ดูยังไง ใครเป็นผู้ดีอังกฤษ

"ผู้ดี"  คือคำที่เรามักใช้บรรยายแทนชนชาติอังกฤษ    และยังมี stereotype ต่างๆเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มชาวผู้ดีที่ตรงกับคำว่า posh หรือ upper class    ซึ่งเมื่อได้พบเจอกับคนอังกฤษในชีวิตแล้วอาจจะผิดคาดไปเยอะ


เรามาชมกันเลยว่า ความเป็นผู้ลากมากดีแบบอังกฤษแท้ๆ นั้นเป็นเช่นไร





เงินเก่า  (Old Money)


คุณอาจจจะรู้สึกว่า สื่ออังกฤษมักยกให้ดัชเชส Kate เป็นกุหลาบอังกฤษที่มีคุณสมบัติเลิศเลอเหนือกว่าสะใภ้รองอย่าง Meghan มาโดยตลอด แต่แท้จริงแล้ว Kate ก็เคยพบกับคำล้อเลียนจากสังคมไม่แพ้อดีตนางเอกอเมริกัน นั่นเป็นเพราะว่า พื้นเพของเธอไม่ใช่พวก "เงินเก่า" แต่อยู่ในลักษณะของ "เศรษฐีใหม่" ที่ทำให้สื่อนำมาเป็นประเด็นโจมตี ถึงขนาดมีคนปล่อยข่าวว่า พวกเพื่อนฝูงของเจ้าชาย William จิกกัดเรื่องที่แม่ของเธอเคยทำงานเป็นแอร์โฮสเตสกันอย่างสนุกปาก
ใช่แล้วค่ะ   แม้ว่าครอบครัว Middleton จะประสบสำความสำเร็จในการทำธุรกิจจนมีฐานะในระดับเศรษฐีเงินล้าน  แต่คนรุ่นพ่อแม่ก็เคยเป็นชนชั้นกลางที่ต้องทำงานรับเงินเดือนมาก่อน     ช่วงที่ Will&Kate ยังอยู่ในระยะ " จะแต่ง หรือไม่แต่ง"  นั้น    ฝ่ายหญิงมักถูกวิจารณ์ว่าเป็น social climber   ที่วางแผนระยะยาวในการตั้งใจเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันกับเจ้าชายและทำความรู้จักจนกลายมาเป็นตัวเก็งคู่หมั้น       แม้เธอจะพูดสำเนียงชนชั้นสูงและมีprofile การศึกษาจากโรงเรียนคุณหนูที่ค่าเทอมแพงระยับ   แต่ก็ยังมีคนนินทาว่า เป็นความพยายามของพ่อแม่ในการชุบตัวลูกๆให้กลายเป็นผู้ดี

อย่างไรก็ตาม นักแสดงตลกชื่อดังของอังกฤษ Jack Whitehall ก็ได้เล่าประสบการณ์ที่เคยเข้าโรงเรียนเดียวกับกับดัชเชสคนดังไว้ว่า มันตลกมากที่สื่อเหยียดความเป็น " สามัญชน" ของ Kate ราวกับว่าเธอมาจากสลัมทั้งๆที่โรงเรียนมัธยมแห่งนั้นขึ้นชื่อเรื่องความหรู


ผู้ดีที่มีชื่อเสียงในอังกฤษหลายคนถูกจัดอยู่ในกลุ่มของ "เงินเก่า" และไม่จำเป็นต้องดิ้นรนใดๆเพื่อหาเลี้ยงชีพ จนในบางครั้ง การทำงานจะดูคล้ายกับ "งานอดิเรก" ที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปตามความสนใจในขณะหนึ่ง พวกเค้ามีมรดกตกทอดที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ อาจจะเป็นที่ดิน คฤหาสน์เก่าแก่ ปราสาท ผลงานศิลปะต่างๆ และสามารถทำกำไรจากทรัพย์สมบัติเหล่านี้โดยไม่ต้องทุ่มเททำงานด้วยความกดดันเรื่องสถานะทางการเงิน ใช้ชีวิตสุขสบายตามรูปแบบของอภิสิทธิ์ชนได้ทุกสถานการณ์

