[REVIEW] รวม 19 สกินแคร์เติมน้ำให้ผิว-ผิวแข็งแรง by Onnbaby

สวัสดีค่า

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ด้วยสารพัดสกินแคร์
ที่ออนคัดมาแล้วว่าช่วยเติมน้ำให้ผิว ผิวแข็งแรง ผิวอิ่มน้ำ และผิวเด็กเว่อร์

แค่เห็นคงไม่ต้องเดาเนอะ ว่าเป็นคนชอบสกินแคร์โทนสีฟ้า สีเขียวขนาดไหน
ซึ่งสกินแคร์โทนสีนี้ส่วนมากก็จะหนีไม่พ้นคุณสมบัติที่เน้นเติมน้ำให้ผิว
ผิวชุ่มชื้น ผิวแข็งแรงต่างๆ และออนเป็นคนนึงที่ "คลั่งมากกกก" กับการ
บำรุงผิวให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอตั้งแต่เด็ก

ทำไมต้องบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ?

- ความชุ่มชื้นเป็นกุญแจหลักให้ผิวของเราดูอิ่ม ดูฟู ดูเนียนนุ่ม
และดูเด็กกว่าวัย สังเกตุง่ายๆ ดินที่แห้ง ไม่มีคนรดน้ำ หน้าดินจะแตกเป็นริ้ว
มีความแข็ง กร้าน หยาบ มีรอยยับต่างๆ แต่เมื่อเรารดน้ำ เทน้ำลงไปจนเพียงพอ
หน้าดินจะสมานกัน รอยแห้ง รอยแตกจะหายไป เนื้อดินจะกลับมานุ่ม มีความยืดหยุ่นในตัว ซึ่งนั่นก็เปรียบเสมือนผิวของเรา..

เมื่อผิวขาดน้ำ ผิวของเราก็จะเริ่มดูแห้ง กร้าน หยาบ และนำมาซึ่งปัญหา
ต่างๆอย่าง ผิวขาดความยืดหยุ่น รูขุมขนกว้าง หรือหนักขึ้น ก็จะกลายเป็น
ผิวมันขาดน้ำ ที่จับผิวไปมีแต่ความสาก ความหยาบ แต่ผิวหน้ามัน เป็นสิว
แต่งหน้าไม่ติด แถมริ้วรอยต่างๆก็จะมาก่อนวัยด้วย ดังนั้นบอกเลยว่าปัจจัยหลักของผิวสวย และเด็ก ไม่ใช่แค่ความขาวใส แต่คือผิวนุ่ม ชุ่มชื่น อิ่มน้ำสุขภาพดีนั่นเอง

เหมาะกับทุกสภาพผิวมั้ย?

- ไม่ว่าจะผิวแบบไหน ก็ต้องการความชุ่มชื้น โดยเฉพาะคนที่ผิวมัน
อย่าคิดว่าผิวมันแล้ว ไม่ควรทาครีม เพราะยิ่งไม่ทา ผิวก็จะยิ่งขาดน้ำ
เมื่อผิวยิ่งขาดน้ำ ผิวก็จะผลักน้ำมันใต้ผิวออกมาทดแทนน้ำที่ขาดไป
ทำให้หน้ายิ่งมัน ดังนั้นถ้าไม่อยากหน้ามันเยิ้ม เน้นบำรุงให้ความชุ่มชื้น
ผิวไปเยอะๆค่ะ เคล็ดลับของออนคือบำรุงกลางคืนเยอะๆ เอาให้แน่น
จัดให้เต็ม พอตอนเช้า เราก็เบาลงมา แต่ผิวเราก็จะยังคงชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ฟู
สวยอยู่ มาดูกันค่ะว่าสกินแคร์ทั้งหมดที่ออนมีใช้แล้วเป็นยังไง
อันไหนควรจัด อันไหนควรพัก ไปดูกันเลย!

