สวัสดีค่ะชาวจีบันที่น่าร้ากกก

กลับมาพบกับวิอีกครั้ง.. ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมาวิได้ลองใช้สกินแคร์หลากหลายตัวมากค่ะ และที่มาแรงและไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือ สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน หลายๆคนน่าจะได้ยินกันบ่อยเลยทีเดียว และอีกตัวที่เรียกได้ว่าเราได้ยินกันมาตลอด และฮอตฮิตมาจนถึงปัจจุบัน นั่นก็คือ วิตามินซี นั่นเองค่ะ

 
ทั้งสองตัวนี้คือมอบสิ่งที่ดีให้กับผิวทั้งคู่เลย ยิ่งใช้ ผิวก็ยิ่งดี แต่หาค่อนข้างยาก ที่ทั้งสองตัวนี้จะมาอยู่ด้วยกันในผลิตภัณฑ์เพียงขวดเดียว ส่วนใหญ่แล้วจะมาแยกกันซะมากกว่า

แต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา วิได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของทั้ง Hyaluron และ Vitamin C อยู่ในขวดเดียวกัน ซึ่งสำหรับวิคือเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ ที่เราจะสามารถเติมน้ำให้กับผิว รวมไปถึงช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้ในเวลาเดียวกัน

บอกเลยว่าน้องขวดนี้ จิ๋วแต่แจ๋วมากค่ะ ไม่รอช้าแล้วว ไปรู้จักกับผลิตภัณฑ์กันเลยดีกว่าค่า และเค้ามีชื่อว่าาา

???????? 

Intensive Skincare

Advanced Vitamin C + HA Treatment

เป็นเซรั่มขวดจิ๋วแต่เจ๋งงมากก ที่วิได้ลองใช้แล้วชอบสุดๆ 

เดี๋ยวเรามาทำความรู้จักกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าน้องเค้าเจ๋งยังไง เหมือนกับที่วิพูดไว้มั้ยน้า

สำหรับเซรั่มขวดนี้ เมื่อแกะกล่องออกมาแล้ว ทุกคนจะได้เจอกับอุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง เป็นฝาที่บรรจุวิตามินซีมิกซ์สดเอาไว้ (นวัตกรรม Activating Cap)

เมื่อจะเปิดใช้ผลิตภัณฑ์ก็ต้องผสมผงวิตามินซีตัวนี้ลงไปก่อนค่ะ ซึ่งวิขออธิบายวิธีการผสมผลิตภัณฑ์ตัวนี้ตามภาพด้านล่างนี้เลยนะคะ

และเมื่อเราผสมผลิตภัณฑ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะได้เซรั่มที่มีเนื้อสัมผัส ใส ลื่น และซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ชุ่มชื้นค่ะ

เห็นเนื้อผลิตภัณฑ์ใสๆ เนื้อไม่หนักแบบนี้ แต่บอกได้เลยว่าทรงประสิทธิภาพมากๆค่ะ เพราะเหมือนที่วิกล่าวไปข้างต้นว่ามีส่วนผสมที่โดดเด่นอยู่สองตัวทำงานเสริมประสิทธิภาพร่วมกัน นั่นก็คือ

1.Artistry Bi-Action Hyaluronic Acid Blended : ที่เรียกว่า Bi เพราะมีโมเลกุลของ Hyaluronic Acid อยู่ทั้งสองขนาดโมเลกุล คือ

• โมเลกุลเล็ก : ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว

• โมเลกุลขนาดใหญ่ : ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น

2.Vitamin C Complex : สารแอนตี้ออกซิแดนท์ จากวิตามินซีสกัดจาก  Acelora Cherry ที่มาจาก Nutrilite Organic Farm ช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยดำ รอยแดงต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

เอาหล่ะ พูดถึงส่วนผสมที่น่าสนใจขนาดนี้แล้ว ไปดูวิธีการใช้กันดีกว่าค่ะ

เนื่องจากเค้าเป็นเซรั่มที่เข้มข้นมาก ดังนั้นเวลาใช้คือไม่จำเป็นต้องใช้เยอะ เลยค่ะ ใช้เพียงแค่ 3-4 หยดเท่านั้น ก็จะรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้นที่เกิดขึ้นบนผิวหลังใช้ทันทีเลย

สามารถใช้ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่นๆได้เลย โดยใช้เซรั่มตัวนี้ลงเป็นตัวแรกใน Routine ได้เลยค่ะ (:

และหลังจากที่วิได้ทดลองใช้ร่วมเดือน วิก็เก็บภาพผลลัพธ์ที่ได้มาฝากทุกคนค่ะ 

ไปชมภาพผลลัพธ์หลังใช้งานกันดีกว่าค่ะ ว่าเซรั่มขวดนี้ ดีมากแค่ไหนน

มาเริ่มกันที่ถุงใต้ตากันก่อนค่ะ จากตอนแรกที่มีริ้วรอย และขอบตาค่อนข้างคล้ำ (พักผ่อนน้อย) หลังใช้ไป 20 วัน สังเกตที่ใต้ตาดีๆจะพบว่า ริ้วรอยใต้ดวงตาและความคล้ำนั้นดูลดเลือนลง รวมไปถึงรูขุมขน และผิว ที่ดูกระชับมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของรอยแดง และรอยดำจากสิว ก็ดูจางลงเช่นกันค่ะ รูขุมขนตรงบริเวณจมูกและหน้าแก้มก็รู้สึกกระชับขึ้นจริง

นอกจากความกระชับของผิวและเรื่องรอยที่จางลงนี้ สิ่งที่วิรู้สึกได้เพิ่มเติมคือความกระจ่างใสของผิวหน้าที่เกิดขึ้นด้วย ถือว่าเริ่ดจริง

และแน่นอนค่ะ ถ้าถามถึงสภาพผิวโดยรวม บอกเลยว่าวิโทรมน้อยลงเยอะเลยยย 5555555 เพราะปกติคือนอนน้อย ทำให้หน้าแก่ไว ดูโทรมมากก แถมพอเจอเรื่องฝุ่นเข้าไปอีก คือสุดพัง แต่พอใช้เซรั่มตัวนี้แล้ว ส่องกระจกก็รู้สึกว่าตัวเองโทรมน้อยลง ผิวดูกระชับ ไม่หย่อนคล้อย ข้อนี้วิประทับใจที่สุดเลยค่ะ

สำหรับใครที่อ่านมาจนถึงตรงนี้แล้ว และกำลังมองหาสกินแคร์ดีๆในปีนี้ วิก็อยากแนะนำว่าเซรั่มตัวนี้ค่อนข้างที่จะตอบโจทย์เลยหละค่ะ ส่วนตัววิลองแล้วชอบมาก จึงอยากบอกต่อทุกคนเลยค่า

ซึ่งเซรั่มสุดเข้มข้นขวดนี้ มาในราคาสมาชิก 1,728 บาท สำหรับวิคือคุ้มค่า คุ้มราคาค่ะ เพราะใช้แค่ไม่กี่หยด แต่รู้สึกถึงผลลัพธ์เลยยย งื้อออ ดีต่อใจและผิวมั่กมั่กกก ?

สำหรับวันนี้วิขอตัวลาไปก่อน 

ขอให้ทุกคนมีสุขภาพผิวที่ดีตลอดทั้งปีเลยนะค้า

ร้ากก สวัสดีค่า