ทำไมผู้หญิงถึงชอบโนบรา? โนบรากลายเป็นเรื่องปกติได้หรือยัง

ดราม่าโนบราก็ยังคงวันมาเรื่อยๆ ไม่รู้จักจบ เคยสงสัยไหมว่าทำไมต้องเป็นอะไรกับการที่ผู้หญิงโนบรากันด้วย โดยเฉพาะเวลาเราโนบรากันในพื้นที่ของตัวเอง เช่น ในบ้าน หรือในคอนโด ก็ยังจะโดนคุกคามได้ ฉะนั้นเป็นผู้หญิงต้องใส่ชุดชั้นในเอาไว้ตลอด เพื่อความเหมาะสมและสบายตาของทุกคน สรุปนี่มันนมเราหรือนมใครกันแน่?
เนื้อหา
  • ผู้หญิงไทยโนบรากันมาตั้งนานแล้ว!
  • โนบรากับความเท่าเทียมทางเพศ
  • โนบราดียังไง ทำไมผู้หญิงถึงชอบ
  • No Bra Day
  • ตัวช่วยเมื่ออยากโนบรา แต่ยังไม่มั่นใจ

ผู้หญิงไทยโนบรากันมาตั้งนานแล้ว!

หญิงไทยใจงามเขาโนบรากันมาตั้งนานแล้วนะ ผู้หญิงสยามไม่ได้โนบราแบบธรรมดา แต่คือไม่ใส่เสื้อหรืออะไรใดๆ ปกปิดร่างกายส่วนบนทั้งนั้น! สามารถเปลือยท่อนบนได้เป็นปกติเหมือนผู้ชายเป๊ะ โดยไม่ถูกมองด้านลบหรือเชิงทางเพศเลย จนในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อค่านิยมตะวันตกเริ่มเข้ามาในประเทศ สาวไทยก็เลยต้องใส่เสื้อเพื่อปกปิดร่างกายส่วนบน รวมถึงการเข้ามาของ ชุดชั้นในเพื่อปิดบังจุกนมเราจากสายตาของคนอื่น

กลับกันในยุคนี้ สาวตะวันตกนิยมโนบรากันจนเป็นปกติ พอสาวไทยทำบ้างกลับโดนคนในประเทศตัดสินว่าไม่สมควรทำ และโดนคุกคามทางเพศจากบรรดาผู้ชายที่มองว่าหน้าอกผู้หญิงเป็นสิ่งยั่วยุทางเพศ หรือจริงๆ แล้วผู้ชายเหล่านี้ก็มองผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ โดยเอาสัญชาตญาณความเป็นผู้ชายมาอ้างว่าควบคุมไม่ได้ จนลืมไปว่ามนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐที่ต่างจากสัตว์ทั่วไป ตรงที่เราสามารถควบคุมสัญชาตญาณทางเพศได้น่ะนะ

คนเราต่างกันก็จริง แต่ถ้าคนที่มีสติและจิตสำนึกที่ดี ก็ย่อมควบคุมการกระทำของตัวเองได้ โดยไม่ให้ผู้อื่นเดือนร้อน หรือรู้สึกว่าถูกคุกคาม

หันกลับไปในโลกตะวัน ที่การโนบราเป็นปกติ แทบไม่มีใครสนใจ บางทีมันก็สะดุดตาแหละแต่ไม่มีใครมาคุกคาม ปัญหาเรื่องการข่มขืนจากการแต่งตัวก็น้อยกว่า ก็อาจเป็นที่ระบบการศึกษาและปลูกฝังความคิด ที่สอนให้เคารพในสิทธิ์และเสรีภาพของคนอื่นตั้งแต่ยังเด็ก รวมถึงกฎหมายที่จริงจังและเข้มงวดสุดๆ

โนบรากับความเท่าเทียมทางเพศ

โนบราจะเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศได้ยังไง? แล้วทุกวันนี้ผู้หญิงไม่เท่าเทียมทางเพศตรงไหน? หลายคนน่าจะมีคำถามนี้อยู่ในหัว เพราะในสมัยนี้ต้องยอมรับว่าผู้หญิงสามารถทำ (เกือบ) ทุกอย่างได้เหมือนที่ผู้ชายทำได้ จะไม่เท่าเทียมได้ยังไง เรายังเคยมีนายกหญิงมาตั้งหนึ่งคนเลยนะ!