Mila D'Opiz
Hyaluronic Cleanser

ราคา 2,800 บาท

แบรนด์สกินแคร์สุด Premium จาก Switzerland บอกเลยว่าตอนแรกออนไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นอะไรใดๆเกี่ยวกับแบรนด์นี้ แต่เห็นพี่แพร VOKE up like this? ใช้ ก็สะดุดตาที่ความสีฟ้าอ่อน และความ Hya ของเค้า พี่แพรใจดีก็เลยให้มาลอง

สรุปตัวนี้เค้าเป็น Gel cleanser หรือเจลล้างหน้ากลิ่นอ่อนๆ เบาๆ เวลาล้างไปจะไม่ได้มีฟองโฟมใดๆนะคะ มันจะได้ฟีลลื่นๆ ซึ่งพอล้างเสร็จ ก็จะรู้สึกสบายผิว ผิวไม่แห้ง ไม่ตึง จับไปผิวก็จะรุ่มๆ รู้สึกได้ว่าเค้าให้ความชุ่มชื่นดีเลย ที่สำคัญขวดใหญ่มากกกกก ใช้ได้นานเกิน 6 เดือนแน่ๆ
Chanel
Le Gel Anti Pollution Cleansing Gel

ราคา 1,950 บาท

เจลล้างหน้าตัวใหม่ของ Chanel (BA เค้าบอกงั้นตอนที่ออนซื้อเมื่อหลายเดือนก่อน) สรรพคุณหลักของตัวนี้คือเจลล้างหน้าที่ช่วยเน้นปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ตอบโจทย์ชีวิตคนกรุง

ตอนลองที่ Counter เหมือนคนมึนยา
เพราะรู้สึกชอบสี (อีกแล้ววว) ชอบกลิ่น และชอบเนื้อสัมผัสมาก เพราะตัวนี้เวลาเนื้อเจลโดนน้ำ จะกลายเป็นโฟมละเอียดแบบละเอียดมากกกกๆ ที่รู้สึกว่าดีอะ แบบโฟมดูแพง โอ้ยยยยย 55555

แต่พอกลับมาบ้านใช้ไป 2-3 ครั้ง
ถึงรู้สึกว่ากลิ่นน้ำหอมแรงมากกกก แรงแบบคนที่จมูกไม่ได้กลิ่นอะไรแบบออนยังรู้สึกว่าแรง (ทุกวันนี้ฉีดน้ำหอม 5-6 ฟิตก่อนออกจากบ้าน ยังไม่ได้กลิ่นตัวเอง) แต่นี่ได้กลิ่นน้ำหอมแบบชัดมาก และเป็นกลิ่นโทนที่ไม่ค่อยชอบ ซึ่งตอนซื้อ ตอนลองคิดว่าชอบ (งงมั้ย) เลยไม่ค่อยได้ใช้น้องเค้าต่อ

ตอนนี้ก็เลยวางทิ้งไว้แบบงงๆ
ใครที่ผิวแพ้ง่าย ผิว Sensitive กับน้ำหอม บอกเลยว่าตัวนี้ผ่านไปก่อนค่ะ เพราะมันแรงมากกกจริงๆ
Dior HydraLIFE
Balancing Hydration 2 in 1 Sorbet Water

ราคา 2,150

Toner หรือ lotion บำรุงผิวหลังจากล้างหน้าเสร็จ ที่อัดแน่นด้วย Prebiotic เน้นช่วยคืนความชุ่มชื้นและปรับสมดุลให้กับผิว ซึ่งก่อนใช้จะต้องเขย่าให้เนื้อเค้าเข้ากันก่อน เพราะเวลาวางไว้ เค้าจะมีส่วนผสมกองๆรวมอยู่ด้านล่าง

จะบอกว่าตัวนี้ออนชอบกลิ่นเค้ามากกกกก
คือชอบกลิ่นของ Line นี้ทั้งหมดเลย เป็นอะไรที่สดชื่นมากกกก ชนะ Biotherm ในกลุ่ม Aquasource ที่ออนใช้มา 15 ปีไปแบบฉิวๆเลย

ออนจะแช่เย็นไว้ แล้วพอหยิบมาเทลงบนสำลี (ออนใช้สำลี Silcot) แล้วเช็ดหน้าตอนเช้ากับก่อนนอน เป็นอะไรที่ฟิน เย็น สบายผิวมากกก ฟีลแบบปลุกผิวให้ตื่น รู้สึกสดชื่น ตัวนี้คือลูกรักตัวใหม่ที่ซื้อต่อแน่นอนอีกหลายปียาวๆ
Biotherm
Skin Oxygen Oxygenating Lotion

ราคา 1,000 บาท

มีช่วงนี้ที่ชอบใช้ Line นี้ของ Biotherm มากก เพราะ Line นี้เค้าตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองกรุง ที่เจอมลภาวะ ฝุ่น ควัน และสิ่งสกปรกต่างๆ ซึ่งตอนที่ใช้ Line นี้ รู้สึกว่าใช้แล้วผิวสะอาด ผิวมันรู้สึกดีขึ้นจริงๆ

