สรุปเรื่องไม่ดีของปีชงที่ผ่านมา
yingsim6 ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ พอดีอยากทราบว่าคนที่เกิดปีชงเหมือนเราปีที่แล้วนั้น เจอเรื่องไม่ดีๆแบบเราบ้างไหมคะ เราอ่านดวง เค้าก็บอกว่ามีแต่เรื่องไม่ดี
เราเกิดปีมะเมีย อย่างที่รู้ว่าชงกับปีชวด เริ่มปลายปี 50 เราเรอบ่อยและหนักมาก เลยตัดสินใจไปส่งกล้อง ปรากฏว่าเป็นกะเพาะอักเสบ เราก็รักษาต่อเนื่องมาตลอดทั้งปี กินยาก็ไม่หาย ก็กลัวว่ากินยามากไปจะมีโรคไตมาถามหาอีก จนช่วงปลายปีเลยดื้อไม่ไปหาหมอ เพราะอาการยังไม่กำเริบ
พอเดือน ก.พ. เราได้ไปบ้านพี่ที่รู้จักที่ปากช่อง ดันไปเท้าพลิกที่ห้องครัวเค้า มันเป็นแค่ทางต่างระดับชั้นเดียวเอง เราก็เจ็บแปล็บๆ พี่เค้าก็นวดเท้าให้ คิดว่าไม่เป็นไรมาก พอเรากลับมา กทม. เวลาเดินลงเท้าก็รู้สึกยังแปล็บๆ อยู่ ยิ่งถ้าวิ่งยิ่งเจ็บ เรากะว่าปล่อยไว้สักอาทิตย์นึงคิดว่าจะดีขึ้น แต่เปล่าเลย เราเลยตัดสินใจไปหาหมอ ได้ทำการ x-ray ปรากฏว่า ตรงนิ้วก้อยกระดูกเคลื่อน ต้องใส่เฝือก เราทั้งตกใจและเอ๋อ ไม่คิดว่ามันจะหนักขนาดนั้น เราก็ยังคิดว่าคงไปทำงานได้ แต่พอใส่เฝือกและเดินด้วยไม้เท้า มันแทบจะล้มตลอด เพราะเราไม่เคย พอวันถัดมา หัวหน้าโทรมาถามว่าเดินไหวไหม เราดันบอกว่าไหว (แต่เราก็บอกเค้าแล้วนะว่าเราขาหักต้องใส่เฝือก) พอไปที่ทำงานเท่านั้นแหละ ผจก.เห็นตกใจ ไม่คิดว่าเป็นหนักขนาดนี้ เลยไล่เรากลับบ้าน เราเลยต้องหยุดงานไปเกือบ 1 เดือนเต็ม กว่าจะไปทำงานได้ปกติ พอเพื่อนที่โคราชแวะมาเยี่ยมก็พาเราไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ มีเจ๊คนนึงเห็นเราก็ช่วยเหลือ และบอกว่า ใจบุญจริงๆขนาดเป็นแบบนี้แล้วยังมาอีก (ป่าวค่ะ หนูอยากจะเจอเรื่องดีๆเข้ามาบ้าง)
พอปลายเดือน มิ.ย. เราได้ย้ายมาอยู่กับแฟน อยุ่ได้แค่ 1 สัปดาห์ ก็เกิดอุบัติเหตุ เราซ้อนมอไซด์แฟน แล้วปรากฏว่ารถเก๋งดันไม่เปิดไฟเลี้ยว จังหวะเค้าแซงซ้ายไม่พ้น และไม่คิดว่าพี่เก๋งจะเลี้ยวซ้ายด้วย ทำให้รถเรากระเด็นไถลไปพอสมควร และล้มลง เราร้องกรี๊ดเพราะตกใจมาก เราและแฟนไม่ได้ใส่แจ๊คเก๊ต เราเลยได้แผลถลอกด้านแขนขวา ส่วนแฟนก็เอาข้อศอกลงจะหนักกว่าเรา เพราะเลือดไหลไม่หยุด แต่ก็ยอมความกันไป เพราะเหมือนว่าผิดทั้งคู่ ตอนแรกแฟนเราจะไม่ไปโรงบาลเพราะเค้าบอกว่าเป้นเล็กน้อย เดี๋ยวก็หาย แต่เราไม่ยอมเพราะมีประกันอยุ่ ส่วนแฟนไม่มีแต่เบิก พรบ.ได้ พอแวะไปร้านซ่อมมอไซด์ พี่ผู้ญเห็นข้อศอกแฟนเราว่าเป็นรูโบ๋เลย เค้าเลยยอมไปโรงบาล ก็เย็บหลายเข็ม ส่วนเราก็ทำแผลด้านแขนขวาเหมือนมัมมี่เลย พอไปที่ทำงาน เพื่อนก็ทัก ซวยอีกแล้ว แม่ค้าเห็นก็แซวว่ากระดูกเหล็กจริงๆ เพราะคราวก่อนก็เห็นขาหัก