เรื่องชนชั้นในประเทศอังกฤษ อาจจะจะไม่ใช่โครงสร้างแบบศักดินาที่ใช้ขับเคลื่อนประเทศอังกฤษให้พัฒนา แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่ถูกจัดในกลุ่ม "เงินเก่า" ที่ปฏิบัติตามธรรมเนียมดั้งเดิมที่สืบทอดมาหลายชั่วคน ในปัจจุบัน พวกเค้าอาจจะเปิดกว้างในการคบหาคนจากหลายหลาย background แต่เมื่อพูดถึงเรื่องการเลือกคู่ครอง หลายคู่ก็อยู่ในแวดวงชนชั้นสูงด้วยกัน พวกเค้าสามารถหลีกเลี่ยงคำติฉินว่าใช้การแต่งงานเพื่อเลื่อนสถานะในสังคม เพราะมีเชื้อสายผู้ดีมาตั้งแต่เกิด

ดัง Rose Hanbury   Marchioness  แห่ง Cholmondeley  ที่ตกเป็นข่าวเรื่องนอกใจกับเจ้าชาย William  และถูกจับมาเปรียบเทียบกับดัชเชส  Kate     เธอเป็นหลานของ เลดี้ Elizabeth   คนสนิทของควีนและโลดแล่นในวงสังคมชั้นสูงมาแต่ไหนแต่ไร เธอทำงานงานนางแบบมาไม่มากนักก่อนที่จะพบรักกับ  Marquis หนุ่มใหญ่เจ้าของปราสาทและคฤหาสน์หลังมหึมาและมีทายาทเป็นฝาแฝดชาย ลูกแฝดคนโตได้รับการสืบทอดยศขุนนางจากผู้เป็นพ่อ และแน่นอนว่า พวกเค้าจะได้รับการอบรมและสนับสนุนให้เติบโตมาเป็นผู้ดีเต็มขั้นไม่ต่างจากพ่อแม่



การให้ความสำคัญกับการศึกษา


หากคุณสำรวจ profile ของคนดังอังกฤษมีพื้นเพของชนชั้นสูงจะพบว่า นอกจากสำเนียงที่บ่งบอกความเป็นผู้ดีแล้ว หลายคนสามารถพูดได้หลายภาษา อาจจะไม่ได้อยู่ในระดับ fluent แต่ก็ติดต่อสื่อสารได้

นั่นมาจากการให้ความสำคัญการส่งลูกไปเล่าเรียนในสถาบันที่มีชื่อเสียงชั้นนำที่การันตีถึงตัวเลขการตอบรับจากมหาวิทยาลัย Oxford และ Cambridge สูง (public school) การเล่าเรียนอย่างเข้มข้นในโรงเรียนเหล่านี้ ไม่ได้หมายถึงการแบกกระเป๋าที่บรรจุหนังสือหนักจนตัวแอ่นและนักเรียนที่เรียนหามรุ่งหามค่ำจนต้องนอนน้อยตั้งแต่เด็ก แต่เป็นการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ ที่แสดงความเป็น "ชั้นนำ"


แน่นอนว่านอกจากการเลือกเรียนภาษาต่างๆในโรงเรียน  ลูกหลานผู้ดีที่มีเงินถุงเงินถังไปพักร้อนหรือเรียนระยะสั้นในยุโรปย่อมได้เปรียบในการเรียนรู้จากเจ้าของภาษา   กล่าวได้ว่า  หากพูดภาษาอังกฤษได้อย่างเดียวอาจจะทำให้ profile ดูด้อยลงไปมากพอดู
Boris Johnson อาจจะถูกล้อเลียนเรื่องวิธีการพูดที่ดูน่าหมั่นไส้  อย่างไรก็ตาม   ศิษย์เก่า Eton คนนี้สามารถพูดละติน ฝรั่งเศส และอิตาเลียนในระดับ fluent      สื่อบางเจ้าได้หยิบประเด็นเรื่องสำเนียง "หรูเริ่ดมีการศึกษา" ของนายกรัฐมนตรีคนนี้มาวิเคราะห์ว่า  แม้เขาจะพูดจาฟังดูไร้สาระไม่น่าฟังมาแล้วหลายครั้ง   แต่ก็ยังรอดตัวไปได้เพราะมีสำเนียงชนชั้นสูงที่อาจจะโน้มน้าวให้คนฟังคิดได้ว่า เป็นการนำเสนอ mindset  ที่ชาญฉลาด   ในทางกลับกัน  คนที่มีคำพูดคมคายเต็มไปด้วยการคิดวิเคราะห์มาเป็นอย่างดี  แต่มีสำเนียงของชนชั้นแรงงานที่อาศัยแถบเหนือของประเทศ  อาจจะเจออคติจากคนฟัง      ดัง Steph McGovern  อดีตผู้ประกาศจาก BBC Breakfast ที่มีสำเนียง Middlesborough ถูกผู้ชมจิกกัดมาโดยตลอดและมีอคติมากถึงต้องติดต่อทางช่องให้เธอปรับสำเนียงให้ดู"มาตรฐาน"มากขึ้น    แม้ว่าเธอจะเป็นผู้ประกาศที่ได้รับความนิยม แต่ก็รู้สึกถึงความไม่เท่าเทียม เมื่อผู้ร่วมงานที่มีสำเนียงหรูเริ่ดไม่เคยได้รับจดหมายโจมตีว่ามีสำเนียงหรูเกินไป




ด้วยเหตุนี้ เหล่าพ่อแม่ชนชั้นกลางที่มีรายได้มากเพียงพอจึงเริ่มนิยมส่งลูกๆ เข้าเรียน public school อาจจะเปรียบได้ว่า เป็นการ "ซื้อสังคม" ที่ทำให้เกิดข้อได้เปรียบในการใช้ชีวิตเมื่อเด็กๆเติบโตขึ้น แต่บางครอบครัวก็อาจจะพบกับปัญหาทางการเงินเมื่อต้องทุ่มเทเงินเก็บทั้งหมดไปกับโรงเรียนหรูเหล่านี้

โรงเรียนประจำแยกหญิงชาย  ดูจะเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับชนชั้นสูงที่สืบทอดมาเป็นร้อยปี  (ในอดีต  การเรียนแยกหญิงชายเป็นการป้องกันวัยรุ่นไม่ให้ก่อเรื่องเสื่อมเสีย)  แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า   เด็กๆทีต้องแยกห่างจากครอบครัวตั้งแต่ยังเล็กจะรู้สึกปลาบปลื้มกับการศึกษาชั้นยอดที่พวกเค้าได้รับจากโรงเรียนกินนอน  หลายคนยอมรับว่า  มันกลายมาเป็นบาดแผลทางใจที่ไม่ได้ใช้ชีวิตวัยเด็กกับครอบครัว  และรู้สึกราวกับไม่เป็นที่ต้องการ    แม้สภาพแวดล้อมโรงเรียนจะดูยอดเยี่ยมมากเพียงใด       คนดังอังกฤษบางคนกล่าวโทษพ่อแม่ในเรื่องนี้อย่างไม่ปิดบัง และยืนยันว่า หากมีครอบครัวเป็นของตัวเอง จะไม่ส่งลูกๆไปเรียนในโรงเรียนประจำตั้งแต่ยังเล็กเป็นอันขาด





คุณอาจจะเป็นอีกคนที่ชื่นชมสำเนียงที่สละสลวยฟังละมุนหูของ  Benedict Cumberbatch   แต่ในขณะเดียว  การพูดแบบ posh  สุดๆนั้นไม่ได้สร้าง impression ในแง่ที่ดีเสมอไป   แน่นอนว่ามันบ่งบอกถึงพื้นเพผู้ดีของคนพูดได้  แต่การพูดแบบงึมงำ  ขยับริมฝีปากน้อยๆ นั้นทำให้มีประโยคล้อเลียนสำเนียงผู้ดีขึ้นมาว่า   a plum in your mouth   หรือพูดเป็นผู้ดีราวกับมีลูกพลัมติดอยู่ในปากหรือเรียกง่ายว่าเป็นสำเนียง plummy!   อย่างดัชเชส Kate ที่ถูกค่อนแคะว่า พูดด้วยสำเนียงที่ฟังดูหรูกว่าเจ้าชาย William และเจ้าชาย  Harry ซะอีก   แต่มันกลับฟังยากจนคนดูอาจจะรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมานั่นเองค่ะ