ถ้าชายหญิงเท่าเทียมกันจริง ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ทำไมจำนวนนักศึกษาหญิงมีมากกว่าผู้ชาย แต่ตลาดแรงงานกลับต้องการผู้ชายมากกว่า งานบางสายอาชีพถึงต้องการผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ทั้งๆ ที่ไม่ใช่งานใช้แรงงานแต่อย่างใด และผู้ชายก็มักจจะได้รับค่าตอบแทนมากกว่าในตำแหน่งเดียวกัน รวมถึงมีพื้นที่ให้ตำแหน่งหัวหน้าหรือผู้นำที่เป็นผู้หญิงค่อนข้างน้อย
หรือนักร้องดังที่เก่งและประสบความสำเร็จสูงอย่าง Taylor Swift มักจะโดนด่าและแซะหรือพูดถึงเธอในเรื่องการแต่งเพลงถึงแฟนเก่า และคนที่เธอกำลังเดตด้วยก็จะโดนแซวว่าระวังไปอยู่ในเพลงใหม่ของ Taylor นะ กลับกันในวงการเพลงนักร้องชายหลายคนก็แต่งเพลงถึงแฟนเก่ากันทั้งนั้น แต่ไม่มีนักร้องชายคนใดโดนด่าหรือโจมตีในประเด็นนี้เลย 
ไหนจะเรื่องการแต่งตัว โนบรา ที่ผู้ชายกับผู้หญิงก็มีหน้าอก มีหัวนมเหมือนกัน แต่ผู้หญิงต้องใส่ชุดชั้นในเพื่อความสบายใจของทุกคน ขนาดหน้าอกที่ใหญ่กว่ากลายเป็นสิ่งยั่วยุทางเพศ ในขณะที่ผู้ชายสามารถเปลือยท่อนบนในที่สาธารณะได้ปกติ แต่ผู้หญิงต้องใส่เสื้อปิดบังท่อนบนเอาไว้ ไม่งั้นจะถูกสังคมรังเกียจ หรือถูกมองให้กลายเป็นหญิงไร้สติไป

หรือต้องใส่บราปิดจุกนมเพื่อป้องกันการถูกคุมคามทางเพศ ที่คนพบเห็นอาจคิดว่าเราไปยั่วยวนหรือให้ท่าเขา ทั้งที่ความจริงแล้วผู้หญิงอย่างเราก็แค่ต้องการความสบายตัว ไม่อึดอัด ในประเทศที่เจริญแล้วโดยเฉพาะแถบตะวันตก ก็ไม่มีใครมาสนใจหรือตื่นเต้นกับจุกนมของคน ถ้าลองผู้ชายมาใส่ยกทรงตลอดเวลาดู ก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกที่ต้องมีอะไรมารัดหน้าอกตลอดเวลาบ้างล่ะ

โนบราดียังไง ทำไมผู้หญิงถึงชอบ

ทำไมผู้หญิงถึงต้องโนบรา และเรียกร้องว่าให้มองเป็นเรื่องปกติ ไม่อยากให้ใครมาจ้องหรือเพ่งเล็งจุกนมที่เห็นนูนออกมา ก็เพราะการใส่บราตลอดเวลามันอึดอัดน่ะสิ! แม้สมัยนี้จะมีชุดชั้นในหลากหลายแบบให้เลือก เหมาะสมกับทรวดทรงไม่ทำให้อึดอัดแล้วก็ตาม แต่การไม่ใส่อะไรเลยน่ะผ่อนคลายที่สุดแล้ว

และความเชื่อที่ว่า การไม่ใส่ชุดชั้นในทำให้นมยานไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด! มีวิจัยออกมาแล้วว่าชุดชั้นในไม่ได้มีผลใดๆ ต่อทรวดทรงของหน้าอกเลย การที่หน้าอกหย่อนหรือยานเกี่ยวข้องกับอายุและกรรมพันธุ์ล้วนๆ ลองกลับไปดูรูปของผู้หญิงสาวสมัยก่อนสิ ไม่มีชุดชั้นในใส่ หน้าอกยังเป็นรูปสวยงามเลย