พอกลางปี กระเป๋าเงินหาย เราไปทำธุระกับแฟน พอดีรีบออกจากบ้าน ของก็ถือเต็มไม้เต็มมือ รวมทั้งเป๋าตังค์ด้วย และได้แวะกินก๋วยเตี๊ยวข้างทาง พอมาอู่ซ่อมรถ ก็หาเป๋าตังค์ไม่เจอ ก็ไม่รุ้ว่าไปหล่นที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหรือเปล่า แต่เราก็ไม่แน่ใจว่ามันหล่นตั้งแต่หน้าบ้านหรือเปล่า คิดไปต่างๆนาๆ เลยกะว่าเดี๋ยวลองไปดูที่บ้านอาจหล่นแถวนั้น พอไปถึงว่างเปล่าไม่มี แง..ซวยอีกแล้ว ลำบากในการทำบัตรต่างๆนาๆอีก เงินก็ไม่มีใช้ ต้องขอแฟนใช้ตลอดช่วงนั้น (เหมือนขอค่าขนมไปทำงานเลย)
เราตัดสินใจไปไหว้พระวัดมังกรกับเพื่อน เผื่อว่าอะไรๆจะดีขึ้นมา พิธีการเยอะมาก งงไปหมด ขนาดเรากะเพื่อนถามเค้าแล้ว ยังไหว้ผิดไหว้ถูก และมันก็ไม่ดีอย่างที่คิดไว้ พอเดือน ต.ค. เราไปเที่ยวปายกับเพื่อนและแม่เพื่อนด้วย ตรงสะพานประวัติศาสตร์พวกเราถ่ายรูปกันได้เมามันส์ สักพักก็มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น จังหวะที่เรานั่งถ่ายรูปกันเป็นกลุ่มอย่างสนุกเฮฮา พอดีเราถือกล้องเพื่อนไว้ ก็เลยเอาวางไว้บนตัก แต่ลืมคิดไปว่า สะพานมันมีร่องด้วย พอขยับตัวนิดเดียว สักพักก็มีเสียงหล่นไปดังจ๋อม เพื่อนได้ยินก็ทักว่าอะไรหล่น วินาทีนั้นเรารู้เลยว่าเป็นกล้องไหลหล่นลงไปแม่น้ำปาย เพื่อนก็ถามว่าใช่เหรอ ไม่ใช่มือถือเหรอ เราสะเพร่าเองที่ไม่คล้องมือไว้ และก็คิดว่าทำไมไม่เป็นกล้องวิดีโอของเราวะ ทำไมต้องเป็นกล้อง (ของแม่เพื่อนด้วย) เพื่อนไม่เชื่อวิ่งไปถามแม่ เพราะคิดว่าอยู่กับแม่ พอแม่รุ้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เราก็ไปขอโทษ บอกว่าจะชดใช้ซื้อให้ เค้าก็ไม่ว่าไร พอบอกแฟน ก็บ่นว่าทำไมไม่คล้องมือไว้ แล้วทำไมไม่ลงไปเอาละ เพราะน้ำไม่ลึก แต่ ณ ตอนนั้นเราไม่รุ้และเห็นว่าน้ำไหลเชี่ยวแรง ใครจะไปกล้าล่ะ เราผู้ญนะ แต่ชาวบ้านก็บอกว่าจ้างคนแถวนั้นลงไปได้ แต่ตอนนั้นไม่มีชาวบ้านเลย แต่เราก็มาหาซื้อมือสองจากเนตให้เค้าจนได้ แต่รุ้สึกเสียดายรูปที่ถ่ายน่ะสิ มีแต่ภาพหลุดน่ารักๆ
สรุปแล้วทั้งปีก็มีเท่านี้ล่ะคะ ที่ค่อนข้างหนักสำหรับเราสำหรับปีที่ผ่านมา พอดวงปีนี้ เห็นว่ายังไม่ค่อยดีอีก ก็ไม่รุ้ว่าจะเจอเรื่องอะไรร้ายๆหรือเปล่า เฮ้อ..