บทบาทของดาวสังคม


gala เรี่ยไรกองทุนเพื่อการกุศล

party ส่วนตัวในสวน

การแข่งขันกีฬา polo ของ private member

ที่นั่ง VIP ในการแข่งม้า Royal Ascot


อีเวนท์ของชาวผู้ดีที่จำกัดบัตรเชิญเหล่านี้ แม้แต่เซเลบบางคนก็ปรารถนาจะได้รับเชิญให้เข้าไปกระทบไหล่เหล่าผู้ดีนามกุลเก่าแก่ เพราะมันหมายถึงการต่อยอดconnection และสร้างเสริมภาพลักษณ์ให้ดูหรูเริ่ดขึ้นไปอีก


ภาพลักษณ์สาวแสนซนของ Cara  อาจจะดูไม่เหมือนสาวไฮโซในจินตนาการของบางคน     แม้จะเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าหญิงและใช้ชีวิตชนชั้นสูงมาตั้งแต่เกิด  แต่ก็พยายามออกมาใช้ชีวิตด้วยการหาเลี้ยงตัวเองด้วยอาชีพนางแบบ    อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นหนึ่งในพวกอภิสิทธิ์ชน   ครอบครัวเธอเป็นพวกเงินเก่าและมี connection กับราชวงศ์มายาวนาน


ชาติตระกูล - การศึกษา - ทรัพย์สมบัติที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้การันตีว่าชนชั้นสูงเหล่านี้จะมีพฤติกรรมที่สูงส่ง แต่ยังมีด้านมืดที่ฉาวโฉ่แฝงภายใต้ความเลิศเลอเหล่านี้

 ดัง Ghislaine Maxwell  ที่ถูกตราหน้าว่าเป็น "แม่เล้า  high profile"   เธอมีความสนิทชิดเชื้อกับ Epstein มหาเศรษฐีที่เป็นอาชกญากรทางเพศ  (เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในคุก)       เธออาศัยในคฤหาสน์อลังการมาตั้งแต่เล็กและได้รับการศึกษาจาก Oxford     แต่ปัจจุบันคือนักโทษที่กำลังถูกไต่สวนความผิดในข้อหาค้าประเวณีผู้เยาว์    และเธอผู้นี่แหละที่ทำให้ราชวงศ์อังกฤษต้องมัวหมองที่สุดในประวัติศาสตร์   เพราะมีรายงานและภาพหลักฐานว่า  เจ้าชาย Andrew  โอรสองค์โปรดของควีน Elizabeth อาจจะมีความเกี่ยวข้อในฐานะลูกค้าของเธอมาแล้ว!!
ผู้หญิงที่มาจากตระกูลผู้ดีเก่าแก่อาจจะถูกผูกติดกับภาพของสาวสังคมฟุ้งเฟ้อ ไม่ประกอบอาชีพเป็นชิ้นเป็นอัน   แต่พวกเธอจะคร่ำหวอดกับอีเวนท์เพื่อการกุศล  และสามารถไต่ระดับมาเป็นแม่งานหรือประธานมูลนิธิต่างๆ และสร้างอิทธิพลในสังคมชนชั้นสูงทำให้วงศ์ตระกูลมีหน้ามีตามากขึ้นไปอีก



อย่างไรก็ตาม  ชนชั้นผู้ดียุคโมเดิร์นมีแนวโน้มที่จะแหกธรรมเนียมดั้งเดิม ไม่ได้โฟกัสความเป็นอนุรักษ์นิยมเป็นหลักอีกต่อไป  ดังเลดี้ตระกูล Manners    Violet  ,Alice และ Eliza   พี่น้องสาวสาวทายาทดยุคและดัชเชสแห่ง  Rutland    ที่เปรี้ยวแซ่บจนถูกตั้งฉายาว่า  No Manner Girls หรือ  Bad Manners Girls  ( สาวแสบตระกูล Manners)


ภาพจาก social media ของเลดี้สามพี่น้องตระกูล Manners อาจจะดูไม่ต่างจาก influencer ทั่วไป แต่อาจจะมีข้อแตกต่างตรงที่ พวกเธอไม่ต้องสร้างภาพ lifestyle สุดหรู แต่มันฝังลึกในสายเลือด เพราะเติบโตขึ้นมาในปราสาทใหญ่โตและมีบรรพบุรุษเป็นขุนนางชั้นสูงที่ร่ำรวยเป็นเจ้าของที่ดินกว้างใหญ่ไพศาล (ปราสาทที่ครอบครัวManners พำนักมีพื้นที่กว้างถึง 37,950 ไร่) ไม่แปลกใจที่บน Instagram ของเลดี้ทั้งสามจะมีแต่ภาพกิจกรรมของของชนชั้นสูง

