เปิดกรุคุชชั่น 10 brand 16 ตลับ

กระทู้นี้ใช้เวลาทำสักพักใหญ่ๆเลยนะคะทุกคน 
เนื่องจากบางตัวซื้อมาสักพัก แต่เพิ่งได้เปิดใช้ค่ะ
ส่วนบางตัวก็ใช้เกือบหมดแล้ว แบบปาดมารีววกันเลยทีเดียวค่ะ
ซึ่งทุกชิ้นเป็นเค้าท์เตอร์แบรนด์ในไทยทั้งหมดนะคะ
หาซื้อได้ตามห้าง หรือ ออนไลน์ได้เลยค่ะ
ราคาตั้งแต่หลัก เกือบพัน จนถึง 3 พันนะคะ
สภาพผิวของเอินคือ ผสม มันช่วงทีโซน มีรอยแดงบ้างจากสิว
เนื่องจากพักผ่อนไม่เป็นเวลาค่ะ
บางแบรนด์ใช้ขาวอมชมพู บางแบรนด์ขาวเหลืองค่ะ แล้วแต่ผลิตภัณฑ์

เอินชอบใช้คุชชั่นมาก เพราะสะดวกและเร็วดีค่ะ
เวลาที่ต้องตื่นเช้ามากไปทำงานก็จะเน้นคุชชั่นเพราะพกพาสะดวก
เวลาในการทำงานคือ 10 ชม นะคะ ทุกตัวผ่านการเทสโดยการทามาทำงานแล้วค่ะ
**กระทู้นี้เป็นความคิดเห็นและความชอบส่วนตัวนะคะ
ไม่ได้มีสปอน ซื้อเอง เจ็บเองค่ะ
มีได้รับจาก YSL ตลับเดียวค่ะคือตลับที่ 2**

1. TOMFORD Shade And Illuminate #2.00
ขอมอบมงให้นางเลยค่ะ จะบอกว่าเค้าเป็นคุชชั่นผิวสวย ผิวแพงแซงทางโค้งมากๆ เอินซื้อเพราะดูรีวิวเยอะมากว่านางควรค่า สมราคา ทั้งที่เราคิดว่ามันแพงมากๆเลยค่ะ แต่พอได้ไปลอง คือไม่แปลกใจเลย นางเริ่ดตามคำเคลม
- เล่นแสงสวยมากแบบไม่ต้องทาไฮไลท์เลยค่ะ
- ปกปิดปานกลาง แต่ไม่ตกร่อง ปาดนิดเดียวได้ทั่วหน้าเลยค่ะ
- คุมมันดี มีความมันบ้างแต่ไม่เมือก เรียกว่าเหงื่อออกก็สวยค่ะ
- แพคเกจเลอค่า ดูแพงสุดๆ
ข้อเสียคือ ราคาค่อนข้างสูงหากเทียบกับแบรนด์อื่น และไม่เหมาะกับสาวผิวมันนะคะเพราะน้องค่อนข้างเงาค่ะ

2.YSL Le  Cushion Encre De Peau #20 (Limited Edition)
เป็นคุชชั่นที่เล็งไว้ตั้งแต่ยังไม่เข้าไทยเลยค่ะ คือตลับปังมากกก แต่น้องไม่ได้มีดีแค่ตลับนะคะ
- คุชชั่นงานผิวที่เลิศมาก เนื้อไม่หนัก สบายผิวมาก ฟินิชจะแมทกว่าตัวเดิมนิดนึงค่ะ

- คุมมันปานกลางนะคะ 5-6 ชม คือจะต้องซับแล้ว แต่เค้าไม่เมือกแล้วก็ไม่ตกร่องค่ะ ให้ความผิว เคยทาถึง 10+ ชม ก็ยังโอเคค่ะ เติมแป้งก็คือไปต่อได้ค่ะ

- ปกปิดปานกลาง บิ๊วได้ไม่คราบจ้า

- แพคเกจคือชนะ โดยเฉพาะสาวก YSL นี่ต้องไม่พลาดเลยนะคะ

ข้อเสียคือ

-ตัวนี้สีดรอปนิดหน่อยนะคะ รอสัก 5-10 นาที น้องจะพอดีผิวค่ะ เวลาซื้อควรลองให้ดีก่อนนะคะ/ รุ่นนี้มีสีให้เลือกน้อยค่ะ

3. JUNG SAEM MOOL Master Class Cushion # Vanilla

ตัวนี้คือเหนือความคาดหมายมากค่ะ เพราะตอนไปลองรู้สึกว่ามันหนาไปหน่อย แต่รีวิวแน่นมาก จนคันค่ะเลยอยากได้ก็ตำจนได้

- ปกปิดดีมาก แต่ไม่หนักหน้าเลยค่ะ
- คุมความมันได้ดีค่ะ ใช้เกิน 10 ชม นี่คือรอด แบบไม่เซทแป้งด้วย
- ผิวสวย เล่นแสงดีเช่นกันค่ะ ใครอยากได้กลาสสกินเชิญมาลองค่ะ
- คุ้มราคา ในแพคเกจมีรีฟิลมาให้ด้วยค่ะ ตลับก็สวย พัฟก็นุ่มนิ่ม

ข้อเสียคือ

- เนื้อคุชชั่นค่อนข้างเหนอะค่ะ ทุกครั้งที่ผิวหน้ามีควมมันแล้วซับออกจะติดเนื้อคุชชั่นติดออกมาด้วย/ ไม่เหมาะกับสาวผิวมันนะคะ น้องวาวเยอะค่ะ

4. GIORGIO ARMANI Designer Essence-In-Balm Mesh Cushion#2 

คุชชั่นงานผิวสุดๆ เหมือนดื่มน้ำเยอะ เพราะเค้าฉ่ำ โกลวค่ะ

- เนื้อบาล์ม บางเบา เหมาะกับคนอยากได้งานผิวจริงๆ
- ปกปิดปานกลาง สามารถบิ๊วเพิ่มได้
- คุมมันปานกลาง 5-6 ชั่วโมง ผิวมันแต่ยังผ่อง เนื่องจากกระจายแสงดี

- มี SPF 50/PA+++ คือเรียกว่าไม่ต้องทากันแดดเลยค่ะ

ข้อเสีย

- คุชชั่นตกร่องนิดหน่อยทีโซนนะคะ หากไม่เซทแป้งช่วย/ มีสีให้เลือกค่อนข้างน้อยค่ะ/ เนื้อเป็นบาล์ม ต้องกดแรงหน่อยเพื่อให้คุชชั่นติดพัฟค่ะ

5. DIOR Prestige Le Cushion Teint de Rose #012

 ตัวนี้โดนตกเพราะพีบีเออธิบายสรรพคุณได้เริ่ดหรูมากค่ะ แล้วพอตอนลองก็คือต้องมีแหละแก ก็งานผิวดีขนาดดดดด

- กลิ่นหอมกุหลาบอ่อนๆ ใช้แล้วดีต่อใจมากๆ

- งานผิวสวยอีกตัว อิ่มน้ำ โกลวเล็กน้อยไม่เท่า 4 ตัวเเรกค่ะ

- ตลับหรูหรา แต่หนาไปหน่อยค่ะ *แต่ตอนนี้เค้าประตลับให้บางลงแล้วนะคะ

- คุมมันกลางๆ มีหลุดช่วงทีโซน ซับๆไปต่อได้ค่ะ

ข้อเสีย 

- ราคาแพง ถ้าหากเทียบกับคุชชั่นที่มีทางเลือกมากในตอนนี้ค่ะ

6. Laura Flawless Lumiere Cushion 

เป็นคุชชั่นที่น่าทึ่งมากค่ะ เกินความคาดหมายจริงๆ
- ปกปิดดีงามมากค่ะ แต่ไม่หนา ยังคงความผิวอยู่
- คุมมันได้ดีค่ะ 10 ชม สบายๆเลยค่ะ
- มีสีให้เลือกเยอะค่ะ คุ้มราคาค่ะ
ข้อเสีย
- เนื้อคุชชั่นมีความเหนอะหนะนิดนึงค่ะ / คุชชั่นดรอปหลังเซทตัว ควรเลือกเฉดให้ดีค่ะ

