POLA Wrinkle Shot Serum N ชื่อนี้ดีจริง หรือ แค่การตลาด?

สวัสดีครับ วันนี้เวฟกลับมารีวิวผลลัพธ์จากการใช้ผลิตภัณฑ์ Pola ซึ่งเชื่อว่าหลายๆคนก็ได้ลองกันไปแล้ว หรือยังมีข้อสงสัยคาใจว่าควรหรือไม่ควร รีวิวนี้เวฟจะมานำเสนอในอีกมุมมองผ่านการรีวิวของเวฟให้นะครับ

ก่อนอื่น เวฟต้องขอขอบพระคุณทางแบรนด์ Pola และ ทีมงานจีบันที่ได้ส่งผลิตภัณฑ์มาให้เวฟได้ทดลองใช้ครับ ได้แก่ Pola Wrinkle Shot Serum N และ Pola B.A Lotion N

ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ประมาณต้นปี เวฟเคยทำรีวิวเกี่ยวกับตัว Wrinkle Shot สูตรเดิมหลอดสีน้ำเงิน ที่ใช้ยังไงก็ไม่ประทับใจ เพราะเนื้อผลิตภัณฑ์ใช้ยาก มีความหนืด อีกทั้งใช้มาจนหมดหลอดก็ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆให้สมคำโฆษณา ตอนนั้นแอบเสียใจมาก เพราะราคาน้องสูง เมื่อเทียบกับปริมาณครับ
ซึ่งการกลับมาในสูตรปรับปรุงครั้งนี้ รวมทั้งการเน้นย้ำถึงวิธีการใช้ที่ถูกต้อง ก็สร้างความรู้สึกที่ดีขึ้นได้ครับ เวฟได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และใช้ตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ ครั้งนี้จึงได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงขึ้นบ้างครับ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าใช้แล้ว จะเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 7 วันแต่อย่างใด หากยังต้องใช้เวลา และความสม่ำเสมอในการใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยครับ

ตัวเอกที่ทาง Pola ชูโรงก็คือ Pola Wrinkle Shot Serum N ที่มี NEI-L1 (นีล-วัน) เป็นส่วนผสมหลัก โดยสูตรใหม่มีความเข้มข้นสูงขึ้นถึง 48% เมื่อเทียบกับสูตรเดิม โดยสารตัวนี้จะทำหน้าที่ลดเลือนริ้วรอย ผ่านการยับยั้งการทำงานของ “เอมไซม์นิวโทรฟิลล์ อิลาสเตล” ที่เป็นตัวการของการเกิดริ้วรอยแห่งวัย อีกทั้งยังมีส่วนผสมใหม่เพิ่มเข้ามาจากสูตรเดิม ที่เรียกว่า IC UNIT1 ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมตัวเองของผิวในบริเวณที่มีริ้วรอย และยังมีการเพิ่ม AID LIQUID ที่จะทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวต่างๆครับ นอกจากส่วนผสมดังกล่าว ทางแบรนด์ก็ยังให้ความมั่นใจว่าประสิทธิภาพในผลลัพธ์จะดีเป็น 2 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับสูตรเดิมอีกด้วย

ใช้ Pola Wrinkle Shot Serum N แล้วดีจริงไหม?
จากการที่เวฟใช้เซรั่มตัวนี้มามากกว่า 2 สัปดาห์ เวฟยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของริ้วรอยบนใบหน้าบริเวณร่องแก้ม ใต้ตา และหน้าผากอย่างชัดเจน หากแต่สังเกตได้ว่าสภาพพื้นผิวบริเวณที่มีริ้วรอยนั้น แลดูกระชับมากขั้น รู้สึกว่าเวลายิ้ม หน้าตัวเองดูไม่เหี่ยว มีความอิ่ม ดูสดใส ไม่ได้ดูโทรมจากริ้วรอยแห่งวัยที่เด่นชัดเหมือนก่อน ส่วนตัวคิดว่าหากใช้ต่อเนื่องไปอีกสักระยะ ผลลัพธ์น่าจะดีกว่าการทดลองใช้ในช่วงระยะสั้นๆนี้ครับ สำหรับเวฟ เซรั่มตัวนี้ใช้แล้วสิวไม่ขึ้นและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองระหว่างการใช้ครับ

วิธีการใช้ :
ให้ทาเซรั่มตัวนี้หลังจากการบำรุงผิวด้วยกลุ่มโทนเนอร์และน้ำตบ ประสิทธิภาพของเซรั่มจะเกิดผลในผิวที่มีความชุ่มชื้นครับ (เวฟจะใช้ตัว Pola B.A Lotion N แล้วจึงตามด้วยเซรั่ม หากมีโลชั่นน้ำตบตัวอื่นๆ ก็ทดแทนกันได้ครับ) เวลาทาให้ใช้ปลายหลอดกดลงบนผิวและลงเนื้อเซรั่มไปตามแนวริ้วรอย โดยเฉพาะช่วงร่องแก้ม หน้าผาก และใต้ตาครับ เวลาจะเกลี่ยเนื้อเซรั่ม ให้เกลี่ยแนวตั้งฉาก ยกผิวช่วงบริเวณที่เป็นริ้วรอยขึ้นครับ ในส่วนของการใช้ สามารถดูคู่มือประกอบจากตัวผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้นะครับ

สำหรับเซรั่มสูตรใหม่นี้ มีส่วนผสมที่เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะสารสำคัญอย่าง NEI-L1 มากถึง 48% เมื่อเปรียบเทียบกับสูตรเดิม นอกจากนี้ เนื้อผลิตภัณฑ์ก็ดีขึ้นมาก ไม่หนืดเป็นขี้ผึ้งเหมือนสูตรเดิม เมื่อทาลงบนผิว สามารถซึมลงสู่ผิวได้ดี ฉะนั้นการบำรุงเพิ่มด้วยสกินแคร์อื่นๆในขั้นตอนการบำรุงถัดไป จึงเป็นไปได้ง่าย ไม่ต้องกลัวว่าเนื้อเซรั่มจะหลุดลอกครับ

