การเตรียมผิวเพื่อก้าวสู่การเป็นจักรพรรดินี

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน วันนี้จั่วหัวข้อมาซะใหญ่เลยค่ะ ก็เพราะว่าเราทุกคนมีฝันค่ะ ฝันที่แอบฝัน ที่ไม่กล้าฝัน แต่เขาก็ให้มาฝันค่ะ กับ The History of Whoo: Gongjinhyang ที่แบรนด์เขาเคลมนักเคลมหนาว่าทุกผลิตภัณฑ์รังสรรค์ขึ้นมาตามแบบฉบับเคล็ดลับคววามงามขององค์จักรพรรดินีเกาหลี

หลังจากที่ตอนแรกไม่ค่อยอิน แต่พอใช้ไปใช้มา ประกอบกับการดูซีรีส์และติดงอมแงม ก็เริ่มเกิดอาการมโนว่าสักวันต้องเป็นฉัน ก็เลยต้องมาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆอ่านกันค่ะ
แน่นอนค่ะว่าในตอนแรกที่เราได้ยินชื่อ The History of Whoo เราต้องแอบเผื่อใจไว้แล้วว่าราคาต้องแรงแน่ๆเลย ต้องจ่ายเป็นหมื่นเป็นแสนแน่ๆเพื่อการได้เป็นองค์จักรพรรดินีเกาหลี แต่ไม่เลยค่ะ ชุดที่วันนี้เบสจะมารีวิวก็คือ Gongjinhyang Special 3pcs Set ที่มาในราคาน่ารักๆ

แหม่ ก็แน่สิคะ ยังไม่ได้เป็นองค์จักรพรรดินี จะถอยไลน์แพงสุดเลยก็เกินเอื้อมไปค่ะ เราก็ต้องเริ่มจากน้อยๆ ค่อยๆบ่มเพาะเตรียมกายก่อนค่ะ

ไลน์ Gongjinhyang หรือที่เรียกได้ง่ายๆเลยว่าไลน์สีเหลือง เป็นสกินแคร์ในกลุ่มของ basic line ค่ะ เหมาะสำหรับสาวๆวัยแตกเนื้อสาว(มาเป็นสิบปีแล้ว)อย่างเราๆค่ะ

ไลน์นี้เขาจะเน้นเรื่องการปรับสมดุลของผิว ให้ความชุ่มชื้น ผิวสุขภาพดีจากภายนอกสู่ภายใน จะช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอยหรือลดเลือนริ้วรอยแรกเริ่มค่ะ

ในชุดเขามีมากมายหลายผลิตภัณฑ์ค่ะ เรามาพูดถึงแต่ละตัว เรียงตามขั้นตอนแต่ละขั้นตอนกันไปเลยนะคะ
ตัวแรกเป็นโฟมล้างหน้าค่ะ เนื้อของเขาจะมีว่าเป็นครีมโฟม โดนน้ำแล้วเปลี่ยนเป็นปริมาณฟองค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ใช้แต่ละครั้งคือบีบเท่าเม็ดถั่วเขียวก็ตีฟองได้ทั่วหน้าแล้วค่ะ หลังจากการลองใช้จนหมดหลอดเล็กจนไปซื้อหลอดใหญ่มาใช้ต่อ เบสบอกได้เลยค่ะว่าตัวนี้ทำความสะอาดได้หมดจดมากๆ ตอนล้างก็ให้สัมผัสของผิวหน้าแบบกลางๆค่ะ ไม่เอี๊ยดหรือลื่นเกินไป ติดใจจริงๆค่ะตัวนี้ 
หลังจากที่เราทำความสะอาดผิวหน้าของเราเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องมาเริ่มที่การบำรุงกันต่อเลยค่ะ ขั้นตอนแรกก็จะเป็นการลงด้วย Balancer เพื่อเตรียมผิวและปรับสภาพผิวค่ะ ตัวนี้หอมมาก กลิ่นจะออกแนวโสมๆค่ะ เบสจะเทลงฝ่ามือแล้วนำมาแตะๆนวดๆให้ทั่วไปหน้าและลำคอค่ะ ด้วยความที่เขาเป็นน้ำ ก็ซึมไวตามท้องเรื่องค่ะ 
ขั้นตอนต่อมาก็คือการลงตัว Emulsion ค่ะ เนื้อเขาจะเป็นเหมือนครีมเหลวๆ อารมณ์โลชั่นทาตัวค่ะแต่เบาบางกว่า ตัวนี้ใช้ในปริมาณไม่เยอะมากค่ะ เพราะเขาจะใช้เวลาในการซึมระดับนึงเลย

