จัดฟันแบบDAMON คัยเคยจัดหรือกำลังจัดแนะนำด้วยค่ะ
bun10คัยจัดฟันแบบดาม่อนบ้างค่ะ มันดีมั้ย แล้วมีที่ไหนจัดแบบดาม่อนบ้างหรอค่ะ
แบบไม่ต้องแพงมากอ่ะค่ะ ราคาด้วยก้อดีค่ะ ขอบคุณค่ะ
แบบหมอที่เก่งนิดนึงไม่ก้อจัดออกมาแล้วสวยค่ะ
แบบไม่ต้องแพงมากอ่ะค่ะ ราคาด้วยก้อดีค่ะ ขอบคุณค่ะ
แบบหมอที่เก่งนิดนึงไม่ก้อจัดออกมาแล้วสวยค่ะ
Discussion (10)
ฟังดูน่ากลัวนะคะ
"เหลือฟันแค่ 24 ซี่"
"ต้องใส่รีเทนเนอร์ไปตลอดชีวิต"
อยากจัดค่ะ
ถ้าเป็นดามอนก็แพงไปหน่อยนะ
ไม่ได้จัดเพราะแฟชั่นนะคะ
แต่มีปัญหาเรื่องฟัน
ไปๆ มาๆ ไม่อยากทำแล้ว
TT^TT
"เหลือฟันแค่ 24 ซี่"
"ต้องใส่รีเทนเนอร์ไปตลอดชีวิต"
อยากจัดค่ะ
ถ้าเป็นดามอนก็แพงไปหน่อยนะ
ไม่ได้จัดเพราะแฟชั่นนะคะ
แต่มีปัญหาเรื่องฟัน
ไปๆ มาๆ ไม่อยากทำแล้ว
TT^TT
^
^
คุณ Snap! โดนไป 4 เหมือนกันเลยค่า แถมฟันคุดอีก 4
555 ฟันแท้ทั้งปากจาก 32 ซึ่เหลือแค่ 24 ซี่ T^T คิดแล้วเศร้า
จัดแบบ damon อยู่เหมือนกันค่า
ถ้านับถึงเดือนนี้ก็จัดได้ 1 ปี กับ 4 เดือนแล้ว
หมอบอกว่าถ้าไม่มีปัญหาอะไรอีก 2 เดือนก็เอาออกได้แล้วล่ะค่ะ
ส่วนตัวแล้วริสาว่าถ้าจะจัดแบบไหนขึ้นอยู่กับระยะเวลาและงบค่ะ
แบบ damon อาจจะไม่จำเป็นสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องการเรียงตัวของฟัน
เพราะไม่ว่าจัดแบบไหน ฟันก็เข้าที่ได้เหมือนกัน
(ถ้าหากเป็นทันตแพทย์ที่ได้รับอนุญาตด้านการจัดฟันจริงๆ
เช็ครายชื่อทันตแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตจัดฟันได้ที่เว็บ www.thaiortho.org ค่ะ)
สำหรับริสาแล้ว เลือกจัดแบบ damon เพราะว่ามีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาค่ะ
เพราะกว่าจะเริ่มจัดก็เรียนปี 2 แล้ว และหากจัดแบบธรรมดา
จากระยะเวลาที่ทันตแพทย์คำนวณให้คร่าวๆ คือ 4 ปี
ซึ่งริสาอยากให้ถอดอุปกรณ์ออกก่อนเรียนจบ แน่นอนว่าจัดแบบธรรมดาไม่ทันแน่
ข้อเสียของการจัดแบบดามอนเท่าที่รู้ยังไม่มีนะค่ะ
นอกจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น(แต่ก็แค่เล็กน้อย)
ส่วนข้อดีก็คือ การเรียงตัวของฟันจะเข้าที่เร็วขึ้นราวๆ 1 เท่า
เพราะการจัดฟันวิธีนี้ใช้เหล็ก(metal bracket)เป็นตัวจัดลักษณะการเคลื่อนที่ของฟัน
จึงมีแรงดึงที่มากกว่าแต่ด้วยตัวอุปกรณ์ที่ออกแบบมาให้มีความเสียดทานต่ำ
เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะเจ็บกว่าแบบธรรมดาเพราะไม่ว่าแบบไหนก็
เจ็บเหมือนกันค่ะ(แบบว่าอยากสวยก็ต้องทนอ่ะเนอะ)