ขี่ม้าพันธุ์ดีจากโรงนาครอบครัว
จัดโต๊ะดื่มชาสวยเริ่ดในสวนสวยจนลืมหายใจ
ใส่ชุด Buberryเดินเล่นในป่า (ในอาณาเขตบ้านตัวเอง)
ดินเนอร์ในห้องที่ประดับประดาไปด้วยผลงานศิลปะที่มีอายุหลายร้อยปี
ทริปล่าสัตว์กับครอบครัว


ถึงจะเป็นช่วงที่ต้องกักตัวในช่วง COVID พวกเธอดูเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตในปราสาท ไม่ได้ออกมาโอดครวญถึงความเครียดเหมือนกับคนดังบางคนที่รู้สึกเหมือนถูกขังในบ้านหรู




การตั้งชื่อแบบผู้ดี



เราเป็นคนหนึ่งที่คิดว่า เหล่าผู้ดีมักจะตั้งชื่อให้ลูกๆด้วยชื่อดั้งเดิม ไม่ได้แหวกแนวเหมือนกับการตั้งชื่อแนวเซเลบ แต่จริงๆแล้ว หลายตระกูลก็เลือกตั้งชื่อลูกหลานให้โดดเด่นไปจากชื่อตามไบเบิ้ลที่ฟังดูจำเจ

อาจจะเป็นชื่อหลายพยางค์ที่ทำให้คนฟังฟันธงว่า posh จัง

Arabella Musgrave สาวสังคมที่มีข่าวลือว่าเป็นแฟนเก่าของเจ้าชาย William 

Tallulah Harlech ลูกสาวบารอนHarlech และเลดี้ Amanda Harlech ที่เคยเป็น muse ให้กับ John Galliano และ Karl Lagerfeld.


Ralph Fiennes ที่คนมักจะอ่านชื่อผิด การออกเสียงที่ถูกต้องตามที่ครอบครัวของเขาตั้งใจไว้คือ Rafe Fines


Benedict Cumberbatch ต้องก้มหน้าก้มตาถูกล้อเลียนทั้งชื่อต้นและนามสกุลมายาวนาน  ผู้คนมักเปรียบเทียบชื่อของเขากับสินค้าต่างๆ หรือไม่ก็เล่นมุกสองแง่สองง่าม สื่อดังอย่าง The Telegraph เคยเรียกเขาว่า  " หนุ่มผู้ดีที่มีชื่อประหลาด"    แม้แต่เจ้าตัวเองก็ยังเปรียบเทียบชื่อสกุลที่ดูไม่ซ้ำใครว่า "ฟังดูเหมือนเสียงผายลมในอ่างอาบน้ำ"      

ชนชั้นสูงบางคน ตั้งชื่อให้ลูกให้ฟังดูน่ารักแบ๊วๆเหมือนกับชื่อเล่น  แต่เป็นชื่อจริงที่ unique อย่างเลดี้ Kitty Spencer   หลานสาวของเจ้าหญิง Diana


หากใครสนใจการตั้งชื่อลูกให้หรูหรา ก็ลองติดตามนิตยสาร Tatler   เคยรวบรวมชื่อที่ผู้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์มาแล้ว  และมีชื่อแปลกๆอย่าง Figgy , Rara  และ Debonaire สำหรับเด็กผู้หญิง   ส่วนเด็กผู้ชายมี Euripides  , Quail และ Uxorious 




Posh - Bashing  ยิ่งผู้ดี  ยิ่งเจออคติ

 หากเป็นเมืองไทย  การใช้คำว่า "ไฮโซ"  นำหน้าชื่อเพื่อบ่งบอกสถานะอภิสิทธิ์ชนที่เต็มไปด้วยความมั่งคั่งนั้นดูเป็นเรื่องปกติไปแล้ว  แต่สำหรับที่อังกฤษ  เซเลบเจ้าของโพรไฟล์เลิศหรูและสืบทอดสายเลือดจากเชื้อพระวงศ์หรือขุนนางระดับสูงบางคนได้ออกมาปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้เป็นผู้ลากมากดีอย่างที่คนอื่นเข้าใจ


