ตะลุยเวียดนามไม่ง้อทัวร์ ตอน 1 นครโฮจิมินห์

ตะลุยเวียดนามไม่ง้อทัวร์ ตอน 1 นครโฮจิมินห์

ทริปเวียดนามนี้เกิดจากความอยากไปเที่ยวช่วงปีใหม่ อากาศหนาวๆ แบบไปกันเอง เลยมานั่งดูข้อมูลประเทศที่ไปเองได้ง่ายๆ ไม่ต้องขอวีซ่า เลยลงตัวที่เวียดนาม ประเทศที่มีอารยธรรมเก่าแก่มากมาย

มดไปแลกเงินดอลล่าร์ ที่สุวรรณภูมิ ได้เรท 35.35 บาท= 1 ดอลล่าร์

 

-เดินทางด้วยสายการบิน แอร์เอเซีย ออกเดินทางประมาณ 15.55
เดินทางถึงนครโฮจิมินห์ ตอน 17.25 โฮจิมินห์ซิตี้ หรือ กรุงไซ่ง่อน เป็นเมืองท่าริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และเป็นอดีตเมืองหลวงแห่งเวียดนามใต้

-พอถึงปุ๊ป ก็หาที่แลก ตังค์ก่อนเลย ที่เวียดนามใช้สกุลเงินเป็น เวียดนามด่อง คิดง่ายๆ คือตัด 0 ออก 3 ตัว แล้ว คูณ 2 เข้าไป สมมุติ 100000 ด่อง ก็เท่ากับ 200 บาทค่ะ (แลกได้ 17354 ด่อง =1 ดอลล่าร์)

ไปถึงก็เย็นแล้วเลยเรียก แท็กซี่ เพื่อไปกลางเมืองที่จองโรงแรมไว้ (พักที่ Dong Do Hotel)แท็กซี่ที่นี่ขี้โกงอย่างแรง เพื่อนบอกว่าอย่ากดมิเตอร์ให้ต่อราคากันไปเลยเวลาบอกราคามาแนะนำว่าต่อไปครึ่งๆเลย มดก็ต่อจนได้ราคาที่พอใจก็ขนกระเป๋าขึ้นรถ ปรากฎว่าโดนค่ะโดน มันบอกเราต้องเสียค่าผ่านสนามบินอีก 100000 ด่อง ซึ่งแบบเซงมาก อารายของเอ็งว่ะ

จริงๆคงเป็นค่าจอดรถที่มันมาจอดรอผู้โดยสารอย่างนาน ก็เลยเอาวะไม่อยากมีเรื่องในต่างแดนยอมจ่ายไปแบบเซงๆ

พอเอาของเข้าที่พักแล้ว ก็ออกมาเดินชมเมือง ซึ่งตกแต่งด้วยไฟอย่างเพียบเพราะเป็นวันที่ 30 ธค. เค้าจัดเตรียมฉลองปีใหม่กัน โฮจิมินห์ เจริญกว่าที่คิดมาก เดินงงไปงงมาจนมาเจอ

-จัตุรัสโฮจิมินห์ (Tran Nguyen Hai Statue) เป็นที่ตั้งศาลาว่าการเมือง ตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศส มีรูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ กับเด็กๆ อยู่ด้านหน้า

-ไปฝากท้องมื้อแรกที่ ตลาดเบนถันห์ เอ่ยถามหาแหนมเนือง เค้าว่าไม่มีไม่รู้จัก ง่ะ

เลยได้ขนมจีนหมูย่าง ปอเปี๊ยะ แล้วก็ข้าวผัด อืมมม ไมมันจืดงี้หว่า กินไปนิดเดียวเลยเปลี่ยนไปกินไอติมชื่อดังของเค้า Kem Bach Dang ไอติมมะพร้าวในลูกมะพร้าวที่ใส่ผลไม้สดมาเพียบ อันนี้อร่อยมากกกกกกกก