เราเกิดปีมะเมีย อย่างที่รู้ว่าชงกับปีชวด เริ่มปลายปี 50 เราเรอบ่อยและหนักมาก เลยตัดสินใจไปส่งกล้อง ปรากฏว่าเป็นกะเพาะอักเสบ เราก็รักษาต่อเนื่องมาตลอดทั้งปี กินยาก็ไม่หาย ก็กลัวว่ากินยามากไปจะมีโรคไตมาถามหาอีก จนช่วงปลายปีเลยดื้อไม่ไปหาหมอ เพราะอาการยังไม่กำเริบ
พอเดือน ก.พ. เราได้ไปบ้านพี่ที่รู้จักที่ปากช่อง ดันไปเท้าพลิกที่ห้องครัวเค้า มันเป็นแค่ทางต่างระดับชั้นเดียวเอง เราก็เจ็บแปล็บๆ พี่เค้าก็นวดเท้าให้ คิดว่าไม่เป็นไรมาก พอเรากลับมา กทม. เวลาเดินลงเท้าก็รู้สึกยังแปล็บๆ อยู่ ยิ่งถ้าวิ่งยิ่งเจ็บ เรากะว่าปล่อยไว้สักอาทิตย์นึงคิดว่าจะดีขึ้น แต่เปล่าเลย เราเลยตัดสินใจไปหาหมอ ได้ทำการ x-ray ปรากฏว่า ตรงนิ้วก้อยกระดูกเคลื่อน ต้องใส่เฝือก เราทั้งตกใจและเอ๋อ ไม่คิดว่ามันจะหนักขนาดนั้น เราก็ยังคิดว่าคงไปทำงานได้ แต่พอใส่เฝือกและเดินด้วยไม้เท้า มันแทบจะล้มตลอด เพราะเราไม่เคย พอวันถัดมา หัวหน้าโทรมาถามว่าเดินไหวไหม เราดันบอกว่าไหว (แต่เราก็บอกเค้าแล้วนะว่าเราขาหักต้องใส่เฝือก) พอไปที่ทำงานเท่านั้นแหละ ผจก.เห็นตกใจ ไม่คิดว่าเป็นหนักขนาดนี้ เลยไล่เรากลับบ้าน เราเลยต้องหยุดงานไปเกือบ 1 เดือนเต็ม กว่าจะไปทำงานได้ปกติ พอเพื่อนที่โคราชแวะมาเยี่ยมก็พาเราไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ มีเจ๊คนนึงเห็นเราก็ช่วยเหลือ และบอกว่า ใจบุญจริงๆขนาดเป็นแบบนี้แล้วยังมาอีก (ป่าวค่ะ หนูอยากจะเจอเรื่องดีๆเข้ามาบ้าง)
พอปลายเดือน มิ.ย. เราได้ย้ายมาอยู่กับแฟน อยุ่ได้แค่ 1 สัปดาห์ ก็เกิดอุบัติเหตุ เราซ้อนมอไซด์แฟน แล้วปรากฏว่ารถเก๋งดันไม่เปิดไฟเลี้ยว จังหวะเค้าแซงซ้ายไม่พ้น และไม่คิดว่าพี่เก๋งจะเลี้ยวซ้ายด้วย ทำให้รถเรากระเด็นไถลไปพอสมควร และล้มลง เราร้องกรี๊ดเพราะตกใจมาก เราและแฟนไม่ได้ใส่แจ๊คเก๊ต เราเลยได้แผลถลอกด้านแขนขวา ส่วนแฟนก็เอาข้อศอกลงจะหนักกว่าเรา เพราะเลือดไหลไม่หยุด แต่ก็ยอมความกันไป เพราะเหมือนว่าผิดทั้งคู่ ตอนแรกแฟนเราจะไม่ไปโรงบาลเพราะเค้าบอกว่าเป้นเล็กน้อย เดี๋ยวก็หาย แต่เราไม่ยอมเพราะมีประกันอยุ่ ส่วนแฟนไม่มีแต่เบิก พรบ.