7. MAC Studio Fix #N12 

ยืนหนึ่งเรื่องเฉดสีหลากหลายมากที่สุดในทุกแบรนด์เลยค่ะ
- ปกปิดกลางๆบิ๊วได้สบายๆ
- ฟินิชกึ่งแมท แต่ก็ยังฉ่ำมากกว่ารองพื้นค่ะ 
- ผสมสารกันแดด และบำรุงค่ะ
ข้อเสีย
- น้องเยิ้มอ่ะ แต่ได้เป็นคราบนะคะ คือซับหน้าก็ยังไปต่อได้ หรือควรใช้แป้งเซทช่วยค่ะ/
 สีดรอปนะคะ รอเซทตัวนานนิดนึงแบบ 1-2 ชมค่ะ


8. JUNG SAEM MOOL Cushion Cealer # Light 

คุชชั่นที่มีคอนซีลเลอร์ให้ในตัว เป็นคุชชั่นงานผิวใส ใช้แล้วรู้สึกผิวใส ดีงามมาตั้งแต่เกิด
- คุมมันดีงามค่ะ 8-10 ชม ไปเลย มันทีโซนแต่ไม่เยิ้มค่ะ

- ปกปิดดี หน้าผ่อง 

ข้อเสีย
- เนื้อมีความเหนอะหนะนิสนึงค่ะ แต่ไม่ได้เป็นคราบนะคะ
- คอนซีลเลอร์ไม่ได้เป็นแบบทั่วไปนะคะ ไม่ได้ช่วยปกปิดเท่าไหร่ ไม่กริบค่ะ

9. THE FACE SHOP Yehwadam Hwansaenggo BB Cushion #21N 

คุชชั่นตัวใหม่ล่าสุดในกระทู้นี้เลยค่ะ
- คุชชั่นเนื้อดี เกลี่ยง่าย ไม่หนักหนา
- ทาแล้วผิวสวยค่ะ กระจายแสงดีเพราะมีส่วนผสมของไข่มุกค่ะ
- ปกปิดกลางๆ รอยแดงเอาอยู่
- ราคาดีงามค่ะ 9XX แถมมาพร้อมรีฟิลด้วยนะคะ
- มีกลิ่นโสม สำหรับเอินเอินชอบค่ะ แต่ใครไม่ชอบต้องบายนะคะเพราะกลิ่นเยอะอยู่ค่ะ
ข้อเสีย
- คุมมันน้อยมากค่ะ 3-4 ชม ก็มันแล้ว ต้องเซทแป้งค่ะเพื่อช่วย


10. LANEIGE Neo Cushion Glow #N21

 คุชชั่นที่กระแสดีตั้งแต่ยังไม่เข้าไทยตลับมุ้งมิ้งเกินต้าน

- คุชชั่นเนื้อดี บางเบา

- ให้งานผิวสวย เล่นแสงพอประมานแต่ไม่ได้ฉ่ำ

- คุมมันปานกลาง ระหว่างวันมีมันบ้างแต่มันทำให้หน้าดูฉ่ำขึ้นค่ะ

- ตลับเก๋ไก๋น่ารัก มาพร้อมรีฟิล คุ้มราคาค่ะ

ข้อเสีย

- ปกปิดไม่มาก ต้องย้ำหน่อยค่ะ 

11. THE HISTORY OF WHOO Cheongidan Radian Essence Cushion #21

คุชชั่นของจักรพรรดิ์เกาหลี

- บางเบามากกกกก เป็นคุชชั่นที่ทำมาให้คนผิวดีดูสวยจากภายในสู่ภายนอก 

- ผิวใส เหมือนเติมน้ำให้ผิว ให้ฟีลแต่งหน้าเหมือนไม่แต่ง

ข้อเสีย

- คนผิวหน้าไม่ดีต้องผ่านค่ะ เค้าไม่ได้ช่วยเรื่องปกปิดเลยค่ะ/ มีสีให้เลือกน้อยมากค่ะ

12. JUNG SAEM MOOL Essential Skin Nuder # Light

คุชชั่นตัวฮิตที่หลายๆคนครอบครอง

- บางเบา แต่ให้งานผิวสวยมาก
- คุมมันได้ปานกลางค่ะ และก็ติดทนด้วย ฟินิชลุคค่อนไไปทางแมท
- ปกปิดได้ดี หากเทียบกับคุชชั่นตัวอื่น แต่น้อยกว่า Master class
ข้อเสีย
- อันนี้น่าจะเป็นเอินคนเดียว รู้สึกว่าเค้าไม่ผ่อง ถ่ายรูปแล้วไม่ขึ้นกล้องอ่ะค่ะ

