ตะลุยเวียดนามไม่ง้อทัวร์ 2 ฮอยอันชุ่มฉ่ำสุดๆ
CinnamonGal50เหินฟ้าจากนครโฮจิมินห์ ด้วยสายการบิน Vietnam airline มาลงที่ ดานัง เพื่อต่อรถไป ฮอยอัน เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นมรดกโลก
• เมืองฮอยอัน อยู่ห่างจากเมืองท่าดานังทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำทูโบน ห่างจากชายฝั่งทะเลเข้ามาตอนในระยะทางไม่กี่กิโลเมตร เมืองเก่าโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้ ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก ในบริเวณที่เคยเป็นไดเวียดกลางภายใต้การปกครองของขุนนางเหวียน และปรากฏอยู่ในแวดวงของนักเดินทางตะวันตกในศตวรรษที่ 17 และ 18 แรกเริ่มเมืองฮอยอันเคยเป็นเมืองท่าชายทะเลในอาณาจักรจามปา เรียกกันในชื่อว่า ได๋เจียน โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่ตราเกียว และมีศานสถานอันศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่หมี่เซิน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากฮอยอันมากนัก
• สมัยต้นกรุงศรีอยุธยา ศตวรรษที่ 19 ชื่อของฮอยอันได้รับการบันทึกลงในการเดินเรือของชาติตะวันตกในชื่อ ไฟโฟ หรือ ไฮโป และมีชาวต่างชาติเดินเรือเข้ามามากมาย จนฮอยอันกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกและตะวันตก จนเข้าสู่ราวครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 เมืองแห่งนี้ก็โดนเผาราบคาบจากการสู้รบช่วงกบฏไตเซินเหวียนอัน ภายหลังเมื่อเข้าสู่ยุคเริ่มต้นราชวงศ์เหวียน เมืองฮอยอันก็ได้รับการสร้างใหม่ ซึ่งเป็นต้นแบบของอาคารบ้านเรือนอายุสองร้อยกว่าปีอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
• เมื่อเข้าสู่ปลายศตวรรษที่ 19 แม่น้ำทูโบนเริ่มตื้นเขิน เนื่องจากตะกอนโคลนเลนสะสมจนไม่อาจนำเรือใหญ่เข้ามาได้ เมืองดานังจึงถูกสร้างขึ้นมาเป็นเมืองท่าแห่งใหม่แทนที่ฮอยอัน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเมืองฮอยอันก็เริ่มลางเลือนไปตามกาลเวลา ทว่ายังคงเป็นเมืองค้าขายเล็กๆ จนถึงปี พ.ศ. 2459 เส้นทางรถไฟระหว่างฮอยอันและดานังได้รับความเสียหายจากพายุและไมได้รับการซ่อมแซมให้ดีดังเดิม เมืองแห่งการค้าที่สำคัญซึ่งเคยต้อนรับชาวต่างชาติจึงยุบลง
• ปี พ.ศ. 2542 องค์กานยูเนสโกก็ได้ประกาศให้ฮอยอันเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพราะความงดงามและเก่าแก่ของบ้านเมือง รวมทั้งเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่ยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนั่นทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามายังเมืองแห่งนี้ ประดุจน้ำในแม่น้ำทูโบนที่ไหลหล่อเลี้ยงผู้คนไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ตอนออกจากโฮจิมินห์เวลาประมาณ 17.30 น. อากาศประมาณ 23 องศา แต่พอลงดานังปุ๊ป แม่เจ้า ลมกรรโชก อุณหภูมิลงไปที่ 15 องศา ฝนตกอย่างแรง นี่มันอะไรกันนี่ ชั้นมาทำอะไรที่นี่เนี่ย
-มดเรียกแท๊กซี่สนามบินเลย เพราะมันค่ำมากแล้ว ต่อราคาได้ที่ 200000 ด่อง = 400 บาท (ดานัง ไป ฮอยอัน) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30นาที ไปถึงโรงแรมที่จองไว้ ปรากฎว่า เค้าให้ห้องคนอื่นไปแล้ว กำ ซ้ำซ้อน นี่มันอะไรกัน
-เวลาขณะนั้น 2 ทุ่มกว่าๆ จะไปหาที่พักที่ไหนได้ คืน วันที่ 31 ธค.แบบนี้ทุกที่ก็น่าจะเต็มหมด จะวีนมากก็ใช่เรื่องแต่มดก็วีนอยู่ดีว่าเราจองแล้วแล้วมดก็โทรมาคอนเฟิร์มแล้วทำไมทำแบบนี้ เค้าก็ยืนยันว่าห้องเต็มไม่มีให้จริงๆ