ได้ พอแวะไปร้านซ่อมมอไซด์ พี่ผู้ญเห็นข้อศอกแฟนเราว่าเป็นรูโบ๋เลย เค้าเลยยอมไปโรงบาล ก็เย็บหลายเข็ม ส่วนเราก็ทำแผลด้านแขนขวาเหมือนมัมมี่เลย พอไปที่ทำงาน เพื่อนก็ทัก ซวยอีกแล้ว แม่ค้าเห็นก็แซวว่ากระดูกเหล็กจริงๆ เพราะคราวก่อนก็เห็นขาหัก
พอกลางปี กระเป๋าเงินหาย เราไปทำธุระกับแฟน พอดีรีบออกจากบ้าน ของก็ถือเต็มไม้เต็มมือ รวมทั้งเป๋าตังค์ด้วย และได้แวะกินก๋วยเตี๊ยวข้างทาง พอมาอู่ซ่อมรถ ก็หาเป๋าตังค์ไม่เจอ ก็ไม่รุ้ว่าไปหล่นที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหรือเปล่า แต่เราก็ไม่แน่ใจว่ามันหล่นตั้งแต่หน้าบ้านหรือเปล่า คิดไปต่างๆนาๆ เลยกะว่าเดี๋ยวลองไปดูที่บ้านอาจหล่นแถวนั้น พอไปถึงว่างเปล่าไม่มี แง..ซวยอีกแล้ว ลำบากในการทำบัตรต่างๆนาๆอีก เงินก็ไม่มีใช้ ต้องขอแฟนใช้ตลอดช่วงนั้น (เหมือนขอค่าขนมไปทำงานเลย)
เราตัดสินใจไปไหว้พระวัดมังกรกับเพื่อน เผื่อว่าอะไรๆจะดีขึ้นมา พิธีการเยอะมาก งงไปหมด ขนาดเรากะเพื่อนถามเค้าแล้ว ยังไหว้ผิดไหว้ถูก และมันก็ไม่ดีอย่างที่คิดไว้ พอเดือน ต.ค. เราไปเที่ยวปายกับเพื่อนและแม่เพื่อนด้วย ตรงสะพานประวัติศาสตร์พวกเราถ่ายรูปกันได้เมามันส์ สักพักก็มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น จังหวะที่เรานั่งถ่ายรูปกันเป็นกลุ่มอย่างสนุกเฮฮา พอดีเราถือกล้องเพื่อนไว้ ก็เลยเอาวางไว้บนตัก แต่ลืมคิดไปว่า สะพานมันมีร่องด้วย พอขยับตัวนิดเดียว สักพักก็มีเสียงหล่นไปดังจ๋อม เพื่อนได้ยินก็ทักว่าอะไรหล่น วินาทีนั้นเรารู้เลยว่าเป็นกล้องไหลหล่นลงไปแม่น้ำปาย เพื่อนก็ถามว่าใช่เหรอ ไม่ใช่มือถือเหรอ เราสะเพร่าเองที่ไม่คล้องมือไว้ และก็คิดว่าทำไมไม่เป็นกล้องวิดีโอของเราวะ ทำไมต้องเป็นกล้อง (ของแม่เพื่อนด้วย) เพื่อนไม่เชื่อวิ่งไปถามแม่ เพราะคิดว่าอยู่กับแม่ พอแม่รุ้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เราก็ไปขอโทษ บอกว่าจะชดใช้ซื้อให้ เค้าก็ไม่ว่าไร พอบอกแฟน ก็บ่นว่าทำไมไม่คล้องมือไว้ แล้วทำไมไม่ลงไปเอาละ เพราะน้ำไม่ลึก แต่ ณ ตอนนั้นเราไม่รุ้และเห็นว่าน้ำไหลเชี่ยวแรง ใครจะไปกล้าล่ะ เราผู้ญนะ แต่ชาวบ้านก็บอกว่าจ้างคนแถวนั้นลงไปได้ แต่ตอนนั้นไม่มีชาวบ้านเลย แต่เราก็มาหาซื้อมือสองจากเนตให้เค้าจนได้ แต่รุ้สึกเสียดายรูปที่ถ่ายน่ะสิ มีแต่ภาพหลุดน่ารักๆ
สรุปแล้วทั้งปีก็มีเท่านี้ล่ะคะ ที่ค่อนข้างหนักสำหรับเราสำหรับปีที่ผ่านมา พอดวงปีนี้ เห็นว่ายังไม่ค่อยดีอีก ก็ไม่รุ้ว่าจะเจอเรื่องอะไรร้ายๆหรือเปล่า เฮ้อ..
เดือนหน้านัดเพื่อนไปไหว้พระ 9 วัดกันด้วยละ
Discussion (6)
ชงเหมือนกัน แต่โชคดี ไม่มีอะไรร้ายๆ
ปีใหม่แล้ว ขอให้เจอแต่สิ่งดีๆนะคะ
ปีใหม่แล้ว ขอให้เจอแต่สิ่งดีๆนะคะ
คิดดี พูดดี ทำดีจ้า
เมื่อวันที่ 1 ก็เพิ่งไปไหว้พระมา 9 วัดที่อยุธยาเหมือนกันค่ะ เพราะว่าปีนี้เป็นปีชงค่ะ
ทำบุญเยอะๆครับ
ตั้งตนอยู่ในศีลธรรม คิดดี ทำดี มีสติ สวดมนต์ก่อนนอน
ผลบุญจะช่วยให้สิ่งร้ายๆ ลดลง
จริงๆนะ...
ตั้งตนอยู่ในศีลธรรม คิดดี ทำดี มีสติ สวดมนต์ก่อนนอน
ผลบุญจะช่วยให้สิ่งร้ายๆ ลดลง
จริงๆนะ...
เราก้อเกิดปีมะเมียค่ะ
แต่ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องเสียเลือดเสียเนื้อนะคะ
มีเรื่องให้คิดไม่ตกนิดหน่อยเท่านั้น
อ้อ...มีครั้งนึงต้องไปนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล
เพราะอาหารเป็นพิษ....
ปวดท้องมากๆ พอเข้าไปตรวจกับหมอ
หมอบอกว่าเราอาจจะเป็นไส้ติ่งอักเสบอ่ะค่ะ
น้ำตาร่วงเลย กลัวโรงพยาบาลที่สุด
แต่สุดท้ายก้อไม่มีอะไร
^^
ไม่ว่าจะเป็นปีชงหรือไม่
เราก้อควรจะไม่ประมาทไว้ก่อนนะคะ
ปีใหม่เเล้ว ก้อขอให้เจอแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามานะคะ