ข่าวน้อง ป.2 ถูกรุ่นพี่ป.5 กับม.4 ทำโทษโดยการราด ซีม่าโลชั่น ใส่ แถมกระทืบซ้ำนี่หดหู่ใจจริงๆ น่าสงสารน้องและแม่น้องมากๆ ซึ่งถามว่า ซีม่าโลชั่น ผิดมั้ย ตอบได้เลยว่าไม่ การใช้ผิดวัตถุประสงค์ต่างหากล่ะ ทำให้ยามันเป็นอันตรายได้

ยังมีผลิตภัณฑ์อีกหลายอย่างเหมือนกันนะ ที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ นี่แหละไปใช้ผิดวิธี อยากสวยด่วน แต่ระวังผิวจะพังยาว บอกได้แค่ว่าอย่าหาทำเด็ดขาด!

ถ้าใครยังพอจำได้ เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน จะฮิตมากกับการเอา ซีม่าโลชั่น มาทาที่หัวเข่า แล้วหัวเข่าที่สีคล้ำจะค่อยๆ ลอกออกไป แล้วจะได้ผิวที่ขาวใสขึ้น

ความจริงแล้ว ซีม่าโลชั่น เป็นยาที่ใช้รักษากลาก เกลื้อน และเชื้อรา มีตัวยาสำคัญคือ กรดซาลิซิลิก (Salicylic acid) 11.8% ซึ่งเป็นกรดที่พบได้บ่อยในส่วนผสมของเครื่องสำอาง มีฤทธิ์ในการลอกผิว และผลัดเซลล์ผิว ซึ่งใน ซีม่าโลชั่น เค้าใส่กรดตัวนี้มาเพื่อลอกเชื้อราให้ออกจากผิวหนัง ไม่ได้เพื่อมีผลเรื่องความขาวใสแต่อย่างใด! ถ้าหวังเรื่องความขาว แล้วจะใช้ ซีม่าโลชั่น อย่าหาทำเด็ดขาด! แนะนำทาครีมกันแดดทุกวันดีกว่าค่ะ

อีกหนึ่งวิธีที่ฮิตใน TikTok มากกก ด้ยการเอาสบู่เบนเนทสีส้ม ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความขาวใสแต่หมดไว เลยมีคนหัวใสเอามาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ขวด แล้วผสมน้ำเกลือกับน้ำเปล่าลงไป กลายเป็นเบนเนทเวอร์ชั่นสบู่เหลว ยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น

เชื่อว่าหลายคนก็อาจเคยทำวิธีนี้กับสบู่ที่หมดไวซึ่งความจริงแล้ว การที่เราหั่นสบู่แล้วแบ่งใช้ อาจทำให้มีแบคทีเรียและเชื้อโรคแพร่กระจายเข้าไปหรือไปหมักหมมเพิ่ม ไม่เป็นผลดีต่อผิวของเราเท่าไหร่ ทางที่ดีซื้อครีมอาบน้ำหรือใช้แบบก้อนเต็มไปเลยดีกว่าค่ะ

อีกหนึ่งวิธีล้างหน้าแบบแปลกๆ ที่อยากจะขอร้องจริงๆ ว่าอย่าหาทำ! ด้วยการเอาน้ำยาล้างจานมาล้างหน้า บอกตรงนี้เลยนะคะ ว่าเสี่ยงหน้าพังมากกว่าหน้าใสไร้สิว

ถึงน้ำยาล้างจานจะมีสาร Sodium Lauryl Ether Sulfate (SLS) ซึ่งที่มีในสบู่ทั่ว แต่ SLS ก็มีหลายเกรด และในน้ำยาล้างจานยังมีสารกันบูดและส่วนผสมอื่นๆ อีกมาก  ซึ่งไม่เหมาะกับการใช้ล้างหน้าอย่างแรง มีสารลดแรงตึงผิวเยอะกว่าที่ผิวหนังต้องการ ทำให้ล้างเอาไขมันในผิวหนังที่เป็นเกราะป้องกันของผิวไปด้วย อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวแห้ง อักเสบ และเมื่อใช้ไปนานๆ ผิวก็จะยิ่งเหี่ยว แก่ก่อนวัยอันควรไปอีก! แนะนำว่าใช้โฟมหรือเจลล้างหน้าปกติดีที่สุดค่า

จะเห็นได้ว่าไม่ได้มีแค่ ซีม่าโลชั่น เท่านั้นที่ถูกคนนำมาใช้แบบผิดวิธี แบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ไม่ได้ผิดเลย มีแต่ผู้บริโภคแบบเราๆ นี่แหละที่จินตนาการกว้างไกลเกินไป แล้วมีโปรดักส์ตัวไหนอีกบ้างที่เพื่อนๆ เคยเห็นการใช้ผิดวิธี จนอยากขอร้องว่าอย่าหาทำอีกเลย มาแชร์กันค่ะ?