กลิ่นของเค้าจะเป็นแนว Biotherm แบบสดชื่น หอม สะอาด ซึ่งตัวนี้ก็เป็น Toner หรือ Lotion เช็ดผิวเหมือนกัน ใช้เช็ดหลังล้างหน้าเสร็จ ตัวนี้ส่วนตัวเวลาเช็ดแล้วจะรู้สึกสบาย ผิวสะอาด เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ออนใช้มาประมาณ 3-4 ขวด และยังชอบมีติดบ้าน ติดตู้เย็นไว้
Chanel
Hydra Beauty Lotion (Very Moist)

ราคา 2,250 บาท (ถ้าจำไม่ผิด)

Lotion น้ำตบในกลุ่ม Hydra Beauty ที่ออนเคย Review ว่าชอบม๊ากกกไป ตัวนี้เค้าเป็นน้ำตบที่ไม่ได้เหลวหรือข้นมาก เน้นช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว เวลาแช่เย็นแล้วตบๆ จะสบายผิวมากก

แต่ตอนหลังไม่ค่อยได้ใช้
จากที่ตอนแรกชอบมาก เพราะเหมือนพอใช้มาซักพัก (ผ่านไปหลายเดือน) อยู่ดีๆเหมือนแพ้ เหมือนผิวไม่โอเค งงมากกกก ทั้งที่ตอนแรกดีมากกกก เลยหยุดพัก ส่วนข้อเสียหลักๆของ Line นี้คือ กลิ่นน้ำหอมแรงมากก แรงแบบแร๊งงงง ดังนั้นใครแพ้น้ำหอม ผิวแพ้ง่ายต่างๆก็เลี่ยงไปก่อนค่ะ
Biotherm
Life Plankton Essence

ราคา 3,250 บาท

น้ำตบ Life Plankton ตัวดังของ Biotherm ที่ออนใช้ติดต่อกันมาหลายปี น่าจะเกิน 4-5 ขวดแล้ว ตัวนี้ออนชอบเนื้อเค้ามาก เพราะเค้าจะเป็นน้ำๆ เวลาจะใช้ก็เหยาะใส่มือ วอร์มเนื้อเบาๆ แล้วก็ตบๆเลย

ส่วนตัวรู้สึกว่าใช้ต่อเนื่องแล้วผิวดีขึ้นมาก ผิวมีความแข็งแรงขึ้น เหมือนผิวได้รับการฟื้นฟูที่ดีขึ้น เห็นหลายคนคอมเพลนเรื่องกลิ่นว่าฉุน เหม็นคาว แต่ออนไม่มีปัญหาตรงนั้นเลย เพราะออนเป็นคนจมูกไม่ดี แทบไม่ได้กลิ่นอะไร ดังนั้นส่วนนี้ไม่มีปัญหาเลยค่ะ 5555  สบายมาก ใช้แล้วผิวดี ผิวแข็งแรง ผิวดูอิ่มฟู ก็จะใช้ต่อไปยาวๆ
Dior HydraLIFE
Deep Hydration Sorbet Water Essence

ราคา 2,900 บาท

Essence ลูกรักตัวใหม่ที่ชอบม๊ากกกกกก คือตอนนี้ออนอินกับ Line นี้ของ Dior มาก เป็นอะไรที่แบบ "รู้งี้ลองนานแล้ววววว" ซึ่งหลังจากที่ใช้ Toner/Lotion เสร็จ ออนก็จะลง Essence ตัวนี้

เนื้อเค้าจะบางเบา แต่ไม่ได้เหลวนะ
เวลาทากับหน้าคือเย็น สบายผิวมากกก บวกกับความเป็น Sorbet เบาๆ มันจะสดชื่น สบายผิว ปลุกผิวสุดๆ ทาแล้วใช้เครื่องนวดหน้า หรือยืนตากแอร์ให้เย็นผิว คือแบบ Cooling และ calming มากกก รู้สึกเลยว่ามันช่วยปลอบประโลมผิวสุดๆ

ออนรู้สึกว่าใช้ Line นี้ต่อเนื่องแล้วผิวมันดีขึ้นมากกก
มันไม่ได้แค่ให้ความชุ่มชื้น แต่มันช่วยปลอบประโลมผิว บวกกับความเย็นบนผิว ทำให้สิวผดจากการใส่ Face Mask ลดลง