ถ้าท่านไหนมีซีรั่ม ก็สามารถลงก่อนขั้นตอนนี้ได้นะคะ จริงๆแล้วเบสใช้เป็นตัว Bichup Essence ร่วมด้วยค่ะ
ระหว่างที่รอตัว Emulsion ซึม เบสก็จะมาบำรุงรอบดวงตากันค่ะ ตัวนี้เป็นเนื้อครีมที่ไม่หนักค่ะ ใช้ปริมาณไม่เยอะ แค่สะกิดๆ แล้วก็ใช้นิ้วนางแตะๆนวดๆเบาๆรอบบริเวณดวงตาค่ะ หลังจากใช้มาจนหมดกระปุกเล็ก เบสว่าตัวนี้ช่วยแค่เรื่องความชุ่มชื้นและทำให้รอบดวงตาไม่ดูล้า ส่วนเรื่องความคล้ำ ยังไม่เห็นผลจริงๆค่ะ
และแล้วเราก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายกันแล้วค่ะก็คือการจบฟินิชทุกอย่างด้วยครีม ครีมตัวนี้คือเบสรักมากค่ะ ไม่เคยใช้ครีมตัวไหนแล้วรู้สึกตกหลุมรักเท่าตัวนี้ เนื้อสัมผัสและกลิ่นเขาดีมาก ให้ความชุ่มชื้นขั้นสุดค่ะ ซึมซาบไวด้วยค่ะ ไวกว่าตัวอีมัลชั่นอีก ใช้ครั้งนึงก็ปริมาณไม่เยอะค่ะ แค่ 1/2 ของปลายไม้ตักที่เขาให้มา ก็ทาได้ทั่วหน้าและลำคอแล้ว
อย่างที่คุณผู้อ่านเห็นในภาพนะคะ ว่าในชุดนี้เขาไม่ได้มีมาให้แค่นี้ เขายังมี Balancer, Emulsion ขนาดพกพา ไว้สำหรับตอนเดินทางและลิปสติกจิ๋วมาให้ด้วยค่ะ
จากการลองใช้ส่วนตัว ชุดนี้สามารถใช้ได้ 3-5 เดือนสบายๆเลยค่ะ โดยตัว Balancer และ Emulsion เราจะได้ขนาดจริงมา เบสใช้มาตอนนี้เข้าเดือนที่ 4 แล้วค่ะ ก็ยังไม่หมด คาดว่าคงใช้ได้ยาวๆเลย 5 เดือนค่ะ

ส่วนตัวครีมเขามาในขนาด 30ml. (ขนาดขายจริงคือ 50ml.) ตัวนี้เบสใช้ราวๆ 3 เดือนค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะใช้ได้แปปเดียว แต่ด้วยที่ครีมเขาเข้มข้นมากใช้ปริมาณน้อย ทำให้ลากยาวมาได้ 3 เดือนสบายๆเลยค่ะ

โฟมล้างหน้า เห็นหลอดเล็กๆแบบนี้ เบสใช้ 2 เดือนเลยนะคะกว่าจะหมด เกินความคาดหมายมากๆค่ะ มาที่น้องเล็กสุด น้อง eye cream ค่ะ คนนี้เป็นคนที่เบสได้ใช้เวลาด้วยน้อยที่สุดเลย คือแค่ราวๆ 1 เดือนค่ะ

ผลลัพธ์หลังใช้: (คะแนนเต็ม 5 ⭐)
ความชุ่มชื้น: ⭐⭐⭐⭐⭐
ปรับสมดุลให้ผิวแข็งแรงขึ้น: ⭐⭐⭐⭐
สีผิวสม่ำเสมอขึ้น: ⭐⭐⭐
ลดเรือนริ้วรอย: ⭐⭐
ความคุ้มค่า สมราคา: ⭐⭐⭐⭐⭐



Discussion (13)

เลิศ ดีงามทุกตัวเลยค่าหรูหรามากเลยค่าน่าใช้สุดๆ
ดีงามมากเลยค่า น่าสนใจงับ ขอบคุณที่มาแชร์นะคะ
ดีงามมากค่า ทั้งต่อผิว และต่อใจ