-วันรุ่งขึ้นออกเดินทางแต่เช้าเลยกะว่าจะสำรวจ โฮจิมินห์ให้ทั่วให้ได้ เดินไป 2 แยกจากที่พัก กรี๊ดดดดอ่ะนี่มันอิตาลีรึเปล่าเนี่ย LV GUCCi VERSACE MILANO TAG และอีกมากมาย เรียงรายอยู่ริมทางเดิน ตึกก็เป็นสไตล์ยุโรปเกือบทั้งหมด เดินเล่นเพลินมาก จนมาเจอ Opera House สร้างในปี พ.ศ. 2402 ตึกสีชมพูนวลๆ สถาปัตยกรรมเค้าสวยจริงๆนะนี่

-เดินเลยไปอีกอึดใจก็เจอ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ (History Museum) ภายในจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในสมัยสงครามอินโดจีนของจีน โซเวียต และอเมริกา เห็นแล้วสลดเล็กๆ เวียดนามผ่านสงครามมามากมายขนาดนี้เชียว

แอบเจอคู่บ่าวสาวมาถ่ายรูปแต่งงานกันที่นี่ด้วย

-แวะทานมื้อเที่ยงร้าน Sen Hue อาหารร้านนี้อย่างอร่อยแนะนำ เฝอเนื้อ เนื้อนุ่มแล้วก็น้ำซุปอร่อยมาก ไปต่อที่ร้าน Fanny ร้านไอติมน่ารักๆ สั่งเกตได้ว่าที่โฮจิมินห์ มีร้านไอติมเยอะมากแต่จะเป็นแบรนด์เฉพาะตัว และตกแต่งสไตล์อิตาลี

-ที่สุดท้ายที่ต้องไปให้ได้ก่อนจะลา โฮจิมินห์คือ โบสถ์นอร์ทเธอดาม (Notre Dame Cathedral) ก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2420 ใช้ระยะเวลาการสร้าง 6 ปี เป็นโบสถ์ซึ่งได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม โดยมีหอคอยคู่สี่เหลี่ยมอยู่ด้านหน้าสูง 40 เมตร เป็นเอกลักษณ์ที่สง่างามของโบสถ์แห่งนี้ แชะแชะ ถ่ายรูปแล้วก็เข้าไปต่อที่ไปรษณีย์กลางโฮจิมินห์ (Main Post Office) ซึ่งอยู่ด้านข้างกัน ที่นี่ได้รับการออกแบบและก่อสร้างในสไตล์ฝรั่งเศส สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2439 ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามอีกด้วย มีการบริการทั้งการส่งจดหมาย แสตมป์เพื่อการสะสม โปสการ์ด โทรศัพท์ระหว่างประเทศในอัตราค่าบริการมาตรฐาน สวยอ่า เวียดนามมีแบบนี้ด้วยเป็นไปได้ๆ

-ขากลับ โรงแรม ฝนตกอย่างหนักเลยแวะเข้าร้านเบเกอรี่ซักหน่อย เข้าไปตกใจกับราคามาก ถูกเหลือเชื่อ มดสั่ง passion fruit cheesecake กับ pineapple cake มาลอง อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก ในราคา ชิ้นละแค่ 20000 กับ 15000 ด่องเท่านั้น มันคือ 40 กับ 30 บาท เองอ่า

-แล้วก็นั่งแท็กซี่ ซึ่งคราวนี้ได้ในราคา 120000 ด่อง = 240 บาท (ถูกกว่าขามาเยอะเลย) ไปสนามบิน เพื่อขึ้นเครื่อง Veitnam airline บินไปลง Danang เพื่อต่อรถ ไป Hoi An เมืองน่ารักๆๆที่มีอายุยาวนานเป็น 100 กว่าปีแล้ว

1 คืน กับ 1 วัน ใน โฮจิมินห์ เที่ยวได้คุ้มจัง

ปล.แต่สิ่งที่ทนไม่ได้จริงๆเลยคือระบบการจราจร ที่นี่ใครอยากพุ่งทางไหนก็พุ่ง พร้อมทั้งเสียงแตรที่ดังตลอดเวลา