จบให้เลยว่าจะซื้อต่อเรื่อยๆแน่นอน
Chanel
Hydra Beauty Micro Serum

ราคา 5.900 บาท (ถ้าจำผิด ต้องขอโทษด้วยนะคะ)

หนึ่งใน Serum ที่เคย Review ไปว่ารักมากกกกกก
ตอนนั้นใช้ทุกวันก่อนนอน หลังจากลงพวกน้ำตบ และก่อนลงครีมบำรุงต่างๆ ซึ่งตอนนั้นรู้สึกเลยว่าผิวชุ่มชื้นมากกก จากที่ผิวแห้งๆ หยาบๆ มันก็ดีขึ้นมาจริงๆ

แต่ช่วงหลังอย่างที่บอกว่า..เหมือนออนจะแพ้ Line นี้ของ Chanel เพราะอยู่ดีๆสิวผดเริ่มขึ้น ทำให้ออนหยุดใช้ และต้องพักน้องไว้แค่นี้ก่อน เพราะพยายามฝืนใช้ต่อแล้วผิวมันแย่ลง

ข้อเสีย Line นี้ พูดอีกครั้งก็คือ กลิ่นน้ำหอมแรงมากกกกก แบบฉุนเลย ขนาดออนจมูกไม่ดี ไม่ค่อยได้กลิ่นอะไร ยังได้กลิ่น
Biotherm
Skin Oxygen Strengthening Concentrate

ราคา 1,800 บาท

อีกหนึ่ง Serum จาก Line โปรดของออน
เป็น Serum ที่ใช้แล้วสบายผิวมากกก เนื้อสัมผัสไม่เหนียว ไม่หนืด ทาแล้วซึมเร็ว ไม่ทิ้งความเหนียวไว้

เวลาจับผิวไป ผิวจะนุ่มๆ นิ่มๆ ที่สำคัญออนชอบกลิ่นของ Line นี้มาก เป็นความสดชื่นที่สะอาด และรู้สึกว่าใช้ต่อเนื่องช่วงผิวมีปัญหาสิวผดแล้วผิวมันแข็งแรงขึ้นจริงๆ

อีกหนึ่ง Serum ที่ขอมีติดบ้านไว้
Biotherm
Aqua Pure Super Concentrate

ราคา 1,300 บาท

ครีมบำรุงผิวหน้าที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น แต่ไม่ทำให้ผิวหน้ามัน และเน้นส่วนผสมจาก Life Plankton Water, Glycerin และ Salicylic Acid เป็นหลัก

ตัวนี้เวลาใช้ ออนจะใช้ช่วงเช้า เพราะด้วยความที่ออนไม่ใช่คนผิวมัน และออนอยากเน้นบำรุงให้ความชุ่มชื้นเยอะๆ แบบอิ่มน้ำ ผิวฟูในตอนกลางคืน ดังนั้นตัวนี้เวลาใช้ จะเน้นใช้ช่วงเช้า

เนื้อสัมผัสจะไม่ใช่ครีม มีความเหลวแนวๆ Serum ส่วนกลิ่นก็จะเป็น Biotherm เลย กลิ่นเอกลักษณ์มากกก แต่ส่วนตัวยังไม่ได้ใช้บ่อยเท่าไหร่ เลยอาจจะยังไม่สามารถบอกผลลัพธุ์ที่ชัดเจนได้
Biotherm
Aquasource Aura Concentrate

ราคา 1,800 บาท

Serum ที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากเน้นเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวและยังช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย ตอนแรกที่ลองใช้แอบตกใจ เพราะเนื้อสัมผัสเค้าแปลกๆ เหมือนเป็นน้ำกับน้ำมัน เลยไปลองหาข้อมูลดู สรุปคือเค้าเป็นเนื้อสัมผัสแบบ Bi-phase หรือเซรั่มใสที่มี 2 เนื้อในขวดเดียว เป็นการเลียนแบบน้ำใต้ เพราะมีอัตราส่วนน้ำถึง 85% และน้ำมันที่จำเป็นต่อผิว 15% นั่นเอง

