การใช้งานโซเชียลมีเดียในปัจจุบันทำให้เราอาจจะเสี่ยงถูกโดนล้วงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ หรือแม้กระทั่งบัตรเครดิต ได้ง่ายมาก! และบางทีเราระวังทางออนไลน์ดีแล้ว แต่ดันพลาดที่ออฟไลน์ซะงั้น วันนี้เราเลยเอาวิธีป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลแบบง่ายๆ มาฝากกันค่ะ

อย่างที่บอกว่าบางทีเราก็ระวังข้อมูลบนออนไลน์กันแบบสุด แต่ดั๊นน มาพลาดที่ออฟไลน์ซะงั้น มาหาลิธีป้องกันข้อมูลของเราไม่ให้โดนล้วงไปใช้งานโดยไม่ได้รับการยินยอมกัน

ใครเป็นเจ้าแม่ช้อปออนไลน์? ชั้นน่ะสิ! ชั้นน่ะสิ! เชื่อว่าทุกคนต้องสั่งของออนไลน์กันทุกเดือน เดือนหนึ่งก็หลายครั้ง ใช่มั้ย? พอได้ของแล้วเราก็อาจจะไม่ใส่ใจเจ้ากล่องพัสดุแล้ว ซึ่งเจ้ากล่องนี่แหละตัวปัญหา! เพราะมีข้อมูลเราแบบครบ จบในหนึ่งเดียว ทั้งชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ ก่อนจะเอากล่องไปทิ้งหรือรีไซเคิลต้องจำกัดข้อมูลพวกนี้ออกไป ให้แน่ใจว่าไม่โดนเอาไปใช้ต่อซะก่อน

แนะนำเป็นพวกลูกกลิ้งปกปิดข้อความ อันจิ๋วแต่แจ๋ว แถมวิธีใช้ก็ง่ายมากก! แค่กลิ้งๆ น้องไปบนข้อมูลส่วนตัวของเรา แค่นี้พวกข้อมูลของเราก็จะถูกทับด้วยหมึก กลิ้งจนกว่าจะปิดข้อมูลสำคัญมิด แค่นี้ก็ไม่มีใครมางัดแงะข้อมูลเราได้แล้ว :)

บางทีเราต้องใช้พวกเอกสารสำคัญในการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะ ทะเบียนบ้าน ใบทรานสคริปต์ สำเนาบัตรประชาชน ต่างๆ มีแต่ข้อมูลสำคัญและเป็นความลับ! แม้จะเซ็นกำกับแล้ว แต่พอใช้เสร็จก็ควรกำจัดให้หมดด้วย บางคนอาจจะใช้วิธีง่ายๆ เช่นการเผามันไปซะเลย แต่ก็เสี่ยงอันตรายและสร้างมลพิษทางการหายใจของเราได้ ขอแนะนำอีกวิธีก็คือ

หลายคนน่าจะเคยเห็นที่ย่อยกระดาษ เอากระดาษใส่เข้าไปแล้วได้มาเป็นฝอยๆ เอาไปรีไซเคิลต่อได้ แต่เจ้าเครื่องแบบนั้นมันใหญ่เกินเบอร์มากและราคาแรงแบบไม่จำเป็น เราขอแนะนำ ที่ทำลายกระดาษ จาก Muji นี่แหละใช้ง่าย ราคาแบา คุณภาพเริ่ด และคุ้มสุด หมุนน้องกระดาษเข้าไปแล้วออกมาเป็นแผ่นฝอย ข้อมูลถูกทำลายแถมเอากระดาษไปรีไซเคิลจ่อได้ด้วยนะ!

บางครั้งเราคิดว่าเราป้องกันข้อมูลส่วนตัวในออนไลน์ได้ดีมากแล้ว แต่เราก็พลาดกันแบบง่ายๆ ได้เหมือนกัน ซึ่งอันนี้แหละที่ต้องระวังและมีสติกันไว้ตลอดเวลา จะมาพลาดง่ายๆ ไม่ได้ ชั้นจะไม่เป็นเหยื่อให้พวกแกหรอกนะเจ้า Hackers!