 

13. YSL Le Cushion Encre de Peau Sequin #10

เค้าคือ Fusion ink ในตลับลิมิเต็ดค่ะทุกคน ซึ่งเอินใช้ไป 4 ตลับแล้ว เรียกว่าเป็นคุชชั่นที่เติมตลอด เพราะเป็นคุชชั่นที่เลิฟมากกกกกกก

- คุชชั่นที่ให้ผิวสวยงามเป็นธรรมชาติ แล้วก็มีความโกลว
- เนื้อดี บางเบา เกลี่ยง่าย
- ปกปิดปานกลาง บิ๊วได้ด้วย
- คุมมันกลางๆ แต่ไม่เยิ้ม ซับๆไปต่อได้
ข้อเสีย
- มีสีให้เลือกน้อยไปหน่อยค่ะหากเทียบกับแบรนด์อื่น



14. DIOR Forever Perfect Cushion #2

โดนตกเพราะตลับอีกแล้วจ้าแม่จ๋า

 - ฟินิชแมทกว่าคุชชั่นทั่วไปมากๆ

- คุมมันได้ดี มีความมันแต่ไม่เยิ้มเลย

- ปกปิดกลางๆ 

ข้อเสีย

- เนื้อค่อนข้างหนัก และแห้ง เกลี่ยยากกว่าคุชชั่นทั่วไป/ ไม่มีความโกลว อันนี้คือคิดเองว่าคุชชั่นควรเป็นการเผยผิว ซึ่งอาจจะเหมาะกับคนหน้ามันค่ะ/ มีสีให้เลือกน้อยมากค่ะ

15. TOMFORD Glow Tone up Cushion  #2.00

เป็นสิ่งที่มีคนให้มาค่ะ ไม่ได้ซื้อมาเองนะคะ 

- บางเบามากๆเลยค่ะ เหมือนเป็นสิ่งช่วยประสภาพผิวมากกว่า

- งานธรรมชาติแบบโชว์ผิว สุขภาพดี

ข้อเสีย

- ไม่คุมมันเลยค่ะ / ไม่เหมาะกับคนผิวมีปัญหา เพราะไม่ช่วยปกปิดค่ะ / เหมาะกับคนผิวแห้งค่ะ / ราคาสูงตามฉบับแบรนด์

16. YSL Mini Cushion Encre De Peau Highlighter

นางเป็นไฮไลท์นะคะทุกคน แบรนด์ลูกรัก ออกลิมิเต็ดทั้งทีไม่มีได้ไงแม่

 ใช้งานง่าย ปกติจะใช้แต่รูปแบบฝุ่น แต่พอสิ่งนี้ออกมาคือไม่ลังเลเลยค่ะ อันนี้เอินไม่ทราบว่าเคยมีแบรนด์อื่นทำรึยังนะคะ แต่รู้สึกว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่ค่ะ ด้วยความเป็นคนชอบใช้คุชชั่นเลยจัดมาค่ะ ไม่ผิดหวังเลย นางมีชิมเมอร์ผู้ดีไม่ปลาทู กระจายแสงดีมากค่ะ

Discussion (25)

ของดีไม่จำเป็นต้องราคาแพงค่ะ อย่างของเราใช้ Woonae Cushion SPF50 PA+++ ตัวนี้ตอบโจทย์มาก เนื้อลื่นเกลี่ยง่าย ติดผิวดีมาก ปกปิดเนียน ราคา 59 บาทเอง
เป็นรีวิวคุชชั่นที่ลงทุนมากค่ะ แต่ละตัวก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป
ปี 2023 ขอเพิ่มให้อีกตัวค่ะ Woonae Cover Soft Matte Cushion SPF50 PA+++ ตัวนี้ราไม่แพง ใช้ดีสุดๆ ปกปิดได้ดี บางเบา ไม่หนักหน้า
โอย กระเป๋าตังค์สั่นละค่า
รีวิวละเอียดให้ประโยชน์กับการตัดสินใจมากๆค่ะ รอตาม คุชชั่น YSL Le Cushion Encre De Peau Lame Collector