ดังนั้นเนื้อเค้าจะเหลวๆ ไม่ได้เป็นเนื้อ Serum ที่เราคุ้นชินทั่วไป ตัวนี้ออนลองใช้ไปบ้าง แต่ว่ายังไม่ได้ใช้บ่อย ส่วนตัวลองใช้แล้วผิวไม่แพ้ ผิวชุ่มชื่นดี กลิ่นก็จะเป็นแนว Biotherm ที่มีเอกลักษณ์ แต่ด้วยความที่ยังไม่ได้ใช้บ่อย หรือใช้ต่อเนื่อง ก็เลยจะยังไม่สามารถระบุผลลัพธุ์ที่ชัดเจนให้ได้
Biotherm
Aquasource Gel

ราคา 1,800 บาท

หนึ่งในครีมบำรุงผิวเนื้อเจลที่ออนใช้มา 15 ปี ตั้งแต่แพ๊คเกจจิ้งเก่าแก่ไม่ใช่แบบนี้ บอกเลยว่าเป็นครีมเนื้อเจลที่เปิดโลกของออนตั้งแต่เด็กมากๆ และถึงทุกวันนี้ก็ยังรัก และต้องมีติดบ้านตลอด

เนื้อเจลเค้าจะไม่ได้เป็นเจลใสซะทีเดียว จะกึ่งขุ่นๆ แต่เวลาทาไปกับผิวให้ความชุ่มชื่นดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งความมันบนผิวไว้ สมัยเด็กๆ ออนใช้ตัวนี้ทั้งเช้าและก่อนนอนเลย เป็นครีมบำรุงเนื้อเจลที่ให้ความชุ่มชื้น แต่ปรับความสมดุลของผิวไม่ให้แห้งไป หรือมันไปได้ดีมาก

ดังนั้นใครกำลังมองหาครีมบำรุงผิวเนื้อเจล Counter Brand ที่ใช้ดี อ่อนโยน และราคายังไม่แรงมาก อยากให้ลองเริ่มจากตัวนี้จริงๆค่ะ ออนรักมากกกกมา 15 ปี
Dior HydraLIFE
Matte Dew Hydration Sorbet Droplet Emulsion

ราคา 2,900 บาท

ด้วยความที่เวลาออนชอบอะไร ออนก็จะซื้อ ซื้อ ซื้อให้ครบ วันนั้นเลยไปด้อมๆมองๆที่ Counter ของ Dior เพื่อจะค่อยเก็บให้ครบทั้ง HydraLife Line

ออนเลยยื่นโจทย์ให้ทาง BA ไปว่า "อยากหาครีมบำรุงผิวเนื้อเจลสำหรับทาตอนเช้า" และทาง BA เลยแนะนำตัวนี้มาว่าตัวนี้เป็น Emulsion ที่เน้นให้ความชุ่มชื้น แต่ควบคุมความมัน ไม่ทำให้ผิวมันวาว ซึ่งสรรพคุณค่อนข้างตอบโจทย์ออน

บวกกับตอนลองเนื้อสัมผัสคือเนื้อเจลๆ เย็นๆ บวกกลิ่นของ Line นี้ที่ออนชอบมากอยู่แล้ว เลยตัดสินใจซื้อมา ซึ่งตัวนี้ออนใช้มาจะหมดหลอดแล้ว และรักมากกกกกกกก เป็นลูกรักตัวใหม่ขึ้นแท่นเลย เพราะด้วยความที่เนื้อเค้าเป็นเจลๆ บวกกับความเป็น Sorbet เวลาทาแล้วจะเย็น สบายผิว ผิวตื่น ผิวสดชื่นมากกก ทาตอนเช้าก่อนแต่งหน้าคือให้ความชุ่มชื่นกำลังดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเร็ว แถมมีกลิ่นหอมสดชื่นแบบที่ออนชอบ บอกเลยว่าซื้อต่อรัวๆแน่นอน

ข้อเสียอย่างเดียวที่หงุดหงิดมากคือ..แพ๊คเกจจิ้งของเค้า มันเป็นพลาสติกแบนๆ ทรงแปลกๆ ส่วนตัวรู้สึกว่าไม่คุ้มกับราคาเลย คือจะทำเป็นพลาสติกอะไรไม่ติด แต่อยากให้ทรงมันดูสมราคากว่านี้ ฮืออออ
Dior HydraLIFE
Fresh Hydration Sorbet Creme 

ราคา 2,900 บาท

อีกหนึ่งครีมลูกรักที่ออนใช้ตอนกลางคืนและเสพย์ติดน้องมากกกก ใน Line นี้ เค้าจะมีครีม 2 เนื้อ คือรุ่นออนที่เป็น Creme-To-Gel กับแบบ Intense Creme ที่มีความเข้มข้น

ซึ่งออนเลือกแบบธรรมดา ไม่ใช่แบบ Intense ค่ะ เนื้อครีมจะมีความเจลๆ ครีมๆ แต่ไม่หนา ไม่หนัก แต่ถ้าเทียบกับ Dior HydraLIFE ตัวอื่นที่ออนพูดมา ตัวนี้ก็จะหนักสุด 

ชอบมากตรงที่เวลาทาไปคือเย็นสบายผิวมากกกก และซักพักเนื้อครีมจะซึมเข้าผิวเลยแบบไม่ต้องมานั่งรอ มานั่งอะไร เป็นฟีลลิ่งที่แบบดีมากกก รัก
Chanel
Hydra Beauty Gel Creme

ราคา 3,100 บาท

อีกหนึ่งสิ่งในกลุ่ม Hydra Beauty ที่เคยรักมาก
ตัวนี้เป็นเนื้อเจลครีม คือจะมีความข้นกว่าเจล แต่จะไม่หนักเท่าครีม เนื้อสัมผัสสีฟ้า

ตอนแรกเคยชอบมากกกกก
แต่อย่างที่บอกว่าตอนหลังเหมือนแพ้ เลยต้องพัก และตัวนี้น้ำหอมเค้าแรงมากกกก
Biotherm
Aquasource Total Eye Revitalize

ราคา 1,300 บาท

อีกหนี่ง Eye cream ลูกรัก ที่ใช้มาหลายปีมากกก
ตัวนี้เป็นเนื้อเจลสีฟ้าใส กลิ่นสดชื่น แนว Clean แบบ Biotherm

ส่วนตัวชอบที่เวลาใช้แล้วรู้สึกว่ารอบดวงตาชุ่มชื้นขึ้น และตัวผลิตภัณฑ์มีความอ่อนโยน เพราะทาแล้วไม่เคยรู้สึกแสบ ร้อนใดๆ (เคยเจอบางแบรนด์ที่ทาเหมือนกัน แต่แอบแสบ แอบน้ำตาไหล)

ตัวนี้เลยเป็น Eye Cream ที่ต้องมีติดบ้าน กันตายไว้ตลอด ใครกำลังเริ่มมองหา Eye Cream ที่เน้นให้ความชุ่มชื่น และอ่อนโยนดีๆ ลองดูได้นะคะ
Biotherm
Blue Therapy Eye Opening Serum

ราคา 2,100 บาท

อีกหนึ่ง Eye Serum ที่พี่งลองช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาแล้วรู้สึกชอบ ตัวนี้เค้าจะเข้มข้นกว่า Eye Cream และยังมีหัวแปรงลูกตุ้ม ที่สามารถใช้ทาช่วงขนตาและขนคิ้วได้ด้วย ดังนั้นไอเท็มนี้เลยเหมือน 3-in-1 สำหรับออน

ออนรู้สึกว่าตัวนี้ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ริ้วรอยได้ดี
แถมใช้ต่อเนื่อง รู้สึกว่าขนตาและขนคิ้วดูแข็งแรงขึ้น ร่วงน้อยลง และขึ้นเยอะขึ้นด้วย
Dior HydraLIFE
Cooking Hydration Sorbet Eye Gel

ราคา 2,300 บาท

ตอนนี้เป็นลูกรักเลย
ใช้ทุกคืน ด้วยความที่เค้าเป็นเนื้อเจลแบบ Sorbet เวลาทาไปจะเย็น สบาย แบบชุ่มฉ่ำมากกกกกกก

ตัวนี้ออนใช้ติดต่อกันแล้วรู้สึกเลยว่ารอบดวงตาชุ่มชื่นขึ้น ริ้วรอยลดลงเป็นผลพวงจากผิวชุ่มชื้น แถมตัวนี้กลิ่นหอมอ่อนๆ แบบที่ออนชอบ ทำให้ทาแล้วสบายผิว ที่สำคัญคือไม่แพ้ ไม่แสบ ไม่ระคายเคือง ซื้อต่อแน่นอนค่ะ
หวังว่าจะถูกใจสายงานผิว สายผิวฉ่ำน้ำกันนะคะ

พบกันใหม่ค่า
สวัสดีค่ะ


Discussion (9)

จัดเต็มมากๆ
เด็ดทุกตัวเลยค่า
เห็นสีนี้แล้วต้องซื้อเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ เดี๋ยวเราไปตามบ้าง
ยินดีค่า