ประสบการณ์ไฟไหม้ที่ต้องอ่าน!!
Jaonai31ได้รับมาจาก FWD MAIL ค่ะ อ่านแล้วรู้สึกว่าต้องมาแบ่งปัน
*ถ้าอ่านแล้วก็ขออภัยนะคะ
อ่านแล้วใจไม่ดี ของแบบนี้เกิดขึ้นกันได้กับทุกคนจริงๆ
ต่อไปคงต้องรับดทรศัพท์บ้างแล้วค่ะ แหะๆ
*ถ้าอ่านแล้วก็ขออภัยนะคะ
เรื่องราวที่ผมจะเล่าให้ฟังนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทผมคนหนึ่งเมื่อวานนี้เราโทรศัพท์คุยกันเรื่องไฟไหม้ที่ ซานติก้า ผับขออนุญาตเล่าเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับเพื่อนที่เข้ามาอ่านครับปีใหม่ที่ผ่านมาผมไปโคราชมาจึงไม่ได้อยู่เค้าน์ดาวน์กับเพื่อนสนิทคนนี้และเมื่อวานผมก็ต้องกลับมาทำงานตามปกติ เลยมีเวลาแค่โทรคุยกันบทสนทนาที่ทั่วไปผมขอตัดออกไปนะครับ แต่ส่วนมากเราจะคุยกันเรื่องซานติก้า ที่ไฟไหม้เอก : ทำไมแกดูติดใจกับเรื่องนี้จังอ่ะผม : ไม่รู้สิ บอกไม่ถูก ฉันว่ามันอยู่ใกล้ตัวเรามากเลยนะ แล้วถ้าวันหนึ่งมันเกิดกับเราหล่ะเอก : ถ้าเป็นฉัน ฉันคนจมกองเพลิงตายอยู่ในนั้นหน่ะแหล่ะ ไม่รอดผม : แต่ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะท่องไว้จนนาทีสุดท้ายจนกว่าจะหมดลมหายใจเลยว่า ต้องรอดเอก : แล้วถ้ามันไม่มีทางจะรอดล่ะ....?จากนั้นเราก็พูดคุยกันถึงข่าวต่างๆ รวมถึงวิธีเอาตัวรอดขณะเกิดเพลิงไหม้บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมผมถึงพูดเรื่องนี้ไม่จบไม่สิ้น บอกทุกอย่างที่ตัวเองรู้มาให้เพื่อนฟังไม่ว่าจะเป็นอย่าแตกตื่น หาผ้าชุบน้ำปิดจมูก หมอบต่ำ อย่าวิ่งกรูตามคนไปให้นึกให้ออกว่าทางไหนพอจะหนีออกมาด้านนอกได้ คุยกันเกือบชั่วโมง หมดช่วงพักผมก็ไปทำงานของผมต่อเนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อระหว่างปี งานที่บริษัทจึงเยอะมาก เมื่อวานผมกลับบ้านเกือบห้าทุ่มช่วงสามทุ่ม เอกโทรหาผม แต่ผมมั่วแต่ง่วนเดินไปเดินมาอยู่กับงานเลยไม่ได้ยินพอมาเห็นมิสคอล ก็ไม่คิดจะโทรกลับเพราะคิดว่าเลิกงานค่อยโทรกลับไปแล้วกันประมาณเกือบๆ สี่ทุ่มมาเห็นมิสคอลเอกอีกครั้ง ผมก็ยังไม่โทรกลับเพราะเร่งจะทำงานให้เสร็จจะได้รีบๆ กลับบ้านพักผ่อน จนสี่ทุ่มครึ่งกำลังจะออกไปขับรถกลับบ้านแม่ก็โทรเข้ามาแม่ : นี่ๆ ตะกี๊เอกโทรมาหา ถามว่าเราอยู่ใกล้ๆ แม่หรือเปล่า แม่บอกว่าเรายังไม่กลับจากที่ทำงานผม : อ้าวหรอ มันมีอะไรหล่ะ เห็นโทรมาเหมือนกัน แต่พอดียุ่งๆ อยู่แม่ : ไม่รู้เหมือนกัน แม่ไม่ได้ถาม แต่เสียงเจี๊ยวไปหมด เที่ยวอยู่ที่ไหนสักที่ละมั้งเราเองก็แอบนึกในใจว่าสงสัยชวนไปหานั่งกินไรอีกละมั้ง พอสตาร์ทรถเปิดวิทยุฟังได้ยินข่าว เสือป่า พลาซ่าไฟไหม้ ก็นึกในใจว่าเอาอีกแล้ว ปีนี้มันปีอะไรนักหนาเนี่ยจน อาร์ท เพื่อนสนิทอีกคนโทรเข้ามาอาร์ท : โทรหาเอกยังผม : ยังว่ะ มีไรอาร์ท : แก มันติดอยู่ในตึกที่ไฟไหม้อ่ะที่ข่าวออกตอนนี้ จำซาวน่าที่่มันชอบไปได้ป่าวผม : หา อะไรอ่ะ ซาวน่ามันอยู่ในตึกนั้นหรออาร์ท : เออ ตะกี๊มันโทรมาหาฉันบอกว่าติดอยู่ในนั้นออกไม่ได้ผมเริ่มร้อนใจ รีบกดโทรศัพท์หาเอกรอบแรกไม่รับสายรอบที่สองไม่รับสายจนกดรอบที่สามนั่นแหล่ะ ถึงได้รับผม : เฮ้ย เป็นไงมั่งเอก : ทำไม meung ไม่รับสาย ku ( เสียงสั่นๆ )ผม : โทษว่ะ งานยุ่งมากเลย เป็นยังไงมั่งเอก : (ร้องไห้) ku นึกว่า ku จะไม่รอดออกมาหาพวก meung แล้ว ku นึกถึง meung มากเลยนะทำไมไม่รับสาย ku kuนึกว่าจะตายอยู่ในนั้นแล้วนี่รอกระเช้าอยู่กะลังจะปีนลง เดี๋ยวลงไปได้จะโทรหาอีกทีนะ รับสาย ku ด้วย !!!หลังจากเอกลงมาได้ และพอตั้งสติได้ก็โทรกลับมาหาผม เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผมฟังว่าตอนมันกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าออกจากซาวน่า ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนว่าไฟไหม้ๆซึ่งอาคารเสือป่าพลาซ่ามีทั้งหมด 10 ชั้น ชั้น 1,2,3 เป็นส่วนของขายมือถือ ชั้น 4,5,6 เป็น เกสเฮาท์ชั้น 7,8,9 เป็นซาวน่าและนวดแผนไทย ที่จริงไฟเริ่มไหม้ตั้งแต่ทุ่มกว่าๆแต่เอกบอกว่าชั้น 7 ส่วนของล็อคเกอร์เปลี่ยนเสื้อผ้าเพิ่งโวยวายกันตอนสองทุ่มกว่าๆมันเลยรีบเก็บทรัพย์สิน โทรศัพท์ วิ่งลงมาด้านล่าง ตอนนั้นมันบอกว่าควันเริ่มหนามากและเป็นควันของพลาสติกไหม้(กรอบมือถือ) เริ่มสำลักควันพอลงมาถึงชั้น 4 ก็วิ่งลงมาต่อไม่ไหวแล้ว ก็เลยวิ่งย้อนกลับขึ้นมามันรีบกดโทรศัพท์หาผม เพราะคิดว่าผมจะให้คำแนะนำอะไรมันได้บ้าง(เขียนมาถึงตรงนี้รู้สึกผิดจัง)พอผมไม่รับสายมันก็นึกถึงคำที่ผมบอกว่าต้องรอดสิ ถ้าคิดจะรอดมันเลยวิ่งกลับขึ้นมาที่ชั้น 7คว้าผ้าขนหนูวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วจุ่มน้ำอดจมูกแล้วยืนนิ่งๆ คิดต่อว่าจะเอายังไงดีระหว่างนั้นมันบอกว่าคนวิ่งกันอลหม่านมาก ชนกันล้มก็มีมันตัดสินใจวิ่งขึ้นชั้น 8-9-10 แล้วปีนขึ้นมาบนดาดฟ้าช่วงที่มันมาถึงบนดาดฟ้ามีคนอยู่ด้านบนแล้วสิบกว่าคนทุกคนดีมาก ช่วยกันดึงกันขึ้นไป หลายคนร้องไห้มีผู้หญิงคนหนึ่งนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว มันเลยถอดเสื้อให้เขาใส่หันไปอีกด้านมีผุ้ชายคนหนึ่งใส่ กกน. ตัวเดียวถอดผ้าขนหนูมาอุดจมูกมันก็เลยถอดกางเกงยีนส์ให้เขา ตัวมันเองใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวช่วงที่นั่งรอการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อยู่บนดาดฟ้า มันก็พยายามกดโทรศัพท์หาผมอีกรอบหนึ่ง(บาปอีกแล้วผม) มันบอกว่าในใจก็คิดแค่ว่าจะรอดไหม จะรอดไหมพยายามอยู่นิ่งๆ รอการช่วยเหลือดีกว่าลงไปวิ่งเป็นหนูติดจั่นสำลักควันอยู่ด้านล่างดาดฟ้าที่มันปีนขึ้นไปด้านบนอีกทีหนึ่งเป็นเพลิงๆ เริ่มสั่นเหมือนจะรับน้ำหนักเอาไว้ไม่อยู่ ติด่อยู่บนนั้นเป็นชั่วโมง คนข้างบนเริ่มสำลักควันมันเลยตัดสินใจวิ่ง่ลงมาเพื่อเอาผ้าชุบน้ำอีกครั้ง ระหว่างนั้นน้ำประปาเริ่มไหม่ไหลแล้วครับมันก็เลยวิ่งไปที่ตู้ปลาแล้วเอาผ้าจุ่มลงไปในตู้ปลา แล้ววิ่งกลับขึ้นมาบนดาดฟ้าอีกครั้งโชคดีที่เอกอยู่กับกลุ่มคนที่ส่วนมากมีสติ หลายคนพยายามโทรติดต่อเจ้าหน้าที่คนติดอยู่บนดาดฟ้านับสิบแต่กระเช้าที่ขึ้นมาช่วยสามารถลงได้เพียงทีละคนสองคนทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงผูกเชื อกให้ผู้ประสบเหตุไต่ตามเชือก ปีนลัดเลาะไปยังตึกใกล้เคียงเอกบอกว่ามืดและควันเยอะมากจนมองไม่เห็นอะไร อาศัยจับเชือกแล้วเดินไต่ไปอย่างเดียวระหว่างที่มันไต่ลงมา หม้อแปลงไฟฟ้าแถวนั้นก็ดันระเบิดมันบอกว่าช่วงที่ปีนขึ้นปีนลง มันล้มตกลงมาหลายครั้งและเจ้าหน้าที่ให้มันลงมาได้เป็นคนสุดท้ายเพราะหม้อไฟมาระเบิดตอนที่มันกำลังลงพอดีคนต่อไปเลยไม่ได้ลงเพราะเจ้าหน้าที่เกรงว่าจ ะอันตรายพอรอดลงมาได้มันร้องไห้โทรคุยกับผม กว่าจะตั้งสติได้ก็หลายนาทีอยู่ผู้คนที่ไม่รู้จักกันกอดกันร้องไห้ วันนี้มันเลยต้องลางาน อาเจียนออกมาเป็นสีเทาดำคงเป็นเขม่าควันที่สูดเข้าไปตอนกำลังหาทางหนีผมดีใจที่เพื่อนผมรอดมาได้อยากฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์กับเพื ่อนในบอร์ดว่าสิ่งที่เราไม่คาดคิดไม่ใช่ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับเราหรือคนที่เรารักถ้าเอกไม่รอดผมคงเสียใจไปทั้งชีวิต แม้แต่นาทีเป็นนาทีตาย เพื่อนยังนึกถึงเราเพื่อนอยากคุยกับเราและหวังเราเป็นที่พึ่งคนหนึ่งวันนี้ผมนั่งนึกเล่นๆ ถ้ามันไม่รอด แค่นึกผมก็น้ำตาไหลแล้วผมคงต้องเสียเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตไปขอให้เรื่องทีเป็นตัวอย่างกับหลายๆ คน ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นกับผมโดยตรงแต่ขอให้เพื่อนๆ จงใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาทไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นขอให้เราตั้งสติให้ได้และมีสติไม่ว่าจะเป็นภัยด้านใด ไฟไหม้ รถชน ตกน้ำ หรืออะไรก็ตามขอให้มีสติอยู่กับตัวเสมอสำหรับผม ต่อไปนี้ผมจะเอาโทรศัพท์ติดตัวไว้ตลอดเวลาจะรับทุกสาย ถ้ารับไม่ได้จะรีบติดต่อกลับให้เร็วที่สุดโดยจะไม่คิดแค่ว่า "คงไม่มีอะไร" อีกแล้วเพราะเราไม่อาจรู้เลยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับคนที่เรารักและรักเราสุดท้ายนี้ขอให้ปีใหม่นี้คุณพระคุณเจ้า คุ้มครองเพื่อนในบอร์ดทุกคนให้ปลอดภัยและมีแต่ความสุขนะครับด้วยรัก... |
อ่านแล้วใจไม่ดี ของแบบนี้เกิดขึ้นกันได้กับทุกคนจริงๆ
ต่อไปคงต้องรับดทรศัพท์บ้างแล้วค่ะ แหะๆ
Discussion (31)
เศร้าอ่ะ แต่ก้อดีใจที่คุณ เอก รอดมาได้ค่ะ
รู้สึกดีมากเลย ดีใจด้วยที่เพื่อนเขารอดชีวิตมาได้นะคะ
ใครที่ชอบเป็นมือวาง คือมีมือถือแต่วางไว้ (ไกลตัว) ส่วนมากพวกป้าๆนี่แหละ
ปกติป้าจะเปิดมือถือไว้ตลอด 24 เผื่อฉุกเฉิน
แต่ถ้าเป็นโทรศัพท์บ้านนี่ไม่บอกเบอร์ใครเลย มีแค่แม่เท่านั้น
บอกแม่ไว้ว่า ถ้ามีอะไรจริง ๆ แล้วค่อยโทรเข้าบ้านนะ
วันนึงมีเสียงโทรเข้าบ้าน ตกใจ ใจสั่นมากตอนรับโทรศัพท์ สรุปว่าโทรผิด
เออ โล่งอก