Pola Wrinkle Shot Serum N ขนาก 20 g ราคา 5,000 บาท ราคานี้ ถือว่าโหดมาก แต่ก็ต้องยอมในการคิดค้นที่ยาวนาน รวมเวลาพัฒนาสูตรกว่า 19 ปีครับ จนได้รับการยอมรับจากกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่น ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผวมในการลดเลือนริ้วรอบได้จริงครับ ส่วนตัวประทับใจกับสูตรใหม่นี้ครับ

ข้อควรระวัง :
ห้ามทาเซรั่มลงบริเวณแผล ทั้งแผลเปิด แผลสิว เพราะสาร NEI-L1 มีผลต่อการรักษาสภาพแผลผ่านกลไกการฟื้นฟูผิวครับ หากทาทับ จะทำให้แผลหายช้าได้
มาต่อกันที่ตัวน้ำตบโลชั่น Pola B.A Lotion N เวฟชอบน้ำตบตัวนี้มากๆครับ สำหรับโลชั่นน้ำตบเนื้อบางเบาขวดนี้ นับเป็นการพัฒนามาสู่รุ่นที่ 6 แล้วครับ โดยยังคงเน้นการให้ความชุ่มชื้น และมอบความกระชับสู่ผิว โดยมีส่วนผสมเฉพาะที่ทาง Pola ได้คิดค้น เพื่อใช้ในการต่อต้านกระบวนการไกลเคชั่น ที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ และจะไปช่วยกระตุ้นการทำงานของคลอลาเจนและอิลาสตินที่ส่งผลให้ผิวแข็งแรงและกระชับขึ้นครับ สำหรับรุ่นที่ 6 นี้ ทาง Pola ได้ให้ความสนใจไปในเรื่องของระดับ DNA ผิวหนัง จนมาพบ “LINC00942” กุญแจสำคัญที่ปลุกความงามแห่งชีวิต (ข้อมูลตรงนี้สามารถศึกษาเพิ่มเติมจากหน้าเวปไซด์โพลาได้ครับ) การค้นพบนี้เองที่นำมาสู่โลชั่นน้ำตบในสูตรปัจุบันครับ

โลชั่นน้ำตบ Pola B.A Lotion N ดีจริงหรือแค่การตลาด?
ในแง่ของความชุ่มชื้นแก่ผิว ดีจริงครับ
ในแง่ของการยกกระชับผิวหน้า เวฟยังรู้สึกเฉยๆ
การตลาดใช่หรือไม่ เวฟขอตอบว่า ใช่ แต่ผู้บริโภคสามารถพึงพอใจกับผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ได้ครับ สาเหตุที่เวฟพูดว่าเป็นการตลาด เพราะทาง Pola พยายามนำเสนอโลชั่นขวดนี้คู่กับเซรั่ม Pola Wrinkle Shot N มาโดยตลอด ทำให้ดูเหมือนว่า จำเป็นต้องใช้ร่วมกันเสมอ ทั้งที่จริง ไม่จำเป็นครับ หากมีน้ำตบ โลชั่นอื่นๆ สามารถทดแทนกันได้ ซึ่งการใช้โลชั่นก่อนลงเซรั่ม ก็เป็นหลักการใช้ที่ทางแบรนด์แนะนำมาครับ

วิธีการใช้ :
กดหัวปั๊มโลชั่นน้ำตบลงที่ฝ่ามือประมาณ 2 ปั๊ม จากนั้นจึงวอร์มเล็กน้อยที่ฝ่ามือ แล้วประคบกดลงบนผิวหน้าเบาๆครับ สเตป...แก้ม คาง หน้าผาก (คิดว่าเพื่อนๆทราบกันดีอยู่แล้วครับ วิธีการตบน้ำตบขั้นพื้นฐาน)

ผลลัพธ์จากการใช้ :
เวฟชอบโลชั่นน้ำตบตัวนี้มาก ใช้แล้วผิวชุ่มชื้น เนื้อสัมผัสที่บางเบายังทำให้สบายผิวทุกครั้งที่ใช้ครับ เหมาะกับทุกสภาพผิว และใช้ได้ดีทั้งกลางวันและกลางคืน โดยไม่เพิ่มความมัน จึงไร้ความกังวลเรื่องการอุดตันของผิวได้ครับ โลชั่นตัวนี้ได้รับการเคลมมาว่าช่วยเรื่องความกระชับของผิวได้ดี แต่โดยส่วนตัว เวฟยังรู้สึกเฉยๆกับผลลัพธ์ที่เคลมไว้นี้ แต่ในเรื่องของความชุ่มชื้นของผิว ทำได้ดีมากครับ ทั้งนี้เมื่อได้ใช้ร่วมกับตัวเซรั่ม (Pola Wrinkle Shot N) ที่กล่าวไปข้างต้น ผลลัพธ์โดยรวมถือว่า น่าประทับใจครับ

Pola B.A Lotion N ขนาด 120 mL ราคา 7,000 บาท ราคาแรงมากๆครับ ถ้าช่วงไหนมีเงินเหลือ รายได้ดี เวฟก็จะไปจัดมาใช้ต่ออย่างแน่นอนครับ สำหรับโลชั้นน้ำตบขวดนี้ คนผิวมันขาดน้ำแบบเวฟ เวฟแนะนำเลยนะครับ

Discussion (9)

รีบจดเข้าลิสไว้เลยน่าใช้มากเลยค่า