แต่การจัดแบบดามอนจะไม่มียางสีๆ ที่วัยรุ่นชอบใส่ตามแฟชั่นนะค่ะ
ทั้งปากเราจะมีแต่เหล็ก เหล็ก และเหล็ก
(ยกเว้นว่าจะจัดแบบ half metal half ceramic แบบนี้ตัว bracketหรือตัวที่ติดกับฟันของเรา
จะเป็นเหล็กครึ่งหนึ่ง และเป็นเซรามิคครึ่งหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่า
ความทนทานต่อแรงดึงย่อมต่ำกว่าเหล็กล้วน ผลก็คือฟันจะเข้าที่ช้ากว่าแบบ metal bracket)
ข้อดีอีกอย่างที่ส่วนใหญ่คิดกันก็คือ ไม่ต้องไปพบทันตแพทย์บ่อย
เพราะโดยทั่วไปจะนัดทุกๆ 1 เดือน แต่สำหรับการจัดแบบดามอนจะนัดทุกๆ 2 เดือน
แต่ก็จะเป็นแค่ช่วงแรกๆ ค่ะ ช่วงหลังๆ พอฟันเริ่มเข้าที่ทันตแพทย์ก็จะเริ่มนัดถี่ขึ้น
เพื่อตรวจดูปัญหาที่เกิดขึ้น+แก้ไขปัญหานั้นโดยเร็ว เพราะหากแผนการจัดเปลี่ยนไป
ก็อาจทำให้รูปแบบการเรียงตัวของฟันเปลี่ยนไปได้...เพราะว่าจัดแบบนี้มันเคลื่อนฟันเร็วมาก
ของริสาเองฟันซ้อนมากกกกก แต่จัดได้แค่เดือนเดียว ฟันเรียงตัวสวยเลยล่ะค่ะ
แต่ก็ต้องมาจัดการเรื่องฟันเหยินอีก -*- เลยยังไม่เสร็จมาจนถึงตอนนี้
สำหรับเรื่องค่าใช้จ่าย ถ้าเป็นที่ๆ ริสาจัดอยู่(ศูนย์ทันตกรรมพญาไท-- dentech คุณหมอรังสิ)
ถ้าจัดแบบธรรมดาจะอยู่ที่ราวๆ 45000
ส่วนแบบ ดามอนจะอยู่ราว 70000 ค่ะ(ติดอุปกรณ์ 20000 หลังจากนั้นครั้งละ 3000)
และที่สำคัญที่สุดที่ลืมไม่ได้ก็คือถ้าจัดฟันแล้ว
"ต้องใส่รีเทนเนอร์ไปตลอดชีวิตนะค่ะ" ...
^
คุณ Snap! โดนไป 4 เหมือนกันเลยค่า แถมฟันคุดอีก 4
555 ฟันแท้ทั้งปากจาก 32 ซึ่เหลือแค่ 24 ซี่ T^T คิดแล้วเศร้า
จัดแบบ damon อยู่เหมือนกันค่า
ถ้านับถึงเดือนนี้ก็จัดได้ 1 ปี กับ 4 เดือนแล้ว
หมอบอกว่าถ้าไม่มีปัญหาอะไรอีก 2 เดือนก็เอาออกได้แล้วล่ะค่ะ
ส่วนตัวแล้วริสาว่าถ้าจะจัดแบบไหนขึ้นอยู่กับระยะเวลาและงบค่ะ
แบบ damon อาจจะไม่จำเป็นสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องการเรียงตัวของฟัน
เพราะไม่ว่าจัดแบบไหน ฟันก็เข้าที่ได้เหมือนกัน
(ถ้าหากเป็นทันตแพทย์ที่ได้รับอนุญาตด้านการจัดฟันจริงๆ
เช็ครายชื่อทันตแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตจัดฟันได้ที่เว็บ www.thaiortho.org ค่ะ)
สำหรับริสาแล้ว เลือกจัดแบบ damon เพราะว่ามีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาค่ะ
เพราะกว่าจะเริ่มจัดก็เรียนปี 2 แล้ว และหากจัดแบบธรรมดา
จากระยะเวลาที่ทันตแพทย์คำนวณให้คร่าวๆ คือ 4 ปี
ซึ่งริสาอยากให้ถอดอุปกรณ์ออกก่อนเรียนจบ แน่นอนว่าจัดแบบธรรมดาไม่ทันแน่
ข้อเสียของการจัดแบบดามอนเท่าที่รู้ยังไม่มีนะค่ะ
นอกจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น(แต่ก็แค่เล็กน้อย)
ส่วนข้อดีก็คือ การเรียงตัวของฟันจะเข้าที่เร็วขึ้นราวๆ 1 เท่า
เพราะการจัดฟันวิธีนี้ใช้เหล็ก(metal bracket)เป็นตัวจัดลักษณะการเคลื่อนที่ของฟัน
จึงมีแรงดึงที่มากกว่าแต่ด้วยตัวอุปกรณ์ที่ออกแบบมาให้มีความเสียดทานต่ำ
เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะเจ็บกว่าแบบธรรมดาเพราะไม่ว่าแบบไหนก็
เจ็บเหมือนกันค่ะ(แบบว่าอยากสวยก็ต้องทนอ่ะเนอะ)
แต่การจัดแบบดามอนจะไม่มียางสีๆ ที่วัยรุ่นชอบใส่ตามแฟชั่นนะค่ะ
ทั้งปากเราจะมีแต่เหล็ก เหล็ก และเหล็ก
(ยกเว้นว่าจะจัดแบบ half metal half ceramic แบบนี้ตัว bracketหรือตัวที่ติดกับฟันของเรา
จะเป็นเหล็กครึ่งหนึ่ง และเป็นเซรามิคครึ่งหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่า
ความทนทานต่อแรงดึงย่อมต่ำกว่าเหล็กล้วน ผลก็คือฟันจะเข้าที่ช้ากว่าแบบ metal bracket)
ข้อดีอีกอย่างที่ส่วนใหญ่คิดกันก็คือ ไม่ต้องไปพบทันตแพทย์บ่อย
เพราะโดยทั่วไปจะนัดทุกๆ 1 เดือน แต่สำหรับการจัดแบบดามอนจะนัดทุกๆ 2 เดือน
แต่ก็จะเป็นแค่ช่วงแรกๆ ค่ะ ช่วงหลังๆ พอฟันเริ่มเข้าที่ทันตแพทย์ก็จะเริ่มนัดถี่ขึ้น
เพื่อตรวจดูปัญหาที่เกิดขึ้น+แก้ไขปัญหานั้นโดยเร็ว เพราะหากแผนการจัดเปลี่ยนไป
ก็อาจทำให้รูปแบบการเรียงตัวของฟันเปลี่ยนไปได้...เพราะว่าจัดแบบนี้มันเคลื่อนฟันเร็วมาก
ของริสาเองฟันซ้อนมากกกกก แต่จัดได้แค่เดือนเดียว ฟันเรียงตัวสวยเลยล่ะค่ะ
แต่ก็ต้องมาจัดการเรื่องฟันเหยินอีก -*- เลยยังไม่เสร็จมาจนถึงตอนนี้
สำหรับเรื่องค่าใช้จ่าย ถ้าเป็นที่ๆ ริสาจัดอยู่(ศูนย์ทันตกรรมพญาไท-- dentech คุณหมอรังสิ)
ถ้าจัดแบบธรรมดาจะอยู่ที่ราวๆ 45000
ส่วนแบบ ดามอนจะอยู่ราว 70000 ค่ะ(ติดอุปกรณ์ 20000 หลังจากนั้นครั้งละ 3000)
และที่สำคัญที่สุดที่ลืมไม่ได้ก็คือถ้าจัดฟันแล้ว
"ต้องใส่รีเทนเนอร์ไปตลอดชีวิตนะค่ะ" ...
เราดัดดาม่อนสี่หมื่นห้าค้าา คลีนิคแถวเดอะมอลล์ งาม
ดัดมาสองปีละค้า
ติดครั้งแรก บนหมื่นนึง ล่างหมื่นนึง
ถ้าไม่เหยิน ก็ไม่ต้องถอนฟันอ่าค้า
แต่เราเกินหน้าเกินตามาก ฮ่าๆ เลยโดนไปสี่ เง้อ~
ดัดมาสองปีละค้า
ติดครั้งแรก บนหมื่นนึง ล่างหมื่นนึง
ถ้าไม่เหยิน ก็ไม่ต้องถอนฟันอ่าค้า
แต่เราเกินหน้าเกินตามาก ฮ่าๆ เลยโดนไปสี่ เง้อ~
...
cherry_pink_25@hotmail.com อีเมลล์เราค่ะ
Snap คลีนิกแถวเดอะมอล์งาม นี้คลีนิกอะไรคะ อยากได้ข้อมูล ที่จัดฟันแบบdamon ถูกๆ
ขอบคุณนะคะ