ว่ากันว่า จะฟันธงว่าใครเป็นผู้ดี ต้องดูว่า เค้าเหล่านั้นเคยถูกจิกกัดเรื่องความเป็นผู้ดีรึเปล่า เพราะมันได้สะท้อนถึงปัญหาอภิชนนิยม( elitism) ที่ชนชั้นสูงที่เป็นคนกลุ่มน้อยในสังคมได้ใช้อภิสิทธิ์เพื่อเอื้อประโยชน์ต่างๆให้กับตัวเอง อคติที่สั่งสมมาเป็นเวลานาน ทำให้ผู้คนเหมารวมว่า เหล่าผู้ดีใช่ชีวิตอยู่ในโลกแห่งความหรูหราฟุ่มเฟือยในสังคมแคบๆ คบหาและสร้างความสัมพันธ์เฉพาะกลุ่มผู้ดีด้วยกันเอง ภาพความเย่อหยิ่งหัวสูงถูกพ่วงมากับคำว่าผู้ดีแบบสลัดไม่หลุด


แรงกดดันจากอคติอันนี้ทำให้  Benedict Cumberbatch เคยคิดอยากจะอพยพอังกฤษมาที่อเมริกามาแล้ว  ที่ผ่านมา  เขาไม่ยอมรับตัวเองเป็นชนชั้นสูง  เพราะตอนที่ยังเด็ก  พ่อแม่ได้ทุ่มเททำงานเพื่อส่งเสียให้เข้าโรงเรียนชั้นนำของประเทศ  ไม่ได้เป็นพวกเงินเก่าหรือเป็นเศรษฐีใหม่ด้วยซ้ำ    อย่างไรก็ตาม  ในสายตาสื่อและแฟนๆจำนวนมาก  Benedict ก็ยังเป็นพระเอกที่ผู้ดีสุดๆอยู่ดี
แม้บรรพบุรุษของ Kit Harington จะเป็นกษัตริย์อังกฤษ   ส่วนพ่อของเขาก็มียศ baronet  ที่ตกทอดมาสู่ทายาทชายของตระกูลมาแล้วถึง 15 รุ่น  (Kit ไม่ได้รับการสืบทอดยศนี้เพราะเขาเป็นลูกชายคนที่สอง)   ตระกูล Harington นั้นเก่าแก่มาก  เมื่อย้อนไปถึงต้นตระกูลผู้เป็น baronet คนแรกก็เกือบห้าร้อยปีมาแล้ว  และยังรักษายศนี้ไว้ได้ถึงปัจจุบัน  ฟังดูแล้วพระเอก Game Of Thrones คนนี้ก็เป็นชนชั้นสูงเต็มตัวไม่น่าจะแตกต่างจากเพื่อนร่วมวงการที่เป็นศิษย์เก่า Eton หรือ  Harrow    แต่เขายืนยันหนักแน่นว่า พ่อแม่ไม่ได้มีทรัพย์สินมากมาย  เขาไม่ได้เข้าโรงเรียนคุณชายเหล่านั้น    แม้ว่าจะมีโอกาสเข้าเรียนใน *drama school   แต่ถ้าไม่ได้ทำงานไปพร้อมกัน ก็คงลำบากเหมือนกัน เพราะพ่อแม่ไม่สามารถส่งเสียค่าเทอมแพงลิบลิ่วได้


*  ในวงการแสดงของอังกฤษ  ไม่ว่าเป็นละครเวทีหรือในจอ  นักแสดงจำนวนมากจะเคยเข้าเรียนใน drama school มาก่อน    พวกเค้าอาจจะไม่ได้โฟกัสเรื่องรับปริญญาตรีหลังจากจบการศึกษามากเท่ากับการปูทางเพื่อเข้าสู่วงการ  เพราะระหว่างที่ได้ศึกษาใน drama school  พวกเค้าจะได้แสดงต่อหน้าผู้ชมจริงๆ   หากเฉิดฉายจนเข้าตาฝ่าย casting  ความฝันที่จะเป็นนักแสดงดังอาจจะอยู่ไม่ไกลก็เป็นได้   แต่เรื่องนี้ก็กลายเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำ  เพราะค่าเล่าเรียนใน drama school ชั้นนำแพงจนเกินกำลังของนักเรียนที่มาจากชนชั้นแรงงาน      หากไม่ได้ทุนการศึกษา ก็ยากจะสมัครเรียนให้จบตลอดรอดฝั่ง    
หลายปีก่อน   Helena Bonham Carter เคยโอดครวญว่า  เธอถูกตั้งแง่เพราะมาจากตระกูลผู้ดี   เธอได้อธิบายว่า  ความสวยและพื้นเพชนชั้นสูงของเธอเป็นอุปสรรคในการแสดง


