกรรม  ผู้เข้าร่วมจะได้สินค้าไซศ์ทดลอง เราก้อไปร่วมกิจกรรมแรกค่ะ รุสึกจะเปนมาสคาร่า ก้อได้มาสคาร่ามา แต่พอจะร่วมกิจกรรมต่อไป ซึ่งจะได้รองพื้น BA บอกว่า น้องร่วมกิจกรรมแรกไปแล้ว อันนี้ ถ้าน้องจะร่วมอีก น้องจะไม่ได้ของ ให้เลือกเอาสินค้าทดลองอย่างใดอย่างหนึ่ง  สุดท้ายเราตัดสินใจโทรหาเอลก้าค่ะ เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเราจึงไม่มีสิทธิจะได้สินค้าทดลองอันที่สอง ทางเอลก้าบอกว่าไม่มีกฏห้ามว่าเราจะไม่ได้สินค้าชิ้นที่สอง แล้วก้อโทรไปเคลียร์กะBA สักพักติดต่อเรากลับมาบอกว่า น้องสามารถเข้าร่วมกิจกรรมโดยที่น้องจะได้สินค้าทดลองได้แล้ว โทรนัด BA ได้เลย เราเลยถือโอกาสนี้ แจ้งให้เอลก้าทราบถึง พฤติกรรมหมกเม็ดของ BA ซึ่งเราโดนมาหลายทีแล้ว เอลก้าก้อเป็นบริษัทที่น่ารักค่ะ ปกป้อง BA ทุกอย่าง บอกว่า  แหม BA อาจจะเข้าใจผิดก้อด้าย....

ซาบซึ้งงงงงงงงจิงๆ  ถือว่าเปนกระทู้ระบายละกันเนอะ
ใครมีเรื่องแนวๆนี้จะแชร์ก้อโพสต์มาได้เลย 

แล้วก้อ....สุขสันต์วันปีใหม่ทุกคนค่ะ

Discussion (30)

กลัวบีเอ

ทุกที่เลย

ไม่ค่อยจะกล้าเข้าไปหรอก

ยิ่งเดินเข้าไปคนเดียวไม่ต้องพูดถึง

ไม่เข้า


เพราะบีเอชอบทำสายตาเหยียดหยาดซะ

เซ็นปิ่นล้วน ๆๆ



ของเราก็เจอแต่ เซ็นลาดล้วน ๆๆ   55

ยกเว้นน bloom กับ ชิเชโด BA ใจดี ^^

อิๆ ba คลีนิค ที่ชิดลม ดี๊ดี พึ่งย้ายไป ลาดพร้าว ป้ะคร้า

คิดถึงพี่เขาจริงจัง Y___________________Y

วันนี้เจอมาสดๆ ร้อนๆ ที่เซนปิ่นนี่หล่ะ
           BA Shiseido ที่เซนปิ่น บริการห่วยสุดๆ ทุกคน เรายืนรอที่เคาน์เตอร์อยู่นานก็ไม่มีใครมาให้บริการเลย พอมันมาถามว่าเราต้องการดูตัวไหน เราก็เลยถามความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์ มันตอบมาแบบขอไปทีมากๆ ไม่สนใจคำถามเราเลย..แถมมันดูเหยียดๆ เราด้วยนะเพราะวันนี้เราแต่งตัวแบบสบายๆ ไป คงคิดว่าเราไม่มีเงินซื้อ  เซ็งสุดๆ แย่มากๆ และเข็ดจริงๆ กับ BA  ที่เคาน์เตอร์นี้ บริการแย่ต้อนรับปีใหม่เลย

          BA  Benefit ที่เซนปิ่นก็แย่เอามากๆ เรายืนรอจะถามมันเรื่องบลัชออนอยู่นานมาก กะว่าจะซื้อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง  รอนานมากแต่มันก็ไม่สนใจมัวแต่ก้มหน้าก้มตาดูอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ไม่สนใจลูกค้าเลย และมีคนอื่นมาดูสินค้าก่อนหน้าเราก็ยืนรอมันอยู่นานมันก็ไม่สนใจ จนลูกค้าคนนั้นก็เดินออกไป  เราก็เลยตัดสินใจไม่ซื้อเพราะดูท่าแล้วคงจะอีกนาน....ทำไม BA ที่เซนปิ่น บริการแย่มากๆ ขนาดนี้