-มดเลยให้เค้าหาที่พักให้ เอาใกล้ที่สุด เลยได้ที่พักฝั่งตรงข้าม ที่น่ากลัวได้อีก มืด สลัว อับ ชื้น จิ้งจกเพียบ โฮ โฮ
-ตื่นเช้ามา มีอาหารมาเสิร์ฟให้ที่ห้อง นั่งเล่น อิ เบย จนเปื่อยรอฝนหยุด มันก็ไม่หยุด เอาวะ ลุยเที่ยวทั้งๆฝนตกนี่ละกัน ชาวเมืองฮอยอันใส่ชุดกันฝนกันเหมือนเป็นชุดประจำตัวไปแล้ว ถึงฝนตกเค้าก็ออกมาขายของและใช้ชีวิตกันปกติมาก
-แวะหาอะไรใส่ท้องก่อนที่ร้าน Hai Cafe ตกแต่งร้าน น่ารักมากๆ ไม่รู้จะกินไรเลยสั่งเมนูแนะนำมาเป็นเฝอ กับสลัดมะม่วงอะไรซักอย่าง เสริฟพร้อมแผ่นแป้งปิ้งกรอบๆ พอทานคำแรกเท่านั้นแหล่ะ โฮกกกก หร่อยสุดๆๆๆๆๆๆ ซัดเรียบ ในราคา 95000 ด่อง = 190 บาท
-พออิ่มคราวนี้ก็เดิน สำรวจเมืองกันละ สังเกตได้ว่าตึกจะทาสีโทนเดียวกัน คือ เหลือง ส้ม แดง แค่นั้น พออยู่รวมกันเยอะๆก็สวยดีนะ บ้านแต่ละหลังมีอายุเป็น 100 ปี เหมือนหลงกลับมาสมัยโบราณเลยหล่ะ เดินไปเรื่อยจนเจอ
สะพานญึ่ปุ่น (Japanese Covered Bridge)
สัญลักษณ์ของเมืองฮอยอัน ได้รับการก่อสร้างโดยชุมชนชาวญี่ปุ่นเมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว รูปทรงโค้งของสะพานและหลังคามุงกระเบื้องสีเขียวและเหลืองเป็นคลื่น ตรงกลางสะพานมีเจดีย์ทรงจัตุรัสที่สร้างอุทิศให้แก่ดั๊กเดและตรันหวู ก่อนเดินข้ามสะพานด้านซ้ายมือจะมีรูปปั้นสุนัขกำลังนั่ง และเมื่อข้ามไปแล้วก็จะเจอกับลิงอีกตัว นับเป็นสิ่งที่ช่างสมัยก่อนแสดงให้เห็นถึงระยะเวลาในการก่อสร้าง สะพานแห่งนี้
-พอเดินข้ามฝั่งสะพานมาก็เจอบ้านเรือนสไตส์ญี่ปุ่นแท้ๆ
เปิดเป็นอาร์ทแกลอรี่และร้านขายของที่ระลึก
ของที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นพวกโคมไฟ งานแกะสลักไม้และหิน ภาพเขียนดูเพลินมากเลย
-เก็บภาพแม่น้ำทูโทน ในมุมกว้างมาฝาก จะเห็นบ้านสไตล์โคโรเนียลกระจายอยู่ทั่ว ดูมีสเน่ห์จัง
เวลาผ่านไปรวดเร็ว บ่าย 2 กว่าๆแล้ว ยังไม่ได้หาโรงแรมใหม่เลย คิดไปคิดมาไปที่อื่นต่อเลยดีกว่า ไม่ได้เตรียมแผนสำรองไว้ซะด้วย ดานังกับ เว้ อากาศก็เหมือนฮอยอัน คือฝนตกตลอดทั้งวันทั้งคืน ไปก็คงไม่สนุกไม่ได้เที่ยวเต็มที่แน่ๆ มดตัดสินใจเดี๋ยวนั้นเดินหาแท็กซี่ให้ไปรับที่โรงแรมตอนบ่าย 3 โมงครึ่งเพื่อไปสนามบินดานัง
ไปถึงสนามบิน ดานัง วิ่งจู๊ดดดดเข้าไปดูไฟท์ที่เร็วที่สุด ปรกฎว่าอีก 20 นาที
เครื่องจะออก ทำไงดีๆๆๆๆๆๆๆ
เข้าไปขอเจ้าหน้าที่ว่าขอซื้อตั๋วแล้วขึ้นเครื่องเลยได้ไหมด่วนมากจริงๆ เจ้าหน้าที่ใจดีหรือฟังที่มดพูดแล้วงงก็ไม่รู้เลยยอมอย่างง่ายดาย กลายเป็นผู้โดยสาร VIP มีเจ้าหน้าที่ประกบพาเดินไปส่งถึงเครื่องบินเลย นึกในใจนี่ชั้นกะลังแข่งรายการ Amazing Race อยู่รึเปล่าเนี่ย
ทุกอย่างมันช่างเร่งและรีบซะเหลือเกิน
ขึ้นเครื่องได้ 5 นาที เครื่องก็เหินฟ้าอีกรอบ 3 วันนั่งเครื่อง 3 รอบละ
ที่แปลกคือมดได้ที่ตรงปีกทั้ง 3 ไฟท์เลย
ฝนยังกระหน่ำตกอย่างเมามันส์ ได้แต่คิดว่าขอให้ปลายทางที่มดจะไปฟ้าใสๆๆๆด้วยเถิด
ปล.โปรดติดตามตอนต่อไปว่ามดไปไหนต่อ และเกิดอะไรขึ้น
แอบบอกที่ต่อไปนี้สุดยอดมาก ประทับใจสุดๆไปเลย
ปล2.กลับมาคิดอีกที ถือว่าโชคดีที่โรงแรมที่จองไว้แต่แรกเค้าปล่อยห้องให้คนอื่นไปเพราะ
มดจองไว้ 2 คืน ไม่งั้นคงอดไปเที่ยวที่สวยๆ และต้องนอนเปื่อย ดูฝนตกแฉะๆอยู่ฮอยอันแน่ๆ เลย
Discussion (50)
ขนาดฝนตกยังดูน่าเที่ยวเลยค่ะ^^
ขอบคุณมากๆนะคะที่เก็บภาพสวยๆและข้อมูลดีๆมาฝาก ติดตามๆๆค่า