" ถ้าหากคุณไม่สวยและมาจากชนชั้นแรงงาน คุณสามารถสร้างความสนใจจจากผู้คนได้ง่ายกว่าค่ะ"


ไม่นานหลังจากนั้น Kathy Burke นักแสดงและผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในอังกฤษได้ตอกกลับ HBC อย่างโกรธเกรี้ยวว่า

"หุบปากไปซะ นังโง่!"

เป็นหนึ่งในตำนานการจิกกัดของคนดัง เพราะสมัยนั้นยังไม่มี social media เค้าด่ากันผ่านการประกาศลงนิตยสารค่ะ ทุ่มเทแค่ไหนถามใจดู

*Kathy มาจากชนชั้นแรงงาน และไม่ใช่คนสะสวยตามมาตรฐานความงาม  เธอประสบความสำเร็จจากบทบาทของนักแสดงตลก นักเขียนบท โพรดิวเซอร์และผู้กำกับ
อคติที่มีต่อชนชั้นสูง ทำให้  Phoebe Waller-Bridge ที่ประสบความสำเร็จล้นหลามจาก Fleabag ถูกวิจารณ์ว่า นี่เป็นผลงานที่เหมาะสำหรับผู้หญิงจากชนชั้นสูงเท่านั้น (เธอทั้งแสดงนำและเขียนบทเอง)     แม้ว่ามันเป็นมินิซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวของผู้หญิงธรรมดาๆที่มีทั้งด้านที่ตลกขบขันและด้านมืดจากความเจ็บป่วยทางจิตใจ    และมันทำให้เราสงสัยว่า หาก Phoebe  ไม่ได้มาจากตระกูลผูดีเงินเก่า แต่เป็นนางเอกสาวชนชั้นแรงงาน เธอจะถูกโจมตีเช่นนี้หรือไม่ ?  

เธอได้ตอบโต้กลับว่า


" การวิจารณ์ผลงานด้วยการจับผิดพื้นเพและความเป็นอภิสิทธิ์ชนของคนแต่งนั้นทำให้การถ่ายทอดเรื่องราวถูกทำลายลงไปค่ะ"

" ไม่ใช่ว่าชั้นใช้อภิสิทธิ์ของตัวเองในการสร้าง Fleabag ขึ้นมาซะหน่อย "






The End

Discussion (5)

มีเรื่องน่าสนใจอย่างนึงที่คิสค้นพบ... เพื่อนที่เรียนวชิราวุธกับวัฒนา(boarding school) มักมีความเป็นผู้ดีกว่ารร.อินเตอร์หรือเอกชนระดับสูง ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นความหรู แต่เป็นสังคมที่ scarcity มากๆ เป็นกลุ่มเฉพาะกิจที่มี micro culture เป็นของตัวเอง  ผู้ดีของคิสไม่ใช่ความเป็นคุณหนู แต่คือความมีการศึกษา ความคิดอ่าน การให้เกียรติผู้อื่น วางตัวในสังคม การยืดหยุ่นในสถานการณ์ การรักพวกพ้อง และปฎิบัติต่อผู้น้อย พวกเค้าไม่เย่อหยิ่ง และถ่อมตัวกว่าที่หลายๆคนคิด  ปล.พวกครึ่งๆกลางๆ ไม่สุดสักทางคือพวกทำตัว wanna be หนักที่สุด posh สุดคือพวกลูกพ่อค้า นักธุรกิจ หรือสังคมที่คิสโตมานี่ละ วอนนาบีเยอะมาก เหยียดได้เหยียด ปมเยอะ เป็นเรื่องตลกร้ายมาก ตปท.ก็คงคล้ายๆกัน