อ่านแล้วก็นึกถึงประสบการณ์การซื้อเครื่องสำอางครั้งแรกเมื่อ3ปีที่แล้ว
ตอนนั้นนึกเกิดอยากแต่งหน้า แต่ก็ไม่ได้ศึกษาหาข้อมูลอะไรหรอกค่ะ อาศัยว่าเดินห้างบ่อยๆ
บ้านเราใกล้เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ก็เลยเลือกไปซื้อที่นั่น พอไปถึงก็เดินเข้าบูท red earthเลย เนื่องจากเค้าชอบแต่งหน้าโชว์ บริเวณร้านคนเดินผ่านไปผ่านมาเยอะ และรู้สึกว่า BA ดูเป็นกันเองดี ตอนเข้าไปก็กลัวๆ+เอ๋อๆ มีBA ญ คนนึงเดินเข้ามาหา แล้วก็แนะนำสินค้าต่างๆมากมาย พร้อมกับแต่งหน้าให้ด้วย BAแนะนำอะไรมาก็เราก็เอาเกือบหมด [ถ้าเอาหมดหมื่นนึงก็ไม่พออ่า เราเตรียมตังไปยังไม่ถึง5000เลย]
สรุปว่าเสียไป4000กว่าบาท ได้ แปรงปัดแก้ม/รองพื้นแบบแท่ง/secret potion/eye shadow/blush on/ฟองน้ำ หลังจากซื้อแล้วก็ได้สมัครสมาชิก พร้อมกับสิทธิ์ในการแต่งหน้าฟรีตลอดอายุสมาชิก[2ปี] แหม ช่างใจดีจริงๆ
หลังจากนั้นประมาณ1เดือน เราก็แวะไปบูทให้เค้าแต่งหน้าให้ BAที่เคยขายของให้เราเค้าจำเราได้นะ แต่ไม่มาทัก ไม่แต่งให้ โยนให้คนอื่นมาแต่งหน้าให้เราแทน ซึ่งก็ยังนับว่าโชคดีที่BA กะเทยที่มาแต่งแทนเค้าแต่งได้สวยกว่า แต่ก็ไม่วายมาเชียร์ขายของ ไอ้เราไม่อยากจะซื้ออีกแล้วเพราะรู้สึกว่าราคามันไม่ค่อยจะสมเหตุสมผล ก็เลยอ้างว่าไว้มาดูคราวหน้า แค่นั้นแหละออกอาการหน้าบึ้ง แล้วก็แกล้งปัดหน้าเราแรงๆ กรีดอายเข้าตาเรา พอเราเอามือปัดก็ทำเป็นพูดหยิกๆกัดๆ ว่า เดี๋ยวตีมือหักคุณน้องเลยพี่เพิ่งแต่งให้อย่าเอามือมาถูสิคะ เราก็ชักสีหน้าใส่เค้า BAอีกคนความรู้สึกไว เห็นหน้าเราก็รีบพูดว่า น้องเค้าเคืองตามีอะไรเข้าตาน้องเค้ามั้ง
เหอๆ อยู่ตั้งไกลยังเดาเก่ง ไอ้คนที่แต่งให้ตรูอยู่ใกล้กันไม่เกิน2ฝ่ามือไม่ยักกะเห็น พอแต่งเสร็จเราก็ลุกเดินออกมาเลย พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐาน ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ซื้อเครื่องสำอางแบรนด์นี้อีกต่อไป แค้นนี้มันแรงยิ่งนัก แต่ในระยะเวลา2ปีที่เราเป็นสมาชิก เราก็ไปให้เค้าแต่งหน้าฟรีเรื่อยๆนะ ประมาณ10ครั้งได้ [ต้องทำใจทุกครั้งก่อนเข้า แต่ไปให้มันแต่งเพราะต้องเอาให้คุ้ม]
4000ที่เสียไปได้ใช้จริงๆแค่ แปรง บลัช อย่างอื่นเหมือนมาหลอกขายคนโง่ๆ ที่ซื้อเครื่องสำอางไม่เป็น [ตอนนั้นไม่เป็นจริงๆ ยังอ่อนหัด] ตอนหลังๆพอเราเริ่มอ่านกระทู้วันหมดอายุเครื่องสำอางเราก็เลยไปดู คสอ.อันเก่า red earth ของเราบ้าง ก็พบว่าเราโดน BA หลอกขายของเก่าๆให้ด้วยอีกตะหาก eye shadow ผลิต ปี01 บลัชออน ปี 01 [3ปีที่แล้วปี 05 ค่ะ]
และเนื่องจากพบประสบการณ์ครั้งแรกที่ไม่น่าประทับใจ ทำให้เราไม่แต่งหน้า ไปเกือบ3ปี [ยกเว้นไปแต่งที่counter] ตอนนี้เราได้เข้ามาสิงสู่ในเวปจีบันแล้ว เราก็เริ่มเก็บรวบรวมข้อมูล อ่านรีวิว ลองซื้อ ลองหัดแต่งหน้าตามเพื่อนๆในเวป รู้สึกดีและมั่นใจขึ้นมาก ตอนนี้เวลาจะซื้ออะไรก็เดินไปอย่างมั่นใจ ไม่หวั่น ไม่กลัวBA อย่างเก่า กล้าเดินเข้าไปลอง ไปถาม และกล้าที่จะปฏิเสธ

สุดท้ายก็อยากให้ BA ที่แย่ๆปรับปรุงนิสัยบ้าง พวกเราเป็นลูกค้ามาซื้อของคุณนะ ไม่ได้มาขอใช้ฟรีๆ เหมือนอย่างที่พวกคุณชอบทำ คุณอยู่ได้เพราะพวกเรา ถ้าคุณทำไม่ดีใส่เราอีกหน่อยพวกเราไม่ซื้อของคุณ คุณนั่นแหละจะตกงาน