Password คือสิ่งที่คอยปกป้องข้อมูลทุกอย่าของเราได้ในโลก Digital จะมาตั้งกันแบบเดาง่ายๆ ไม่ได้หรอกนะคะซิส! บางเว็บดีหน่อยที่มีการ Encryped รหัสให้กับผู้ใช้ด้วย (ถ้าเว็บโดนแฮคไปรหัสก็ยังปลอดภัยอยู่) เดี๋ยวนี้หลายเว็บก็ให้ตั้งแบบยากแล้ว คือ ขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่+ตัวพิมพ์เล็ก+ตัวเลข+เครื่องหมายพิเศษ 

เช่น JebanWow1441! ก็ถูกหลักแล้ว แต่เดาได้ง่ายเกินไปไหมแม่ ลองเปลี่ยนเป็น JeejeezBanwow1441! อะไรแบบนี้แทน เชื่อสิว่าใครมันจะไปเดาได้น่ะ นอกจากจะตั้งให้ยากแล้วก็ควรเปลี่ยนบ่อยๆ และที่สำคัญต้องจำได้ให้ด้วยนะ (อันนี้แหละยากสุด ฮ่า!)

ถ้าไม่ได้ใช้คอมหรือมือถือเครื่องตัวเองล่ะก็ อย่าเผลอกดจดจำข้อมูล หรือบันทึกข้อมูลในเครื่องใครเด็ดขาด บางทีมันก็ชินนั่นแหละ กดล็อกอินในเครื่องคนอื่นเลยจะเผลอกดเซฟไปด้วย ต้องมีสติให้มาก ถ้าเผลอกดแล้วต้องรีบลบออกโดยไว โดยเฉพาะข้อมูลทางการเงินเนี่ย ห้ามไปทำในเครื่องอื่นเด็ดขาด พวกเลขบัตรเคดิตและรหัสนี่อันตรายสุด!

บางทีเหล่าแฮคเกอกร์ก็ปลอมตัวได้แบบแนบเนียน จนทำเราเกือบเผลอใจเชื่อเหมือนกัน โดยเฉพาะพวกอีเมลแจ้งเก็บเงินเนี่ยตัวดีย์ ปลอมเป็น Apple มาเก็บบิลในสิ่งที่เราไม่ได้ซื้อบ้างล่ะ หลอกให้เรากดต่อว่าไม่ได้ซื้อมาแจ้งตรงนี้ แหม! อีเมลคุณพรี่ก็ไม่เนียนแล้วไหม? ก่อนกดลองดูที่ลิงก์ที่นางแนบมา เอาเมาส์วางไว้ (ห้ามกดนะ!) มันจะขึ้น URL จริงมา ถ้าแปลกๆ ล่ะก็อย่าไปกดเชียว กด Report Junk Mail ไปรัวๆๆ

บางคนก็ป้องกันข้อมูลตัวเองอย่างดี แต่ดั๊นนมาตกมาตายที่ตรงนี้! เผลอลงรูปหรือสตอรี่แบบเห็นข้อมูลส่วนตัวด้วยตัวเอง แม้จะแว้บๆ แต่คนที่จ้องจะเอาไปใช้เก็บไว้ได้ทัน ระวังการโพสต์ทักทายชาวโซเชียลด้วยนะ เช่น บางทีอยากอัปสตอรี่ว่างานเยอะ ก็ถ่ายรูปโต๊ะทำงาน แต่ลืมไปว่าบนโต๊ะมีกระเป๋าใส่บัตรที่เห็นเลขบัตรเครดิต เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราอาจจะเผลอพลาดได้ง่ายมาก

และนี่ก็เป็นวิธีเบื้องต้นที่ใช้ได้จริง ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของเรา ไม่ให้ใครมาล้วงเอาไปได้ง่ายๆ สิ่งสำคัญคือต้องมีสติก่อนจะกดอะไรในออนไลน์ และออฟไลน์ก็อย่าปล่อยให้มีข้อมูลอะไรหลงเหลือแบบดูออก จำไว้ค่ะว่ ไอจะขยี้ยูว (ข้อมูล) ให้แหลกคึ! ด้วยตัวเราเอง ไม่เหลือไปถึงพวก Hackers แน่นอน