และเราไม่ควรใส่ชุดชั้นในเวลานอนด้วยเช่นกัน นอกจากจะอึดอัดไม่สบายตัวแล้ว ด้วยความที่ตอนนอน ชุดชั้นในก็จะเสียดสีกับผิวมากกว่าปกติ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังได้ หรือลามไปถึงมีปัญหากับระบบการหายใจหรือทำให้ปวดหลังได้เลยนะ และเสื้อชั้นในทุกประเภทไม่ได้เกี่ยวข้องกับการก่อมะเร็งแต่อย่างใด แต่ผู้ที่มีน้ำหนักเกินแล้วใส่บราตลอด มีปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านมมากขึ้น

No Bra Day

No Bra Day ตรงกับทุกวันที่ 13 ตุลาคม เป็นวันที่ผู้หญิงออกมารณรงค์ไม่ใส่เสื้อในกัน เพื่อสร้างการตระหนักรู้และเป็นกำลังใจให้กับผู้หญิงที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งเต้านมทั่วโลก อย่างที่บอกไปว่าเสื้อชั้นในไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง แต่คนที่เป็นโรคมะเร็งเต้านม เมื่อทำการรักษาที่ต้องตัดเต้านมทิ้งไปแล้ว ก็กังวลและไม่มั่นใจจนต้องใส่เต้านมเทียมหรือชุดชั้นในเอาไว้ เพื่อให้เห็นส่วนโค้งนูนของหน้าอกแบบคนทั่วไป ทำให้คนที่ผ่าตัดเต้านมออกไปแล้วต้องใส่บราตลอด แคมเปญนี้ก็เลยช่วยให้กำลังใจและ Empower ผู้หญิงที่ป่วยหรือเคยเป็นโรคมะเร็งเต้านมนั่นเอง

ตัวช่วยเมื่ออยากโนบรา แต่ยังไม่มั่นใจ

บางทีเราก็อยากผ่อนคลาย แต่ก็ยังกังวลกับสายตาที่จ้องมาจนทำให้เราไม่มั่นใจ หรือกลัวว่าจะถูกคุมคาม จะทำยังไงดีนะ? ยิ่งช่วงนี้โนบราอยู่บ้านหรือ WFH ทุกวันด้วยแล้ว แค่ของไปรับของหน้าบ้านก็คิดหนักแล้วว่าจะยังไงดี ต้องเปลี่ยนชุดหรือหาเสื้อคลุมมาทับตลอด และชุดบางชุดที่เราอยากใส่ ก็ต้องใส่แบบโนบราถึงจะสวยกว่า ไม่อยากโนบราจริงๆ ก็ยังมีตัวช่วยเสริมความมั่นใจแบบไม่อึดอัด
ไอเท็มเสริมโนบราอย่างมั่นใจและไม่อึดอัด ตอนนี้ก็มีให้เลือกหลายอย่างเลยนะ เช่น
ที่ปิดจุกซิลิโคน เสื้อเสริมฟองน้ำ ใส่ได้สบายแบบไร้กังวล
สุดท้ายแล้วทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะโนบราหรือใส่บราตามที่ต้องการ เป็นทางเลือกของเราเอง แต่งแบบที่เราสะดวกและสบายใจไปนั่นแหละดีที่สุด แต่อยากจะบอกผู้ชายบางคนว่า ที่ผู้หญิงเขาโนบราไม่ได้อยากโชว์ให้คุณดู หรือเชิญชวนใดๆ อย่าเพิ่งสำคัญตัวผิด คิดเองเออเองเลยนะ ทุกคนมีหัวนมเหมือนกัน ควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้นะจ๊ะ 
ข้อมลูอ้างอิง
  • ความเท่าเทียมทางเพศ คำถามที่สังคมไทยต้องขบคิด: ngthai
  • ความเชื่อเกี่ยวกับการใส่บรา: samitivejhospitals
  • To Bra or Not to Bra: Does Not Wearing a Bra *Really* Cause Sagging?: greatist

Discussion (19)

อยู่บ้านก็โนบราตลอดเลยคับ อิอิ
ขอบคุณที่มาแชร์นะคะ
โล่งสบายมากค่าาา 😊
ถ้าอยู่บ้านก็ชอบ สบายโล่งดีค่า