Purity One Step Mattifying Facial Cleanser และ Mattifying Moisturizer 2 ดูโอ้เพื่อตอบโจทย์ผิวที่ขาดสมดุล
Prmsblog5213เปิดใจเลยค่ะ กับ 2 DUO Philosophy ที่มาคู่กันอย่างลงตัวสำหรับการดูแลผิวเบื้องต้นที่ดีและเหมาะกับผิวที่ขาดสมดุลอีกด้วย ซึ่งหลายๆคนต้องมีไอเท็มประเภทนี้ติดโต๊ะแป้งและหน้ากระจกห้องน้ำเสมอ นั่นคือ คลีนเซอร์ และ มอยส์เจอไรเซอร์ครีม ที่ทุกคนใช้อยู่แล้วในชีวิตประจำวันค่ะ
มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยค่ะ
Philosophy Purity One Step Mattifying Facial Cleanser
ไอเท็มสุดเลิฟของเฟินตอนนี้เลยค่ะ สำหรับคลีนเซอร์เนื้อเจลใส แต่ฟองนุ่มละมุนผิวสุดๆ
เฟินเป็นคนผิวผสมค่ะ ดังนั้น ไม่ว่าผลิตภัณฑ์ตัวไหน เฟินต้องการการบำรุงที่เหมาะสม โดยเฉพาะคลีนเซอร์ค่ะ เพราะขั้นตอนการล้างหน้า เราไม่เพียงต้องการแค่ความสะอาด แต่เราต้องการการบำรุง และยังคงสภาพผิวเราให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ ซึ่ง Mattifying Facial Cleanser เป็นไอเท็มที่ตอบโจทย์เฟินมากค่ะ ไม่เพียงแค่ทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก แต่เค้ายังคงความชุ่มชื้นหลังใช้ แต่ไม่ทำให้ผิวลื่นมัน ซึ่งสูตรนี้เหมาะเลยสำหรับคนผิวมันและผิวผสม
นอกจากนี้เค้ายังให้ความอ่อนโยนต่อผิว ด้วยเนื้อโฟมนุ่ม เบาสบายผิว เฟินชอบขั้นตอนนี้มากค่ะ เฟินจะตีให้เค้าเป็นฟองนุ่ม และนวดผิวหน้าเบาๆ ใช้เนื้อเจลใสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ (เฟินใช้เท่าเหรียญบาท) ก็สามารถทำความสะอาดผิวได้ดีแล้วค่ะ ความรู้สึกหลังใช้คือ สบายผิวมากค่ะ ด้วยขั้นตอนตีฟองของเฟินที่ใช้นวดผิวหน้า จะทำให้เฟินรู้สึกผ่อนคลายผิวได้มากเลยค่ะ ทำให้รู้เย็นสบายผิว และสดชื่นสุดๆหลังล้างโฟมออกแล้ว ผิวที่ได้ก็ยังคงให้ความชุ่มชื่น และไม่ทิ้งคราบมันของครีมหรือเครื่องสำอางเลยค่ะ
Philosophy Mattifying Moisturizer
มอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ความรู้สึกไม่เหมือนมอยส์เจอไรเซอร์ทั่วไป สำหรับช่วงนี้ อากาศหนาวเริ่มมาแล้วค่ะ ลมหนาวอ่อน ๆ ใครว่าไม่ทำให้ผิวแห้ง ช่วงนี้การดูแลผิวโดยเฉพาะเรื่องความชุ่มชื้น ต้องเพิ่มเป็นสองเท่าเลยค่ะ สำหรับ Philosophy Mattifying Moisturizer เฟินมั่นใจเลยว่าข้อดีของเค้าตอบโจทย์เฟินและใครหลายคน สิ่งที่ประทับใจเลยคือ เนื้อครีมเนื้อบางเบา หลังทาสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้เป็นอย่างนี้ ทำให้ลืมภาพเนื้อครีมมอยส์เจอไรเซอร์ที่เนื้อข้น หนักผิวไปเลยค่ะ กักเก็บความชุ่มชื้น คุมความมันยาวนานตลอดทั้งวัน ไม่ทำให้หน้ามัน
ด้วยเนื้อครีมของเค้ามีความบางเบากึ่งเจลสีเหลืองอ่อน และเป็นแบบ Oil-free ทำให้ซึมเข้าสู่ผิวได้เป็นอย่างดีและไม่ทิ้งความมันแต่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าอยู่เสมอแบบผิวฟูธรรมชาติ ช่วงหยุดอยู่บ้านไม่ออกไปไหน เฟินชอบทาเค้าวนซ้ำแบบ เช้า สาย ค่ะ เพราะช่วงหน้าหนาวเฟินจะกลัวผิวแห้งเป็นพิเศษ เค้าให้ความรู้สึกเหมือนเนื้อเจลครีมบำรุงผิวที่เราทาได้ทั้งวันไม่หนักหน้าระหว่างวันที่เฟินเจอแดดบ้าง อากาศร้อนบ้าง เนื้อครีมไม่เยิ้มไหลเลยค่ะ เบาผิวไปเลยทั้งวัน
2 DUO ที่ต้องมีติดบ้านแล้วค่ะสำหรับ Purity One Step Mattifying Facial Cleanser & Mattifying Moisturizer ตอบโจทย์ความสมดุลให้แก่ผิวได้เป็นอย่างดีทั้ง ช และ ญ
เหมาะมากสำหรับสาวผิวมัน และ สาวผิวผสม ที่ต้องการการดูแลความชุ่มชื้นของผิวอย่างเหมาะสม ในแบบที่ผิวชุ่มชื้นแลดูผิวแมตต์เล็กน้อย ดูเป็นผิวที่สุขภาพดี แต่สำหรับคนผิวแห้งอาจจะใช้ตัวนี้ไม่เหมาะนะคะ เนื่องจากฟินิชของผิวหลังใช้ ความแมทต์และชุ่มชื้นพอดีสำหรับคนผิวมันและผิวผสม อาจจะแมตต์เกินไปสำหรับสาวผิวแห้งค่ะ
สรุปสั้นๆ เลยค่ะ ว่าเค้าคือคู่ดูโอ้ที่ต้องมี หลังใช้ติดต่อกัน 7 วัน เฟินสัมผัสได้ว่า คู่ดูโอ้นี่สามารถปรับสมดุลความมันของผิวได้ดีเลยค่ะ ผิวที่ตื่นมาหลังใช้ ให้รู้สึกผิวชุ่มชื่นกำลังดี หรือแม้กระทั่งหลังใช้ในตอนเช้า ทำให้รู้สึกผิวเนียนละเอียดขึ้น แต่งหน้าง่ายขึ้น ไม่ให้ความรู้สึกหนักผิวหรือมันเยิ้มในระหว่างวัน หรือใครอยู่บ้านไม่ออกไปไหน ใช้เค้าทาอยู่บ้าน ก็ช่วยให้ความรู้สึกเบาสบายผิวสุดๆเลยค่ะ ไม่ได้หาง่ายๆเลยค่ะ สำหรับมอยส์เจอร์ไรเซอที่ทาแล้วเบาสบายผิวได้ขนาดนี้
Discussion (13)